ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 64 เฉินเกอปวดใจแล้ว



บทที่ 64 เฉินเกอเจ็บปวดใจแล้ว

สวีชาวก็มีอิทธิพลมากเหมือนกัน

เรียกมาที่ยี่สิบคน

แค่นี้ก็ทำให้นักเรียนทั้งสี่นั้นตกใจกลัวแล้วจริงๆ

ประโยคเดียวก็พูดไม่ออกแล้ว

“เพี้ยะ!”

หลินเจียวเข้าไป ยกมือขึ้นตบปากทั้งสี่คนคนละที

ทั้งสี่คนกล้าโกรธไม่กล้าพูด

“มอง มองอะไร? ใครให้พวกแกที่ฉัน! วันนี้จะสอน ให้รู้ว่าความร้ายกาจของฉัน!

“แกกล้าตีฉัน? ถ้าวันนี้พวกแกตีฉัน พวกแกก็รอ

ฉันได้เลย!”

ที่เริ่มก่อน คือผู้ชายคนนั้นที่เริ่มต้นลวนลามหลิน เจียวกับจ้าวยี่ฟาน เขากุมใบหน้ากล่าวด้วยความคับ ข้องใจ

เขาตื่นกลัว แต่ก็โกรธมาก

เขาตกสาวๆไม่ค่อยพลาดนัก คิดไม่ถึงว่า ถูกสาว สวยคนนี้ตบปากไปทีหนึ่งแล้ว จากนั้นก็ถูกสาวเซ็กซี่คน นี้ตบอีกทีแล้ว

การดูหมิ่นเช่นนี้ ไม่เคยมีมาก่อน!
“ไอ้เหี้ย ปากดีซะด้วย! อัดมันให้ฉัน!”

สวีชาวตอนนี้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ โบกมือ ครั้งหนึ่ง กลุ่มคนก็เดินเข้าไปล้อมคนทั้งสี่เอาไว้แล้ว

รุมกระทืบ

สวีตงยังตามเข้าไป เตะชายคนนั้นอีกหลายที

ทั้งสี่คนที่ถูกตีกุมหัวตะเกียกตะกายเหมือนหนู สุดท้ายยังเป็นเจ้าของร้านที่มาแยกออก แล้วปล่อยทั้งสี่ คนนั้นไป

ถ้ายังถูกตีอีก คนก็จะตายแล้ว!

“ว้าว พี่ชาวสุดยอดมาก!”

“เพียงแต่รู้สึกคิดไม่ถึงเลยว่าพี่ชาวที่หนักแน่น และเป็นผู้ใหญ่มาก คาดไม่ถึงว่าจะมีด้านนี้ด้วย!”

“โหดมาก หล่อสุดๆไปเลย!”

สาวๆกลุ่มหนึ่งกลายเป็นแฟนคลับในชั่วพริบตา

“พี่ชาวเรื่องวันนี้ ต้องขอบคุณคุณแล้ว!”

ตอนนี้ในใจจ้าวยีฟานสดชื่นขึ้นมาบ้างแล้วจริงๆ

ความรู้สึกหดหูชนิดนั้นก่อนหน้านี้ถูกขจัดออกไป แล้ว

บอกตามตรงว่า เธอชอบความเป็นผู้ใหญ่และ ความหนักแน่นชนิดนั้น อย่างที่เคยรู้สึกมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้ เธอกลับรู้สึกว่าคนที่เย่อหยิ่งและมี อำนาจนั้นดีกว่า เพราะมีคนเช่นนี้เท่านั้น ที่สามารถให้ความรู้สึกปลอดภัยสูงสุดแก่เธอ

แล้วที่ชอบเฉินเกอนั่นล่ะ?

โอ้มายก้อด ทำไมนึกถึงเขาอีกแล้ว ตอนนี้ดู เหมือนว่าจะเป็นแค่สวะชิ้นหนึ่งเท่านั้น!

“ไม่เป็นไรน้องยีฟาน เดี๋ยวค่อยแอดวีแชทกันนะ มีอะไรจะได้ติดต่อกันสะดวก!”

สวีชาวยิ้ม เขามองไปที่จ้าวยีฟาน จากเมื่อกี้ก็รู้สึก ว่าผู้หญิงคนนี้สวยสมบูรณ์แบบ

ตอนนี้ดูอีกที ยิ่งดูก็ยิ่งสวย

อันที่จริง ผู้หญิงที่สวยเช่นนี้อย่างจ้าวยีฟาน ตราบใดเป็นผู้ชายธรรมดาแค่เห็นแวบแรก ล้วนต้องใจ เต้นอยู่บ้าง

“เอาล่ะ ไม่มีอะไรแล้ว พวกเรากลับไปทำอะไรก็

ไปทำ!”

สวีชาวยิ้มเจิดจ้า

เอ๋? ไปทำต่อ พี่ชาวพวกเราไม่ควรไปได้แล้วเห

รอ?”

“นั่นสิ ถ้าเกิดคนฝ่ายนั้นมาแก้แค้นล่ะจะทำยัง

ไง?”

สาวๆบางคนพูดอย่างกังวล

“ห์ พวกเธอคิดว่าพี่ชาวเป็นใคร ต่อให้มาแก้แค้น แล้วจะทำอะไรได้?”
หลินเจียวกล่าวอย่างภาคภูมิใจ ระหว่างที่หันข้าง แต่งหน้าในกระจก เมื่อกี้เธอถูกตีจึงร้องไห้จนเครื่อง สำอางลบหมดแล้ว

“พูดถูก มีพี่ชาวอยู่ที่นี่พวกเราจะกลัวอะไรล่ะ?” “ทำอะไรก็ไปทำ กลับไปร่วมงานวันเกิดของสวี

เสีย!”

บรรดาสาวๆได้แต่วางใจ

“เอสวีเสีย ผมกลับก่อนนะ ขอให้คุณสุขสันต์วัน เกิด!”

ถ้าเฉินเกออยู่ต่ออีกก็กร่อยแล้ว

“อืมๆ ขอบใจนายนะเฉินเกอ ฉันจะเรียกรถแท็กซี่ ให้ส่งนายกลับไปนะ!”

เฮ้อ สวีเสียก็ไม่ฝืนใจเช่นกัน

เพราะมีหยางฮุย ดังนั้นสวีเสียจึงสนิทสนมกับทุก คนในหอพักของหยางฮุยรวมถึงเฉินเกอด้วย

แต่ว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น หากเฉินเกออยู่ต่อ ก็เกรงว่าเขาจะอึดอัดเช่นกัน

จริงๆแล้ว เมื่อกี้สวีเสียก็โกรธเฉินเกออยู่บ้าง เหมือนกันด้วยคิดไม่ถึงว่าแมงดาจะหลอกลวงพวกเธอ จึงออกมาว่าเฉินเกอ

ตอนนี้ความโกรธของเธอหายไปแล้ว จึงค่อนข้าง เห็นอกเห็นใจเฉินเกอขึ้นมาอีกครั้ง
อาจจะเป็นเพราะยากจนมานานเกินไป คนดีๆจึง ถูกผลักไสให้กลายเป็นบ้า!

“ไม่ต้องหรอก ผมจะเรียกแท็กซี่กลับไปเอง!”

เฉินเกอพยักหน้าพลางยิ้มขม

“ไสหัวไป รีบไสหัวไป! เห็นแกแล้วคลื่นไส้!”

หลินเจียวสบถประโยคหนึ่งอย่างไร้มารยาท แต่จ้าวยีฟานไม่ได้พูดอะไรสักคำเกี่ยวกับเรื่องนี้ หันหลังเดินกลับไปที่ห้องโดยตรง คนคนนั้นทำให้เธอ คลื่นไส้ไปแล้ว เธอจึงไม่จำเป็นต้องจากไปอีก

เฉินเกอเดินอยู่คนเดียวในมหาวิทยาลัย กำลังคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล่าสุดเหล่านี้

การเป็นคนเรียบง่ายเป็นธรรมชาติของเฉินเกอ ถึงแม้ว่าจะมีเงิน แต่จะให้เฉินเกอเป็นเหมือนพวกไป๋ เสี่ยวเฟยพวกนั้น ที่เย่อหยิ่งและวางอำนาจ หรูหรา ฟุ่มเฟือยทุกอย่างเฉินเกอแน่นอนว่าทำไม่ได้

แต่เรียบง่ายก็ไม่แน่ว่าจะดีไปหมด

เหมือนกับตั้งแต่ช่วงเวลานี้ ที่เฉินเกอไม่รู้ว่าคับ ข้องใจมากแค่ไหน

ตัวเองจะต้องโอ้อวดบ้างใช่หรือไม่?

เฉินเกอพูดพลางยิ้มขมขื่นในใจ

ขณะนี้ จู่ๆข่าวหนึ่งก็ดังขึ้นในกลุ่มชั้นเรียน

เป็นการออกประกาศโดยอาจารย์ เมิ่งไฉ่หรู
“เพื่อนร่วมชั้น ด้วยสถานการณ์บางอย่างเพื่อน นักศึกษาหยางเสว่จึงได้ลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้ว!”

“อะไรนะ หยางเสว่ลาออกจากมหาวิทยาลัย?”

“เฮ้ย เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”

“น่าจะเป็นเพราะลู่หยางรึเปล่า พวกเธอลองคิดดู สิเหตุการณ์นั้นของลู่หยางส่งผลกระทบมากขนาดนั้น หยางเสว่จะอยู่ที่มหาวิทยาลัยต่อไปอีก แน่นอนว่าต้อง รู้สึกอับอาย ดังนั้นการลาออกจากมหาวิทยาลัยจึงเป็น ทางเลือกที่ดีที่สุดของเธอ!”

“ใช่ หยางเสว่รักหน้าที่สุด เมื่อก่อนไล่ตาม คนจน.

“นั่นสิ!”

“ใช่ หยางเสว่รักหน้าที่สุด เมื่อก่อนคบกับเฉินเกอ ต่อมาก็มาหาลู่หยางอีก ผลก็คือลู่หยางยังไม่ดีเท่าเฉิน เกอ ไม่มีเงินแถมยังแกล้งเป็นคนรวยด้วยหนี้สิน เฉินเกอ ตอนนี้อย่างน้อยก็ถูกลอตเตอรี่แล้ว!”

อืมๆ ถ้าฉันเป็นหย่างเสว่ ก็ไม่มีหน้าเรียนต่อไป %3D แล้ว เฮ้อ!”

ในกลุ่มชั้นเรียนระเบิดด้วยการวิพากษ์วิจารณ์ข่าว

ดูเหมือนว่าผลลัพธ์นี้ จะอยู่ในความคาดหมาย และไม่อยู่ในความคาดหมายของทุกคนเช่นกัน แต่เฉินเกอที่กำลังถือโทรศัพท์มือถืออึ้งไปแล้ว เมื่อเห็นข่าวที่หยางเสว่ลาออกจากมหาวิทยาลัยเฉินเกอก็ปวดใจบ้างแล้ว

ยังไงทั้งสองคนใช้เวลาสามปีอยู่ในมหาวิทยาลัย ด้วยกัน

ความงดงามของช่วงเวลานั้น ดูเหมือนจะยัง ชัดเจนอยู่ในใจ

แม้แต่ตอนนี้เฉินเกอก็ยังโทษตัวเองอยู่บ้างในใจ

ทำไม หยางเสว่จึงลาออก มีเพียงตัวเองเท่านั้นที่ รู้ดีที่สุด

ถ้าหากว่าวันนั้นไม่ได้อยู่ในวิลล่าแล้วยั่วยุหยาง เสว่ เธออาจจะยังเรียนต่อไป

ยังไงตอนนี้ก็เกือบจะจบการศึกษา

ถ้าหากว่าวันนั้นตัวเองไม่ได้พูดคำที่ไร้หัวใจเช่น นั้น หยางเสว่ก็จะไม่ท้อถอย

เมื่อนึกถึงแววตาสิ้นหวังของหยางเสวีที่มองดูตัว เองในวันนั้น หัวใจของเฉินเกอก็ปวดร้าว

ตัวเองดูถูกเธอรุนแรงเกินไปรึเปล่า?

เฉินเกอลุกขึ้นตำหนิตัวเอง เสียใจภายหลังบ้าง แล้วจริงๆ

โดยเฉพาะเมื่อเฉินเกอที่เดินอย่างไม่รู้ตัว มาที่ริม ทะเลสาบเล็กๆในมหาวิทยาลัยโดยไม่คาดคิด

นี่คือสถานที่ที่เขาและหยางเสาเดทกันครั้งแรก เฉินเกอยากจน จึงไม่สามารถไปเดทที่ร้านกาแฟได้

เขายังจำได้ว่า วันนั้นตัวเองมาสาย หยางเสว่จึง รอตัวเองอยู่ที่นี่สิบกว่านาทีแล้ว

หยางเสว่ก็ไม่ได้ตำหนิตัวเอง ทั้งสองคนเพียงแค่ จับมือกันแบบนี้ เดินวนไปรอบๆทะเลสาบเล็ก แล้วก็เดิน วนไปรอบแล้วรอบเล่า

เวลามากมายที่ไม่ได้คุยกัน แล้วทั้งสองคนก็ เอาแต่เงียบอยู่แบบนี้ โดยไม่พูดอะไรสักคำ บางครั้งเขา ก็เหลือบมองเธอ และเธอก็เหลือบมองเขาเช่นกัน

มันไม่เหมือนกับความรักในทีวี

แต่เฉินเกอได้ลิ้มลองรสชาติของความรัก

หยางเสว่จำได้อย่างชัดเจนว่า รอถึงปีที่สำเร็จ การศึกษา ทั้งสองคนก็จะแต่งงานกัน แล้วจะมาถ่ายรูป แต่งงานที่ริมทะเลสาบเล็กๆแห่งนี้

เมื่อนึกถึงเวลานั้น ช่างสวยงามแค่ไหน!

แต่ตอนนี้ หลังจากผ่านประสบการณ์บางอย่าง หยางเสว่เปลี่ยนไปแล้ว และอันที่จริงเฉินเกอก็เปลี่ยน ไปแล้วเช่นกัน

เฉินเกอไม่รู้ว่าเจ็บปวดใจเพราะหยางเสว่คนก่อน หรือเจ็บปวดใจเพราะหยางเสว่คนปัจจุบัน

ไม่ว่าอย่างไร ในใจก็รู้สึกอึดอัดมาก

ในที่สุด เฉินเกอก็โทรหาหยางเสว่ เพื่อเกลี้ย กล่อมเธอ แต่ว่า หมายเลขว่างเปล่า หยางเสว่ยกเลิกหมายเลขโทรศัพท์ไปแล้ว

ทั้งคิวคิววีแชทล้วนไม่สามารถติดต่อได้

ไปแล้วจริงๆ!”

เฉินเกอนั่งลงริมทะเลสาบ เหม่อลอยอยู่พักหนึ่ง และในขณะนี้เอง โทรศัพท์มือถือก็มีการโทรคิว

คิวเข้ามา

เฉินเกอรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทันที เป็นหานเฟย เอ๋อเพื่อนร่วมห้องของหยางเสว่ที่โทรมา

“นายอยู่ไหน?”

น้ำเสียงของหานเฟยเอ๋อเย็นเป็นน้ำแข็ง และเธอ มักจะทำเช่นนี้กับเฉินเกอ

“ทะเลสาบเล็ก…

” เฉินเกอกล่าว

“อ้อๆ นายรออยู่ที่นั่นก่อน ก่อนที่เสี่ยวเสาจะไป ให้ฉันพูดบางอย่างกับนาย และบอกนายต่อหน้า!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ