ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 347 เรื่องไปกันใหญ่



บทที่ 347 เรื่องไปกันใหญ่

“เธอคือดาราดังชื่อหยางอยู่เฟย ว้าว คาดไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอที่

หูฮุ่ยหมิ่นประหลาดใจเล็กน้อย

“จุดชมวิวนี้ ดาราหลายคนที่มาร่วมกิจกรรมที่ จู่ๆ ก็ชอบมา เที่ยวที่นี่ หยางอยู่เฟย นั้นดังมาก คิดไม่ถึงว่าเธอก็มาด้วย!

หวางเหวินรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอกำลังศึกษาและเริ่มต้นธุรกิจในตูและเธอต้องรู้หลายสิ่ง หลายอย่าง

“ฮ่า ๆ ถ้าฉันจำไม่ผิดนะ ฮียหมิน ที่ไม่ตามดาราตั้งแต่ไหนแต่ ไรมาแล้ว เธอบูชาเพียงแค่ หยางอยู่เฟย คนเดียวเท่านั้น ตอน มัธยมปลาย เธอมีโปสเตอร์ของ หยางอยู่เฟย ติดอยู่ข้างเตียง ด้วย”

หูฮุ่ยหมินพยักหน้า: “ใช่ ฉันชอบความมีวินัยในตัวเองของเธอ หลายปีมานี้ ฉันปรับใช้ความมีวินัยในตัวเองของเธอกับตัวเอง ผลงานของเธอทุกชิ้นฉันดูมาหมดแล้ว!”

“แล้วจะรออะไรล่ะ ฮุ่ยหมิ่นเธอดูสิ มีคนเข้าไปขอลายเซ็นตั้ง หลายคน พวกเราก็เข้าไปขอบ้างไหม…”

เห็นได้ชัดว่า หวางเหวิน ชอบ หยางอยู่เฟย เธอพูดตอนนี้
“เอาง ๆ ฉันเองก็ชอบ หยางอยู่เฟย พวกเราไปด้วยกันนะ! หวางเจี้ยนและ เหลียงเมิ่ง และ เฉินจุนเหวิน ไม่มีความเห็น

ในเมื่อเป็นดาราสาวสวย จึงไม่ได้มีเพียงผู้หญิงที่ชื่นชอบ เธอ เองก็เป็นที่ใฝ่ฝันของพวกผู้ชายเช่นกัน

เฉินเกอเองก็ชอบดาราหญิงคนนี้

เธอหน้าตาสวย อัธยาศัยดี เป็นประเภทที่เข้าถึงง่ายและติด

เธอเหมือนจะอยู่เยี่ยนจิง บริษัทภาพยนตร์หนึ่งของพี่สาวเขา

“เฉินเกอ ๆ เธอก็ไปด้วยสิ พวกเราไปถ่ายรูปกับเธอกันเถอะ! ปกติแล้วจะมีโอกาสแบบนี้ที่ไหน!

หวางเหวิน เรียกเฉินเกอ

พยักหน้าเบาๆ

เฉินเกอก็ไม่ได้พูดอะไร

ท้ายที่สุดถ้าคุณต้องการถ่ายรูปกับนักแสดงหญิงคนนี้หรือ อะไรก็ตามเพียงแค่โทรหาเธอด้วยประโยคเดียวก็ได้แล้ว

ไม่ต้องเข้าไปแย่งกันแบบนี้หรอก

หลังจาก หวางเหวิน ตะโกนเรียนเฉินเกอแล้วก็รีบวิ่งเข้าไป เฉินเกอคิดจะใช้โอกาสนี้เพื่อปลีกตัวออกไป

แต่พอเขาหันไป
ก็เห็นสาว ๆ แต่งตัวอลังการหลายคนในสถานบันเทิงเดินออก ไปท่ามกลางกลุ่มคน

ผู้หญิงเหล่านั้นหน้าตาสะสวย

แต่พวกเธอไม่ใช่ดารา

พวกเธอเป็นเหล่าเศรษฐีคนดัง รอบ ๆ พวกเธอนั้นคือบอดี้ การ์ด

เมื่อกลุ่มผู้ชายหลายคนที่อยากจะเข้าไปถ่ายรูปกับ หยางอยู่ เฟย เห็นพวกเธอก็หยุดเดินอย่างช่วยไม่ได้

พวกเขาน้ำลายแทบจะหัก

เฉินเกอที่มองอยู่ข้าง ๆ อย่างตะลึงงัน

ไม่ใช่เพราะความสวยของผู้หญิงคนนั้น

แต่เพราะแวบแรกที่เฉินเกือมองเห็นเธอ อีกนิดเดียวเขาคงจะ คิดว่าเธอคือซูเฉียงเวย

ถ้าหากว่าวัดเป็นคะแนนแล้วล่ะก็ ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนซูเฉียว

เวยถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์เลย

ในขณะที่เฉินเกอกำลังตะลึงอยู่นั้น หญิงสาวคนนั้นเหมือนจะ รับรู้ได้ถึงสายตาของเฉินเกอ เธอจึงหันมามองเขาด้วยความ รังเกียจอย่างช่วยไม่ได้

จะไปแล้วเหรอ

เหมือนจะเป็นแบบนั้นนะ!
เงินเกอคิดในใจ

ตอนนี้เดินไปยืนข้างภูเขาและจ้องมองไปที่กลุ่มที่ดูเหมือนจะ ทรงพลัง

เฉินเกอถึงกับผงะเมื่อเห็นรถที่พวกเธอนั่งลงจากภูเขา

โรลส์-รอยซ์คันยาวรอรับพวกเธออยู่ เป็นเหมือนขบวนรถที่ เคร่งขรึม

“เฮ้ ๆ เก่งจริง ๆ เลยนะ วันนี้ฉันได้เงินเยอะเลย อีกหน่อยถ้ามี คุณหนูอย่างนี้มาหลาย ๆ คนก็ดีสิ

ข้าง ๆ เขาเป็นผู้ชายตัวอ้วนผิวขาวแล้วมองขบวนรถที่ออกไป ไกลลิบ แล้วนับเงินอย่างมีความสุข

เขาคงจะเป็นไกด์เถื่อนอะไรแบบนั้น แค่ครั้งเดียวเขาก็ทําเงินได้หลายหมื่นแล้ว

“พี่ชาย นี่เป็นคุณหนูตระกูลไหนเหรอ?”

เฉินเกอรีบถาม

ชายวัยกลางคนเห็นเฉินเกอแต่งตัวไม่เลวแล้วมองอย่า พิจารณาแล้วจึงพูดขึ้น “หึ ๆ จะไปรู้ได้ยังไง รู้แต่ว่ามีเงินมี อิทธิพล!”

ชายวัยกลางคนนับเงิน

เฉินเกอเข้าใจความหมายของเขา
เขาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสองพัน “เล่าให้ผมฟังหน่อย

ชายวัยกลางคนรับเงินไปอย่างมีความสุขและกล่าวว่า “เงิน ให้ฉันนะ ฉันไม่ได้ขอนายนะ นายถามว่าคุณหนูคนนี้น่ะเหรอ เธอ มาเที่ยวที่นี่สองครั้งแล้ว ฉันน่ะเจนจัดในตูมานาน แต่ก็ไม่รู้ แน่ชัด รู้ว่าเธอมีเงินแล้วก็มีอิทธิพล ลองถามก็ไม่ได้ความอะไร

พูดจบ ชายวัยกลางคนก็หายไปอย่างรวดเร็ว

โธ่เอ๊ย…

เฉินเกอพูดอะไรไม่ออก

เมื่อเห็นท่าทางลื่นเป็นปลาไหลของชายวัยกลางคนนั้นแล้ว เขาคงจะรู้อะไรบ้างแหละ

ผู้หญิงคนนี้หน้าเหมือนซูเฉียงเวยมาก นี่จะเป็นเบาะแสอะไร หรือเปล่า

เฉินเกอคิดในใจ

เมื่อเขาคิดจะตามไปถามชายอ้วนวันกลางคนคนนั้น

ทันใดนั้นเองเขาก็ได้ยินเสียงดังมาจากบริเวณบ่อน้ำพุ

“หลีกทางหน่อย! คุณชายหลิวมาแล้ว ทั้งหมดช่วยหลีกทาง

ด้วย!”

เฉินเกอหันไปมอง
เห็นเพียงที่ดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ดแหวกกลุ่มคนกลุ่ม เดียวกันกับที่เป็นแฟนคลับของ หยางอยู่เฟย เศรษฐีหนุ่มเดิน ล้วงกระเป๋าเดินออกไป

เมื่อมองเห็นเศรษฐีคนนี้แล้ว

คนในพื้นที่ไม่น้อยก็ต่างหลีกทางให้

ส่วนหยางอยู่เฟยที่กำลังจะถ่ายรูปกับหูฮุ่ยหมินที่รอมานาน แล้วนั้น ถูกบอดี้การ์ดคนหนึ่งทำโทรศัพท์มือถือพัง

“คุณทําอะไรน่ะ?”

หูฮุ่ยหมินเป็นกังวล

“อะไรทำอะไร คุณชายหลิวของเรามีธุระจะคุยกับคุณหยางอยู่ เฟย ไสหัวไป!”

บอดี้การ์ดพูดอย่างเกรี้ยวกราด

“ฮุ่ยหมิน กลับมานี่!”

นาทีนี้ หวางเจี้ยนที่ใบหน้าซีดขาวรีบเรียกหูหมิ่น

เพราะได้สัมผัสมาบ้างหวางเจี้ยนจึงได้รู้ว่า หูฮียหมินออกจะ

อารมณ์ร้อน

ดังนั้นจึงรีบดึง หูฮุ่ยหมิน มาข้าง ๆ

“ทําไมล่ะ?”

หูฮุ่ยหมินกล่าวด้วยใบหน้าเย็นชา
“คุณชายหลิวคนนี้คือหลิวหยูเสียงเป็นหนึ่งในตระกูลที่มี อำนาจใน เมืองอู่ชวน เห็นแบบนี้เขาคงจะมีธุระกับหยางอยู่เฟย อย่าเข้าไปยุ่งเลย!”

หวางเจี้ยนรีบพูด

เฉินเกอได้ยิน ดูแล้ว หลิวหยูเสียง คงจะเป็นพวกที่เจ้ายศเจ้า

อย่างมาก

“พวกเธอจะทําอะไร?”

ทันทีที่มีบางอย่างเกิดขึ้นตัวแทนของหยางอยู่เฟยและคนอื่น ๆ ก็เริ่มการเจรจาทันที

เฉินเกอได้ยินคร่าว ๆ บริษัทของหลิวหยูเสียง เคยคิดต่อให้ หยางอยู่เฟย เป็นพรีเซนเตอร์ แต่หยางอยู่เฟย ปฏิเสธ ตอนนี้นั้น หยางอยู่เฟยเป็นพรีเซนเตอร์ให้แบรนด์คู่แข่ง ดังนั้น หลิวหยู เสียง จึงได้รีบร้อนนัก

ยิ่งกว่านั้นเห็นอย่างนี้แล้วเรื่องนี้ถือว่าค่อนข้างซับซ้อน ครั้งนี้ที่หยางอยู่เฟย มาก็เคยถูกขบวนรถล้อมไว้ เพื่อบังคับให้หยางอยู่เฟย ปฏิเสธงานพรีเซนเตอร์นั้นเสีย แต่หยางอยู่เฟย ไม่ตอบตกลงด้วย

จึงเป็นเหตุให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น ส่วนหลิวหยูเสียง นั้นก็มีชื่อเสียง ตอนนี้ก็มีคนอยู่จำนวนหนึ่ง แต่ไม่มีใครกล้าถ่ายรูป
“ฉันบอกแล้วว่าฉันไม่ตกลงก็คือไม่ตกลง!”

แต่หลิวหยูเสียงก็ยังคงแสดงเจตจำนงชัดเจน ไม่ ประนีประนอม

“แม่ง งั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!!

จากนั้นบอดี้การ์ดก็เข้ามาผลักหยางอยู่เฟย

บอดี้การ์ดของ หยางอยู่เฟย ต้องเข้ามาปกป้องเธอทันที ความขัดแย้งก็เกิดขึ้นและผู้คนทั้งสองฝ่ายก็ลงมือ

“ว้าย!”

กลุ่มเด็กสาวกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว

“หยาบคายเกินไปแล้ว!

หูฮุ่ยหมินก็กระวนกระวาย

เมื่อหลิวหยูเสียง จะเข้ามากระชากผมของหยางอยู่เฟย

หูฮุ่ยหมินวิ่งเข้าไป และดึงหยางอยู่เฟย ไว้

และไม่รู้ว่าหลิวหยูเสียง มือล้วงกระเป๋าข้างเดียวที่ดุดันสะดุด อะไรเข้าหรือไม่

เขาคว้าอากาศและส่งผลให้ศีรษะของเขากระแทกกับแท่นหิน ด้านข้างอย่างจัง

ชนเข้าไป

ทันใดนั้น หลิวหยูเสียงก็เลือดอาบ
“คุณชายหลิว! ! !”

เหล่าบอดี้การ์ดร้องเรียกด้วยความตกใจ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ