ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 441 หายตัว



บทที่ 441 หายตัว

“สถานที่ก่อสร้างที่มีคนที่ไหนกัน? พี่บอกว่าคุณป้าใหญ่อยู่ ไม่ใช่เหรอ!”

เมื่อหยางเสี่ยวเป้ยมาถึงก็เห็นสถานที่ก่อสร้างว่างเปล่าไร้ซึ่ง ผู้คน

ใช่ เพราะช่วงก่อนหน้านี้เงินกู้ของคุณลุงมีปัญหาอย่างรุนแรง จึงหยุดการก่อสร้างสถานที่แห่งนี้ไปแล้ว

แต่วันนี้มีพิธีส่งมอบงานที่นี่

คิดไม่ถึงว่าไม่เห็นแม้แต่เงาสักคนเดียว

“คุณป้าใหญ่? ทีม คุณป้าใหญ่ของน้องก็รอน้องอยู่ตรงนั้น ไง! ”

หน้าตาที่กำลังร้องไห้ของหยางเย่ตอนนี้ได้เปลี่ยนไปแล้ว

มองหยางเสียวเปียอย่างเฉยเมย

“หยางเย่ หมายความว่าอะไร? ”

หยางเสี่ยวเป้ยรู้สึกไม่ชอบมาพากลเล็กน้อย

“ไม่ได้หมายถึงอะไร ในเมื่อน้องมาที่นี่แล้วก็เข้าไปด้วยกันกับ พี่เลย! ”

ทันใดนั้นหยางเย่ล็อคประตูรถ
หยางเสียวเปียคิ้วขมวด พูดเรียบๆว่า”ถ้างั้นก็ดี ในเมื่อไม่มี อะไร ฉันจะโทรไปบอกลุงเชิงว่าไม่มีอะไร

แต่เพิ่งเอามือถือออกมาก็ถูกหยางเย่แย่งไปซะงั้น

และในขณะเดียวกันมีคนกลุ่มหนึ่งวิ่งออกมาจากตึกร้าง แล้ว มาสกัดล้อมรถเอาไว้

“ลงรถสิ น้องสาวที่แสนดีของพี่!

หยางเย่พูดด้วยความเยาะเย้ย

“หยางเย่ พี่หลอกฉันมา พี่ร่วมมือกับคุณลุงใหญ่แล้วหลอกฉัน มาที่นี่? หยางเย่ พี่รู้ตัวไหมว่าพวกพี่กำลังทำอะไรอยู่? ” หยางเสียวเปียกล่าว

“ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว พี่ก็สนใจอะไรมากไม่ได้แล้ว ธุรกิจของ ตระกูลไม่มีทางที่จะตกอยู่ในมือของหญิงแพศยาอย่างน้องได้ หรอก ไม่มีทางเด็ดขาด! ”

หยางเย่ตะคอก

“น้องรู้ไหม ตั้งแต่เล็กจนโตพี่พยายามจะทำตัวน่ารักให้คุณย่า เอ็นดู พี่คิดหาหนทางทุกวิธีเพื่อจะให้ท่านเอ็นดู มันไม่ง่ายเลยที่ จะมีอย่างวันนี้ได้ ถ้าตามแผนการแต่แรก พี่จะเป็นทายาท สืบทอดของตระกูล ส่วนธุรกิจก็จะมีพี่กับพ่อพี่เป็นคนดูแลสาน งานต่อ! ”

“น้องรู้ไหม พี่รอวันอย่างนั้นมานานแล้ว พี่จะเป็นคนอายุน้อยที่สุดที่เป็นทายาทของตระกูล! แต่เป็นเพราะน้องหยางเสียวเปีย ที่ทำให้ความพยายามและความหวังทั้งหมดของพี่ต้องทลาย หายไป!

“น้องรู้ไหม! ! ! ”

หยางเย่มีอาการฮิสทีเรียเล็กน้อย

เพราะในใจเขารู้ดีว่าสิ่งที่เธอทำอยู่ในขณะนี้มันบ้าคลั่งขนาด

ไหน

แต่ทว่า เพื่ออนาคตของตน เขาไม่มีทางเลือก

เขากับคุณแม่ไม่มีทางเลือกกันทั้งคู่เลย

ไม่มีความหมายจะได้เป็นทายาทของตระกูลหยาง

ยิ่งไปกว่านั้นยังไปขัดใจกับผู้ที่มีอำนาจมหาศาลอย่างตระกูล เฉินกับหยางเสียวเปีย

แค่คิดก็รู้แล้วว่าอนาคตครอบครัวตนจะเป็นเช่นไร

“หยางเสี่ยวเป้ย พี่จะไม่ให้น้องมีโอกาสแก้แค้นพวกเราเป็น อันขาด น้องอย่าหวังไปหน่อยเลย

หยางเย่ตะคอกอีกครั้ง

หยางเสี่ยวเป้ยก็ตื่นใจจนน้ำตาไหลริน

ไม่ใช่เป็นเพราะเธอกลัว

แต่เป็นเพราะคิดไม่ถึงว่าสิ่งที่ตัวเองกังวลว่าจะมีการแก่งแย่งทรัพย์สมบัติของตระกูลได้เกิดขึ้นแล้ว และมันรุนแรงมากขึ้นขั้น เพียงนี้

“ฉันพูดเมื่อไหร่ว่าจะแก้แค้นพวกพี่? ”

หยางเสียวเปียกล่าว

“น้องอย่ามาเสแสร้งหน่อยเลยหยางเสี่ยวเป้ย ตอนนี้น้องมีทุก อย่างแล้ว ส่วนบ้านพวกพี่ไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว! นี่ยังไม่เรียก ว่าแก้แค้นอีกเหรอ? ”

“แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกัน พอจัดการน้องเสร็จ พวกเรากลับไปก็ จะได้ไปสานงานของตระกูลหยางต่อแล้ว มีเพียงจำกัดน้องที่เป็น เสี้ยนหนามออกไปแล้ว พวกเราถึงจะวางใจ ที่ไม่มีทางเลือก

บัดนี้ หยางเย่เปิดประตูรถออกแล้วลากหยางเสียวเปียออกไป “เปลี่ยนที่ใหม่ เฝ้าดูให้ดีๆ

หยางเย่สั่งการ

“หยางเย่ อย่าเพิ่งรีบดีใจไปหน่อยเลย พี่คิดว่าจับฉันมาแล้ว พี่จะได้เป็นทายาทของตระกูลเหรอ? คุณย่าและพี่ชายลูกพี่ลูก น้องยังไม่กลับมาเลย พอพวกท่านกลับมาแล้วพี่จะต้องเสียใจ แน่ๆ และยิ่งไปกว่านั้นลุงเชิงก็กำลังเดินทางมา ทางที่ดีคิดให้ รอบคอบก่อนนะ! ”

หยางเสี่ยวเปียกล่าว

“พี่คิดรอบคอบแล้วลุงเชิง? คือ น้องคิดว่าเขาจะมาอีกเหรอ? ไม่แล้ว ไอ้แก่เนี่ย พิมีวิธีจัดการให้เขาปิดปากเงียบ

“ถ้าเป็นไปตามคาด แม่พี่คงกำลังโทรคุยกับลุงเชิงอยู่แล้ว หมทีม เพราะหลานสาวที่ลุงเชิงเอ็นดู เรียนอยู่ชั้นอนุบาลของตึก ชั้นหนึ่งของตระกูลหยางที่เป็นของพวกเรา

“ดังนั้น หยางเสี่ยวเป้ยหมดความหวังได้เลย! ”

หยางเพูดอย่างดุร้าย

ในขณะนี้มือถือของลูกน้องคนหนึ่งดังขึ้น

“คุณชายหยาง เป็นสายจากคุณชายหลงเจ้านายของพวกเรา ครับ!

ลูกน้องกล่าว

“พวกคุณหันไปพึ่งพิงตระกูลหลงแล้วเหรอ? หยางเย่ พี่มันบ้า

สุดๆไปเลย! คุณลุงใหญ่กับคุณป้าใหญ่ก็บ้าไปแล้ว! ”

หยางเสียวเป้ยพูดด้วยสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ

“เอาเธอไปยัง! ”

หยางเย่โบกมืออย่างเบื่อหน่าย

จากนั้นก็รับสายโทรศัพท์

“คุณชายหลงครับ ผมจัดการทางนี้เสร็จเรียบร้อยแล้วครับ คุณอย่าลืมสิ่งที่เคยสัญญาผมไว้นะครับ! ”

“วางใจได้คุณชายหยาง ผมต้องทำอยู่แล้ว! ”
ต่อจากนี้ไป ตระกูลหยางก็จะกลับสู่สภาวะปกติสักที คนตระกูลหยางก็ไม่รู้ว่าคุณหนูเสียวเปียกำลังยุ่งอะไรอยู่ ไม่ เห็นหน้าเธอมาทั้งวันแล้ว

โดยเฉพาะบ้านน้าสะใภ้สองที่อยากจะเชิญเสี่ยวเปียกับ โกวไฉเพิ่งมาร่วมทานกับหนึ่งมื้อ แต่ผลปรากฏว่าติดต่อหาคน ไม่เจอเลย

แม่ของเธอโกวไฉเพิ่งก็ไม่รู้

ลุงเชิงยิ่งไม่รู้ว่าเสี่ยวเป้ยไปไหนแล้ว

“เหอะ ถ้ารู้แต่แรกก็จะดีกับเสี่ยวเปียให้มากๆ ตอนนี้มีความ สัมพันธ์ไม่สู้ดีนัก อยากจะคลี่คลายหน่อยก็คงจะไม่มีทางแล้ว แหละ! ”

น้าสะใภ้รองเดินออกมาจากสำนักงานอย่างจนปัญญา

สายหน้าพลางถอนหายใจ

หนึ่งวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว

พอวันที่สอง น้าสะใภ้รองก็มารอตั้งแต่เช้า แต่รอจนเกือบจะ เที่ยงแล้วก็ยังไม่เห็นเสี่ยวเป้ยมาเลย

“แม่คะ หนูว่าพวกเราอย่ารออย่างนี้เลยค่ะ ตอนนี้หยางเสียว เป้ยไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เป็นถึงผู้นำในโซนภาคเหนือ จะเห็น พวกเราอยู่ในสายตาได้ยังไงกัน!

หยางเหยียนพูดด้วยความไม่พอใจ
จู่ๆหยางเสียวเปียก็เป็นใหญ่เป็นโตขึ้นมา หยางเหยียนจึง รู้สึกไม่พอใจ แม้กระทั่งคำว่า อิจฉาริษยา เกลียดก็ยังคงบรรยาย ความรู้สึกไม่ได้ทั้งหมด

เป็นแค่ผู้หญิง สามารถหาคนมีฐานะแต่งงานก็ไม่เลวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นตัวเองเป็นผู้นำในเขตๆหนึ่ง

นั้นมันเรียกว่าเศรษฐีนีชัดๆ!

แต่เรื่องอย่างนี้จะอิจฉาก็ไร้ประโยชน์ ตอนนี้หยางเหยียนจึง กําลังคิดจะประจบประแจงเสี่ยวเป้ย ไม่แน่ว่าตัวเองก็อาจจะได้ อยู่รองจากเธอก็เป็นได้ มันจะเป็นสิ่งที่สวยงามมากๆเลย

“อดทนหน่อย เพราะตอนนี้เสียวเปียไม่เหมือนเมื่อก่อน แล้ว!

น้ารองสะใภ้กล่าว

เวลานี้เห็นโกวไฉเพิ่งเดินมาด้วยความเร่งรีบ

“อุ้ย น้องห้า เช้าจังเลยนะ ทำไมไม่เห็นเกี่ยวเบี้ยอยู่กับน้อง ล่ะ?

น้ารองสะใภ้ถาม

โกวไฉเพิ่งพูดด้วยความกังวล”น้องยังอยากจะถามพวกพี่เลย ค่ะ? เสี่ยวเปียไม่ได้มาทำงานเหรอค่ะ? ”

“พวกเรารอจนจะสามชั่วโมงแล้ว ไม่เห็นแม้แต่เงาเลย!

หยางเหยียนกล่าว
“ถ้างั้นก็แปลกล่ะ ฉันโทรไปก็ติดต่อไม่ได้ตั้งแต่เมื่อวาน อะเชิง ก็ไม่เห็นเธอ พี่สะใภ้ว่าเธอจะไปไหนได้บ้างค่ะ? และอีกอย่าง ถึง จะไปที่อื่นก็ไม่ควรจะปิดเครื่องตลอดเวลานะ?

โกวไฉเพิ่งกล่าว

น้าสะใภ้รองสบตากับหยางเหยียน

จากนั้นก็เอ๋ยขึ้นว่า”เกิดเรื่องกับเสี่ยวเป้ยแล้วหรือเปล่า? จน ป่านนี้ก็ยังปิดเครื่องอยู่เหรอ? ”

โกวไฉเพิ่งไม่มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง รีบพยักหน้า ตอบ” ใช่ ปิดเครื่องตลอดเวลา!

“โธ่ แล้วจะทำยังไงดีล่ะ? ”

น้าสะใภ้รองก็จนปัญญา

แต่ก็พูดปลอบใจว่า“น้องห้า น้องก็อย่าเพิ่งเป็นกังวลไปเลย เสี่ยวเป้ยเป็นคนเก่งกาจคงไม่เกิดเรื่องอะไรหรอก พวกเรารอไป ก่อนก็แล้วกัน! ถ้าไม่ได้จริงๆค่อยหาวิธีกัน!! ”

โกวไฉเพิ่งพยักหน้าด้วยความเป็นห่วง

และวันที่สองก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว วันที่สาม วันที่สี่……จนกระทั่งถึงวันที่เจ็ด !

“ฟางทางนั้นว่ายังไงบ้าง? ”

การประชุมภายในบ้านของตระกูลหยางลุงใหญ่ที่ซื่อหยางถึงรีบถาม
“จนถึงตอนนี้ยังสืบไม่เจอเบาะแสใดๆเลยครับ เกิดอะไรขึ้น

กับเสี่ยวเป้ยกันนะ?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ