ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 763 ตบหน้า



บทที่ 763 ตบหน้า

เฉินเกอเดินตามหลี่ซิ่วจิ๋วมา

ก็นึกว่าเธอจะหาตนด้วยเรื่องอะไรซะอีก ที่แท้แล้ว ต้องการให้ ตนเองช่วยเธอคือนกแก้วตัวหนึ่งเอาไว้

นกแก้วตัวนี้พูดเลียนแบบมนุษย์ได้

แต่ไม่รู้ทำไม หลังจากมาถึงที่นี่ ก็เปลี่ยนทำไม่ได้แล้ว

เธอรู้สึกว่าคราวที่แล้วปีศาจกระทิงกลัวเฉินเกอ ไม่แน่นกแก้ว ตัวนี้ก็อาจจะกลัวเฉินเกอก็เป็นได้ เลยคิดจะให้เงินเกอช่วยตัว เองถือเอาไว้

เฉินเกอส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้

และยังกลัวการเซ้าซี้ของหลี่ซิ่วจิ๋วมาก เฉินเกอจึงพยักหน้า

ตกลง

“คิดไม่ถึง นายนี่ยังมีหนทางจริงๆ นั่นเป็นตระกูลฉินสินะ นาย สามารถเข้าร่วมกับทางตระกูลฉินได้ด้วย แต่ก็นะ เฉินเกือนาย ต้องขอบคุณฉัน หี จริงๆ แล้วให้นายมาเอานกแก้วของฉัน เป็น เพียงแค่หนึ่งในเหตุผลเท่านั้น……

หลังจากที่หลี่ซิ่วซิ่วพาเฉินเกอลงไปใต้ดินอีกครั้ง เธอก็ค่อยๆ พูดขึ้น

“หมายความว่าไง?”
เฉินเกอยิ้มอย่างสงสัย

“นายอาจจะไม่รู้ ตระกูลฉินนี่กับตระกูลว่านของเสาเสมีความ แค้นระหว่างกัน ตอนนี้นายดันอาศัยอยู่ที่ตระกูลฉิน สักพักหลัง จากเข้าไป จะต้องถูกคนของตระกูลว่านเห็น นายไม่อยากมีชีวิต อยู่แล้วรึไง!”

หลี วซิ่ว กล่าวอย่างคับแค้นใจ

“อ๋อ ฉันเข้าใจแล้ว เธอหมายถึงอย่างงี้เองเหรอ เหอะๆ ดี งั้น ฉันต้องขอบคุณเธอจริงๆ!

เฉินเกอยิ้ม

“จิ๋วจิ๋ว ทำไมเธอถึงใส่ใจไอ้กระเจี๊ยวนี่ขนาดนี้ อย่าบอกนะว่า เธอชอบเขา?”

และผู้หญิงข้างกายหลี่ซิ่วซิ่วหลายคน ต่างปิดปากและพูด

ติดตลก

“ไปๆๆ อย่าพูดไร้สาระ ฉันจะชอบเขาได้ยังไง!

หลี่ซิ่วซิ่วกล่าวอย่างหมดคำพูด แต่ จริงๆ แล้ว หลี่ซิ่วจิ๋วก็มีความประทับใจต่อเงินเนื้ออย่าง

มาก

ก็รู้สึกว่าเฉินเกอเป็นคนดีมาก จิตใจก็ดีใจก็เช่นกัน หลี่ซิ่วซิ่วและคนอื่นๆ ได้รับประโยชน์จากตระกูลว่าน ดังนั้น ทุกคนจึงสามารถเข้าออกขึ้นลงทั้งหมู่ตึกหูหลงได้อย่างอิสระ
ตอนนี้ พวกเธอพบตำแหน่งที่ดีเยี่ยม และนั่งลง

พาเฉินเกอไปด้วย พึ่งใบบุญของหลี่ซิ่วจิ๋ว ได้นั่งในตำแหน่งที่ ค่อนข้างติดกับข้างหน้า

เมื่อกี้เฉินเกอตั้งใจจะจากไป แต่ก็เถอะ ประการแรกเมื่อได้ยินหลี่ซิ่วซิ่วหวังดีกับตนเอง จึง เรียกตัวเองให้อยู่ข้างกายเธอ

ประการที่สอง เป็นแบบนี้ก็ดี ตัวเองสามารถดูเหล่าผู้มีฝีมือชั้น สูงที่จะเข้าร่วมการแข่งขันได้จากด้านล่างพอดี

อย่างไรซะนี่ก็เป็นครั้งแรกที่จะทำความรู้จักกับผู้ฝึกตนอย่าง เป็นทางการ

ในขณะนี้ เฉินเกอให้ความสนใจทั้งหมดกับสถานที่จัดงาน

นี่คือสถานที่จัดงานทรงกลมขนาดใหญ่

ในใจกลางของสถานที่จัดงาน มีเวทีที่ใช้ในแข่งขันการต่อสู้ และด้านล่างเวที มีตระกูลที่นั่งอยู่และมีส่วนร่วมในการแข่งขัน ต่อสู้สามสิบกว่าตระกูล

สามสิบกว่าตระกูล แม้ว่าต่อหน้าพวกเขาจะได้รับความเคารพ จากตระกูลว่าน แต่ในเบื้องหลังกำลังพลุ่งพล่าน

ทุกคนเข้าใจถึงความสำคัญของเทศกาลยิ่งใหญ่นี้ เป็นการ แข่งขันที่เป็นความลับ

เฉินเกอสังเกตอยู่ด้านล่าง
พบว่าในบรรดาตระกูลเหล่านี้ ผู้ที่มีความแข็งแกร่งจริงๆ นั่นก็ คือตระกูลว่านและตระกูลหล

นอกจากนี้ยังมีหลายคน

แน่นอนว่ามีผู้ฝึกตนที่ออกนั่งบัญชาการรักษาการณ์เช่นกัน แต่เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งไม่ดีเท่าหลี่เจ้าจง เพราะหลังจากที่พวกเขาขึ้นเวที เพียงไม่กี่รอบก็พ่ายแพ้ให้

กับหลี่เส้าจงที่โจมตีอย่างไร้ความปรานี ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แม้แต่ว่านเย่าจงก็รู้สึกแปลกเล็กน้อยใน

ขณะนี้

นั่นคือความแข็งแกร่งของหลี่เส้าจงเพิ่มมากขึ้น เพิ่มขึ้นเร็ว เกินไป

ว่านเย่าจงรู้จักหลี่เส้าจงดี เขาก็เป็นแค่เพิ่งเป็นนักพรตชั้นหนึ่ง

จะปราบคู่ต่อสู้ที่เป็นนักพรตชั้นหนึ่งมากมายอย่างง่ายดาย

มากมายขนาดนั้นได้อย่างไร?

หรือว่า ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเพียงนักพรตชั้นหนึ่งเท่านั้น แต่ หน้าสิ่งที่เป็นอยู่นี้แล้ว?

ว่านเยาจงค่อนข้างประหลาดใจ

พริบ!

ในพริบตา ก็มีท่านผู้อาวุโสอีกคนพ่ายแพ้ลงจากเวที

“สีครามเกิดจากสีน้ำเงิน แต่กลับเด่นกว่าสีน้ำเงิน ฉันเลื่อมใสอย่างสุดใจจริงๆ!”

โค้งคำนับให้กับหลี่เส้าง ท่านผู้อาวุโสหันหลังและจากไป

และผู้คนในสถานที่แห่งนี้ทั้งหมด ก็โฟกัสไปที่ชายหนุ่มคนนี้ แกร่ง! แข็งแกร่งมากจริงๆ

ว่านเย่าจงเห็นคนที่แข็งแกร่งอีกคนในตระกูลพ่ายแพ้ลงมา

ก็ลุกขึ้นอย่างไม่สงบ

หรือว่าอานาจการควบคุม ในปีนี้ จะถูกส่งมอบให้กับตระกูล

เขาพิมพ์ากับตัวเอง และว่านเสว มองไปที่หลี่เส้าจง ด้วยความชื่นชม จนถึงตอนนี้ เธอเพิ่งรู้จักตัวตนผู้ชายคนนี้จริงๆ เป็นไปตามที่ตอนแรกหมอดูกล่าวไว้ ศิลปะการต่อสู้ของเขา

นั้นเหนือกว่าใครๆ ไม่มีใครเทียบได้

“แม้ว่าหลี่เส้าจงจะเย่อหยิ่ง แต่หล่อมากจริงๆ ไม่แปลก ที่เส เสว่จะตกหลุมรักเขา!!

ซิ่วซิ่วที่อยู่ข้างๆ พูดขึ้น

ในเวลาเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะมองไปที่เฉินเกออย่างติดตลก

“ฮ่าๆ ฉันพูดแบบนี้ นายจะพึงรึเปล่า? ฉันรู้ นายต้องชอบเส เสน่แน่ๆ แต่น่าเสียดาย คนที่เสาเสารักเป็นคนที่มีออร่าจับทั้งตัวอย่างหลี่เส้าจง ไม่ใช่นาย

ซิ่วซิ่วพูดกล่าว

“อ๋อ!”

เฉินเกอผงกศีรษะ

เมื่อครู่เขารอและคอยสังเกตอยู่ตลอด

ต้องการดูว่าจะมีใครที่แข็งแกร่งมากกว่าหลี่เจ้าจงหรือไม่ เทศกาลยิ่งใหญ่นี้ คงไม่ได้มีแค่ชั้นหนึ่งชั้นสองหรือชั้นสามที่มา หรอกมั้ง?

ยังมีคนที่แข็งแกร่งอีกแน่นอน

เฉินเกอคิดในใจ

ดังนั้นจึงยังไม่ปรากฏตัว

“อำนาจควบคุมในปีนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นของตระกูลหลี่ซะ

แล้ว!”

ขณะนี้ ว่านเย่าจงอดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยรอบยิ้มอย่างช่วยไม่

ได้

“น่ากังวลชะมัดเลย ท่านอาจารย์ไปไหนแล้ว? ทำไมยังไม่มา อีกล่ะ? เทศกาลนี้ อีกไม่นานก็จะจบแล้ว!

ฉินหย่งเกาหัวอย่างเป็นกังวล

โดยเฉพาะเมื่อเห็นบนเวที ท่าทางที่หลี่เส้าจงกอดอก หลับตาทั้งสอง ฉินหย่งก็ยิ่งไม่พอใจ

แม่งเอ๊ย ไอ้หมอนปลิ้นปล้อนจริงๆ เลย

ไม่มีใครอยู่ในสายตาเลย

แต่ก็ยังไม่มีใครสามารถสั่งสอนเขาได้ “ทำไม ตระกูลฉันไม่มีคนขึ้นแล้วเหรอ? พวกนายไม่ได้มาที่นี่ เพื่อร่วมสนุกหรอกมั้ง นานขนาดนี้แล้ว ยังมีการต่อสู้สักยก?

ว่านเย่างที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะมองไปที่ตระกูลฉินและ เยาะเย้ย

“เลวทราม ฉันว่าตระกูลว่านของนายต่างหากที่ไม่มีคน ว่าน เย่าจง บัญชีบางเรื่อง เราจะได้เคลียร์มันอย่างชัดเจนในเร็วๆ นี้!

ฉันสวนเพิ่งพูดอย่างเย็นชา

“ฮ่าๆๆ ดีๆๆ ฉันก็อยากเห็นตระกูลฉินของพวกนายจะคิดบัญชี

กับฉันยังไง!”

ว่านเข้าจงหัวเราะกล่าว

ขณะนี้ มองไปที่หลี่เส้าจงที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย

ว่านเย่าจงตะโกนเสียงดัง “ตระกูลว่านของฉันแพ้แล้ว ไม่รู้ว่า ยังมีใครกล้าท้าทายหลานชายเส้าจงอีกไหม หากทุกคนไม่มีใคร คัดค้าน ดังนั้นอำนาจในการควบคุมเทศกาลนี้ ก็ถือเป็นของ หลายชายเส้าจงแล้ว

เวลาผ่านไปนาน ไม่มีใครตอบสนอง
“ฮ่าๆๆๆๆ …..”

และในขณะนี้ เสียงหัวเราะดังขึ้นรอบๆ ด้าน

เสียงหัวเราะดังมาราวกับจะทำให้ทั่วทั้งสถานที่แห่งนี้สั่นจน แตกร้าว

ผู้คนจำนวนมาก แทบจะเป็นลมหมดสติไป ปิดหูไว้ก็ไม่เป็นผล

โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกหล่ซิ่วจิ๋วผู้หญิงหลายคน กรีดร้องด้วย

ความเจ็บปวด

เงินเกอสะกดเส้นเลือดของพวกเธอไว้ทันเวลา จึงทำให้พวก

เธอกลับมาเป็นปกติได้

และเสียงหัวเราะของคนคนนี้ ฟังยังไงเฉินเกอก็รู้สึกคุ้นหู

ถ้าไม่ใช่เสี้ยวชางเชิงคนนั้นจะเป็นใครได้อีก

“ว่านเย่าจง แก่นี่มันไอ้ระยา แกใจกว้างขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กัน อำนาจควบคุมแบบนี้ ก็ปล่อยให้ตกเป็นของคนอื่นได้ ในใจ ของไอ้แก่ระยำ คงจะมีแผนอะไรอีกแล้วสินะ?”

เสียงหัวเราะดังขึ้นทุกทิศ เสียงการเยาะเย้ยก็ไม่มีที่สิ้นสุด

ทำให้ใบหน้าของว่านเก่าจงเปลี่ยนเป็นสีเขียวทันที

“ใคร?”

เขาตะโกนอย่างโมโห

“เพียะ!!!”
และเสียงที่ตอบเขา ก็คือเสียงตบหน้าที่ดังก้องกังวาน

ว่านเย่างไม่สามารถหลบได้เลย ถูกตบหน้าจังๆ อย่างแรง กระทบที่พื้น หน้าครึ่งซีกบวมขึ้นทันที “ทำไม แม้แต่ฉันที่เป็นของแกก็ไม่รู้จักแล้วเหรอ?” ลงมาพร้อมกับเสียง

ก็พบกับ ผู้อาวุโสคนหนึ่ง บินลงมาอย่างไม่คาดคิด และลงที่ บนเวทีโดยตรง……..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ