ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 409 ไหว้บรรพชน



บทที่ 409 ไหว้บรรพชน

“ให้เธอเข้ามาเถอะ!”

เฉินเกอได้ลุกขึ้นจากพื้น

เวลานี้ บอดี้การ์ดหลายคนได้พาหญิงสาวคนหนึ่งเดินมา

หญิงสาวเขินอาย ดูก็รู้ว่าถูกภาพที่อยู่ตรงหน้าทำให้ตกใจ

เพราะทั้งท่าเรือ เต็มไปด้วยรถหรู ร่วมๆ พันคัน

และมีบอดี้การ์ดที่สวมชุดดำอีกนับพันคน

คนทั่วไป ใครจะกล้าเข้าใกล้

“นายเป็นเพื่อนแฟนของมู่หาน คุณชายเฉินเฉินเกอใช่มั้ย?”

หญิงสาวถาม

“ใช่ ฉันเอง!”

เฉินเกอพยักหน้า

“ฉันชื่อหม่าหนาน เป็นเพื่อนสนิทของมู่หาน ฉันรู้ว่านายกำลัง ตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ แต่ฉันพอจะรู้เรื่องนี้อยู่บ้าง แต่ไม่รู้ว่ามันจะมี

ประโยชน์ต่อนายมั้ย?”

หม่าหนานกล่าว

“ไม่เป็นไร เธอลองเล่ามาสิ!”
เฉินเกอรีบกล่าว

“คืนก่อน ฉันได้ช่วยมหานเหมิงเหมิงและเหวินเหวินพวกเธอ สามคนรับพัสดุ ในพัสดุนั้น มันมีที่เหมือนกันทั้งสามชิ้น ทีแรก พวกเรานึกว่า เป็นของระลึกที่ทีมสำรวจมอบให้ เพียงแต่ว่า นั้น ให้ความรู้สึกที่แปลกประหลาดมาก ค่อนข้างที่จะน่ากลัว ตอนนั้น ก็รู้สึกแปลกใจ ทำไมทีมสำรวจถึงได้ให้ของที่ระลึกแบบนี้”

“เมื่อวาน ฉันได้ไปเป็นพิธีกรในรายการหนึ่ง มีแขกรับเชิญคน หนึ่งพอดีเป็นลูกศิษย์ของศาสตราจารย์เฉินที่เป็นหัวหน้าทีม สํารวจในครั้งนี้ ในช่วงเวลาพักเบรก พวกเราได้สนทนากัน ฉันก็ เลยได้ถามเรื่องจี้ สรุปว่าทางทีมสำรวจไม่เคยได้ส่งของแบบนี้ และไม่เคยมีของที่ระลึก ฉันก็สงสัยมาก เดิมทีพัสดุพวกนั้นไม่มีที่ อยู่คนส่งฉันก็รู้สึกหดหูอยู่แล้ว ฉันก็เลยได้อธิบายลักษณะของ ให้กับลูกศิษย์คนนั้น

“สรุปเขาได้ให้ฉันดูกลุ่มแชทกลุ่มหนึ่ง ในกลุ่มแชท นักศึกษา หลายคนที่เข้าร่วมสำรวจในครั้งนี้ ได้สนทนาเรื่องนี้ในกลุ่ม ที่แท้ นักศึกษาพวกนั้นต่างก็ได้รับแบบนั้น ฉันรู้สึกว่ามันผิดปกติแล้ว เป็นใครกันที่ส่งให้พวกซูมู่หานนะ?”

หมาหนานกล่าว

“คุณครับ จี้นั้นมีลักษณะยังไงเหรอ? คุณมีรูปภาพมันมั้ย ให้ ผมดูหน่อยได้มั้ย?”

เวลานี้ ลูงฟู ได้เดินเข้ามาถาม

“อ้อๆ ฉันได้เซฟไว้แล้ว!”
หม่าหนานพยักหน้าอย่างแรง รีบร้อนเอาโทรศัพท์ให้กับลูงฟู

เฉินเกออก็ดูด้วย

เพียงแต่หลังจากที่สูงฟู ดูแล้ว ได้สั่นสะท้านไปทั่วร่าง: “เป็น ของชิ้นนี้อีกแล้ว!!!”

สูงฟู พูดอย่างหวาดกลัว

“ลุงฟู มันคืออะไรเหรอ?”

เฉินเกอถามอย่างตกใจ

สูงฟู พยักหน้าแล้วกล่าว: “คุณชายเฉิน ของชิ้นนี้มันแปลก ประหลาดมาก เมื่อยี่สิบปีก่อนก็เคยปรากฏมาแล้วครั้งหนึ่ง ผม ว่า คุณนายรองน่าจะพอรู้บ้าง?

ลงฟู ได้มองไปที่ฟางเพิ่งซิน

ฟางเพิ่งซินได้เดินเข้ามา

หลังจากที่ดูแล้ว ก็ได้เล่าว่า “ฉันจำได้ เมื่อก่อนผิงอันเคยให้ ฉันดูของสิ่งนี้ ตอนนั้นฉันก็รู้สึกแปลกใจ ผิงอันก็รู้สึกว่า อาจจะ เป็นเพราะที่เราหนีตามกันถูกคนอื่นรู้เข้าแล้ว จึงได้ส่งของสิ่งนี้มา ให้ผิงอัน เป็นการตักเตือน เพียงแต่ว่าตอนนั้นพวกเราไม่ได้ ใส่ใจนัก แต่วันที่สอง ผิงอันก็ได้หายสาบสูญไป

ลูงฟู ได้พูดต่อ: “ใช่ ตอนนั้นที่คุณชายรองหายสาบสูญ ทำให้ ตระกูลเฉินเกิดความโกลาหลทั่ว…..กว่าตระกูลฟางเป็นคนทําร้ายคุณชายรอง เพราะฉะนั้นท่านประมุขจึงโกรธมาก ความ แค้นระหว่างสองตระกูล ก็ได้เริ่มขึ้นจากตอนนั้น แต่ว่า จากที่ ท่านประมุขตรวจสอบมาสิบกว่าปีนั้น สถานการณ์ในตอนนั้น คิด ว่าตระกูลฟางไม่สามารถที่จะทำร้ายคุณชายรองได้ หากไม่ใช่ ตระกูลฟาง แล้วจะเป็นใครล่ะ?

“ตรวจสอบมาตั้งหลายปี สุดท้าย ท่านประมุขแน่ใจว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่ฝีมือของตระกูลฟาง แต่ว่ามีความเกี่ยวข้องกับสัญลักษณ์นี้ นี่ก็เป็นเหตุผลที่ท่านประมุขได้ให้คุณชายออกหน้าไปตามหา คุณนายรองไม่ใช่เขาที่เป็นคนออกหน้าโดยตรง อย่างไรเสีย หลายปีมานี้ เรื่องเข้าใจผิดระหว่างท่านประมุขกับตระกูลฟาง มันช่างลึกซึ้งเหลือเกิน! เรื่องตลก ทำทะเลาะกันรุนแรงไป หน่อย!”

สูงฟู พูดๆไป ก็ได้ขมวดคิ้ว คิดไม่ถึง ผ่านไปสองปี สัญลักษณ์นี้กลับปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง

“เรื่องนี้ต้องมีคนอยู่เบื้องหลัง เป็นใครกันนะ? เมื่อก่อนทำร้าย ผิงอัน ตอนนี้ก็มาทำร้ายมู่หาน เขาต้องการจะทำอะไรกันแน่?

ขณะนี้ฟางเมิ่งชินพูดด้วยน้ำตา

อย่างนี้ละกัน เรื่องนี้ ยังไงก็ให้ท่านประมุขเป็นคนตัดสินใจ คุณชายเฉิน ไม่งั้นรอบนี้เรากลับหนานหยางด้วยกัน

ลูงฟู กล่าว

“พวกคุณไปก่อนเลย หากมีข่าวคราวอะไร รีบแจ้งผมทันที ผม ต้องรออยูที่นี่!”
เฉินเกอกล่าว

หากให้จากไปเสียแบบนี้ เฉินเกอทำไม่ได้

ต่อจากนั้น สูงฟู และฟางเมิ่งซินก็จากไป และเฉินกอนั้น ยังคงอยู่ต่อ และได้ออกไปตามหาตรงที่เกิด เหตุทุกวัน

พริบตาเดียว

สามวัน… สี่วัน สิบวันก็ได้ผ่านไป

เฉินเกอได้พยายามอย่างที่สุดแล้ว สู้สุดชีวิตแล้ว

ได้ใช้ทุกวิธีที่สามารถจะใช้ได้แล้ว

แต่ก็ยังหาเรือโดยสารไม่พบ แม้กระทั่งร่องรอยก็ยังไม่มีเลย

“มู่หาน เธออยู่ที่ไหนกันแน่? ฉันไม่เชื่อว่าเธอจะจากไปง่ายๆ แบบนี้ ฉันไม่เชื่อ!”

เฉินเกอกระชากผมตัวเองอย่างหดหู

ในหัว ภาพที่อยู่ด้วยกันกับมหานได้ลอยเข้ามาเป็นระยะๆ เขารู้ว่า มู่หานเพื่อที่จะได้อยู่กับเขา เธอได้พยายามอย่างหนัก

ช่วงเช้าของวันนี้

เฉินเกอยังคงนั่งอยู่หน้าทะเล เหม่อลอยไปทั่ว

ในขณะนี้ โทรศัพท์ของเฉินเกอได้ดังขึ้น เป็นพี่เฉินเสี่ยวโทรเข้ามา

“น้องชาย!”

เงินเกออดไม่ได้ที่จะกล่าวอย่างยิ้มๆ พี่ พี่กลับเมืองหนาน หยางแล้วไม่ใช่เหรอ? เป็นไงมั่ง ทางโน้นราบรื่นดีมั้ย?” สองวันนี้ ได้ยินว่า มู่หานเกิดเรื่องแล้ว เฉินเสี่ยวก็ได้กลับมาที่

กางเต่า มาอยู่เป็นเพื่อนเฉินเกอทุกวัน

เรื่องราวตอนที่มหานอยู่ห่างเต่า ก็เป็นเฉินเสี่ยวที่บอกกับเฉิน เกอ

เพียงแต่ว่าเมื่อวานที่ตระกูลมีเรื่อง เฉินเสี่ยวจึงได้รีบร้อนจาก

ไป

“นายไม่ต้องสนใจพี่ พรุ่งนี้ที่บ้านก็จะไหว้บรรพชนแล้ว นายไม่ ได้กลับบ้านมายี่สิบสองปีแล้ว ครั้งนี้ คุณพ่อให้นายกลับบ้าน ด้วย และเรื่องบางเรื่อง คุณพ่อต้องการคุยกับนายเป็นการส่วน ตัว!” เฉินเสี่ยวพูดอย่างจำยอม

เฉินเกอได้โยนก้อนหินลงไปในทะเล พยักหน้าตอบกลับ: “ได้

พรุ่งนี้ ผมจะกลับไป!”

เมืองหนานหยาง บนเกาะขณะใหญ่

ที่นี่ เหมือนดังปราสาท

อลังการงานสร้างมาก
วันนี้ เป็นวันที่เจ้าของเกาะตระกูลเฉินไหว้บรรพชน

เวลานี้ ผู้คนจากทั่วสารทิศของตระกูลได้กลับมากันแล้ว

และตระกูลเฉินก็เป็นตระกูลที่สายเลือดเยอะ

งานรวมตัววันนี้ มากันหลายพันคน

และเกาะแห่งนี้ ใช้ต้อนรับคนเป็นหมื่นก็ไม่ใช่ปัญหา

สูงฟู เดินตามเงินเกอเข้าไป

ก็เพราะว่าเงินเกอกลับบ้าน………..ครั้งแรก รู้สึกตกใจอยู่ไม่

น้อย

บ้านในเมืองหนานหยาง อลังการกว่าบ้านพี่สาวที่อยู่บนเกาะ อย่างมาก

วันนี้คนเยอะจริงๆ

คุณพ่อก็เป็นประมุข ยุ่งไปเสียหมด

คุณชายเฉินกลับสูตระกูล ความหมายของ ลุงฟู สิ่งแรกที่จะ

ทำก็คือต้องแจ้งให้พ่อและแม่ที่กำลังสนทนากับสมาชิกบาง คนในครอบครัวทราบโดยเร็วที่สุด “ไม่รีบ รอให้คุณพ่อต้อนรับแขกเสร็จก่อน สูงฟู” ไปทำงาน

ของลุงเถอะ! ผมไปหาพี่สาวก่อน!

เฉินเกอไม่ได้ให้สูงฟู ไปรายงาน

สูงฟู พยักหน้าหลายที ถึงได้จากไป
เงินเกอกโทรหาพี่สาว จากนั้นพี่สาวก็ให้เขารอ เธอจะรีบมา ทันที

เฉินเกอที่รู้สึกเบื่อ ก็ได้นั่งอยู่ด้านข้าง อยู่บนเกาะ ก็ได้มอง เหม่อไปที่ทะเล

“เฮ้ย พี่ปิงปิงพี่จะหาคนเก็บบอลไม่ใช่เหรอ? พี่รีบมองทาง โน้นสิ เจ้าที่มคนนั้นนั่งอยู่ตรงนั้นสักพักแล้ว ให้เขามาช่วยพวก เราเก็บบอลดีกว่านะ?”

หญิงสาวหลายคนที่อายุประมาณสิบแปดสิบเก้าปี ก็มีคนที่ อายุมากหน่อยประมาณยี่สิบหกปี หญิงสาวกลุ่มนี้ กำลังตีแบต เป็นคู่ๆ อย่างไรเสีย งานแบบนี้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ที่ออกหน้า

“ได้สิ งั้นก็ไปพาตัวเขามา !!

หญิงสาวที่ชื่อปิงปิง ได้เอาไม้ตีเทนนิสพาดไว้บนไหล่ ได้ชี้ไปที่ ชายหนุ่มที่นั่งเหม่ออยู่แล้วพูดขึ้นอย่างเผด็จการ…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ