ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 103 เฉินเกอถูกไล่ออก



เงินเกอไม่ได้สนใจการเยาะเย้ยของคน พวกนี้

เขาเพียงแค่หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วส่ง ข้อความไปให้กับหลี่เจิ้นถั่ว แล้วบอกสภาพบาง อย่างของครอบครัวหวังหยางให้กับเขา

แล้วก็ดึงหลานกลับห้องเรียนไป

หยางฮุยรู้ว่าครั้งนี้เฉินเกอได้ก่อปัญหาที่

ใหญ่มากๆ

ความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของ ครอบครัวหวังหยางนั้นถือว่าใช้ได้เลย

พ่อของเขาทําการค้าระหว่างประเทศ มี

ฐานะ! แล้วก็ยังเป็นคนในพื้นที่ของจินหลิง และ ถือว่าเป็นคนใหญ่คนโตในจินหลิงได้เลย

แต่พวกเพื่อนๆยังคงตามเฉินเกอมาอย่างไม่ พ่อหวังหยาง

เฉินเกอ มาหลบอยู่ห้องเรียนนี่เองเหรอ?ฮา คณบดีเรียกนายนะ!

ทันใดนั้นเจียงเวยเวยก็รีบผลักเปิดประตู ห้องเรียนของเฉินเกอ กอดอกไว้แล้วค่อยๆพูด”จริงด้วยสิ นาย อหยาง ยใช่ไหม ช่วย เฉินเกอเก็บกระเป๋าหน่อย เขาจะได้ไม่ต้องกลับ มาเก็บตอนที่เขาต้องออกไปอีก!”

เพราะเห็นว่าเฉินเกอเคยให้เสื้อผ้าที่ราคา

แพงกับตัวเองหนึ่งชุด

เจียงเวยเวยจึงได้มาพูดเตือนเฉินเกอ

พูดเสร็จเธอก็เดินออกไป

เฉินเกอเดินตามอยู่ข้างหลังของเจียว เวยเวย แล้วเดินมาถึงหน้าห้องทํางานของท่าน คณบดี

เมิ่งไฉ่หรูหวังหยางและผู้หญิงที่มีความ สัมพันธ์ที่ดีกับหวังหยาง พวกเขาทั้งหมดยืนรอ อยู่หน้าประตู

“เหอะ รนหาที่ตายแท้ๆ เข้าไปซิ! คณบดี อยากเจอนายเป็นการส่วนตัวนะ! ” เมิ่งไฉ่หรูยิ้มอย่างเย็นชา

“อย่าคิดว่ามันก็แค่การไล่ออก ฉันจะบอก อะไรให้นะ แค่นายกล้าทําร้ายพี่หยางของพวก ฉัน มันก็สามารถทําให้คนจนอย่างนายกินดินไป ตลอดชีวิต”

แต่เฉินเกอกลับยิ้มโดยไม่ได้สนใจอะไร แล้วก็ผลักประตูเข้าไปทันที

นามสกุลของคณบดีคือหชื่อ เจี้ยนซาน

เป็นผู้ชายวัยกลางคนคนหนึ่งที่ใส่แว่น ตอนนี้เขากำลังดีมชาและอ่านหนังสือพิมพ์

อยู่

ทันทีที่เฉินเกอเข้ามา ก็วางถ้วยชาลงบน โต๊ะจนเกิดเสียงดัง

“เฉินเกอ ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า คนที่จะมีเรื่องชกต่อยกันจะเป็นนาย ปกติแล้ว นายเป็นคนที่มีผลคะแนนอยู่ในระดับที่ดีมากของ สาขาเราเลยนะ เป็นคนมีคุณธรรม และเป็นคนที่ ซื่อสัตย์ด้วย แต่ฉันไม่คิดว่านายจะทำเรื่องราวกับ คนโง่เขลาแบบนี้ลงไปได้

ลี่เจี้ยนซานตำหนิเสียงเย็น

“คณบดีครับ เขาเป็นคนที่เริ่มก่อนนะครับ!

เฉินเกอค่อยๆพูดออกมา

“ฮึ ฉันไม่สนว่าใครจะเป็นคนเริ่มก่อน

เพราะยังไงนายก็ทําให้หวังหยางได้รับบาดเจ็บ มันก็แปลว่านายเป็นคนผิด! ฉันจะบอกอะไรนาย นะ ครั้งนี้นายได้ก่อปัญหาที่ใหญ่มากๆ แค่ฐานะ ทางบ้านของนายก็เทียบไม่ได้กับฐานะทางบ้าน ของหวังหยางแล้ว เอาแบบนี้แล้วกัน ตอนนี้ที่ฉันมี หนังสือลาออก นายเซ็นชื่อแล้วลาออกไปซะ ”

ลี่เจี้ยนชานจ้องมองเฉินเกอด้วยสายตาที่ ดูถูกเหยียดหยาม เมื่อสักครู่ที่เขาชมเฉินเกอไป จริงๆมันเป็น แค่การเสแสร้งพูดก็เท่านั้น

แต่พูดตามตรง เฉินเกอไม่คิดมาก่อนว่า เรื่องมันจะร้ายแรงขนาดนี้ ร้ายแรงถึงขั้นที่ต้อง โดนไล่ออก

แต่ยังไงตัวเองก็เห็นแล้วว่า ลี่เจี้ยนซานนั้น ตั้งใจที่จะไล่เขาออก

เพราะว่าฐานะทางบ้านของหวังหยางดี แต่ ฐานะทางบ้านของเขาไม่ดี

ถ้าวันนี้เป็นฝ่ายของหวังหยางเองที่เป็นคน ทําร้ายเขา อย่างมากที่สุดก็แค่ขอโทษ และจ่าย ค่ารักษาพยาบาลก็เท่านั้น

แต่เป็นเพราะตัวเขาเองที่เป็นคนทําร้ายหวัง หยาง จึงได้ถูกไล่ออกจากมหาวิทยาลัย

มันก็ช่วยอะไรไม่ได้ ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็เซ็นๆไปแล้วกัน

เฉินเกอนำโทรศัพท์มาวางไว้บนโต๊ะ นำ ปากกาขึ้นมา แล้วเริ่มกรอกข้อมูลเกี่ยวกับการยื่น ใบลาออก

ลี่เจี้ยนซานยิ้มออกมาด้วยความดูถูก เหยียดหยาม

ในขณะที่เขากรอกใบลาออกอยู่นั้น อยู่ๆก็มี คนโทรเข้ามาที่โทรศัพท์ของเฉินเกอ คนโทรมาคือหัวหน้าสานักงานเหลียง

เป็นผู้อำนวยการของการศึกษาอย่างคุณ หัวหน้าสานักงานเหลียงเป็นคนโทรมา

เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเฉินเกอได้ติดต่อกับเขา หลายรอบ เพราะว่าพี่สาวเฉินเสี่ยวได้ให้ตัวเองไป เป็นตัวแทนในการติดต่อร่วมลงทุนในโรงเรียน ปฐมเพื่อเด็กยากไร้

แต่เฉินเกอก็ไม่มีเวลาที่จะรับสาย เพราะว่า กําลังกรอกเอกสารลาออกอยู่

แต่ชื่อของคนที่โทรมา ทำให้คนที่นั่งอยู่อีก ฝั่งอย่างลี่เจี้ยนซานรู้สึกสนใจขึ้นมาทันที

“นี่คือ…… หัวหน้าสานักงานเหลียงเหรอ? เป็นเบอร์ของหัวหน้าสานักงานเหลียงจริงๆ!

ถึงแม้ระดับของลี่เจี้ยนชานจะเทียบไม่ได้ กับระดับของหัวหน้าสานักงานเหลียง แต่ตัวเองก็ จําเบอร์โทรของเขาได้ขึ้นใจ

หัวหน้าสานักงานเหลียงจะติดต่อกับเฉินเก อทําไมกัน? แล้วทําไมถึงต้องติดต่อเฉินเกอด้ว ยล่ะ?

“นานานาย….จะอึ้งอยู่ทำไม ทำไมถึงไม่

รีบรับสาย!”

สีหน้าของลี่เจี้ยนชานเปลี่ยนไป เขารีบลุก ขึ้นมาแล้วสั่งให้เฉินเกอรับหัวหน้าสานักงานเหลียงเป็นคนที่แม้แต่ ท่านอธิการบดีของมหาวิทยาลัยก็ยังต้องให้ เกียรติ

“จะรีบทำไมล่ะ? นี้ผมยังเขียนไม่เสร็จเลย ไม่ใช่เหรอ? เขียนเสร็จค่อยว่ากันอีกทีแล้วกัน!”

เป็นเพราะคนที่โทรหาตัวเองมากเกินไป ถ้า

โทรหาปกติ เฉินเกอก็รับสายไปตั้งนานแล้ว

แต่ถึงเห็นท่าทีที่รีบร้อนของลี่เจี้ยนซาน ตัว เองก็ยังจะไม่รับอยู่ดี

แน่นอนล่ะ เฉินเกอและหัวหน้าสานักงานเห ลียงเคยได้ไปกินข้าวด้วยกันสองครั้งแล้ว และทั้ง สองคนก็รู้ใจกันไม่น้อย!

จึงไม่ค่อยมีคําพูดที่ดูสวยหรูเท่าไหร่

“จะเขียนอะไรนักหนา!รีบรับสายหัวหน้าสา

นักงานเหลียงจะโทรหานายได้ยังไง รีบๆรับสาย

ตุ๊ด!

โทรศัพท์ดังสักพักก็ไม่มีคนรับสาย ปลาย สายจึงได้วางสายไป

“ฮ่าฮ่า เฉินเกอ นายนี่มันโง่จริงๆ สมน้ำหน้า สมนํ้าหน้าที่ครั้งนี้นาย……

ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง
“รีบรับรับสาย!”

ครั้งนี้ลี่เจี้ยนชานแย่งปากกาในมือของเฉิน เถอออกทันที

แล้วกดรับโทรศัพท์ด้วยตัวเองแล้วยื่นไปที่ ข้างหูของเฉินเกอ

ส่วนเฉินเกอ ก็ไม่ได้ยื่นมือไปรับโทรศัพท์ ไว้ เขานั่งอยู่กับที่ ส่วนลี่เจี้ยนซานนั้นยื่นตัวแล้ว นำโทรศัพท์มาแนบข้างหูของเฉินเกอ จน สถานการณ์ดูตลกเล็กน้อย

แต่เพื่ออนาคตเขาจึงได้ยอม

ไม่ว่าหัวหน้าสานักงานเหลียงจะมีเรื่องอะไร กับเฉินเกอ แต่เขาก็ตัดสินใจแล้วว่า ในตอน สุดท้ายเขาจะคุยทักทายหัวหน้าสานักงานเหลียง สักหน่อย

“สวัสดีครับลุงเหลียง!”

เฉินเกอเผยรอยยิ้มออกมา

“คุณชายเงินครับ เมื่อสักครู่ผมโทรศัพท์ หาคุณแต่คุณไม่รับ คุณกำลังยุ่งอยู่หรือเปล่า ครับ?”

เหลียงไปเชิงพูดด้วยรอยยิ้ม

เหลียงไปเชิงได้เจอกับเฉินเกอหลายครั้ง

แล้ว และทุกครั้งที่ได้เจอเขาก็มีแต่ความประทับ ใจในตัวของเฉินเกอ
แค่ได้ยินว่าการทำบุญ ร่วมสร้างโรงเรียน ปฐมเพื่อเด็กยากไร้ เขาก็เตรียมทุกอย่างมาให้ หมด และยังชำระเงินในทันที

ยิ่งไปกว่านั้น เขายังเป็นคุณชายร่ำรวย ที สุภาพอ่อนโยน และเป็นคนเรียบง่าย ทําให้เหลียง ไปเชิงรู้สึกใกล้ชิดสนิทสนมมาก

เออ พอดีเมื่อกี้กำลังยุ่งอยู่กับการเขียน ใบลาออกอยู่นะครับ คณบดีไม่ยอมให้ผมเรียน ต่อที่มหาวิทยาลัยแล้วนะครับ! จริงด้วยสิคุณลุง เหลียง คุณลุงมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ?”

เฉินอันเกอยิ้มขึ้นมา ตอนแรกเขาคิดว่าคน ที่โทรมาก่อนจะเป็นหลี่เจิ้นกั๋วซะอีก แต่ไม่คิดว่า จะเป็นเขา

“นาย……

ลี่เจี้ยนซานแทบจะนำมือไปปิดปากของ เฉินเกอไว้

เมื่อสักครู่ที่เฉินเกอเรียกว่าลุงเหลียง ทุก คนอาจจะไม่รู้ว่า ลี่เจี้ยนซานนั้นเหงื่อแตกไปทั้ง ตัวและขนก็ลุกขึ้นมาทันที

ซวยแล้ว ไม่ใช่ความสัมพันธ์ธรรมดานิเ

ยิ่งเขาได้ยินเฉินเกอพูดแบบนี้ เขาก็ต้อง กังวลแน่นอน! ”

“คือแบบนี้นะครับ โรงเรียนปฐมเพื่อเด็ก ยากไร้ของเรา เดิมทีได้หยุดการก่อสร้างไปเพราะปัญหาเรื่องเงิน แต่ตอนนี้เกือบจะสร้าง เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลืออีกเพียงแค่สองเดือนก็ สามารถใช้การได้แล้ว และที่ผมโทรหาคุณชาย เฉิน ก็เพราะอยากจะถามว่าพรุ่งนี้คุณชายพอมี เวลาที่จะมาร่วมงานที่พวกเราจัดไหมครับ?

“ได้ครับ ไม่มีปัญหา”เฉินเกอพยักหน้า

“เอ๊ะไม่ใช่สิ คุณชายเงินครับ เมื่อสักครู คุณชายพูดว่าอะไรนะครับ? ใบลาออกอย่างนั้น เหรอครับ?”

เหลียงไป๋เชิงเพิ่งจะนึกคำที่เฉินเกอพูด เมื่อสักครู่ขึ้นมาได้

“อืม? ใช่ครับ! คณบดีไล่ออกครับ! และ ตอนนี้ผมก็กำลังเขียนใบลาออกอยู่ข้างหน้าเขา ครับ!

ตอนแรกเฉินเกอคิดไว้ว่า หลังจากเขาเขียน ใบลาออกเสร็จแล้ว ก็จะไปจัดการเรื่องของหวัง หยาง แล้วค่อยกลับมาคุยกับลี่เจี้ยนชาน จะดูซิว่า เหตุผลจะยังเป็นเหตุผลก่อนหน้านี้หรือเปล่า?

แต่ตอนนี้ ไม่รู้ว่าคุณลุงเหลียงจะคุยให้กับ เขาได้ไหม?

“คุณชายเฉิน เอาโทรศัพท์ให้เขาหน่อย ครับ!”

เฉินเกอยิ้มขึ้นมาและพยักหน้า”นี่ครับ คุณ ลุงอยากคุยกับคณบดี!””ต๊ะ? ได้ ได้ ได้!”

ลี่เจี้ยนขานรีบยืนตรงทันที และยังจัด ระเบียบคอเสื้อของตัวเอง “สวัสดีครับ ท่าน…….คือคือคือ! เข้าใจผิดนะครับ ทั้งหมดคือ เรื่องเข้าใจผิดนะครับ ! ครบครับครับ! อะไรนะ ครับ? เขาคือคุณชายเฉินอย่างนั้นเหรอครับ? โอ้ แม่เจ้า!!! ครับครับครับ ผมจะเก็บเป็นความลับ ครับ! แน่นอนครับ! ท่านวางใจได้เลยครับ!

ลี่เจี้ยนชานกลืนน้ำลายลงคอทันที

ยิ่งประโยคสุดท้ายของหัวหน้าสานักงานเห

ลียงนั้น ทําให้ลี่เจี้ยนซานรู้สึกราวกับถูกฟ้าผ่า คุณชายเฉินผู้ยิ่งใหญ่ในจินหลิง ตอนนี้ขอ แค่เป็นคน ไม่มีใครไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่!

และเฉินเกอ คือคุณชายเฉิน!

“คุยเสร็จแล้วใช่ไหม?”เฉินเกอพูดขึ้นมา อย่างยิ้มๆ

“คุณขาย…….คุณชายเฉิน! คุยเสร็จแล้ว

ครับ!” ลี่เจี้ยนซานเปลี่ยนสีหน้าขึ้นมาทันที จาก ตอนแรกที่ดูถูกเขา และตอนนี้เปลี่ยนมาเป็น

ประจบเขา

“อ้อ งั้นเดี๋ยวผมบอกรอกเอกสารต่อนะ พอดียังกรอกไม่เสร็จ ยังเหลือชื่อที่ยังไม่ได้ เขียน!”198653384_220927979679811_1082142165454739349_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ