ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่281 เรื่องของหวูเชี่ยน



บทที่281 เรื่องของหวูเชี่ยน

“พี่ฉันคือหลิวหยาง เมื่อก่อนอยู่โรงเรียนมัธยมปลายเสี้ยนอีจง ทำไม กลัวแล้วเหรอ? ถ้ากลัวก็รีบๆใสหัวไป ถ้าพี่ชายฉันกลับ มา พวกแก โดนฟันกันหมดแน่!

หลิวเฟยยืดคอแล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหาเรื่อง

“แม่งเอ้ย!”

เฉินเกอตาแดง ยกขาขึ้นมาแล้วถีบลงไปที่ท้องของหลิวเฟย แล้วเขาก็ล้มลงไปนอนร้องโอดโอยอยู่บนพื้น

เฉินเกอถึงจะดูไม่แข็งแรงแต่มีแรง แต่ก่อนตอนมีเรื่องกับ

เสี้ยวทั้งสองก็ถือได้ว่ามือดี

ก็แค่เสี้ยวจะเป็นคนที่ออกหมัดเยอะกว่า เฉินเกอซกแทนลี่ เสี้ยวเพียงครั้งเดียว

ยังไงก็คือมือ ข้อศอก ขา มีแรงอยู่พอสมควร

ทันใดที่ได้ยินว่าพี่ของเขาคือโรงเรียนมัธยมปลายเสี้ยนอีจง หลิวหยาง อารมณ์โกรธของเฉินเกอก็พุ่งขึ้นมา

บวกกับตอนนี้เฉินเกอไม่มีอะไรให้ใส่ใจมาก จับวัยรุ่นชายคนนั้นแล้วก็เหวี่ยงไปทางอีกสองคน

ทั้งสามคนจัดอยู่ในประเภทที่ผอมจนเหลือแต่กระดูก แน่นอน ว่าก็ต้องโดนเฉินเกอเล่นงาน
หวางเสียวเองก็มองจนแทบอึ้งไปแล้ว

ในขณะเดียวกันคิดว่าเป็นเกอในเวลานี้ก็หล่ออยู่ไม่น้อย

“เฉินเกอซกพวกเขาให้ตายให้ฉันที

หวางเสี่ยวตะโกน

ส่วนเซีย พอเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเริ่มต่อยตีกัน

ก็หยิบแจกันดอกไม้ที่วางอยู่ข้างๆแล้วเดินมาเพื่อจะตีหวาง

เสี่ยว

ผู้หญิงทั้งสองคนก็เริ่มตบตีกันขึ้นมา

ครั้งนี้ที่เฉินเกอลงมือค่อนข้างจะหนักเอาการ

ตาเขาแทบจะแดงแล้ว

แล้วหลิวหยางคนนี้เป็นใคร?

พูดได้ว่าเป็นปีศาจในใจของเฉินเกอ ทำให้เฉินเกอโทษตัวเอง มาตั้งนานหลายปีและไม่สามารถหายไปได้

ถูกต้อง ก็คือหลิวหยางคนนั้น ก็คือคนที่ตอนมัธยมต้น เรียก ให้คนมาล้อมตัวแล้วซ้อมเฉินเกอเพราะผู้หญิงคนเดียว

อาศัยว่าครอบครัวมีความมั่งคั่งและอำนาจ แล้วก็ลูกน้อง

จํานวนมาก

พอเลิกเรียนก็ซ้อมเฉินเกอ

บ่ายวันนั้น เลี้ยวเข้ามาช่วย จากนั้นทั้งเฉินเกอและเสี้ยวทั้งสองคนก็ต่อยกับพวกมันสิบกว่าคน

พวกมันมีทั้งขาเก้าอี้ อะไรต่อมิอะไร

พวกมันฟาดเฉินเกอจนจนมุม

และก็เป็นในตอนนั้น เดี๋ยวก็ชักมีดออกมา………

หลังจากเรื่องนั้น ถ้าเกิดว่ามันจบแบบนั้น เฉินเกอก็คงไม่โกรธ แค้นขนาดนี้

หลังจากเรื่องนั้น บ้านของเสี้ยวก็โดนพ่อของหลิวหยางพา คนไปทำลาย ตอนแรกพ่อของลี่เสี้ยวเป็นคนขับรถสิบล้อ ผลลัพธ์ก็คือเพราะว่าการโดนทำลายบ้านครั้งนั้น เขาวู่วามไปก็ เลยโดนคนกลุ่มนั้นทำให้ขาขาด ที่พึ่งหลักก็เลยล้มไปทั้งอย่าง นั้น

หลังจากนั้นลี่เสี้ยวก็เลยไปเรียนสายอาชีพ ก็โดนรุ่นพี่พาไอ้ หลิวหยางมารุม

ดีตรงที่เสี้ยวรู้จักรุ่นพี่ในสังคมอยู่คนหนึ่ง ก็ไปเรียนซ่อมรถ กับคนนั้น หลังจากนั้นถึงได้มีทุกวันนี้

นี่ก็คือเหตุผลว่าทำไมจู่ๆเฉินเกอกตาแดงขึ้นมา

ไอ้หมอนี่คิดจะเรียกหลิวหยางมาฟันคนพอดี ตัวเองก็กำลังหา ตัวเขาอยู่เหมือนกัน!

ความโกรธที่ไม่มีชื่อเรียกได้ประทุขึ้นมา เขาไม่สนหน้าอินทร์ หน้าพรหมอะไรทั้งนั้น
“โอ๊ย ขาของฉัน!

ในตอนนี้ก็ได้ยินเสียงหวางเสี่ยวตะโกนขึ้นมา

ที่แท้ก็เป็นเพราะเธอเหยียบเข้ากับเศษแจกันดอกไม้ที่แตกอยู่ พอดี ขาอ่อนก็เลยโดนบาด

เซี่ยล่ะ พอเห็นว่ายิ่งร้องยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ ผู้จัดการของ ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดดิคอสก็เลยรีบโทรแจ้งตำรวจ

ไม่กล้าแม้แต่จะทําอะไร

เสร็จแล้วก็ไปช่วยพยุงพวกหลิวเฟยที่กุมท้องเสร็จแล้วก็หนีไป ส่วนเรื่องเพื่อนนักเรียนไม่กี่คนของหวางเสียว ในตอนนี้ก็ไม่รู้ ว่าหนีหายไปไหนกันหมดแล้ว

“เฉินเกอ นายช่วยรีบมาพยุงฉันไปทำแผลที่โรงพยาบาลที ถ้า

เกิดว่าเป็นรอยแผลเป็นขึ้นมาต้องจบเห่แน่!

หวางเสียวในตอนนี้ทำได้เพียงแค่ขอร้องเฉินเกอ

ยังไงเธอก็คิดว่า เมื่อกี้เฉินเกอต่อยกับคนอื่นเพื่อช่วยเธอ

วุ่นวายจริง!

เฉินเกอแอบด่าอยู่ในใจ

แต่ก็มาพยุงหวางเสี่ยวไปโรงพยาบาลที่อยู่ข้างๆ เพื่อทำแผล ดีที่แผลไม่ได้อาการหนักมาก ก็แค่ถูกบาด ส่วนหวางเสียวนะเหรอ ในตอนนี้กำลังนอนอยู่บนเตียง แต่มุมปากกลับยกยิ้มโค้งขึ้นมา ในแววตามีแววประหลาดใจ

อยู่ๆหวางเสียวก็หัวเราะขึ้นมา

“เธอหัวเราะอะไร?” เฉินเกือถามเบาๆ

“ฉันน่ะ วันนี้คงจะมองผิดไปแน่เลย ฉันเคยได้ยินมาว่าเมื่อ ก่อนตอนนายเรียนมัธยมต้นมักจะโดนแกล้ง แต่ตอนนี้พอฉันได้ เจอนายกลับคิดว่านายเป็นพวกที่ตรงไปตรงมา กระทั่งดูซื่อบื้อ เลย นายรู้ไหม!”

“เหอะๆ แต่คิดไม่ถึงว่าเวลานายใจร้อนนายก็เท่ห์ได้ถึงขนาด นี้ พวกมันทั้งสามคนแม้แต่แรงจะสู้กลับยังไม่มีเลย แถมนายเอง ก็ไม่รู้เมื่อกี้นายใช้แรงไปมากขนาดไหน ท่าทางแบบนั้นแมน มาก!”

หวางเสี่ยวยังใช้เท้าเขียเงินเกอ

ใช่สิ หวางเสียวมองเฉินเกอใหม่แล้ว ในตอนนี้ยังมีความ รู้สึกซาบซึ้งเกิดขึ้นอีก

ผู้หญิงแหละ มักจะชอบผู้ชายที่ดูแมนๆ โดยเฉพาะผู้ชายที่ เพื่อที่จะปกป้องตัวเองแล้วเปลี่ยนมาดูแมนมากๆ

เฉินเกอไม่ใช่แบบนั้นหรือไง

“มีบางเรื่องที่เธอ ไม่เข้าใจ เวลาปกติฉันไม่ได้เป็นแบบนี้!”

เฉินเกอว่าขึ้น
“ฉันรู้ไง ฉันมองออกแล้ว!

หวางเสี่ยวยู่ปาก

“พอเถอะ ถ้าเธอไม่เป็นไรก็กลับไปบ้านเองแล้วกันนะ ฉัน ต้องกลับไปอีกรอบ!”

เฉินเกอหมุนตัวกำลังจะจากไป

“นายจะกลับไปทําอะไรอีก?”

หวางเสี่ยวรีบพูดขึ้น

“พังโต๊ะกับเก้าอี้ของคนอื่นเขาไปตั้งเยอะ ก็ต้องชดใช้!

เฉินเกอบอก

นี่ นายรอแป๊บหนึ่งสิเฉินเกอ ฉันมีเรื่องจะพูดอีก!”

“เธอมีเรื่องอะไรอีก?”

“ฉันอยากบอกว่า เฉินเกอนายเป็นคนดีนะ!” หวางเสียวพูดขึ้นด้วยหน้าตาจริงจัง

เหอะๆ

หัวเราะขึ้นอย่างเย้ยๆ แล้วเฉินเกอก็จากไป

“หนุ่มคนนี้ตอนที่ได้เขาตอนแรกไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้ แต่ ตอนนี้ทำไมถึงได้ทำให้คนอื่นรู้สึกได้ว่าเป็นคนที่ออร่าแรงอยู่พอ สมควรเหมือนกันนะ?”
หวางเสียวมองด้านหลังของเฉินเกอแล้วก็คิดอยู่ในใจ แต่พอนึกถึงภาพเมื่อกี้ที่เฉินเกอยอมชกกับคนอื่นเพื่อช่วยตัว เอง หวางเสียวก็ยิ้มขึ้นมาอย่างหวานละมุน

ตอนที่หวางเสี่ยวกลับมาถึงบ้านก็เกือบจะเที่ยงแล้ว

ดีที่ทั้งพ่อกับแม่ยังไม่กลับมาบ้าน

มีแค่พี่สาวที่อยู่

ทำไมตั้งนานกว่าจะกลับ พี่โทรไปหาก็ปิดเครื่อง ไม่ได้บอก ว่าแค่ยี่สิบนาทีก็เสร็จเรียบร้อยเหรอ?”

พี่สาวซื่อหวางหมิ่นถามขึ้น

แต่พอเห็นว่าน้องสาวเดิน โขยกเขยก บนขาอ่อนก็มีผ้าก๊อซ ปิดอยู่ ก็ชะงักไปในทันที

“น้อง นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทะเลาะกับใครมาเหรอ?”

“อือๆ พี่ ทะเลาะกับเซี่ยลี่คนนั้น เธอพาคนมารุมซ้อมฉันอ่ะ!”

หวางหมินพูด

“หึ ยัยชั้นเอ๊ย อวดเก่งอะไรกัน แล้วไอ้คนจนขี้แพ้คนนั้น ละ? เธอเจอมันหรือยัง?”

หวางหมินคิดถึงเรื่องนี้ของเฉินเกอแล้วก็ถามขึ้น

“พี่ ทำไมต้องพูดว่าเฉินเกอเป็นไอ้คนจนขี้แพ้ด้วย พี่เองก็ ไม่ได้เจอเขาเสียหน่อย ทำไมถึงได้พูดจาเกินไปแบบนี้!”
หวางเสียวกลับพูดขึ้นด้วยความรู้สึกไม่ดี

แต่ก็รู้สึกไม่ดีจริงๆ

เพราะว่าตอนที่เธอคิดว่าใครคนหนึ่งเป็นคนดี ถ้ามีใครว่า กล่าวว่าเขา ไม่ว่าจะเป็นพี่สาวของตัวเองก็สามารถทำให้หวาง เสี่ยวรู้สึกขัดๆได้

“โอ๊ย แกเป็นอะไรไปเนี่ย? แกเจอมันแล้วเหรอ? มันเป็นยัง ไง? หล่อหรือไม่หล่อ? ดูหรือไม่? คงไม่ได้เป็นคนหน้าตา น่าเกลียดหรอกใช่ไหม?”

หวางหมินพูด

“ฉันไม่รู้ ฉันเหนื่อยแล้ว ฉันจะอยากกลับไปพักผ่อนที่ห้องแล้ว เรื่องนี้ของพี่ต่อไปฉันจะไม่ยุ่งแล้ว!”

หวางเสี่ยวกลับไปห้องด้วยอารมณ์ไม่ดี

“นี่มันอะไรกันล่ะเนี่ย?”

หวางหมุนมองท่าทางที่น้องสาวมีแต่ตัวเอง ก็งงงวย

พูดถึงเฉินเกอนะเหรอ

ก็กลับไปจัดการเรื่องที่ร้านอาหารฟาสต์ฟูดคอสจัดการจน เรียบร้อย

พอดีกับที่อากงหนูโทรศัพท์มาถามว่าคุยกันเป็นยังไงบ้าง

เฉินเกอพูดว่าค่อยกลับไปคุยกัน แล้วก็กลับไปที่บ้านอากงหว
แต่พอเพิ่งจะถึงรั้วบ้าน

ก็มองเห็นหนูเชี่ยนกำลังยืนอยู่ที่หน้ารั้ว เหมือนกำลังรอคนอยู่ หลังจากที่มองเห็นเฉินเกอ เธอก็เดินมาทางเฉินเกอ “เห้ย รอตั้งนานนายถึงได้กลับมา นายมานี้ ฉันมีเรื่องจะพูด กับนาย…..


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ