ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 297 เปิดภาคเรียนของนักเรียนใหม่



บทที่ 297 เปิดภาคเรียนของนักเรียนใหม่

“ลัมโบร์กินี่ เรเบนตัน! โอ้โห! ต้องมีเงินยี่สิบกว่าล้าน!”

ฝูงชนตกตะลึง

ส่วนลัมโบร์ก็จอดลงอย่างรวดเร็ว บนรถ เสี้ยวก็พาซูถึงเดิน

ลงมา

แล้วส่งกุญแจรถให้กับเฉินเกอ “ขับรถกลับมาให้นายแล้ว!”

เรื่องนี้ เป็นเงินเกอที่วานเสี้ยวเมื่อสองวันก่อน

ยังไงเสียตอนนี้ตัวเองก็ไม่มีรถ ยังไงก็ต้องมีรถเอาไว้ขับแทน เดิน เลยขอให้เลี้ยวขับกลับมาให้

จากนั้นก็ยิ้มแล้วตบบ่าของเสียว จากนั้นทั้งสามคนก็เข้าไป

พร้อมกัน

“ที่แท้รถคันนี้ก็เป็นของคุณชายเฉิน! นี่ไม่น่าแปลกใจเลย!” ฝูงชนพูดขึ้นอย่างอิจฉา

หลังจากนั้นก็ถ่ายรูปกัน จากนั้นก็เป็นงานวันเกิด

ตามที่หลี่เฉินกั๋วบอก มาตรฐานนี้ เทียบกับปีที่เฉินเสี่ยว สาวของตัวเองมา ถือได้ว่าต่างกันราวฟ้ากับเหว

เรื่องนี้เฉินเกอเข้าใจได้ดี แต่ว่าตัวเองก็ไม่สามารถทำเหมือน พี่สาวแบบนั้น ต้องไปเหมาเกาะทั้งเกาะจริงๆ
งานเลี้ยงวันเกิดดำเนินมาจนถึงบ่ายสามโมงกว่า ระหว่างนี้มีเหตุการณ์เล็กๆเกิดขึ้น

นั่นก็คือตัวเองโทรศัพท์หาฉินหยาอยู่สองสามครั้ง ฉินหยาบ อกว่าเธอจะมา แต่เธอกลับไม่มา

โทรไปตั้งหลายครั้งกว่าจะโทรติด

ฉินหยาเองอารมณ์ก็ไม่ค่อยจะดี ก็เลยบอกเฉินเกอมาไม่ได้

แล้ว

เฉินเกอลองถามดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือเปล่า?

ฉินหยาไม่ได้พูดอะไร เสร็จแล้วก็วางสายไป

เฉินเกอก็ไม่ได้คิดมาก ไม่มาก็ไม่มา ก็ตรงตามในใจของเฉิน เกอพอดี

รอจนเรื่องในวันนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว

เพราะว่าเฉินเกอดื่มเหล้าเข้าไปเป็นจำนวนมาก ก็เลยเข้ามา พักในห้องพักของจุดชมวิวสักครู่หนึ่ง

“พวกคุณทำอะไรครับ เข้าไปไม่ได้ครับ!”

“ฉันเป็นผู้อาวุโสของเฉินเกอ แซ่เจียง! ”

ชายวัยกลางคนพูดกับบอดี้การ์ด

ไม่ผิด คนๆนี้ก็คือเจียงเวียง

เมื่อกี้เขาขอร้องลูกน้องเก่าของเขาอยู่นาน ถึงจะยอมให้เขาได้เข้ามา

หลังจากที่เข้ามา แน่นอนว่าเจียงเวียงอยากจะมาเจอคุณ

ชายเฉิน

สองเหตุผล

เรื่องแรก เรื่องที่เขาผิดใจกับคุณชายเฉิน เขาเชื่อว่าไม่นานก็ อาจจะแพร่สะพัดไปทั่ว ถึงตอนนั้น เกรงว่าแม้แต่หัวหน้าแผนก ตัวเองก็ทำได้อย่างไม่มั่นคง ยังไงเสียตัวเองก็ทำเกินไป

ข้อสอง ถ้าเกิดครั้งนี้ยอมขอร้องคนเก่าเพื่อที่จะเข้ามา สามารถที่จะขอให้เฉินเกอให้อภัยได้ ไม่แน่ว่าอาจจะมีหวังได้ กลับไปทํางานเดิม

ครั้งนี้เจียงเว่ยตงเทหมดหน้าตักแล้ว

คิดๆไปแล้วก็ช่างลำบากนัก เฉินเกอรู้จักกับนักธุรกิจใหญ่ๆ มากมายขนาดนี้ ถ้าเกิดตัวเองไม่ได้ผิดใจกับเขา ไม่แน่ว่าตอนนี้ อาจจะมีอนาคตที่สดใสก็ได้

ถึงแม้จะไม่รู้ว่าบรรพบุรุษครอบครัวของเฉินเกอเริ่มมายังไง แต่ว่าตอนนี้เจียงเวียตงก็คิดอะไรมากขนาดนั้นไม่ออก

“ผมต้องการพบคุณชายเฉิน คุณช่วยบอกให้ผมหน่อยได้

ไหม!”

เจียงเวียตงพูด

ด้านหลังของเขาก็มีถังหรานเจียงหรานหรานตามมา
บอดี้การ์ดก็ไม่กล้าทําอะไร ถ้าเกิดว่าเป็นผู้อาวุโสของคุณ ชายเฉินจริงๆก็นําบากแน่

หลังจากที่เข้าไปก็บอกเรื่องนี้กับเฉินเกอ

จากนั้นบอดี้การ์ดก็ออกมา

“ตอนนี้คุณชายเฉินยังพักอยู่ ถ้าเกิดคุณอยากพบ ก็เชิญรอ ครับ!”

บอดี้การ์ดจองเจียงเวียดงด้วยสายตาเย็นชา

“ครับๆๆ!”

เจียงเวียตงทำได้แค่พยักหน้า

ครึ่งชั่วโมงผ่านไป……..

หนึ่งชั่วโมงผ่านไป…

เวลาผ่านไปแล้วห้าชั่วโมงเต็ม ใกล้จะสามทุ่มแล้ว

เจียงเวียตงก็ยังคงรอ ขายืนจนสั่งหมดแล้ว

“คุณไม่ต้องรอแล้วครับ คุณชายเฉินกำลังกินข้าว บอกว่าให้ คุณกลับไปก่อน มีเรื่องอะไรค่อยว่ากันวันหลัง

บอดี้การ์ดกลับเข้าไปแล้วก็ออกมาอีกรอบ

เจียงเวียตงเบะปาก

เขารู้ ว่าเฉินเกอตั้งใจจะสร้างความยุ่งยากให้กับเขา
ใครใช้ให้ตัวเองเคยปล่อยให้สองพ่อลูกรออยู่ที่ด้านล่างตึก อยู่ตั้งห้าชั่วโมงเต็มๆล่ะ……..

ในขณะเดียวกัน คืนนี้ บนถนนเส้นจากเขียนจึงไปยังจีนหลัง

เงาของรถลีมูซีนโรลส์-รอยซ์แฟนธอม กำลังวิ่งไปอย่าง รวดเร็ว

ภายในเบาะนั่งด้านหลังรถ เด็กผู้หญิงที่แต่งหน้าบางๆ แต่ว่า กลับแต่งตัวเหมือนกับผู้หญิงผู้สูงศักดิ์กำลังหลับตาอยู่ ไม่ใช่ ไม่สามารถพูดว่าเธอคือเด็กผู้หญิง ต้องพูดว่า เธอดูเหมือนเด็ก สาวที่เพิ่งออกจากมหาวิทยาลัย เพิ่งจะเข้ามาสู่สังคมได้ไม่นาน

“ใกล้จะถึงรึยัง?”

เด็กสาวลืมตาขึ้นเล็กน้อย ถามขึ้นเบาๆ แต่สายตากลับมอง ออกไปด้านนอกต่าง

“คุณหนู ใกล้จะถึงเมืองจีนหลังแล้วครับ!! คนขับรถรูปงาม ในตอนนี้ตอบขึ้นอย่างนอบน้อม

“สั่งให้รถคันข้างหลังรีบตามมา!

เด็กสาวออกคําสั่ง

จากนั้น ก็เห็นว่าคนขับรถพูดกับรถอีกคันอยู่สองสามคำ

หลังแฟนธอม ภายในพริบตาเดียวก็มีกลุ่มรถไมบัคโผล่ออก มา ประมาณยี่สิบกว่าคัน

รถที่ขับไปขับมาทุกคัน ก็จำต้องหลีกทางให้
“เมืองจินหลิง มหาวิทยาลัยจินหลง ทั้งสองที่นี่เคยทำให้ฉัน เต็มไปด้วยความอับอาย ทำให้ฉันโดนดูถูกเหยียดหยาม ทีที ฉัน กลับมาแล้ว!”

เด็กสาวคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่ผ่านๆมา ในตอนนี้ก็กำมือทั้งสอง ข้างเอาไว้แน่น

เพระว่าออกแรงมาก ก็เลยทำให้เล็บที่ค่อนข้างจะยาวและคม กลายเป็นสีขาว

“คุณหนู ส่วนคุณหนูกำลังจะเข้าไปเรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิง แล้วใช่ไหมครับ แหะๆ พูดขึ้นมาแล้ว เธอก็เป็นรุ่นน้องคุณแล้วนะ ครับ!”

คนขับรถพูดขึ้นอย่างนอบน้อม “ได้ยินมาว่าสองวันมานี้ นักเรียนปีสี่เริ่มนำเสนอวิทยานิพนธ์จบ คุณยังกลับไปนำเสนอ ไหมครับ?”

“พูดมาก!”

เด็กสาวด่าไปคำหนึ่ง จากนั้นก็หลับตาลง

รถหนึ่งแถว ขับเข้าไปในเมืองจินหลิง

พูดถึงเฉินเกอ เช้าวันถัดไปเฉินเกอก็ตื่นขึ้นมาแล้ว

เรื่องของที่นี่จัดการจวนจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินเกอก็ควรจะ หาเวลากลับไปมหาวิทยาลัยได้แล้ว
วันหยุดปิดเทอมหน้าร้อนที่เกือบจะสามเดือน จะว่านานก็นาน จะว่าสั้นก็สั้น ยิ่งไปกว่านั้นอีกสองวันการนำเสนอวิทยานิพนธ์ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ดังนั้นเฉินเกอก็เลยตั้งใจว่าวันนี้จะกลับไปเมืองจินหลิง

นี่ก็คืออีกหนึ่งเหตุผลว่าทําไมถึงขอให้เลี้ยวขับรถกลับมาให้ ตัวเอง

กลับไปบอกลาอากง อาม่าหนู แน่นอนว่า พวกสะใภ้รองจับ มือของเฉินเกอ พาเฉินเกอมาส่งขึ้นถึงบนรถ แถมยังมาส่งเฉิน เกอถึงปากทางหมู่บ้าน จนตอนที่มองไม่เห็นรถของเฉินเกอแล้ว พวกสะใภ้รองถึงกลับไป

“เจ้าเด็กเฉินเกอคนนี้ ยิ่งโตยิ่งเก่ง ตั้งแต่ยังเป็นเด็กฉันก็เคย พูดไปแล้ว เจ้าเด็กเฉินเกอโตขึ้นละก็จะต้องได้เป็นคนใหญ่คน โต พวกเธอดูซิว่าเป็นยังไง?

สะใภ้รองพอเจอคนก็พูดขึ้น……..

บนถนน เฉินเกอได้รับโทรศัพท์สายหนึ่ง

เป็นหยางฮุยหัวหน้าหอโทรมา

เหล่าเฉิน เมื่อไหร่จะกลับเมืองจินหลิงน่ะ?”

“กําลังไปแล้ว!”

เฉินเกอพูด

“ฮ่าๆ ฉันกับหลี่ปินถึงแล้วนะ! ตอนนี้อยู่ที่หอเนี่ย!”
“โอ้โห สอบป. โทไม่ต้องใช้เวลาขนาดนี้ก็ได้มั้ง? เร็วขนาดนี้? นายไม่อยู่กับแฟนนายอีกหน่อยล่ะ?”

เฉินเกอหัวเราะเพื่อนๆ

“แฟนของฉันกลับหอไปเตรียมตัวสอบปริญญาโทตั้งนานแล้ว อีกอย่างการนำเสนอวิทยาพนธ์ของมหาลัยเรามันเร็วกว่ามหา ลัยอื่นอยู่นะ มหาวิทยาลัยของแฟนฉันยังไม่เร็วขนาดนี้เลย! ก็แน่ ล่ะ น้องสาวที่เป็นญาติฝั่งพ่อของฉันมาเรียนที่มหาวิทยาลัยจิน หลิงด้วย ฉันก็เลยมาเป็นเพื่อนเธอ! น้องสาวของปืนจ่อเองก็มา เรียนที่มหาวิทยาลัยจินหลิงนะ พวกเราก็เลยมากันเร็ว!

หยางฮยบอก

“ได้ วันนี้ฉันกลับไปพอดี พวกเราเจอกันแล้วค่อยคุย!”

หลังจากวางสาย

เฉินเกอเหยียบคันเร่งแรงขึ้น

ผ่าปีสามไปได้แล้ว เด็กปีสี่บางคนก็ไปฝึกงาน บางคนก็อยู่ที่ มหาลัยเพื่อสอบโท บางคณะก็ยังต้องเรียนต่ออีกสามเดือน

หยางฮุยกับหลี่ปินมีแผนไว้ว่าจะสอบต่อปริญญาโท เฉินเกอ เองก็คิดจะต่อปริญญาโท

ช่วงเวลานี้ จริงๆก็หาเวลาเรียนอยู่บ่อยๆ

ไม่เจอกันมาสองเดือนแล้ว เฉินเกอก็รู้สึกคิดถึงหยางฮุยกับ หลี่ปินไม่น้อย
ไม่นาน ตอนเก้าโมงกว่า เฉินเกอก็ขับรถมาอยู่แถวมหาลัย อย่างที่เดาเอาไว้ดูท่าวันนี้น่าจะเป็นวันฝึกทหารวันแรกของ เด็กปีหนึ่ง มีคนหน้าใหม่สวมชุดทหารอยู่เต็มไปหมด

“ว้าว มีคนบอกว่ามหาวิยาลัยจินหลังมีพวกลูกคนรวยเยอะ เป็นเรื่องจริงเหรอเนี่ย พวกเธอดูนั่นเร็ว นั่นมันเป็นรถสปอร์ต แบบไหนกันน่ะ?”

เฉินเกอขับรถมาจนถึงหน้าประตู ทันใดก็สามารถเรียกความ สนใจได้จากเด็กสาวได้หลายคน……….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ