ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่808 พี่สาวเฉินเสี่ยว



บทที่808 พี่สาวเฉินเสี่ยว

“ขอถามเจ้านาย ว่าทำไมท่านถึงมาที่นี่ได้? เมื่อครู่นี้ท่านบอกว่า คุณจื่อเยียนยังอยู่ในโลกนี้ใช่ไหม?”

ญาณกระบี่น้อมคำนับพลางเอ่ยถามขึ้น

“อืม พี่จื่อเยียนยังอยู่ในโลกมนุษย์ เพียงแต่กลับกลายเป็น วิญญาณที่หลงเหลืออยู่ น่าเสียดาย ตอนนั้นที่ฉันความสามารถ อ่อนแอ ไม่สามารถที่จะป้องกันตนเองได้ พี่จื่อเยียนถูกจิ๋วโล่หวา งตามฆ่า ฉันตามหาไปทั่วทุกทีแต่ก็ไม่มีเบาะแสเลย เพราะฉะนั้น ฉันจึงสงสัย ว่าพี่จื่อเยียนจะกลับมายังโลกนี้แล้วหรือเปล่า”

“ส่วนที่ฉันมา อย่างแรกก็เพราะเรื่องของพี่จื่อเยียนกับพี่ หลินเซียว แล้วอีกอย่างก็คือ พี่สาวของฉันถูกตระกูลฉินจากโลก จับตัวไป กำลังตกอยู่ในความลำบาก ฉันต้องการจะช่วยพี่สาว ของฉันออกมา! จึงต้องหาหญ้าหยวนซิน เพื่อบุกทะลวงขอบเขต เงินเหริน!”

เฉินเกอไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบังญาณกระบี่

ว่าแล้วนั้น เฉินเกอก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่ทุกข์ร้อน : “แต่น่าเสียดาย ที่ตอนนี้ฉันหยุดอยู่ที่ขอบเขตหลุนหวางชั้นแปด ไม่ว่าฉันจะพยายามอย่างไร ก็ไม่สามารถทะลุไปถึงชั้นเก้าได้เลย แบบนี้ ถึงแม้ว่าฉันจะหาหญ้าหยวนซินเจอก็คงไม่มีประโยชน์ แล้วเหมือนกัน บุกทะลวงเงินเหรินได้คงอีกนาน!!
ช่วงเวลานี้ เฉินเกอกลุ้มใจกับเรื่องนี้มาโดยตลอด จนเกือบจะกลายเป็นความคิดชั่วร้ายที่อยู่ในใจเฉินเกออยู่

แล้ว

“เจ้านายอย่าร้อนใจไปเลย ตลอดการฝึกฝน เป็นการฝืนชะตา บรรลุชั้นเก้า ได้ฝึกฝนเป็นระดับสูงแล้ว บุกมาถึงตรงนี้ได้ ก็จะ ง่ายยิ่งขึ้น มีคนที่ใช้เวลาเป็นร้อยปีถึงจะทำสำเร็จ!

“ดังนั้นท่านจะต้องทำจิตใจให้มั่นคง ตั้งอกตั้งใจฝึกฝน!”

ญาณกระบี่เอ่ยขึ้น

“อืม!”

เฉินเกอพยักหน้า หลักการนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจ แต่ตัวเอง รอมาเป็นระยะเวลาอันยาวนาน พี่สาวของตัวเองจะรอไปตลอด ชีวิตได้เสียที่ไหนกัน

อีกทั้งหลังจากผ่านไปเป็นร้อยปีแล้ว ตัวเองก็ยังคงไม่แน่ใจว่า

จะสามารถบรรลุถึงขอบเขตเงินเหรินได้หรือเปล่า

เฉินเกอยิ่งรู้สึกร้อนใจมากยิ่งขึ้นไปอีก

“เจ้านาย หญ้าหยวนซินนี่เป็นจุดสำคัญของการบุกทะลวงไป ถึงขอบเขตเงินเหรินได้จริงๆ ญาณกระบี่ทราบถึงที่อยู่ของหญ้า หยวนซินนี้ ฉันจะพาท่านไปหาเอง อีกทั้งฉันยังรู้อีกว่าในหุบเขา นี้ มีสระน้ำเย็นหมื่นปีอยู่ด้วย ที่นั่น เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการ ฝึกฝน เจ้านายจะไปลองดูก็ได้ เทพจิตเก้าภพบนร่างกายของ ท่านเป็นเทียนตี้จ้าวฮั่ว และเมื่อมีการเคลื่อนไหว การบุกทะลวงถึงเงินเหรินนั้น ก็คาดว่าจะเป็นจริงได้ในไม่ช้า

ญาณกระบี่กล่าว

“ได้สิ! รบกวนญาณกระบี่ด้วย!”

เฉินเกอได้ยินแล้ว ในใจนั้นก็รู้สึกดีใจขึ้นมา แล้วเอามือ ประสานกันตรงหน้าอกเพื่อแสดงความขอบคุณ

และเพียงแค่พริบตาเดียวนั้น เวลาก็ผ่านไปเป็นเดือนแล้ว ตรงปากทางเข้าหุบเขาโยวหมิง

“ท่านผู้นำ แค่เด็กผู้ชายตัวเล็กๆคนนึงเท่านั้น รอให้เขาออก มา เมื่ออยู่ภายใต้การล้อมรอบโจมตีของเรา จะต้องสับเขาออก มาให้เป็นหมื่นๆ ท่อนให้ได้ ถึงตอนนั้น ก็พาศพของคนๆนี้กลับไป ด้วย จะได้ไม่ต้องรบกวนให้มาเฝ้าทั้งวันทั้งคืนอีก!”

คนของตระกูลหม่า ได้ล้อมหุบเขาโยวหมิงเอาไว้หมดแล้ว ส่วนหม่าหย่งชิ้นนั้นก็กำลังเฝ้าอยู่ตรงปากทางเข้าหุบเขา

เขาโกรธแค้นอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เวลาหนึ่งเดือนผ่านไป แล้ว แต่ความโมโหของเขาเองก็ยากที่จะหายไปเช่นกัน

ถูกเฉินเกอเล่นแบบนี้มาสองครั้งติดต่อกัน ทำให้หมาหย่งชิน เสียหน้ายิ่งนัก

ครั้งที่แล้ว เกือบจะถูกผีดิบเฟยเทียนฆ่าตายอยู่ที่นี่แล้ว ดังนั้นเขาสาบานว่าจะต้องฆ่าคนๆนี้ด้วยตัวเองให้ได้อย่างแน่นอน
“พวกแกจะไปเข้าใจอะไร เด็กที่มีพรสวรรค์ที่สำคัญอยู่ใน ร่างกาย เขาอายุยังน้อย พลังวิชาก็น่ากลัวมาก ฉันหม่าหย่งชิน จะไม่ยอมให้เกิดความผิดพลาดใดๆอีก จะต้องฆ่ามันด้วยตัวเอง ให้ได้!”

หม่าหย่งชินเอ่ยด้วยความโกรธแค้น

“แต่ว่าเด็กนี่เองก็ทนได้จริงๆ หลบอยู่ในหุบเขานี่เป็นเดือนๆ แล้วไม่ออกมาเลย!”

ลูกน้องเอ่ยขึ้นมา

“ซึม ฉันว่า เขาจะต้องหาหญ้าหยวนซินเจอแล้วแน่ๆ คงกำลัง รักษาอาการบาดเจ็บอยู่ในหุบเขาสินะ ไม่กลัวหรอก เพราะ บริเวณรอบๆหุบเขาโยวหมิงล้วนแต่มีควันพิษทั้งนั้น ทางออก เพียงหนึ่งเดี๋ยวนี้เพียงแค่พวกเราเฝ้าอยู่ที่นี่ ต่อให้เขาจะมีปีกบิน ได้ ก็ยากที่จะบินออกไปได้อยู่แล้ว!”

หม่าหย่งชินเอ่ยขึ้นมาอย่างเย็นชา

และเพิ่งจะสิ้นเสียงของเขานั้น เปลือกตานั้นก็อดที่จะกระตุก ขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

เห็นว่าในหุบเขานั้น จู่ๆก็มีร่างหนึ่งเดินออกมา รอจนหลังจากที่หม่าหย่งซินเห็นชัดว่าเป็นใครแล้วนั้น อดที่จะเงยหน้าขึ้นและหัวเราะเสียงดังออกมาไม่ได้ : “ฮ่าๆ เจ้าเด็กบ้า ฉันคิดว่าแกจะตายอยู่ในนั้นแล้วเสียอีก!”
หลังจากที่เห็นว่าคนที่เดินออกมาเป็นเงินเกอแล้วนั้น หม่าหย่ง ซินก็รู้สึกฮึกเหิมขึ้นมา

“อยากจะให้ฉันตายขนาดนี้เลยหรือ?”

เงินเกอยิ้มออกมาเล็กน้อย

“เจ้าเด็กบ้า นี่แกยังกล้าเดินกร่างออกมาอีก หม่าหย่งซีนหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา

เพียงแต่เวลานั้นเอง คิ้วของเขานั้นอดที่จะกระตุกขึ้นมาเล็ก น้อยไม่ได้

“เอาสิ ดูแล้วฉันคิดไว้ไม่ผิดจริงๆ ว่าพรสวรรค์ของเด็กอย่าง แกนี่มีความสามารถอย่างที่คิดไว้จริงๆสินะ เวลาหนึ่งเดือนเพียง สั้นๆที่ไม่ได้เจอกัน ไม่คิดว่าจะรุกหน้าได้ขนาดนี้!

หม่าหย่งซินแปลกใจ

“ดูแล้วครั้งนี้ไม่ฆ่าแกอีก ต่อไปถ้าหากเจอกัน ฉันหม่าหย่งชิน กลัวว่าพลังวิชาคงจะต้องอยู่ต่ำกว่าแกแล้วสิ!

เพิ่งจะสิ้นคำพูดของหม่าหย่งชิน

เสียงดังโครม ดังขึ้นมา

ก็เห็นใบไม้บริเวณรอบๆนั้นรวมตัวกันอยู่ตรงหน้าอกอย่าง รวดเร็ว และไม่นานก็รวมตัวกันเป็นลูกกลมๆขนาดใหญ่ขึ้นมา หลังจากนั้น หม่าหย่งซีนก็ผลักมันออกมา
ปีง!

แสงหนึ่งแวบขึ้นมา

รอบๆทิศทางนั้นเป็นระเบิด

ลูกกลมๆขนาดใหญ่นั้นมุ่งตรงมาทางเฉินเกอ

กระบี่สวนหยาง!

ส่วนเฉินเกอนั้นใช้นิ้วกรีดกรายไปที่ดาบ งอนิ้วแล้วดีดออกไป จึงมีแสงออกมาจากดาบเล่มนั้น

โจมตีไปยังลูกกลมๆขนาดใหญ่นั่น

ตูม ตูม !

ลูกกลมๆขนาดใหญ่นั้นถูกแบ่งครึ่งออกมา คลื่นจากแรงระเบิดขนาดใหญ่กระจายไปรอบทิศ ผู้คนรอบข้างต่างพากันถอยหลังออกไปเป็นสิบก้าว ถึงได้หยุด

ลง

แล้วทุกคนก็ต่างพากันตกตะลึงกับการโจมตี

“อะไรกัน?”

หม่าหย่งชิ้นมีลักษณะท่าทางที่เหิมเกริมขึ้นมาอย่างรุนแรง เผชิญหน้ากับการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของตัวเอง แต่เด็ก สามารถรับมือได้อย่างไม่สะทกสะท้าน

“แกถึงขอบเขตหลุนหวางชั้นเก้าแล้วหรือ? จะเป็นไปได้อย่างไร? แกผ่านได้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” หม่าหย่งชินเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ

“เมื่อวานนี้ ฉันหยุดอยู่ที่ชั้นแปด จะว่าไปแล้วก็เป็นเวลาหลาย ปีแล้ว และก็เป็นเมื่อวานที่ฉันผ่านชั้นเก้านไปได้สำเร็จ!

เฉินเกอยิ้มออกมาเล็กน้อย

“ในสถานการณ์ที่ไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากพลังภายนอกที่

เพียงพอ แกไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว!”

หม่าหย่งชินรู้สึกเหลือเชื่อยิ่งนัก

จริงๆแล้ว

เฉินเกอได้ผ่านขอบเขตหลุนหวางชั้นเก้าได้สำเร็จทั้งหมดแล้ว อาศัยสระน้ำเย็นนั่นในการเพิ่มความสำเร็จนี้เช่นกัน ภายใต้การสนับสนุน ประกอบกับอยู่ในโลก พลังจิตที่เต็ม

เปี่ยม

เฉินเกอจึงบรรลุสำเร็จไปได้อย่างราบรื่น

ผลลัพธ์เช่นนี้ ก็เป็นสิ่งที่เป็นเกอเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน

ส่วนเฉินเกอเห็นว่าคนตระกูลหม่ามีกองกำลังมากแล้ว

ขณะนั้นเองก็ไม่อยากที่จะต่อสู้กับหม่าหย่งซีนให้ดุเดือดมาก เกินไป

“หม่าหย่งชิน วันนี้พวกเราแยกผลแพ้ชนะกันได้ยากเหลือเกินอีกทั้งฉันเองก็ยังมีเรื่องสำคัญ ต่อไปจะไปหาคุณอย่างแน่นอน! ฉันขอถอยไปก่อนแล้วกัน!”

เฉินเกอเอ่ยพูดเสร็จแล้ว คนทั้งคนก็กลายเป็นภาพลวงไปแล้ว

ไม่นานก็หายไปท่ามกลางสายตาของทุกคน

“ตาม!”

ลูกหลานตระกูลหม่ากล่าว

“ไม่ต้องตามไปแล้ว!”

หม่าหย่งชินกลับยกมือห้ามเอาไว้

“ท่านเจ้าบ้าน ทำไมหรือ? ไม่ใช่บอกเอาไว้ว่าจะไม่ให้เขามี ชีวิตเหลือกลับไปไง?”

สองสามคนเอ่ยขึ้น

“หม ถ้าหากวันนี้มีเพียงเขาแค่คนเดียว ฉันจะไม่ยอมวางมือ ง่ายๆอย่างแน่นอน แต่เจ้าเด็กนี่ มีบุคคลที่สูงส่งช่วยเหลือเขา พวกแกมองไม่เห็น แต่ฉันรับรู้ได้ถึงว่าเขามีตัวตนอยู่ตอนนี้ พวก เรากำลังเผชิญหน้ากับขอบเขตหลุนหวางชั้นเก้าสองคนที่มีพลัง วิชา พวกเราไม่สามารถจะรับมือกับเขาได้อยู่แล้ว!

หม่าหย่งชินเอ่ยขึ้นด้วยความเกลียดชัง และตอนนั้นจึงกำหมดแน่นขึ้น เวลานี้ เมืองไปตี้แห่งโลก ตระกูลฉิน
เพียะ!

เสียงของแส้หนังเส้นหนึ่งดังขึ้นมา

“เร็วเข้า รีบเร่งทำสิ่งเหล่านี้ให้เสร็จ มิเช่นนั้น ฉันจะไม่ให้อภัย แก!”

ภายในห้องครัว ผู้หญิงคนหนึ่งกำลังล้างผัก เพียงแต่เป็น เพราะมือไม้ของเธอนั้นช้า จึงถูกคนที่มีท่าทางเหมือนกับพ่อบ้าน ที่อยู่ทางด้านหลัง วัยกลางคนที่ไว้หนวดเคราวัยกลางคนโบยแส้

ลงมา

แรงงานผู้หญิงคนที่เหลือเห็นแล้วนั้น ล้วนแต่พากันโมโหแต่ก็ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมา

และผู้หญิงคนนี้ ไม่ใช่เฉินเสี่ยวพี่สาวของเฉินเกอ แล้วจะยัง เป็นใครได้กัน…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ