บทที่705 ยอดฝีมือในยอดฝีมือ

วิลล่าตระกูลส

ในห้องรับแขก

ชายวัยกลางคนกับชายหนุ่ม กำลังนั่งเผชิญหน้าอยู่ตรงโซฟา คนเจ็ดคนแต่งกายด้วยชุดสีดำที่เหมือนกัน กำลังตั้งใจวิเคราะห์ อะไรสักอย่าง

“เรื่องแหล่งวัตถุโบราณ จะเป็นเรื่องใหญ่ที่สะเทือนเขย่ายุทธ ภพ ดังนั้นครั้งนี้เราต้องระวังกันให้มาก ด้วยความสามารถของ ท่านทั้งเจ็ด ต่อไปนี้ ยังไงก็คงต้องให้อาจารย์ทั้งเจ็ดช่วยเหลือ

ชายวัยกลางคนยกถ้วยน้ำชาขึ้น หัวเราะกล่าว

ชายวัยกลางคน มีชื่อว่าสวี่เหวินตง เป็นผู้นำของตระกูลส เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและอำนาจ สวี่เหวินตงเป็นคนที่ใจคอโหด เหี้ยม ทั้งชีวิตบูชาเทววิทยา หลายปีที่ผ่านมาอาศัยอำนาจมืด ขยายอย่างไม่ยอมหยุด

และชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง ได้ถูกคนขนานนามว่าคุณชายส เขาชื่อสช่วย เขาได้รับการถ่ายทอดจุดเด่นของสวี่เหวินตงมา ทั้งหมด เป็นผู้สืบทอดที่เก่งกว่าผู้เป็นพ่อ อายุน้อยๆ กลับมีสมญา นามเสือซ่อนเล็บ

เขาเป็นลูกชายคนเดียวของสวี่เหวินตง
และคนเจ็ดคนนี้ เป็นยอดฝีมือใหม่ที่สองพ่อลูกได้เชิญมา

ในเจ็ดคนนี้ มีชายหกคนหญิงหนึ่งคน

กลิ่นเพชฌฆาตในตัวแรงมาก

เดิมทีตระกูลสวนึกว่าการแหล่งวัตถุโบราณที่ค้นพบ เป็น สุสานโบราณหลังใหญ่ อาศัยแรงของตระกูลสวี จะเปิดสุสาน โบราณหลังนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย

จึงได้ร่วมมือกับตระกูลตู้ตระกูลเหลยและตระกูลใหญ่อื่นๆ เพื่อ

มาร่วมกันขุด

ได้ของล้ำค่ามา ทุกคนค่อยมาแบ่งกัน

แน่นอน ตามแผนที่พ่อลูกตระกูลสวางไว้ สุดท้ายแล้ว การ แบ่งปันเป็นสิ่งที่เป็นไม่ได้ พวกเขาได้เตรียมวิธีที่จะจัดการตระกูล ที่เหลือไว้

แต่สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือ นี่มันไม่ใช่สุสานโบราณ แต่เป็นแหล่ง ที่เต็มไปด้วยของสมบัติวิเศษ

ของทุกชิ้นในนั้น ไม่สามารถที่จะประเมินเป็นราคาได้ ดังนั้นสมบัติเทพเหล่านี้ ต้องโอมไว้แต่เพียงผู้เดียว

เดิมที แผนการที่ไว้วางราบรื่นมาก แต่คิดไม่ถึง ไม่กี่วันก่อน กลุ่มคนแปลกหน้าที่มาจากต่างถิ่น

พวกเขายิ่งน่าแปลก กลับเป็นคนที่ค้นพบความลับของสุสาน โบราณคนแรก และช่วยให้ทุกคนเข้าสู่ส่วนลึกของแหล่งซากเทพ
ในกลุ่มคนเหล่านี้ มีทั้งชายทั้งหญิง ในนั้นมีผู้หญิงที่หน้าตา งดงามดั่งเทพธิดา กับชายวัยกลางคนที่ใบหน้าเต็มไปด้วยลอย แผลเป็น และวัยกลางคนคนหนึ่งที่ไม่พูดไม่จาเลย ทำให้สวี่เหวิน ตงสองพ่อลูกเกิดความสนใจเป็นอย่างมาก

พวกเขาทุกคน ดูแล้วไม่ใช่คนที่จะล่วงเกินกันได้ง่ายๆ หากปะทะกับพวกเขาโดยตรงนั้นถือเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลย ทำได้เพียงเชิญให้พวกเขามาร่วมบุกเบิกด้วย แล้วค่อยหา โอกาสจัดการพวกเขา

ดังนั้น จึงได้มีภาพที่อยู่ตรงหน้า

“ชื่อเสียงของประธานสวี่ เป็นที่เลื่องลือ ครั้งนี้ท่านทุ่มค่า ตอบแทนที่มหาศาลเชิญพวกเราอสุรกายทั้งเจ็ดออกมาจากเขา เทียนชาน นอกเสียจากว่ากลุ่มคนที่ประธานต้องการต่อสู้ด้วย มี ฝีมือที่เก่งกาจจนถึงขั้นที่น่ากลัวมากใช่มั้ย?”

หัวหน้าอสุรกายทั้งเจ็ด เวลานี้ได้กล่าวอย่างเรียบเฉย

“ใช่แล้ว หากไม่เช่นนั้น ก็คงไม่กล้าที่จะรบกวนท่านทั้งเจ็ด

สวี่เหวินตงกล่าว

“งั้นประธานสวี่ ลองเล่าแผนการของคุณมาหน่อย

หัวหน้าอสุรกายทั้งเจ็ด เป็นชายชราคนหนึ่งกำลังยิ้มตาหยี แล้วกล่าว

“กลุ่มคนกลุ่มนี้ ผมก็ไม่รู้ว่าพวกเขาค้นพบแหล่งซากเทพได้อย่างไร พวกเขาได้เข้าไปในส่วนที่ลึกของแหล่งซากเทพแล้ว พูด แล้วมันก็ไม่ง่ายเลย ผมรู้ว่า ในมือของอสุรกายทั้งเจ็ด มีพิษชนิด หนึ่งที่เรียกว่าพิษหนอนเทียนซาน สามารถเปลี่ยนเป็นหมอกพิษ ได้ พิษแบบนี้จะไม่สามารถขัดขวางได้ ผมอยากจะปล่อยพิษชนิด นี้ ที่ด้านในสุดของแหล่งซากเทพ เพื่อประกันว่ามันจะได้ผล จะ รบกวนอสุรกายทั้งเจ็ดเข้าไปด้วยกัน ตัดหัวเขาทีละคน และน่า ร่างของพวกเขาออกมาด้วย ถึงเวลานั้น ผมยินดีที่จะแบ่งปันผล ประโยชน์นี้กับอสุรกายทั้งเจ็ด!”

สวี่เหวินตงกล่าวอย่างยิ้มๆ

พิษชนิดนี้ อสุรกายทั้งเจ็ดไม่กลัวอยู่แล้ว

ขณะนั้นที่ฟังแล้ว อสุรกายทั้งเจ็ดรู้สึกว่าเป็นไปได้ จึงได้พยัก หน้าทีละคน

ในเวลานี้

คนใช้คนหนึ่งได้เดินเข้ามาอย่างสุภาพ “หม? ได้ไปเชิญเขาเข้ามา! สวี่เหวินตงยิ้มๆ

“คุณท่าน ประธานเหลยได้พาชายหนุ่มคนหนึ่งมาขอพบ

และอสุรกายทั้งเจ็ด แค่กะพริบตา ก็ได้หายสาบสูญไปจาก โซฟา เสมือนกับว่าไม่เคยมาที่นี่

ทำให้คุณชายสหนังตากระตุกอย่างห้ามไม่ได้
เฉินเกอและเหลยเหลาหูยังมีตู้หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกัน

“ประธานเหลย คนนี้คือ?”

“คนนี้คือคุณชายเฉินเกอ!”

เหลยเหลาหูแนะนำอย่างสุภาพ

“การมาของคุณชายเฉิน คืออยากมาตามหายอดฝีมือที่ ประธานเชิญมาเมื่อสองสามวันก่อน คนเหล่านั้นเป็นเพื่อนของ คุณชายเฉิน ในเวลาเดียวกัน คุณชายเฉินก็จะไปสำรวจแหล่ง ซากเทพด้วย!”

เหลยเหลาหู่เวลานี้เหมือนทำตัวเหมือนเป็นลูกชาย อยู่ต่อหน้า เฉินเกอ แม้ไม่กระทั่งที่จะกล้าหายใจเสียงดัง

และสวี่เหวินตงก็พบความผิดปกติบางอย่าง

โดยเฉพาะ เขาได้ยินว่าภูเขาภายในถ้ำ คนที่ตัวเองเตรียมจะ วางยาพิษนั้น เป็นเพื่อนของเขา

ทําให้เขากลัวเล็กน้อย

“อ้อ ไม่มีปัญหา ที่แท้ก็เป็นเพื่อนของพวกอาจารย์ สวี่เหวินตงที่ยิ้มอยากจะไปจับมือเขา

“อย่าพูดมาก พาผมไปพบพวกเขาเดี๋ยวนี้!

สายตาพิฆาตของเฉินเกอ ได้กวาดมองภายในรอบๆห้องหนึ่ง รอบ จากนั้นสายตาที่มองสวี่เหวินตง ก็แฝงด้วยความเยือกเย็น
เวลา กล่าวอย่างเรียบเฉย

“บังอาจ!”

เห็นเฉินเกอที่ยโสโอหัง สวซวยเลยแสดงกิริยาที่โมโห

“ช่วยเอ๋อ อย่าเสียมารยาท!”

แต่ถูกสวี่เหวินตงดึงตัวไว้ก่อน “ได้ ในเมื่อน้องชายมีใจที่ อยากจะไปตรวจดูแหล่งซากเทพ ผมจะจัดคนนำทางให้

เขาแค่ยอมต่อหน้า แต่ในใจได้ไว้แผนไว้แล้ว

ขณะนั้น ก็ได้จัดลูกน้อง พาเฉินเกอมุ่งหน้าไป

เฉินเกอจากไปไม่นานนัก

สวยโมโหจนตบโต๊ะ: “พ่อ เมื่อพ่อทำไมต้องห้ามผมด้วย ทำไม่ได้ผมจัดการไอ้เด็กที่โอหังคนนี้?”

“อย่ามุทะลุ แกอย่าลืมนะ คนเหล่านั้นต่างเป็นคนที่มีความ สามารถ และเจ้าหนุ่มคนนี้ ถึงแม้จะดูไม่ออกว่าพิเศษยังไง แต่แก ไม่เห็นเหรอ ตู้หนิงและเหลยเหลาที่อยู่ต่อหน้าเขา ต่างก็ไม่ กล้าที่จะพูดเลย? ดูท่า นายคนนี้ซ่อนความเก่งไว้ด้านใน

เรื่องราวบางอย่างในยุทธภพ สวี่เหวินตงมองแวบเดียวก็ สามารถเข้าใจ

ขณะนั้นก็ได้พูดขึ้น

“งั้นควรทำยังไง? จะพาเขาไปที่สุสานโบราณจริงๆเหรอ?”
สวีซวยขมวดคิ้วกล่าว

“ไม่ได้อย่างแน่นอน เพื่อไม่ได้เกิดปัญหาเพิ่มขึ้น ดังนั้นพ่อ อยากให้อสุรกายทั้งเจ็ด ได้ฆ่าเขาระหว่างทาง ถึงเวลาก็ค่อย จัดการกลุ่มคนที่อยู่ในสุสานโบราณ พวกเราก็ทำงานสำเร็จ ลุล่วง ฮีม เท่าที่พ่อดู ไอ้เหลยเหลาหูและตระกูล เหมือนจะไม่มี ประโยชน์แล้ว~!”

สวี่เหวินตงยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วกล่าว และบนโซฟา อสุรกายทั้งเจ็ดที่หายไปเมื่อกี้ไม่รู้ว่าโผล่ออก มาตอนไหน

พวกเขาทั้งเจ็ด ต่างกำลังทำหลับตา

ดูแล้ว เหมือนภิกษุชราเข้าสู่ธรรม

และนั่น การฝึกฝนเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยอดฝีมือทุกคน พวก เขากำลังหลับตาพักผ่อน ให้ตัวเองสงบนิ่งอยู่ในสภาพที่ยอด เยี่ยม

“เจ้าหนุ่มคนเมื่อกี้ มีพรสวรรค์มาก หากไม่ใช่ความต้องการ ของประธานสวี่ ผมมีความคิดที่อยากจะรับเขาเป็นศิษย์ ฝึกเพียง เล็กน้อยก็เพียงพอ แต่น่าเสียดาย ตามความต้องการของ ประธานสวี่ เขาก็จะต้องตายอยู่ที่นี่แล้ว!”

หัวหน้าชายชราที่หลับตาอยู่กล่าว

“ลำบากท่านทั้งเจ็ดแล้ว!”
สวี่เหวินตงดีใจมาก ยกซาโสมที่ชงร้อนๆ เพื่อจะดื่มแทนเหล้า ชายชรายกมือปฏิเสธ “ไม่ต้อง พวกเราไปแป๊บเดียวก็กลับมา วางชาลงก่อน ไม่ทันเย็นหรอก!”

ชายชราเย็นเจื่อนๆ

จูบ!

เห็นเงาของพวกเขาหายไปทันที

และเวลานี้ ขณะนี้บนโซฟาเหลือเพียงชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้าง อยู่ เขาเป็นน้องเล็กสุดในอสุรกายทั้งเจ็ด

“คุณหมิ่นจูน ทำไมคุณถึงไม่ไปล่ะ?”

สวี่ช่วยถามด้วยความแปลกใจ

“เพราะว่าเขาทั้งหกคน ก็เพียงพอที่จะทำภารกิจให้สำเร็จได้ ผมอยู่ที่นี่ พร้อมกับประธานส รอรับผลของชัยชนะ!”

ชายหนุ่มที่ชื่อหยื่นจูนกล่าวอย่างยิ้มๆ

---

เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ