บทที่692 ถูกช่วยไปแล้ว
“อืม”
หยุนจึงพยักหน้า: “ใช่ร่างอมตะนั้นเป็นเพียงแค่เรื่องเล่าที่ อยู่ในตำนานเท่านั้น และเมื่อกลายเป็นร่างอมตะ จากนี้ไป ก็ สามารถมีชีวิตเทียบเท่ากับโลก และไม่มีสิ่งใดสามารถทำลาย ได้อย่างแท้จริง! ในอารยธรรมของปีนั้น เขาเป็นคนเดียวที่มา ถึงดินแดนแห่งตำนาน! และแน่นอนว่า นี่เป็นเพียงแค่ตำนาน เท่านั้น!
“ถ้าตามที่คุณกล่าวมา ขั้นตอนนี้เทพจิตคนนั้นก็ยังคงอยู่ แต่ ว่า ด้วยการล่มสลายของอารยธรรม ในตอนนั้น เขาก็ได้ตาย สลายไปด้วยไม่ใช่เหรอ?
เฉินเกอถามด้วยความสงสัย
“นั่นสิ เขาน่าจะตายไปแล้ว ฉันคาดว่าเขาไม่ใช่ร่างอมตะอะไร หรอก แต่เป็นเทพจิตที่มีพลังอันยิ่งใหญ่มหาศาลคนหนึ่งเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงเป็นที่เคารพของคนจํานวนมาก
หยุนฉิงกล่าวอธิบาย
“ถ้าอย่างนั้นไม่หยางเมิงล่ะ คุณมีความรู้เกี่ยวกับไม่หยางเพิ่ง มากแค่ไหน? องค์กรนี้ เหมือนว่าจะเป็นของโลกของพวกคุณ ใช่หรือเปล่า? ”
เงินเกอถามคำถามที่ตัวเองใส่ใจมากที่สุด
“ไท่หยางเหมิง? จะว่าไป มันไม่ใช่ของโลก และยิ่งไม่ใช่ ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เป็นองค์กรที่ลึกลับและแข็งแกร่งทรง พลังอย่างยิ่ง และในโลก ดูเหมือนว่าจะมีฐานสำหรับพวกเขา โดยเฉพาะ พวกเขานั้นแข็งแกร่งมาก ฉันรู้แค่ว่า พวกเขาตรง อยู่ในฐานะราวปรมาจารย์ และเป็นไปได้ว่า พวกเขามาจาก อารยธรรมที่เคยพินาศ เมื่อหลายล้านปีก่อน!
“แต่ฉันดูจากบันทึกภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังทาง ประวัติศาสตร์นี้แล้ว สิ่งที่ในสื่อออกมาคือ ศพของ ของพวกคุณนั้น ต่างก็ถูกพบที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นหนึ่ง และต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์ต้นนี้ ตกลงมาจากฟ้า พร้อมกับซากศพอื่น ๆ อีกมากมาย รวมทั้งศพ ของท่าน เทพ ด้วย! ”
“ดูเหมือนว่าคุณจะรู้มากจริง ๆ ถูกต้อง พวกเราถูกฆ่าตายด้วย ความหายนะจากดินแดนสวรรค์และโลก และพวกเราก็สงสัยเช่น กันว่า ภัยพิบัติดั้งเดิมนั้น จะมีความสัมพันธ์โดยตรงกับไท่หยาง เหมิงหรือเปล่า และแน่นอนว่าคำถามนี้ แม้ว่าจะเป็นช่วงชีวิตที่ สูงสุดของคุณในชาติก่อน ก็ไม่กล้าที่จะไปตรวจสอบ และคุณเอง ก็เสียชีวิตระหว่างทางจากโลกมาสู่โลก และคุณเองก็คงคาดไม่ ถึงว่า อันที่จริงแล้วฉันคอยติดตามตัวพวกคุณมาโดยตลอด
หยุนฉิงกล่าวและยิ้มจางๆ
“ถ้าอย่างนั้น ตอนนี้โลกจะเป็นอย่างไร และไม่หยางเหมิง เป็นอะไรกันแน่ แม้แต่คุณเองก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ชัดเจนเห รอ? ”
เฉินเกออดไม่ได้ที่จะกล่าวด้วยความผิดหวังเล็กน้อย
“อืม พวกเขาเป็นองค์กรที่เราไม่สามารถไปยั่วโมโหได้ และ ถ้าคุณอยากจะตรวจสอบล่ะก็ ฉันแนะนำให้คุณล้มเลิกความคิดนี้ ดีที่สุด หรือต่อให้คุณจะกลับไปถึงจุดสูงสุดในชีวิต คุณก็ไม่ สามารถต่อสู้กับมันได้! ”
หยุนฉิงกล่าวตักเตือน
เธอเองก็ไม่ได้ถามเงินเกอว่าเขาจะสืบไท่หยางเหมิงไปทำไม เพียงแต่เตือนเขาด้วยความหวังดีเท่านั้น
“ยังมีคำถามสุดท้ายอีกหนึ่งข้อ นั่นก็คือ ตอนนั้นพวกคุณเคย ถูกฝังไว้ที่วังราชาสมุทร ? และหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการคุ้ม การศพของคุณ ชายแก่คนนั้น คุณยังจำเขาได้อยู่หรือเปล่า? ใน ระหว่างทางที่อยู่บนเกาะนั้น คุณเคยออกมาฆ่าคน และตอนนั้น ก็ คือหัวหน้าชายแก่คนนี้ที่เป็นคนปราบคุณ!
เฉินเกอถามถึงเบาะแสที่เขาเคยได้รับมาก่อนหน้านี้
“ดูไม่ออกเลยจริง ๆ ว่าคุณจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ได้มากขนาดนี้ และชายแก่ที่คุณพูดถึงนั้น คือนักพรตเสียง (อู๋เลี้ยงเป็นสำนัก หนึ่งของเต๋า ค้รายๆพระพุทธศาสนา) ใช่หรือเปล่า แน่นอนว่าฉัน จําเขาได้ และถ้าไม่ใช่เพราะเขา ฉันก็คงไม่ถูกปิดผนึกนานเป็น เวลาหมื่นปี!
ภายในดวงตาของหยุนจึงมีเมฆหมอกที่มืดหม่นปรากฏขึ้นมา
“นักพรตเสียง? ตามที่ฉันคาดเดา อายุขัยของคุณนั้นดูเหมือนจะไม่ได้สั้นนัก หรือว่า หลังจากนั้นมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้น และลูกหลายของเขาเป็นคนทำ? พลังวิเศษของเขานั้นมี มากมายจริง ๆ ดูเหมือนว่าเขาสามารถทำนายเรื่องอดีตและ ปัจจุบันได้ เพราะการตัดสินใจของเขาที่ตรงที่สุด ก็คือเมื่อ8000 ก่อน เขาได้ทำนายเหตุการณ์ของวันนี้ไว้แล้ว!
เงินเกอถาม
หยุนฉิงพยักหน้าโดยไม่ลังเล “ใช่ นักพรตเสียง เป็นคนที่ แข็งแกร่งจริง ๆ คนหนึ่ง ที่ฉันเคยเห็นมาจนทุกวันนี้ อีกอย่าง เหมือนว่าเขาจะมีความสัมพันธ์บางอย่างกับไม่หยางเหมิงด้วย ซึ่งฉันสงสัยว่า นักพรตเสี่ยงคือคนของไท่หยางเหมิง เพราะเขา เชี่ยวชาญพลังวิเศษมากมายที่ทำให้น่าเหลือเชื่อมาก นอกจากนี้ เขาไม่มีลูกหลานอะไรหรอก ฉันเดาว่า ตอนนี้เขายังคงมีชีวิตอยู่ เพียงแค่ไม่รู้ว่า เขาอยู่ที่ไหน!
“ฉันว่า นี่ก็คงเป็นสาเหตุที่คุณกับจิ๋วโลหวาง ทำอะไรก็ไม่กล้า แสดงออกมากเกินไปใช่หรือเปล่า? และเขายังมีชีวิตอยู่หรือ ตายแล้ว พวกคุณเองก็ไม่แน่ใจ! ”
“จะพูดเช่นนี้ก็ได้! ”
วันนี้ หยุนฉิงได้อธิบายเกี่ยวกับเรื่องราวของอดีตที่ตัวเองไม่ เคยได้ยินมาก่อนเยอะมาก
แต่ว่า ไท่หยางเหมิงนี้เหมือนกับว่ามีม่านแห่งความลึกลับ อย่างไงอย่างงั้นแหละ ถึงยังไงก็ดึงไม่ออก
แต่มีอยู่สิ่งหนึ่งที่ยิ่งอยู่ยิ่งชัดเจนมากขึ้น
นั่นก็คือความลับบางอย่าง ที่อยู่ในตัวของตัวเอง ที่ทำให้ จํานวนคนไม่น้อยปรารถนา
ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นจิ๋วโลหวาง หรือตระกูล หรือหยุนฉิง พวก
เธอเหล่านี้เข้าใกล้ตัวเองต่างก็มีจุดประสงค์กันทั้งนั้น รู้สึกว่าสิ่งที่หยุนฉิงรู้นั้น เป็นเรื่องราวของโลกของพวกเขา
เท่านั้น
สิ่งที่เธอรู้ ยังรู้เยอะไม่เท่าที่อาจารย์ลุงฉินของตัวเองรู้เลย แต่หลังจากที่จากกันไปครั้งนั้นของลุงฉิน เขาก็ไม่เคยปรากฏ ตัวอีกเลย เขาจะไปที่ไหนได้นะ
นอกจากนั้นแล้ว บุคคลลึกลับที่ให้สัญญาณลับกับตัวเอง และ ให้ตัวเองไปตามหา โลงศพอมตะที่ทะเลทรายคือใคร?
ตอนนี้ ดูเหมือนว่าความลับที่อยู่เบื้องหลังจะเยอะขึ้น แต่มัน
กลับทำให้เงินเกอยิ่งรู้ชัดเจนมากขึ้น
เพราะเขารู้สึกมาตลอดว่า คนเหล่านี้ที่มาเข้าใกล้เขา ต่างก็มี จุดประสงค์เดียวกัน
พวกเขาใช้เวลาอยู่ในถ้ำนี้เป็นเวลานาน
ซูโร่ซียังได้ถ่ายรูปไว้ด้วยความประหลาดใจ และหลังจากนั้น หนึ่งชั่วโมง ทุกคนต่างก็เดินออกจากถ้ำ
“คุณจะกลับไปพร้อมกับฉันหรือเปล่า? ”
หยุนฉิงมองไปที่เฉินเกอแล้วถาม
ภายในใจของเธอรู้สึกว่า สิ่งที่เฉินเกอพูดเกี่ยวกับพันธมิตร นั่นก็คือการยอมรับว่าพวกเขาสองคนอยู่ด้วยกันแล้ว
และสายตาที่หยุนจึงมองไปที่เฉินเกอ มีความอ่อนโยนและนุ่ม
นวลอยู่
“ฉันยังมีเรื่องบางอย่างต้องทำความเข้าใจหน่อย รอให้ฉัน จัดการเสร็จ แล้วฉันจะไปหาคุณ
เงินเกอกล่าว
“ได้ ฉันรอคุณนะ!!
หยุนฉิงยิ้มและกล่าว
จากนั้น ร่างเธอก็หายไป โดยริบหรี่
“เฉินเกอ สรุปเธอเป็นผีหรือเป็นคน? ”
ชูโร่ซีเดินเข้ามาด้วยความตกใจ
“ครึ่งผีครึ่งคน!
เฉินเกอมองไปที่ทิศทางที่เธอหายตัว แล้วถอนหายใจยาวๆ จากนั้นเฉินเกอก็พาซูโร่ซีกลับมาที่เขตโกโรโกโสเพื่อรวมตัว กับ ป้าพวกเขา
เดิมทีเขานึกว่าลุงกลับมาแล้ว แต่บอกว่า จนตอนนี้แล้วลุง ยังไม่กลับเข้ามาเลย
เฉินเกอพิมพ์ ตกลงลุงไปที่ไหน ทำไมไปครั้งหนึ่งถึงได้ไปนานขนาดนี้!
ในเวลาเดียวกัน
หยุนฉิงก็กลับมาถึงคฤหาสน์ที่เธออาศัยอยู่
ด้านนอกของคฤหาสน์ ต่างก็ถูกสำนักสามนักบุญของเธอ เฝ้า ดูอย่างเข้มงวด
“เจ้านาย! ”
เมื่อเห็นหยืนนิ่งเดินเข้ามาอย่างมีความสุข ลูกน้องหลายคน ต่างก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น และตั้งแต่เมื่อไหร่ เจ้านายของพวกเขา ถึงมีความสุขมากขนาดนี้?
“อืม ช่วงสองสามวันที่ฉันไม่อยู่ ไม่มีใครมาสร้างความเดือด
ร้อน ใช่ไหม?
หยุนฉิงกล่าวเล็กน้อย
“ไม่มีครับ เจ้านาย
“แล้วคุณหนูฟางล่ะ?”
หยุนฉิงถามอีกครั้ง
“กราบเรียนเจ้านาย คุณหนูฟางอยู่ในห้องตลอดไม่ออกมา และผมได้สั่งให้คนรับใช้ดูแลเธอเป็นอย่างดีแล้วครับ !
ลูกน้องกล่าว
“ดีมาก ถ้าอย่างนั้นก็ไปเชิญคุณหนูฟางออกมา ฉันมีเรื่องบางอย่างจะพูดกับเธอ!
พูดอยู่ หยุนฉิงก็เดินเข้าไปในคฤหาสน์
เธอต้องการจะบอกกับฟางเงี่ยนนั้นว่า เฉินเกอได้ตกลงอยู่กับ เธอแล้ว
และที่เธอเคยพูดก่อนหน้านี้ว่า เฉินเกอรักเพียงแค่คนเดียว และจะไม่อยู่กับผู้หญิงคนอื่น ดังนั้นตัวเองจึงอยากจะถามเธอให้ ๆหน่อยว่า ตอนนี้ยังเป็นเหมือนเดิมอยู่หรือเปล่า?
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร หรืออาจเป็นเพราะว่าเหงามาหลาย หมื่นปี จึงทำให้หยุนจึงทำกับฟางเงี่ยนนั้นเป็นเหมือนพี่น้องคน หนึ่ง ที่สามารถพูดคุยเรื่องอะไรที่สนิทสนมกันโดยที่ตัวเธอเองก็ ไม่รู้ตัว
ต่อให้ความสัมพันธ์พี่น้องนี้จะดูแปลกเป็นพิเศษ แต่ว่า ใน ที่สุดตัวเองก็มีคนที่สามารถพูดความจริงกับเขาได้แล้วไม่ใช่เห รอ?
“แย่แล้ว! แย่แล้ว! เจ้านาย! ”
ในเวลานี้เอง คนรับใช้คนหนึ่งวิ่งเข้ามาในห้องโถงอย่างรีบ
ร้อน
“เรื่องอะไร? ”
หยุนฉิงขมวดคิ้ว
“คุณหนูฟางเธอ….เธอ…..คนรับใช้ตะลึงจนไม่กล้าพูด
“เธอเป็นอะไร? “ลูกน้องบางคนตะคอกขึ้นอย่างเย็นชา
“วันนี้ตอนเช้าเธอยังอยู่ที่ห้องอยู่เลย และผมก็เป็นคนส่ง อาหารเช้าให้เธอเอง แต่ว่าตอนนี้ คุณหนูฟางกลับหายไปแล้ว และสาวรับใช้ส่วนตัวของเธอเสียวหงก็ได้นอนหมดสติอยู่ในห้อง ด้วย!
คนรับใช้มีความหวาดกลัว และคุกเข่าลงให้หยุนฉิงโดยตรง พร้อมกล่าว
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ