ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่469 ตระกูลซือดับสูญ



บทที่469 ตระกูลซือดับสูญ

เตียงๆๆๆ…..

โต๊ะเหล้ากำลังสั่นไหว แก้วและจานรองสั่นไหวจนกระแทกไปมา

นั่นคือการสั่นสะเทือนของพ่อลูกตระกูลซื้อและหลงเขียว เมื่อสักครู่ มีแต่ความสนุกสนาน ดื่มเหล้ากัน และตอนนี้ ความหวาดกลัวกำลังมาถึง ผู้เก่งกาจของตระกูลโม่ ทั้งสามคนก็ได้ลองมาแล้ว แต่ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินเกอเลย! และเฉินเกอ ก็เดินไปที่โต๊ะเหล้า หลงเปียวคุกเข่าด้วยความตกใจ

“คุณชายเฉิน ไว้ชีวิต……..ไว้ชีวิตฉันด้วย!

ชายที่แข็งแรงน้ำหนักเก้าสิบกิโลกรัม ตกใจจนขี้มูกไหลเข้าปาก

“ครึ่งปีที่แล้ว ฉันหนีไปทางตะวันตกเฉียงใต้ แกเป็นคนพาคน มาไล่ล่าฆ่าฉัน ลูกน้องฉันทั้งสามสิบคน ถูกแกฆ่าทิ้ง พวกเขา
อยู่ในหลัง ก็เป็นเพื่อนของฉัน!

เฉินเกอดบหัวหลงเปียว และพูด

“ฉันผิดแล้ว…….คุณชายเฉิน! ฉัน………ฉันผิดแล้ว!

“โล่ง!”

สําหรับเงินเกอ ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้ยินเลย

ใช้แรงตบ

มีเสียงอู้อี้

หลังจากนั้น ดวงตาทั้งสองข้างของหลงเปียว ก็มีเลือดออก และเขาก็นอนลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว

สองพ่อลูกตระกูลซื้อกูใบหน้าของพวกเขาขาวซีดราวกับ

กระดาษ

ตกใจจนถอยติดผนังบ้าน

รู้สึกว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ไม่ใช่เฉินเกอ แต่เป็นปีศาจ

เงินเกอเหลือบมองสองพ่อลูกที่ตกใจกลัวสุดขีด

จากนั้นเขาก็จ้องมองไปที่โต๊ะเหล้า

นั่งลง รินเหล้าหนึ่งแก้ว คว้าหอยเป๋าฮือมาแทะ

“ได้ยินมาว่า พวกแกสองพ่อลูกตามหาฉันในภาคตะวันตกเฉียงใต้มาครึ่งปีแล้ว และก็ใช้เงินและกำลังคนไปมากมาย ตอน

ฉันอยู่ที่นี่ พวกแกตามหาฉันมีธุระอะไร?”

เฉินเกอมองไปที่พวกเขาและถาม

“ไม่……..ไม่มีอะไร เฉิน……….ชายเฉิน ไม่มีอะไร

อกหงพูดเสียงสั่นๆ

“ไม่มีธุระอะไรแกทุ่มแรงกายและใจตามหาฉันทำไม? ฉันคิด ว่าสองพ่อลูกมีธุระสำคัญอะไร มิเช่นนั้นฉันจะไม่เก็บพวกแกสอง คนไว้จนถึงตอนนี้!”

เฉินเกอยิ้มเยาะ

แทะหอยเป๋าฮือและดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมด

เฉินเกอเดินไปหาสองพ่อลูก…

“ครืนๆๆ!”

เสียงฟ้าร้องด้านนอกดังขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างไรก็ตาม หลังจากฝนตกหนักเพียงไม่นานไฟก็ดับอีกครั้ง แต่บ้านของตระกูลซอ จู่ๆก็ลุกเป็นไฟ

บริเวณทั่วบ้านของตระกูลชือก มีแต่ความสว่างไสวเหมือน แสงไฟลุกโชนขึ้นบนท้องฟ้าสว่างเหมือนกลางวัน

และร่างหนึ่ง สวมหมวก ถือกระเป๋า ค่อยๆเดินออกจากบ้านของชื่อถและในที่สุดก็หายไปในความมืด…….

วันถัดมา ช่วงเช้า เมื่อคืนที่ผ่านมาฝนตกอย่างหนัก อากาศก็ สดชื่นเป็นพิเศษ

โกดังชานเมือง

มีคนกางนอนอยู่บนพื้น

คือกลุ่มฟางเจียนนัน ยังคงหลับอยู่

เปลือกตาของฟางเจี่ยนกันกระตุกเล็กน้อย

ดูเหมือนเธอจะได้ยินเสียงฝีเท้าด้านนอก ทำให้เธอตื่น เลยลุกมานั่งอย่างระมัดระวัง

เมื่อเห็นหูฮุ่ยหมินและคนอื่นๆ ยังคงพักผ่อนอยู่ ด้านนอกโกดังสว่างแล้ว และสิ่งที่ทำให้ฟางเจียนนั้น ประหลาดใจมากขึ้นก็คือ ไม่มีใครอยู่ข้างนอก

ว่างเปล่า

“ตื่นสิ ทุกคนรีบตื่น!”

ฟางเจียนนันตะโกน

ทุกคนตื่นขึ้นมา

“มีอะไรเหรอเจียนนั้น? ง่วงมากเลย นึกไม่ถึงว่าจะหลับไป เลย!”
หูฮุยหมินหาวนอน

“พวกเธอดูสิ ไม่มีใครอยู่ในโกดังเลย!

ฟางเจี่ยนนั้นพูด

ทุกคนเพิ่งสังเกต

“จริงสิ คนล่ะ เมื่อคืนยังอยู่เลย เป็นไปไม่ได้ตอนที่พวกเขาไป พวกเราไม่ได้ยินการเคลื่อนไหวเลย?”

เฉินจุนเหวินลุกขึ้นยืนทันที

ฟางเจียนนั้นก็ขมวดคิ้ว เมื่อเห็นในขณะนี้ รอบๆ โกดัง ไม่รู้ว่า

ใครมาปักธูปไว้

“กลิ่นธูปนี้ มันทำให้พวกเราสลบ!!

ฟางเจี่ ยนนันพูด

“พวกเขาเป็นใครกันแน่? ช่วยพวกเราไว้ โดยไม่บอกพวกเรา

ว่าพวกเขาเป็นใคร!

หูฮุ่ยหมินพูด

ต่อมา มีคนตะโกนว่า ดูสิ ที่นี่มีกล่องกระดาษแข็ง! ดูเหมือนจะ มีอะไรอยู่ข้างใน!”

ทุกคนรีบรวมตัวกันล้อมไว้ทันที

“หูฮุ่ยหมินหยิบขึ้นมาเอง!

มีตราประทับบนกล่อง
“คุณหนูหู ดูเหมือนว่าจะให้คุณโดยเฉพาะ!

มีคนหนึ่งพูด

ด้วยเหตุนี้ หูฮุ่ยหมิงรู้สึกตื่นเต้นเล็กน้อย มีความคิดมากมาย ในหัวสมองของเขา

เมื่อเฉินจุนเหวินเห็น ก็รู้สึกกังวลใจ

“หึ จะมีอะไรได้ เปิดดูสิ!

เฉินจนเหงินฝืนพูดด้วยความโกรธ

“นายกำลังทําอะไร? นี่สำหรับฉัน และเปิดไม่ได้!”

หูฮุ่ยหมิงพูดอย่างโกรธเคือง

“ใครจะรู้ว่ามีอะไรอยู่ข้างใน?”

เมื่อเฉินจุนเหวินปฏิกิริยาตัวของหูฮุ่ยหมิน เขาก็อยากโต้แย้ง กับเธอ

ท้ายที่สุด ถ้าหูฮียหมินไปชอบคนอื่น เขาก็จะเป็นกังวลมาก

ในขณะนี้ ฟางเจียนนันตะโกน

“หยุดพูดเถอะ มีคนเดินมาทางเรา!”

หลังจากนั้น ก็วิ่งไปที่ประตูโกดัง

ทุกคนก็กังวลเช่นกัน

“เจียนนั้นฮุ่ยหมิน พวกคุณอยู่ข้างไหนไหม?”
ทุกคนรู้สึกว่ากำลังถูก อกหยางไล่ตามมา

เสียงของผู้หญิงที่อ่อนหวาน ช่วยขจัดความกังวลของทุกคน

ทันที

“ฟางหยี?”

ฟางเจียนนันจําเสียงได้ชัดเจน

ได้เดินออกไป

เป็นจริง ฟางหยี กำลังพาบอดี้การ์ดของตระกูลฟางเดินเข้ามา

“พวกเราอยู่ที่นี่!”

ฟางเจียนนันโบกมืออย่างมีความสุข

“อ๊ะ ฟางเจียนนั้น โชคดีมากที่เห็นพวกเธอปลอดภัย!”

หลังจากผ่านไปทั้งคืน เรียกได้ว่า ทุกคนได้เจอกับ ประสบการณ์ที่น่ากลัวที่สุดในชีวิต

ภัยพิบัติหมดไปความสุขเหมือนได้เกิดใหม่ เกินคำบรรยาย จริงๆ

“คุณหนูใหญ่ โชคดีมากที่ท่านไม่เป็นอะไร คุณปู่เป็นห่วงแทบตาย!”

ผู้อาวุโสในครอบครัวก็หัวเราะ

“ฉัน โอเค ไม่เป็นไร จริงสีฟางหยี ตอนนั้นพวกเธอไม่ได้วิ่งหนี ออกมาไม่ใช่เหรอ? แล้วทำไม?”
ฟางเจียนนินถามด้วยความสงสัย

“พวกเราได้รับการช่วยเหลือภายหลัง เป็นอะซาน อะชานเป็น คนช่วยเหลือพวกเราทุกคน!!

ฟางหยีร้องไห้ขณะพูด

“อะชาน?”

ฟางเงี่ยนกันสะดุ้งก่อน จากนั้นเธอก็เห็นฟางหยีร้องไห้ด้วย ความเสียใจ “มีอะไรเหรอ? เธอร้องไห้ทำไม?

“ดูเหมือนจะเกิดเรื่องกับอะซานหลังจากที่เขาช่วยพวกเราแล้ว เขาก็กลับไปช่วยเชิงหนาน แต่ว่า บ้านซื้อถูถูกไฟไหม้ ไม่เหลือ อะไรแล้ว อะซานก็หายไปแล้ว!

สีหน้าของฟางเจียนนั้นก็เศร้าตาม

“ฟางหยี ไม่ต้องกังวล อะซานโชควาสนาดีมาก เขาต้องไม่

เป็นอะไร ฉันต้องหาเขาให้เจอ!

ฟางหยีพยักหน้าอย่างแรง

คนที่มีความละเอียดอ่อนอย่างฟางเงี่ยนนั้น ในเวลานี้ปกติ นิสัยที่ห้าวๆของฟางหยี รู้สึกมีอะไรแปลกๆ

ในขณะนี้ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ฟางเงี่ยนนั้นก็ไม่ พูดมาก

“ณ ขณะนี้กังวลแต่ความปลอดภัยของคุณปู่ “ตอนนี้คุณ ปลอดภัยแล้วเหรอ? ตระกูลซื้อกูไม่ได้ทำร้ายคุณปู่ใช่ไหม? ยังมี
อีก พวกเธอรู้ได้ไงว่าเราอยู่ที่นี่?”

ตระกูล อ ? ฮ่าๆ คุณหนูใหญ่ ท่านไม่ต้องพูดถึงมัน น่า สังเวชเกินไป ตระกูลซือ ไม่รู้ไปทำให้ใครโกรธเคือง เมื่อ

คืนเกิดไฟไหม้ครั้งใหญ่ และไม่มีอะไรเหลือเลย บ้านของตระ

กูลซื้อไม่มีแล้ว!” ผู้อาวุโสของครอบครัวพูด

“อะไรนะ? บ้านตระกูลซื้อวายวอดไปหมดแล้ว?

“ใช่แล้ว ทุกสิ่งทุกอย่าง หายไปแล้ว แค่คืนเดียว ไฟไหม้ครั้งนี้ เผาไหม้ทั้งคืน แม้แต่ ก็หาไม่เจอ!

ฟางหยีพูดไปด้วยและเช็ดน้ำตาไปด้วย

“คุณหนูใหญ่ พวกเรากลับไปก่อนเถอะ คุณกำลังเรียก ประชุมครอบครัว มีเรื่องสำคัญจะแจ้งให้ทราบ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ