ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่283 คนสนิททำงานง่าย



บทที่283 คนสนิททำงานง่าย

ชายหนุ่มทั้งสองคนเรียก

หวูเซียนกับหลินเยว่ก็เดินพาเฉินเกอที่ถือกระเป๋าเป้ใบใหญ่ แล้วก็ใบเล็กเอาไว้ไป

ทำไมถึงเพิ่งมาละเชี่ยนเรียน โห หาคนไว้พร้อมแล้วจริงๆ ด้วย ดีเลย ดูแล้ววันนี้พวกเราไปเที่ยวได้อย่างสบายแล้วล่ะ นาย ลําบากแย่เลยนะ!”

ผู้ชายคนหนึ่งเดินไปโอบเอวของหนูเชี่ยนเอาไว้ ทันใดนั้นก็ มองเฉินเกอแล้วหัวเราะ

ส่วนอีกคนก็หยิบบุหรี่ยี่ห้อเสี่ยว ขึ้นมาตัวหนึ่งอยากจะส่ง ให้เฉินเกอ

“หยูเฉียง นายให้บุหรี่เขาทำไมกัน เขาไม่ได้สูบบุหรี่เสียหน่อย อีกอย่างต่อให้เขาสูบก็ไม่มีปัญญาสูบบุหรี่ที่ดีขนาดนี้หรอก!” หว เชี่ยนพูดขึ้น

“เขาชื่อเฉินเกอคือผู้ชายที่ฉันเคยพูดถึงให้พวกนายฟังเมื่อ ก่อน วันนี้ให้เขามาช่วยถือกระเป๋าให้พวกเรา ตอนกลางวัน เลี้ยงข้าวเขาสักมื้อก็โอเคแล้วละ!”

“หนูเชี่ยนก็มาจับมือผู้ชายแล้วพูดขึ้น “เฉินเกอคนที่ให้บุหรี่ นายชื่อหยูเฉียง พ่อแม่ทำงานที่กรมทรัพยากรน้ำในอำเภอ น คือแฟนของฉันหวางห้าว ที่บ้านทำโรงงาน!”
หลังจากที่เน้นการแนะนำตัวของหวางห้าวแล้ว

หวูเซียนยิ่งใส่ใจสีหน้าของเฉินเกอ

อยากจะดูว่าตัวเองมีแฟนที่มีภูมิหลังดีขนาดนี้ เขาจะมีสีหน้า แบบไหน

คิดไม่ถึงว่าเฉินเกอจะแค่พยักหน้า

ส่วนหวางห้าวหยูเฉียงทั้งสองคน ชัดเจนว่าเมื่อกี้เขาก็แค่ ทำตัวมีมารยาทกับเฉินเกอเล็กน้อย

พูดตามตรง ทั้งสองคนทำตัวเย่อหยิ่งแล้วทำเหมือนกับสายตา ของเขามองไม่เห็นใครทั้งสิ้น

มองออกได้ยังไง?

เพราะว่าหลังจากที่พวกเขาส่งกระเป๋าเป้ใบหนึ่งให้เฉินเกอ ก็

ไปซื้อน้ำแล้ว

ผลลัพธ์คือซื้อมาแค่สี่ขวด

เห็นได้ชัดเจนว่าไม่ได้สนใจตัวเองเลยแม้แต่น้อย

แต่ว่าคิดๆไปแล้วก็ช่างมันเถอะ วันนี้ก็ถือเสียว่าตัวเองออก มาเที่ยวภูเขามาเล่นน้ำคนเดียวก็แล้วกัน ทำเหมือนว่าพวกเขา ทั้งสี่คนไม่มีตัวตน

อีกอย่างมีหวูเซียนอยู่ที่ ตัวเขาเองจะทำอะไรได้?

“นี่หวางห้าว ทำไมวันนี้ที่จุดชมวิวน้ำพุร้อนคนเยอะจัง แถม ยังแขวนโคมไฟจีนกับโคมไฟหลากสีสันไว้อีก นี่กำลังจะทำอะไรกัน?”

หวูเซียนถามขึ้นอย่างสงสัย

“เมื่อกี้ฉันกับหยูเฉียงก็กำลังคุยเรื่องนี้กันอยู่ วันนี้มีคนเยอะ แยะขนาดนี้ ด้านในก็เหมือนพวกพนักงานจะกำลังยุ่งๆกันอยู่ ดู เหมือนช่วงนี้น่าจะจัดงานใหญ่อะไรแหละ โดยเฉพาะที่ ภัตตาคารน้ำพุร้อน เมื่อฉันลองถามรกป.อยู่สองสามคน ได้ยิน มาว่าคนใหญ่คนโตของจินหลิงมาจองร้านทั้งร้าน พรุ่งนี้จะจัด งานใหญ่! พรุ่งนี้คนใหญ่คนโตเยอะแยะจะมา! ยังไง พวกเธอ หมู่บ้านเสียวกับหมู่บ้านเสี่ยวเฉวียนอยู่ห่างกันแค่นี้ ไม่ได้ยิน บ้างเลยเหรอ?”

หวางห้าวพูด

“ไม่ได้ยินเลยจริงๆ! แต่ก็ไม่สนใจแล้ว พวกเราเข้าไปเที่ยว ของพวกเรากันเถอะ!!

“ได้เลย ไปกันพวกเรา!

หลังจากที่ทั้งสี่คนคุยกันเสร็จ

ก็เดินไปซื้อตั๋วด้วยกัน

สถานที่ระดับหมู่บ้านอย่างนี้ค่าตั๋วไม่ค่อยแพง ใบนึงก็แค่ห้า

รอจนถึงพวกเฉินเกอมาถึงตรงช่องซื้อตั๋ว ก็มองเห็นคนหลาย คนกำลังพูดๆด่าๆกันอยู่ตรงนั้น
เห็นได้ชัดเจนว่ากำลังทะเลาะกับคนขายตัวอยู่

“มีสิทธิ์อะไรที่จะไม่ขายตั๋ววันนี้แล้วละ พวกเราสี่ห้าคนมากัน แล้ว คุณพูดว่าไม่ขายแล้วก็ไม่ขายแล้วอย่างนั้นเหรอ?”

มีเสียงผู้หญิงพูดขึ้นอย่างดูถูก กลุ่มนี้มีผู้หญิงสามคน ผู้ชายสองคน

“ใช่น่ะสิ หน้าเว็บไซต์หลักของพวกคุณเพิ่งจะอัปเดตข้อมูล ใหม่ พวกเรามากันถึงแล้วนะ!”

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ พวกเราก็เพิ่งจะได้รับข่าวมาเมื่อ สิบห้านาทีก่อนเหมือนกัน วันนี้แล้วก็พรุ่งนี้สองวัน จุดชมวิวจะ ไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวค่ะ เพราะว่ามีกิจกรรมหลายอย่างที่จะ ต้องจัดแต่งสถานที่

พนักงานพยายามอธิบายอย่างใจเย็น

“แล้วพวกนักท่องเที่ยวที่เข้าไปแล้วเมื่อตะกี้ล่ะ ก็ไม่เห็นว่า พวกคุณจะไล่พวกเขาออกมานี่ ยังไงฉันก็ไม่สนใจ เรื่องก็แค่สิบ ห้านาที ต้องให้พวกเราเข้าไปด้วยก็จบแล้ว!

“ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ……

ก็เป็นไปอย่างนี้ไม่มีใครยอมใคร

“ฉันลองหาดูแล้ว จุดชมวิวปิดแล้วตั้งแต่เมื่อกี้ แม่งเอ๊ย ถ้ารู้ ตั้งแต่แรกตอนที่ฉันกับหยูเฉียงมาถึงรีบซื้อตั๋วไว้ก่อนก็สิ้นเรื่อง แล้ว!”
“อย่างนั้นตอนนี้พวกเราจะทำยังไงดีล่ะหว่างห้าว

หวูเซียนพูดขึ้นอย่างผิดหวัง

“เหอๆ เอาอย่างนี้ ฉันจะลองโทรหาพ่อฉันดู ลองให้พ่อลองใช้ เส้นสายดู!”

หวางห้าวหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วพูด

ส่วนหยูเฉียงก็พูดขึ้นเหมือนกัน “ฉันก็จะลองโทรหาพ่อ เหมือนกัน พ่อฉันรู้จักรองผู้จัดการของที่นี่!

“อื้อๆ หยูเฉียงฉันเชื่อใจนาย!”

พูดจบ

ทั้งสองคนก็ไปโทรศัพท์

หนูเชี่ยนหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดเหงื่อตรงหน้าผากให้หวาง

ห้าว

“นายเอากระเป๋าของฉันมาให้ฉัน!”

หลินเยวมองแล้วรีบมาเอากระเป๋าจากเงินเกอ

“นายนี่มันจริงๆเลย เร็วๆ ทำไมถึงได้ชักช้าขนาดนี้เนี่ย!” เฉินเกอวางกระเป๋าเป้ใบใหญ่ลงแล้วหากระเป๋าใบเล็กของ

เธอ

โดนหลินเยว่ ามาหนึ่งประโยค

“หาเจอแล้ว!”

“รีบเอามาให้ฉันสิ ชักช้า!”
เงินเกอแค่เพิ่งจะหยิบออกมา หลินเยวก็กระชากไปทันทีแล้ว ค่าเขาอีก เสร็จแล้วก็เดินไป

เธอเองก็อยากจะเอากระดาษทิชชูไปเช็ดเหงื่อให้หยูเฉียง เหมือนกัน

แม่งเอ๊ย เป็นใครกันเจ้าพวกนี้

เฉินเกอระงับอารมณ์โมโหแล้วว่า

หลินเยวคนนี้ดูจะชอบหยูเฉียงอยู่พอสมควร ดังนั้นก็เลย ยกับหนูเงี่ยนแล้วว่าจะออกมาเที่ยวด้วยกัน

หลินเยวกับหยูเฉียงทั้งสองคนจับคู่กัน

เป็นแบบนี้

ไม่คิดเลยว่าหลินเยวคนนี้จะมีจุดประสงค์หนักแน่นพอสมควร เหมือนกับว่าทั้งโลกใบนี้นอกจากหยูเฉียง คนอื่นๆก็ไม่มีทาง เข้ามาอยู่ในสายตาของเธอได้

แต่ว่าคนแปลกหน้าก็อาจจะมาพบกันได้โดยบังเอิญ เฉินเกอ เองก็ไม่มีค่ามากพอให้เธอโมโหใส่

“เป็นยังไงบ้างหวางห้าว? คุณลุงว่ายังไงบ้าง?” หนูเชี่ยนถาม

ขึ้น

“เห้อ พ่อฉันก็บอกว่าท่านเองไม่มีทางเหมือนกัน เขาติดต่อ คนทางนี้ไม่ได้ ลองถามฝั่งหยูเฉียง?”

ทางฝั่งหยูเฉียงก็โทรเสร็จแล้ว
“หยูเฉียง เป็นยังไงบ้าง?

หวูเซียนพูดขึ้น

ยังไงตอนนี้ใครๆก็ไม่ซื้อตั๋วกันแล้ว ถ้าเกิดว่าพวกเธอ สามารถซื้อได้ละก็อย่างนั้นก็รู้สึกมีเกียรติไม่น้อย

“พ่อฉันบอกให้ฉันรอก่อน ท่านกำลังติดต่อรองผู้จัดการของ ทางนี้อยู่!”

หยูเฉียงบอก

เฉินเกอยืนอยู่ด้านข้างแล้วก็เดือดเนื้อร้อนใจแทนพวกเธอ เงินฉวนซานนี้ไม่ใช่ใครอื่นที่เป็นคนเปิดให้บริการ จะต้องเป็น บริษัทของตัวเองแน่ๆ ที่เป็นคนริเริ่ม

แต่ว่านะ เฉินเกอลองดูคนด้านใน ทั้งหมดตัวเองไม่รู้จักเลย คงจะใช้คนในพื้นที่ทั้งหมด แล้วก็คงจะใช้คนที่เคยทำงานที่ สถานที่ท่องเที่ยวน้ำพุร้อนด้วย

ไม่อย่างนั้นรปภ.เห็นว่าตัวเองอยู่ตรงนี้ก็คงไม่ยืนมอง

สถานการณ์ตรงหน้าเฉยๆหรอก

แต่ว่านะ วันนี้พระอาทิตย์ก็ใจร้ายพอควร แถมยังแบกของ เยอะขนาดนี้อีก

เฉินเกอก็รู้สึกหมดความอดทนแล้ว “นี่ๆ ตกลงว่าพวกเราจะ เข้าไปหรือว่าไม่เข้าไปนะ ฉันยืนมาตั้งนานแล้วนะ!

“เห้ย นี่นายโมโหอย่างนั้นเหรอ? รอไปนั่นแหละ หยูเฉียงกำลังติดต่ออยู่หุบปากของนายไปซะ!”

หวูเซียนว่าขึ้นด้วยสีหน้ารำคาญ

แต่รอมาตั้งสิบกว่านาทีแล้วเฉินเกอทั้งร้อนทั้งหิวน้ำ แถมตรง นี้ก็ไม่มีที่หลบแดดอีก

หวูเซียนยังไม่ยอมให้ตัวเองไปรอในรถ

แม่งเอ๊ยเสียแรงเป็นบ้า

เฉินเกอโมโหแล้ว ดังนั้นก็เลยส่งข้อความไปหาหลี่เจิ้นถั่ว ให้หาคนให้มารับพวกเขาเข้าไป

อย่ามาเสียเวลาอยู่ตรงนี้เลย

หลี่เจิ้นกั๋วก็ตอบกลับมาว่ารับทราบในทันที

“อืมๆ ได้ครับคุณพ่อ! ผมรู้เรื่องแล้ว!”

ฝั่งโน้นเหรอ หยูเฉียงวางสายอีกครั้ง “ครั้งนี้คุณลุงว่ายังไงบ้าง?” หวางห้าวถาม

“พ่อของฉันติดต่อรองผู้จัดการหวางแล้ว แต่รองผู้จัดการหวา งกับผู้จัดการไม่มีใครอยู่ที่นี่เลย เห็นบอกว่าออกไปซื้อของด้วย ตัวเองแต่ว่าพ่อฉันพ่อว่าพวกเราจะเข้าไปได้หรือเปล่าก็ต้องดูว่า รองผู้จัดการหวางจะจัดการยังไง ถ้าเกิดเข้าไปไม่ได้จริงๆฉัน เองก็หมดหนทางแล้ว!”

หยูเฉียงว่า
ส่วนคนที่จะมาเที่ยวอีกกลุ่มก็มองหยูเฉียงกันทุกคน

พนักงานก็พวกเขาด้วยความรู้สึกผิดแล้วพูดขึ้น “พวกคุณ อย่ารออีกต่อไปเลยค่ะ ร้อนขนาดนี้กลับกันไปก่อนก็ได้ค่ะ วันนี้ น่าจะ……. ”

พูดยังไม่ทันจบ ห้องขายตั๋วก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น

“ค่ะ! ฮือๆ ค่ะๆๆ ฉันรับทราบแล้วค่ะ!!

วางโทรศัพท์ลง พนักงานก็หันมามองพวกหยูเฉียงด้วยสีหน้า เคารพแล้วเอ่ย “คุณผู้ชายทั้งสาม ผู้จัดการโทรมาหาด้วยตนเอง บอกว่า ให้พวกคุณเข้าไป วันนี้ค่าใช้จ่ายทั้งหมดฟรีค่ะ!”

พนักงานก็คิดไม่ถึงการโทรศัพท์ของพวกหยูเฉียงจะได้ผล ขนาดนี้? ยังไงเมื่อกี้หยูเฉียงกับหวางห้าวก็พูดว่าตัวเองจะขอใช้ เส้นสาย

แต่คิดไม่ถึงว่าความสัมพันธ์จะแน่นแฟ้นขนาดนี้ ผู้จัดการพูด ด้วยตัวเอง

“ว้าว! เป็นผู้จัดการที่พูดเองเลยแฮะ!”

หวูเชี่ยนกับหลินเยวมีสีหน้าตื่นเต้น หลินเยวยิ่งมองหยูเฉียง ด้วยสายตาชื่นชมมากกว่าเดิม

แต่ในเวลาเหมือนกัน

อีกกลุ่มหนึ่ง ผู้หญิงที่เป็นคนพูดนำขึ้นคนนั้นก็เดินมาอยู่ตรง หน้าหยูเฉียงแล้วพูด “คนหล่อ คุณช่วยพูดให้พวกเราเข้าไปด้วยได้ไหม? ค่าตั๋วเข้าพวกเราออกเงินเอง

ผู้หญิงคนนั้นมองหยูเฉียงด้วยแววตาชื่นชมเหมือนกัน

“ไม่เป็นไรครับคนสวย พวกคุณก็เข้าไปด้วยกันเถอะ!” วันนี้หยุ เฉียงดีใจมาก คิดไม่ถึงว่าอำนาจความน่ากลัวของคุณพ่อจะ ใหญ่ขนาดนี้

รองผู้จัดการหวางที่ติดต่อไป สุดท้ายรองผู้จัดการหว่างก็ไป หาผู้จัดการให้จัดการ อย่างนี้นี่รู้สึกได้หน้ามากๆ

ทันใดนั้นแถวที่มีคนสิบกว่าคนก็ได้เข้าไปในจุดชมวิว

จุดจําหน่ายตั๋ว

พนักงานต้อนรับสาวก็มาถามพนักงานที่รับโทรศัพท์ “เกิด อะไรขึ้นน่ะ เป็นผู้จัดการที่สั่งเองจริงๆอย่างนั้นเหรอ?”

“มีคนของเรา บอกว่ามีแขกกิตติมศักดิ์อยู่ด้วย โดนพวกเรา กักตัวไว้ไม่ให้เข้าไป สั่งให้พวกเราต้อนรับให้ดีๆ อย่าให้มีอะไร ผิดพลาด!”

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ