ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่260 ออกไปให้พ้น



บทที่260 ออกไปให้พ้น

ผู้หญิงคนนี้ ถ้าไม่ใช่เจียงหวานหวานจะเป็นใครล่ะ!

ความรู้สึกของเงินเกอที่มีต่อเจียงหวานหวาน ไม่ถึงขั้นว่า เกลียดชัง และไม่ถึงขั้นเบื่อหน่าย

เพียงแค่ไม่อยากพบเจอกับเธอ

เหอะๆ บางทีคิดๆแล้วก็รู้สึกว่าเรื่องของอารมณ์มันก็ค่อน ข้างสนุกดี

จำได้ว่าตอนเด็ก ตอนที่อายุราวเจ็ดถึงแปดขวบ ตอนที่ตัวเอง อยู่กับพ่อ และตอนนั้นที่เห็นหน้าเจียงหรานทราน

รู้สึกว่าเจียงหรานหรานนั้นรูปร่างหน้าตาสวยงามมา! เมื่อโต

ขึ้นมา ให้เธอเป็นภรรยาของฉันก็พอแล้ว

เพราะตอนนั้นเจียงหรานทรานเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวย และประณีตมาก ทั้งขาวและสะอาด เสื้อผ้าที่เขาสวมใส่ก็ดูดี

เพียงแต่ว่าเธอค่อนข้างหยิ่งผยอง และรังเกียจที่เฉินเกอไม่ใช่ คนในเมือง

เฉินเกอต้องการจะเข้าใกล้เธอ เธอก็ดุด่าเฉินเกอจนเขาต้องวิ่ง

หนีไปไกล ๆ

แม้ว่าเฉินเกอค่อนข้างที่จะกลัวเธอ แต่ว่าเขาก็ยังอยากให้เธอ

มาเป็นภรรยาของเขา
และความรู้สึกแบบนี้ ค่อยๆจางหายไปในตอนที่เงินเกอเรียน มัธยมตอนต้น

และรอจนตอนนี้ที่มาเจอกัน เงินกอกล้ารับประกันเลยว่า เพียงแค่เขาเปิดเผยตัวตนของเขา อย่าว่าแต่จีบเจียงหวานหวาน เลย กลับกันเจียงหวานหรานอาจเป็นคนที่ตามเขาก็เป็นได้

แต่ว่าตอนนี้ก็คือตอนนี้ ไม่ใช่เมื่อก่อนแล้ว

ตอนนี้ความรู้สึกของเฉินเกอที่มีต่อเธอ ก็คือหลีกเลี่ยงการเจอ กันกับเธอ และไม่พบเจอกันตลอดไปจะดีที่สุด

แต่ดันกลัวสิ่งไหนสิ่งนั้นก็มา

“เฉินเกอ คุณไม่เห็นฉันหรอ? ”

ดูเหมือนว่าข้อเท้าของเจียงหรานหรานจะพลิก และถามเงินเก อด้วยความโกรธเล็กน้อย

“ไม่…….ไม่เห็น! ”

เฉินเกอพูดด้วยความอึดอัดใจ

“เดิมทีวันนี้ฉันกะไว้ว่าจะนั่งแท็กซี่ไปเมืองจินหลิง แต่ว่าไม่ทัน ได้ระวังข้อเท้าพลิกซะก่อน ก็เลยไม่ได้ไป

เจียงหวานหวานเดินมาถึงข้างๆของเฉินเกอและพูด

“ออ งั้นถ้าไม่มีอะไรฉันเข้าไปก่อนนะ!

เฉินเกอชี้ไปที่โรงแรม และหันหลังเตรียมจะเดินไป
” ๆๆ คุณหมายความว่าอย่างไร ฉันบอกว่าข้อเท้าของฉัน พลิก คุณไม่คิดจะถามสักหน่อยหรอ!!

เจียงหรา หรานบ่น

ท่าทีเฉยเมยของเฉินเกอ ทำให้เจียงหวานหรานมีความรู้สึก ค่อนข้างไม่พอใจเล็กน้อย

ใช้สิ เมื่อก่อนนั้นเป็นกอกลัวตัวเองมากขนาดไหน สามารถ กล่าวได้เลยว่า แม้แต่ครั้งก่อนที่พบเจอกับเขาที่บ้านเมื่อไม่นาน มานี้ ถ้าตนเองอยากจะให้เงินเกอทำอะไร เขาก็จะรีบวิ่งมาทำให้ อย่างไว

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นฉันไม่เคยเห็นความสำคัญของคำพูด เฉินเกอเลยแม้แต่นิด แต่ไม่รู้ว่าเริ่มตั้งแต่ตอนไหน หรืออาจเป็นเพราะหลังจากที่เธอ

รู้ว่าเฉินเกอร่ำรวยมีเงิน

เจียงหรานหรานก็รู้สึกว่าเฉินเกอไม่เหมือนเดิม และตัวเธอเอง ก็เริ่มใส่ใจเกี่ยวกับมุมมองที่เฉินเนื้อมีต่อเธอรวมไปถึงคำพูด และการกระทำที่เขามีต่อเธอ

ก็เลยคิดถึงท่าทีเฉยเมยของเฉินเกอเมื่อกี้นี้

ถ้าเป็นเมื่อก่อน คุณจะอยากอะไรยังไงก็แล้วแต่คุณ และไม่ได้ อยู่ในสายตาด้วย

แต่ตอนนี้ไม่ได้แล้ว ในหัวใจของเจียงหรานหรานรู้สึกไม่ สบายใจเลย และค่อนข้างไม่สบายใจอย่างมาก
“ออ แล้วขาของคุณไม่เป็นอะไรใช่ไหม?

เงินเกอกล่าวอย่างหมดหนทาง

“ฮี ไม่เป็นอะไรละ

เจียงหรานหรานเริ่มมีความรู้สึกโกรธ

เธอเห็นกับตาของเธอเองว่าเฉินเกอถอนเงินสดจาก ธนาคาร600,000หยวน และเฉินเกอยังช่วยให้ป้าหลินสําเร็จ เป้าหมายของเธอ ให้เธอได้เลื่อนตำแหน่งกลายเป็นรองประธาน เรื่องนี้เมื่อวันแม่พูดให้ฟังพร้อมกับร้องไห้ไม่หยุด

เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจียงหรานหรานเองก็ตกตะลึงอย่างนัก

รู้สึกว่าตนเองนั้นได้สูญเสียอะไรบางอย่างไป

“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ฉันต้องกลับไปนอนพักสักหน่อย เมื่อคืน นี้ยุ่งมาทั้งคืนแล้ว!

เฉินเกอรู้สึกเหนื่อยแล้วจริง ๆ

จึงอยากเข้าไปในโรงแรมตอนนี้เลย

“ที่แท้คุณอาศัยอยู่ที่นี่มาโดยตลอดหรอ?

เจียงหรานหรานกล่าวด้วยความตกใจอีกครั้ง

“อืมๆ! “เฉินเกอพยักหน้าด้วยท่าทีที่เย็นชา และเดินเข้าไป

ในโรงแรม

“เฉินเกอ คุณจะเฉยเมยกับฉันแบบนี้จริงหรอ และตอนนี้ฉันเจ็บเท้า อยากจะกลับบ้าน คุณก็ไม่ส่งฉันหน่อยหรอ? ” ดวงตาของเจียงหวานหวานเปลี่ยนเป็นสีแดงทันที

ผู้ชายคนนี้ เขาต้องรักต้องห่วงและเอาใจใส่เธอสิ แต่ตอนนี้ เขาไม่สนใจและไม่ไยดีอะไรเธอเลย นี่มันอะไรกัน!

“แต่ว่าฉันไม่มีรถยนต์ G500คันนั้นก็ขายทิ้งไปแล้ว ฉันก็

ไม่รู้ว่าจะส่งคุณกลับไปอย่างไร!

เฉินเกอกางมือทั้งสองข้างของเขาออกอย่างหมดหนทาง

“แต่……แต่คุณมีจักรยาน คุณก็ใช้จักรยานไปส่ง และอีก อย่าง คุณทำให้แม่ของฉันเครียดหนักจนล้มป่วยในเมื่อคืนนี้ คุณ จะไม่ไปเยี่ยมหน่อยหรอ?

เจียงหวานหรานถามอีกครั้ง

“พูดบ้าอะไร! อะไรคือฉันทำให้แม่คุณเครียดหนักจนล้ม ป่วย! เกี่ยวอะไรกับฉัน

เฉินเกอด่า

“จ๊ะ! เอาล่ะเอาล่ะ ฉันพูดผิดแล้วได้ยัง คุณอย่ารีบร้อนส เจียงหวานหวานรู้สึกน้อยอกน้อยใจจนแทบจะร้องไห้

ไม่เคยมีใคร เธอแบบนี้มาก่อน แต่เมื่อเฉินเกอดเธอแบบนี้ ในใจของเธอกลับรู้สึกว่าตนเองพูดในสิ่งที่ผิด และได้แต่โทษ นําหนิตัวเอง

แต่ในความเป็นจริง เจียงหวานหรานเธอไม่สามารถทนต่อการตำหนิตัวเองบวกกับความอับอายที่โดนดได้ จนนํ้าตาของเธอไหลพรากลงมา

และเมื่อเฉินเกอเห็นว่าเธอร้องไห้ จึงรู้สึกว่าคำพูดเมื่อกี้ของ ตนเองค่อนข้างหนักเกินไป

ยิ่งไปกว่านั้นตอนนี้เพียงแค่ได้ยินชื่อของเจียงเว่ยตงกับถัง

ทรานความโกรธที่สะสมมานานของเฉินเกอก็จะถูกกระตุ้นขึ้น

ดังนั้นเมื่อเห็นว่าเธอร้องไห้ น้ำเสียงของเขาก็ผ่อนคลายลงเล็ก น้อย : “คุณนั่งแท็กซี่กลับไปเองเถอะ ฉันต้องกลับไปนอนพัก ผ่อน! ”

“ฉันไม่ไป!”

อารมณ์ของเจียงหวานหรานก็ขึ้นมาเช่นกัน และไปยืนที่ด้านข้างจักรยานของเฉินเกอ เฮ้อ!

สถานการณ์ในตอนนี้ เฉินเกอจะดุเธออีกครั้งก็ค่อนข้างที่จะไม่ ค่อยดีเท่าไหร่นัก

จึงคิดในใจว่าถ้าหากเขาไม่ส่งเธอกลับไป เขาอยากจะกลับไป นอนพักผ่อนก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

แต่โชคดีที่ชุมชนของเธออยู่ห่างจากโรงแรมนี้ไม่ไกลมาก

เฉินเกอจึงพยักหน้าพร้อมพูดว่า : “โอเค ถ้าคุณไม่รังเกียจที่ จะนั่งจักรยาน ฉันก็ปั่นจักรยานส่งคุณกลับไป ”
“อืมๆ! ”

เจียงหรานหรานพยักหน้าอย่างหนัก

และนั่งไปที่ด้านหลังของเฉินเกอ และมือข้างหนึ่งก็จับไปที่ เสื้อผ้าของเฉินเกอเบาๆ

“เฉินเกอ ไม่คิดว่าคุณจะปั่นจักรยานเป็นด้วย จนตอนนี้แล้ว

ฉันยังปั่นไม่เป็นเลย!

เจียงหรานหรานกล่าว

“เหอะๆ สมัยตอนเด็กที่ฉันสอนคุณ คุณยังต่าอยู่ไม่ใช่หรอ ว่ามีแต่คนบ้านนอกเท่านั้นที่จะขี่จักรยาน? “เฉินเกอยิ้มเยาะและ กล่าว

ใบหน้าของเจียงหวานหรานแดงไปหมด จําได้ว่าตอนเด็ก ๆ ตอนที่เฉินเกอมาบ้านของเธอ เฉินเกอขี่จักรยานเป็นแล้ว และตอนนั้นลุงเฉินก็เป็นคนที่ปั่นจักรยานพาเฉินเกอมา แต่ตอนนนี้ ตัวเองล่ะ? กลับมานั่งอยู่บนรถจักรยาน และความรู้สึกแบบนี้สบายกว่านั่งอยู่บนรถของหลินตงเยอะ เลย คุณว่าแปลกไหม!

และปฏิกิริยาของเจียงหรานหราน ทำให้เป็นเกอนึกคำพูดหนึ่ง

ขึ้นมาได้ นั่นก็คือ

ยอมนั่งร้องไห้อยู่ในรถBMW ก็ไม่ยอมนั่งหัวเราะอยู่บนจักรยาน

อันที่จริงเฉินเกอรู้สึกว่า ประเด็นไม่ใช่รถBMWหรือว่า จักรยาน แต่สิ่งที่สำคัญคือ ใครเป็นคนปั่นจักรยาน และใครขับ รถBMWต่างหาก

ระหว่างทางที่มาพวกเขาก็พูดคุยกันแบบคุยๆหยุดๆ และแล้ว

ก็มาถึงที่สถานที่ปลายทาง

เจียงหรานทรานต้องการให้เงินเกอพยุงตัวเธอเข้าไปในลิฟต์ ให้ได้

เมื่อมาถึงบ้านของเจียงหรานหราน เฉินเกอเห็นว่า ในขณะนี้ บ้านของลุงเจียงเพิ่งจะเก้าโมงเช้า ก็มีชีวิตชีวามากแล้ว

เพราะว่าที่นี่มีแขกมากันแล้วไม่น้อย

และในขณะนี้เจียงเว่ยตงนั่งอยู่ที่โซฟา และเอามือของเขาทั้ง สองข้างแนบอยู่ที่หน้าผาก เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องบางอย่างทำให้ เขากังวล

ส่วนถังหราน สีหน้าของเธอก็ดูแย่มาก

ด้านข้าง มีคนวัยกลางหลายคน ซึ่งน่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน ของเจียงเวียตง กำลังพูดแนะนำอะไรบางอย่างกับเขาอยู่

และแม้แต่ไอ้สารเลวหลินตงก็อยู่ที่นี่ด้วย และด้านข้างของ หลินตงก็มีคนวัยกลางคนหนึ่งนั่งอยู่ หน้าตาของหลินตงกับเขา ค่อนข้างเหมือนกันเล็กน้อย
น่าจะเป็นพ่อของหลินดง

เห็นได้ชัดว่าเจียงหวานหรานไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น และเธอ

ก็มีความงุนงงเล็กน้อย กลับกันเฉินเกอ ฟังคําพูดของพวกเขา ก็พอเข้าใจความ

หมายของมันเล็กน้อย

ที่แท้ไม่รู้ว่าเจียงเว่ยตงก่อเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้ว จึงถูกย้ายไป เป็นหัวหน้าพนักงานธุรการของแผนกอื่น

และกำลังกลุ้มใจอยู่

“คุณพ่อคุณแม่ พวกท่านดูสิว่าใครมา! ”

เจียงหรานหรานพูดขึ้นมาในขณะนี้

เฉินเกอ ในตอนนี้มีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างใหญ่หลวง ดังนั้น ตำแหน่งของเขาที่อยู่ในใจของเจียงหรานหรานนั้นค่อนข้าง สําคัญมาก

“เหอะๆ เขาเองหรอ พ่อ คนคนนี้ก็คือเงินเกอที่ผมเลยเล่าให้ ท่านฟัง เขานั้นสุดยอดมาก และตอนนี้หรานหรานกับเขาก็ดีกัน มากขนาดนี้ และอีกอย่าง เฉินเกอนะร่ำรวย เขาถอนเงินสดที่ ธนาคาร600,000หยวนด้วย ผมว่านะพวกเราสองคนอยู่ที่นี่มัน ส่วนเกินเกินไป และก็ไม่สามารถช่วยเหลือคุณลุงเจียงได้ด้วย พวกเราไปเถอะ!

หลินตงมองไปที่เฉินเกออย่างเย็นชา และในขณะนี้ก็ดึงแขน เสื้อของพ่อของเขา
ส่วนพ่อของเขา ก็เพียงแค่พยักหน้า “ได้ พวกเราไปเถอะ เหล่าเจียง เรื่องนี้คุณคิดหาวิธีด้วยตัวเองเถอะ!

พูดจบเขาก็ลุกขึ้น

“รอง หลิน คุณอย่าไป คนคนนี้ใช้แขกของบ้านเราสักที่ไหน ล่ะ คุณต่างหากเป็นแขกรับเชิญของพวกเรา!

พูดจบ เจียงเวียตงมองไปที่ลูกสาวที่ไม่เอาไหนด้วยสายตาที่ เดือด และตะโกนด้วยความโกรธ

“หราน ราน ลูกนี่มันอะไรกัน! ทำไมหมาหรือแมวอะไรก็พาก ลับมาที่บ้านหมด! “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ