บทที่132 บาร์เหล้าถูกล้อม
เมื่อเดินเกอเดินไปถึงที่จอดรถ ก็พบว่าตนเองโดนสะกดรอย
ตาม
เป็นบอดี้การ์ดสองคนสวมแว่น และเสื้อ คงจะได้รับคําสั่งของคนที่ชื่อ จางต้าซาน คนนั้น เงินเกอคงจะไม่สามารถต่อกรพวกมันได้แน่ พวกมันน่าจะ เป็นพวกที่ผ่านการฝึกมา
ในตอนนี้จึงได้แอบส่งข้อความหาหลีเฟยหง ให้เขารีบมา
“ไอ้หนู หยุดก่อน” ขณะเฉินเกอ าลังจะขึ้นรถ สองคนนั้นก็ล้อมเขาไว้ “พวกคุณมีอะไรหรอครับ?” เฉินเกอรู้อยู่แล้วแต่แกล้งถาม
“ฮ่า ๆ เรื่องอะไรหรอ? ไอ้หนูนี่มันโง่จริง ๆ จะบอกให้นะ ว่า ง่าย ๆ ไปกับพวกเราซะดี ๆ รอลูกพี่ของพวกเราเสร็จธุระแล้ว ก็ ปล่อยแกไปเอง แกจะได้ไม่ต้องลำบาก!”
“ไม่อย่างนั้น วันนี้คงต้องตัดขาแก!
บอดี้การ์ดเสื้อดำสองคนมองดูเฉินเกอเหมือนมองดูคนโง่
คนหนึ่ง
ไอ้เด็กนี่ดูตื่นกลัว และจากที่พิจารณาก็คงไม่มีความสามารถ
อะไร
แท้จริงแล้วสองคนนั้นได้พาพวกมาด้วย และเตรียมที่จะสั่ง
สอนเขาสักหน่อย
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว อาศัยเพียงคำพูดอย่างเดียว ก็ทำให้
เขากลัวได้แล้ว
ที ในใจของบอดี้การ์ดทั้งสองคนเกิดความหดหูเล็กน้อย ได้รับคำสั่งให้มาจับตาดูไอ้หนูน ที่จริงก็พี่น้องกันทั้งนั้น แต่ ก็ต้องทำตามคำสั่งลูกพี่
แม้ว่าตามหลักความโรคจิตในใจของลูกพี่แล้ว เขาเล่นกับ เธอเสร็จแล้วนั้น ไม่แน่ว่าอาจจะปล่อยให้ลูกน้องมาเล่นด้วยก็ได้
ถือว่าพลาดครั้งใหญ่เลยทีเดียว!
ต้องเข้าใจนะว่าเพิ่งไฉ่หรูคนนั้น ทั้งสองคนก็เห็นแล้ว เธอ สวยจริง ๆ ให้ตาย
จากนั้นในเวลานั้นเองที่เฉินเกอยิ้มแหย ๆ แล้วพูด
“ติดยาผม? พวกคุณคิดให้ดีก่อนดีกว่านะ!”
“แม่งเอ๊ย เลิกพูดไร้สาระได้แล้ว ขึ้นรถไปนอกเมืองกับเรา ซะดีๆ!
บอดี้การ์ดคนหนึ่งผลักเฉินเกอ จากนั้นพวกเขาทั้งหมดก็ เข้าไปในรถของเพิ่งไฉ่หรู
เพราะที่นี่เป็นที่จอดรถใต้ดิน ซึ่งมีลิฟต์สำหรับรถ โดยเฉพาะ เงินเกอไม่ได้พูดอะไร เพราะเขารู้สึกว่ามันผ่านไปราวห้าหก นาทีแล้ว บาร์นี้อยู่ไม่ห่างจากที่หว่างKTVมากนัก น่าจะมาถึง แล้ว
ในตอนนี้เองที่ประตูลิฟต์เกิดเสียงสั่นและประตูลิฟต์ก็เปิด
“เร็ว เปิดให้ฉันเข้าไป จากนั้น…
บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างเย็นชา ทันใดนั้นเสียงของเขา
ก็นิ่งหายไป
จากนั้นก็เบิกตาโพลงจ้องมองไปที่ประตูลิฟต์
เขาเห็นรถคันหนึ่งในลิฟต์อยู่ในลิฟต์ ขณะนี้มีคนใส่ชุดดำ ถือมีดและไม้ยืนอยู่เต็มไปหมด
จ้องมองตนเองด้วยสายตาเย็นชา
“แม่งเอ๊ย นี่มันอะไรกันเนี่ย?
บอดี้การ์ดทั้งสองคนงุนงงไม่น้อย
“ตึง ๆ!”
ตามมาด้วยเสียงฝีเท้าที่ดังขึ้นไม่ขาดสายบริเวณทางเข้าที่
จอดรถใต้ดิน
เมื่อเห็นคนกลุ่มใหญ่อยู่รอบตัวเขา
ดูแล้ว คงมีไม่ต่ำกว่าร้อยคนแน่
ดวงตาของหลี่เฟยหงที่ยืนนำขบวนเหมือนลูกศรและ
เขากวาดไปอย่างเย็นชา
“ลูกพี่ มันหมายความว่าไง? ไม่คิดจากบอกกันก่อนไง นี่คือถนนการค้าจีนหลังนะ! ดูเหมือนแบบนี้ก็จะมาหาเรื่องกันนี่
บอดี้การ์ดทั้งสองคนหน้าซีดเผือด
“อืม ๆ ลงจากรถไปถามสถานการณ์ดูก่อน ตามกฎหมู่ พวก
นั้นคงไม่กล้าหรอก!”
ทั้งคู่ลงจากรถ
เฉินเกอยิ้มเยาะแล้วลงจากรถด้วย
“ค่านับคุณชายเงิน!” หลี่เฟยหงเห็นเฉินเกอแล้วรีบก้มทําความเคารพทันที
ในขณะเดียวกันคนเป็นร้อยก็พร้อมใจกันพูดขึ้น
เสียงที่ดังฟังชัดและเป็นระเบียบถูกเปล่งออกขึ้นดังไปทั่ว จอดรถทําให้เกิดเสียงอึกทึก
ทําให้บอดี้การ์ดสองคนนั้นกลัวจนแทบแข็ง
“คะ… คุณชายเฉิน?”
สายตาที่บอดี้การ์ดทั้งสองมองดูเฉินเกอในตอนนี้เต็มไป ด้วยความหวาดกลัว
เขาไม่ใช่เพียงแค่เด็กทํางานหรอกหรือ?
ที่จริงแล้วคือ คุณขายเฉิน ?
แม่งเอ๊ย ทั้งสองคนอีกนิดเดียวจะจับ คุณชายเฉิน มัดเสีย
แล้ว
“พี่เฟยหง พี่รู้จักคนคนหนึ่งที่ชื่อ จางต้าซาน รึเปล่า? เขาคิด อะไรกับ คุณครู … เอ่อ เพื่อนของผม พี่ช่วยไปพาเธอออกมาที
เงินเกอคิดไม่ถึงว่า เมื่อครู่ที่เขาส่งข้อความว่ามีปัญหานิด หน่อยที่โรงจอดรถชั้นใต้ดิน จะทำให้เขาพาลูกน้องมาช่วยเยอะ ขนาดนี้
แต่ว่านะ หลี่เฟยหงเรียกคนออกมากว่าสองร้อยคนอย่างนี้ ถ้าหากไม่ใช่เพราะมีหลายคนที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตา ตนเองก็ คงตกใจกลัวไม่น้อย
ยังคิดว่า จางด้าชาน ต้องการจะเล่นงานตัวเอง จึงได้เล่น ใหญ่ขนาดนี้?
เมื่อเฉินเกอเล่นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้หลี่เฟยหงฟัง “ได้ครับ คุณชายเฉิน ผมจะรีบจัดการให้เลย!
หลีเฟยหงพยักหน้า จากนั้นก็โทรศัพท์
ส่งเสียงมือเพียงสองครั้งก็วางสายไป
ด้วยท่าทีตื่นเต้นเล็กน้อย: “คุณชายเฉิน คุณเพิ่งท่านนั้น เหมือนจะถูกนำขึ้นรถของ จาง ชานไปแล้ว!
“เวรแล้ว แล้วพาไปไหน?”
เงินเกอเบิกตาโพลง
ก่อนหน้านี้ที่เคยพูดไว้ ถึงแม้เฉินเกอจะเกลียดเพิ่งไฉ่หรูมาก แต่ว่านะ ถ้าจะโทษเธอก็ต้องโทษเขาด้วย ไม่ว่าอย่างไรพวกเขา ทั้งสองคนก็มาบาร์นี้ด้วยกัน
เธอถูกคนพาไป ในใจของเฉินเกอก็ไม่สามารถจะเป็น ปกติสุขได้พอสมควร
“ผมขอห้านาที คุณชายเฉิน ผมจะหาเจอแน่!
เรื่องของเฉินเกอ สำหรับหลู่เฟยหงแล้วมันไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในถนนการค้าจีนหลัง ถ้าหากทําไม่สําเร็จ อย่างนั้นหลี่เฟยหงอย่างเขาสมควรไปตาย แล้ว
เมื่อเขาให้คำมั่นแล้ว ก็ชี้ไปที่บอดี้การ์ดหน้าเซอแล้วพูด
“พวกแกรู้ไหมว่าโรงแรมของ จางด้าซาน อยู่ที่ไหน?”
“พี่เฟยหง ไม่ทราบครับ พวกเราไม่รู้จริง ๆ! โรงแรมที่ จาง าชาน พักมีหลายที่ แต่ว่าพี่เฟยหง ขอเพียงที่ไม่ทำอะไรพวก เรา พวกเราจะช่วยพี่หาตัว จางต้าซาน
บอดี้การ์ดทั้งสองคนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบ ๆ แต่เต็มไปด้วยความคุกคาม ท้ายที่สุดทั้งสองคนก็เป็นพวกอันธพาลหัวไม้ และ มีประสบการณ์ไม่น้อย
“หึ ๆ ไม่จําเป็นต้องใช้วิธีของพวกแกหรอก มานี่ เอาไอ้สอง คนนี้ไปตีให้ตาย!
หลีเฟยหง โบกมือ ก็มีลูกกระจ๊อกหลายคนเข้ามาทันที แล้ว ล้อมสองคนนั้นไว้
จากนั้น หลีเฟยหงได้พาลูกน้องจำนวนหนึ่งเข้าไปในบาร์ สองถึงสามร้อยคนล้อมบาร์นั้นไว้
ไม่ต้องพูดถึงว่าเหตุการณ์นี้จะสร้างความฮือฮาได้แค่ไหน
คนทั้งบาร์ต่างพากันตกตะลึง
แม่งเอ๊ย นี่มันพีเฟยหง ?”
“บาร์นี้ทําอะไรให้พี่เฟยหงโกรธเข้าแล้ว? พี่เขาจะมาเล่น งานที่นี่?”
ไม่ ๆ ๆ เมื่อกี้พี่เฟยหงพาคนเข้ามา ฉันได้ยินว่า พี่เฟยหง มาตามหาคน ชว์ อย่าพูดมาก! ระวังปากจะพาซวย!
ในตอนนั้นเอง ดนตรีจังหวะที่น่าตื่นเต้นในบาร์ก็หยุดลง
คนงานและพนักงานถูกล้อมเขามาที่โถงกลาง ล้วนแต่อยาก รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
มีบางคนที่ใจกล้าและบันทึกวิดีโอเอาไว้ จึงโดนสายตา พิมาตจากบอดี้การ์ดทำให้ต้องรีบเก็บไป
บรรยากาศโดยรอบกดดันมากเป็นพิเศษ
“พวกแก คุกเข่าลง!
จากนั้นก็เห็นว่า บอดี้การ์ดสิบกว่าคนจับคนของ จางต้าซาน มาหยุดอยู่ตรงหน้าของหลี่เฟยหง
ในนั้นยังมีคนคนนั้นที่ชื่อ เฉียวเฉียว เถ้าแก่เนี้ยและสามี
ด้วย
ทั้งสองคนกลัวและเงียบเหมือนจักจั่น ในฤดูหนาว ต่อหน้าหลี่เฟยหงที่ตั้งคำถามอย่างดุดัน และไม่รู้ว่าอธิบาย อะไรให้หลี่เฟยหงฟัง สุดท้ายคนที่ชื่อ เฉียวเฉียว ก็ร้องไห้
“พี่เซียว นี่มันเรื่องอะไรกันเนี่ย? ชายหนุ่มคนนี้คือใคร? เขา ดูเกรี้ยวกราดจังเลย!”
หวังเสี่ยว และเพื่อน ๆ ทั้งหกคนยืนล้อมวงดูอยู่ด้วย
เมื่อเห็นฉากความเกรี้ยวกราดเหล่านั้น ในใจของเหล่าสาว ๆ ก็แทบจะปะทุ
ผู้หญิง ไม่ได้ชอบอัศวินขี่ม้าขาวหรอกหรอ
“นั่นคือพี่เฟยหงแห่งถนนการค้าจีนหญิง ผู้ชายที่เกรี้ยวกราด ที่สุดในจิงหลิง เป็นลูกน้องของ เฉินซาน ถือว่าเป็นคนของคุณ ชายเงิน!”
พี่เซียว คนนี้เห็นได้ชัดว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับที่นี่อยู่เยอะ นาทีนี้ เธอเล่าด้วยสีหน้าหยิ่งผยอง
“แม่เจ้า ที่แท้ก็หลีเฟยหง แถมเป็นคนของ คุณชายเงิน หรอ? มิน่าล่ะ!”
สาว ๆ พูดด้วยความเคารพ
หวังเสี่ยว เองก็ให้ความเคารพ เธอหวังอย่างยิ่งว่าจะได้ รู้จักคนที่เกรี้ยวกราดเช่นนี้ไหม?
ในตอนนั้นเธอยืนอยู่ที่โต๊ะและทุกอย่างเงียบ ๆ
ทันใดนั้น ก็มีคนคนหนึ่งเดินผ่านเธอไปจากด้านข้าง แหวก วงล้อมที่แน่นขนัดเข้าไป
และหวังเสียว ก็เห็นคนคนนั้นพอดี
“แม่เจ้า เฉินเกอ เขาจะเข้าไปทำบ้าอะไรน่ะ!”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ