บทที่ 922 แดนจี้หยิง
“ได้! ”
เลยเล่ก็พยักหน้าตอบรับ
“ท่านไป พวกเราตกลงกันแล้ว แค่เราสองคนเข้าไป รบกวน คุณช่วยเปิดทางให้เราหน่อยเถอะ!
เมื่อตัดสินใจเสร็จเรียบร้อย เฉินเกอเสนอแก่ท่านไป
ท่านไปก็ไม่ได้พูดอะไร เดินตรงไปหยุดยืนที่ค่ายกลหินใหญ่ ที่สุดที่อยู่ตรงกลาง
ท่านไปหยิบมีดพกออกมาจากเสื้อตัวเอง กรีดไปที่มือของตัว เอง จากนั้นเขาก็กดเลือดลงบนภาพดวงตาผีที่อยู่บนเสาหิน
ทันใดนั้น เสาหินก็เริ่มสั่นไหวขึ้นมา แม้แต่เสาหินที่อยู่บริเวณ
โดยรอบก็เริ่มมีแสงสีน้ำเงินเข้มออกมา
วินาทีต่อมา ก็มีช่องทางเดินสีน้ำเข้มปรากฏตรงหน้าพวกเฉิน เกอสี่คน
“นี่ก็คือช่องทางเดินที่จะพาไปสู่แดนจี้หยิง พวกคุณเข้าไปได้ แล้ว จำเอาไว้ พวกคุณจะต้องกลับมาภายในระยะเวลาหกวัน ไม่ อย่างนั้นจะออกมาไม่ได้อีก! ” ท่านไปยังไม่ลืมที่จะเอ่ยเตือนพวก เฉินเกอสองคนค่าหนึ่ง
“อืม วางใจเถอะท่านไป เราจะต้องกลับมาตามระยะเวลาที่กำหนดแน่นอน พวกเธอสองคนก็ต้องรบกวนให้คุณช่วยดูแล แล้ว ขอบคุณมาก! ”
เงินเทอก็พยักหน้าตอบอย่างแน่วแน่ จากนั้นก็เอ่ยกับท่านไป
“อืม! ”
ท่านไปก็พยักหน้าตอบรับ
พูดจบ เฉินเกอกพาเลยเล่เข้าไปในช่องทางเดินพร้อมกัน
หลังจากทั้งสองเข้าไปในช่องทางเดิน ช่องทางเดินก็หายไป ในชั่วพริบตา ค่ายกลหินทั้งหมดกลับเข้าสู่ลักษณะเดิมอีกครั้ง อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาก่อน
เห็นภาพที่มหัศจรรย์เช่นนี้ ทำให้พวกเงินสองคนรู้สึกเหลือ เชื่อมากจริงๆ
เวลานี้ พวกเฉินเกอสองคนที่อยู่ข้างใน
ตลอดทางพวกเฉินเกอสองคนเดินเข้าไปข้างในตามช่องทาง เดิน เหมือนกับกำลังเดินอยู่ในอุโมงค์สายหนึ่ง
เลยเล่เดินตามเฉินเกอติดๆ มือทั้งคู่จับเสื้อของเฉินเกอเอาไว้
แน่น
“พี่เฉิน คุณต้องปกป้องผมอย่างดีนะ! ” เลยเล่เอ่ยกับเฉินเก อเสียงเบา
“คุณหมอ ไหนว่าไม่กลัวผีไม่ใช่เหรอ? ” เฉินเกอเอ่ยถาม อย่างไม่สบอารมณ์
“อ้อ.. นั่นเป็นหนังผี แต่นี่มันไม่เหมือนกัน ใครจะไปรู้ว่าจะมีผู้ อะไรโผล่ออกมาหรือเปล่า”
เลยเล่อธิบายอย่างขี้ขลาดขึ้นมาเล็กน้อยทันที
ถึงอย่างไรในโทรทัศน์กับเจอของจริงอย่างไรซะมันก็ไม่ เหมือนกันอย่างมาก
เฉินเกอก็ไม่พูดอะไร เขาก็เข้าใจสภาพจิตใจของเล่ยเล่ เพราะ ถึงอย่างไรทุกคนต่างก็ต้องมีประสบการณ์แบบนี้ครั้งแรกกันอยู่ แล้ว เป็นเรื่องปกติมาก แค่ชินกับมันก็พอ
ทั้งสองเดินไปประมาณสิบนาที ในที่สุดถึงเดินออกจากช่อง ทางเดินนี้
ทันทีที่ออกจากช่องทางเดิน ทั้งสองก็มาหน้าแผ่นหินศิลาจารึก ขนาดใหญ่
มีอักขระสี่ตัวใหญ่สลักเอาไว้
บนหินศิลาจารึกขนาดใหญ่แผ่นนี้
“แดนจี้หยิง! ”
ด้านหลังแผ่นหินศิลาจารึกเป็นถนนสายหนึ่ง ถนนสายนี้เป็น ถนนที่จะไปสู่จุดศูนย์กลางที่สุดของแดนจี้หยิง และในนั้นจะเต็ม ไปด้วยผีและวิญญาณมากมายหลากหลายชนิด
“เอ๋ยเล่ ข้างล่างถึงจะเป็นที่ที่เสี่ยงอันตรายที่สุด เตรียมตัว เตรียมใจเอาไว้ให้ดี ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็อย่าโหวกเหวกโวยวาย อดทนเอาไว้!!
ก่อนออกเดินทาง เฉินเกอมองไปทางเลยเล่ให้คำเตือนที่ เคร่งขรึมและจริงจัง
เงินเกอไม่อยากให้เลยเล่ไปรบกวนเหล่าภูตผีและวิญญาณใน แดนจี้หยิง ถึงเวลาดึงดูดปัญหาเข้ามามันจะไม่ดีแน่
“พี่เฉิน ผมเตรียมตัวพร้อมแล้ว! ”
เลยเล่สูดลมหายใจเข้าอย่างลึกๆ จากนั้นมองไปที่เฉินเกอและ เอ่ยขึ้น
เงินเกอพยักหน้ารับ และพาเลยเล่เดินเข้าไปยังสถานที่ที่ลึก ลงไปของแดน หญิง
สภาพแวดล้อมที่มืดสลัว อินกดดันคน พูดได้เลยว่ามันทำให้ เฉินเกอและเลยเล่รู้สึกว่าเหมือนมีไอความเย็นยะเยือกกัดกร่อน เข้ามาสู่ภายในร่างกายของพวกเขาเลยก็ว่าได้
แดนจี้หยิงก็เป็นแบบนี้ และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ทำไมถึงเข้ามาคน เดียวไม่ได้
เข้ามาในแดนจี้หยิงคนเดียว ก็จะถูกอินกัดกร่อนร่างกาย โดยสิ้นเชิง ถึงเวลาก็จะกลายเป็นผี ติดอยู่ในแดนจี้หยิงตลอดไป
ไม่นาน หลังจากที่ทั้งสองข้ามสะพานแห่งหนึ่ง ก็เห็นสถานที่ที่ คล้ายกับเมืองปรากฏอยู่ตรงหน้าพวกเฉินเกอสองคน
นี่ก็คือ “เมืองผี” ของแดนจี้หยิง
“เมืองผี” คือสถานที่ที่ดำรงอยู่ของผีและวิญญาณ โดยเฉพาะ เปรียบเสมือนกับตลาดข้างนอกในสมัยโบราณ
ที่นี่ก็มีผีพ่อค้าแม่ค้าหลากหลายชนิดกับการคงอยู่ของการ
ขายของแผงลอย
พูดให้ชัดเจน ดินแดนจี้หญิงก็คือโลกของเหล่าภูติผีและ วิญญาณ
พวกเฉินเกอสองคนเพิ่งจะเดินถึงหน้าประตูเมือง เห็นเพียง ชายที่สวมชุดสีดำยาวขวางทางไปของทั้งสองเอาไว้ ชายชุดดำสี ใบหน้าซีดขาว ตาทั้งคู่มีสีฟ้าจางๆ
“ท่านทั้งสองไม่ใช่คนที่นี่ โปรดรีบกลับไปโดยเร็ว! ” ชายชุดดำจ้องมองพวกเฉินเกอสองคนพร้อมเอ่ยเดือน
“คุณเป็นใคร? ”
เงินเกอเอ่ยถามไปทางชายชุดด่าโดยตรง
“ทหารยมบาลของแดนจี้หยิง โอวหุน! ”
ได้ยินเพียงชายสวมชุดสีดำยาวแนะนำตัวเอง
ฟังถึงตรงนี้ พวกเฉินเกอสองคนก็ประหลาดใจไปในทันที คิด ไม่ถึงเลยว่าจะมีการดำรงอยู่ของทหารยมบาลจริงๆ ต้องรู้ว่า ก่อนหน้านั้นพวกเขาเคยเห็นทหารยมบาลแค่ในโทรทัศน์เท่านั้น ยังนึกว่ามันเป็นของปลอม
“พี่ทหารยมบาล เราแค่จะขอยืมผ่านทางแดนจี้หยิง ดังนั้นขอให้คุณได้โปรดยืดหยุ่นให้หน่อยเถอะ!
เงินเกือมองโอวหนแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ถึงอย่างไรที่นี่ก็เป็นถิ่นของเขา แน่นอนว่ายังต้องสุภาพนิด หน่อย จะทำตามอำเภอใจไม่ได้
ถ้าอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงข้างนอกนั่น เฉินเกอลงมือไป ตั้งนานแล้ว ไหนเลยจะมาพูดมากอยู่อย่างนี้
“อยากจะยืมผ่านทาง จะต้องมีใบอนุญาต! ไม่อย่างนั้นฉันไม่ ปล่อยพวกคุณผ่านไป
ได้ยินแค่โอวหุนพูดออกมาอย่างเย็นชาหนึ่ง
“ใบอนุญาต แล้วใบอนุญาตนี้จะหาได้จากไหน? ”
หลังจากเฉินเกอได้ฟังแล้ว ก็เอ่ยถามด้วยความสงสัย
เห็นเพียงโอวหุนยื่นมือไปยังหอคอยสูงที่เปล่งแสงสีฟ้าจางๆ อยู่ไม่ไกล
“ที่นั่น ขอเพียงพวกคุณผ่านการทดสอบจากที่นั่น ก็จะได้ใบ อนุญาต! ”
โอวหนอธิบายกับพวกเฉินเกอสองคนหนึ่ง
หลังจากที่พวกเฉินเกอสองคนได้ฟัง ก็เข้าใจในทันที ดูท่า อยากจะเข้าไปในแดนจี้หยิงแห่งนี้ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลยจริงๆ
“ตกลง ขอบคุณมาก! ”
เงินเกอก็เอ่ยขอบคุณโอวหนไปคำหนึ่ง
พูดจบ เฉินเกอกพาเลยเล่เดินไปทางหอคอยสูงที่อยู่ไม่ไกล
ในเมื่อจะต้องมีใบอนุญาตถึงจะเข้าไปได้ ถ้าอย่างนั้นพวกเฉิน เกอสองคนทำได้เพียงไปผ่านการทดสอบให้ได้ใบอนุญาต เท่านั้น ไม่อย่างนั้นไม่มีวิธีเข้าไปได้แล้วจริงๆ
เฉินเกอไม่อยากไปล่วงเกินคนข้างในนี้ เดิมทีแดนหญิงก็เป็น ทางผ่านเท่านั้น ถ้าหากไปทำให้เกิดปัญหาขึ้นมา อย่างนั้นก็ไม่ ราบรื่นเกินไปแล้วจริงๆ
มีคำพูดหนึ่งพูดได้ดี ปัญหามียิ่งน้อยก็ยิ่งดี เรื่องที่ไม่ต้องใช้ กำลังในการแก้ปัญหาก็พยายามอย่าใช้กำลังในการแก้ปัญหา
หลังจากมาถึงหอคอยสูง เห็นเพียงประตูของหอคอยล็อกเอา ไว้แน่นหนา แต่ว่าแสงสีฟ้าจางๆ ข้างในยังคงอยู่
เฉินเกอเดินไปข้างหน้า กำลังคิดจะยื่นมือไปเคาะประตู เห็น
เพียงแค่ประตูก็เปิดออกเอง
“เข้ามาเถอะ! ”
จากนั้นก็มีเสียงเยือกเย็นเสียงหนึ่งดังออกมาจากข้างในหอ หอยสูง
หลังจากเฉินเกอได้ยิน ก็รีบเดินเข้าไปทันที
แต่ว่ายังไม่ทันทีเลยเล่จะก้าวเท้าออกมาสักก้าว ประตูก็ปิดลง โดยตรง ล็อกเลยเล่เอาไว้ข้างนอกหอคอยสูง
“อ๊ย.. พี่เฉิน นี่ นี่มันเรื่องอะไรกัน? ” เลยเล่ประหลาดใจเอ่ย ถามในทันที
“เข้าได้ครั้งละหนึ่งคนเท่านั้น!!
ได้ยินเพียงเสียงเย็นยะเยือกนั้นดังออกมาจากหอคอยสูงอีก
ครั้ง
ได้ฟังถึงตรงนี้ เลยเล่กับเฉินเกอเข้าใจในทันที
เลยเล่เองก็ทำอะไรไม่ได้ ก็เลยต้องนั่งรออยู่บนขั้นบันไดด้าน นอกของหอคอยสูง
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ