บทที่ 765 เขามาแล้ว
บูม!
เสียงหนึ่งดังขึ้น แสงสีขาวตกมาลงมา ก็เห็นรอยแตกขนาด ใหญ่ถูกแยกออกด้วยแสงสีขาวที่บนเวที
เสียงดาบที่ชัดเจนดังขึ้น
นี่คือเสียงเก็บดาบ
ชายผมยาวคลุมไหล่คนหนึ่ง ไม่รู้ว่าปรากฏตัวบนเวทีตั้งแต่
เมื่อไหร่
มีดาบซามูไรยาวติดอยู่ที่เอวของเขา บุคคลนี้ ยังสวมชุดนักรบของประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย มองไป เขาดูเหมือนชายวัยกลางคน ในขณะนี้ มองไปที่เสี้ยวชางเชิงด้วยสีหน้าไม่แยแส
“กุ่ยสือเล่ว เป็นแกเองเหรอ!?”
เสี้ยวชางเชิงหัวเราะ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า เขารู้จักนินจา ญี่ปุ่นคนนี้
“กุ่ยสือเล่ว! ช่วยฉันด้วย!!
สําหรับหลี่เส้าจง ราวกับว่าเห็นฟางช่วยชีวิต
มองไปที่เสี้ยวซางเชิง กัดฟันและถอยกลับไปด้านหลัง กุ้ยสือเล่ว
“ฮ่าๆๆๆ น่าสนใจจริงๆ คิดไม่ถึงว่านินจาที่มีชื่อเสีย งกุยสือเลวแห่งสำนักกุยไห่ ลี้ภัยไปอยู่ในตระกูลหลี่เล็กๆ จริงเห รอ? ฉันเข้าใจถูกใช่ไหม?
เปลือกตาเสี้ยวชางเชิงกระตุกเล็กน้อย จากนั้นก็เงยหน้าขึ้น และหัวเราะ
“เสี้ยวชางเชิง ท่านเป็นนักพรตที่มีชื่อเสียงมายาวนาน ทำไม ต้องทำให้ท่านรุ่นหลังลำบากใจแบบนี้ หากท่านต้องการหาคู่ ต่อสู้ ก็มาหาผมได้ สำหรับคุณชายหลี่ วันนี้มีผมอยู่ คุณทำอะไร เขาไม่ได้หรอก!”
กุ้ยสือเล่าเอียงเท้าตอบกลับเป็นภาษาจีนอย่างเคารพ
ทั้งสอง เป็นผู้มีฝีมือชั้นสูงเห็นได้ชัดว่า
การสนทนาระหว่างทั้งสอง ก่อให้เกิดบรรยากาศลึกลับอย่าง หนึ่งในที่สถานที่แห่งนี้
ทุกคนเงียบไม่กล้าพูด
กลั้นหายใจและรอให้การต่อสู้ระหว่างทั้งสองเริ่มขึ้น และแล้ว ผลที่ได้นั้นทำให้คนไม่คาดคิด
“ฮ่าๆๆ นินจาของสำนักกุยได้ มันเป็นเรื่องยากมากที่จะจัดการด้วย ฉันเสี้ยวซางเชิงไม่กลัวฟ้าไม่กลัวดิน ที่กลัวคือความ ยุ่งยาก กุยสือเลว แกรู้ดี ว่าฉันไม่กลัวแก แต่กลัวว่าสำนักกุยให ของพวกแกจะมาเล่นงานฉัน ฉะนั้น วันนี้ฉัน จะไว้หน้าแกชั่วคราว ก่อน!”
เสี้ยวซางเชิงโบกไม้โบกมือ
บ่งบอกว่าจะไม่ทำให้หลี่เส้าจงลำบากใจอีกต่อไป
สิ่งที่ทำให้หลี่เฟยหลงบนเวทีถอนหายใจยาว
“ทำไม? วันนี้แกจะช่วยตระกูลหลี่ คว้าอำนาจควบคุมในครั้งนี้ เหรอ?”
เสี้ยวซางเชิงถามอีก
“ใช่แล้ว ถ้าท่านตั้งใจจะต่อสู้ ผมก็ยินดีจะสู้กับท่าน! กุ่ยสือเล่วจับดาบซามูไรในมือ
“หึ ไม่ดีกว่า ฉันได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้ไม่มีแรงต่อสู้กับ แก! ถ้าเป็นฉันในช่วงเวลาที่อยู่ในจุดสูงสุด กุ้ยสือเล่ว มันยาก มากที่จะบอกว่าพวกเราคนไหนแข็งแกร่งและอ่อนแอ หลี่เส้าจง คนนี้สามารถคืนแกได้ แต่เด็กน้อยสองคนนี้ ฉันคิดว่านายไม่ จำเป็นต้องเข้ามายุ่ง ฉันจะดูดเอาจิงในตัวของเด็กน้อยสองคน นี้เพื่อรักษาบาดแผล”
เสี้ยวซางเชิงชี้ไปที่ว่านเสว่และเฉินเปียวเปียว
“ผมสนใจแค่ความปลอดภัยของคุณชายหลี่!”
กุ้ยสือเล่ากล่าวอย่างเย็นชา
“อะไรนะ? ท่านอาจารย์กุ้ย ได้โปรดท่านช่วยชีวิตลูกสาว ตัวย!”
ว่านเยาจงได้ยินค่าพูดแบนนั้น จึงรีบโค้งคำนับเพื่อขอความ ช่วยเหลือ
ส่วนว่านเสวกับเฉินเปียวเปียว ต่างก็รู้สึกคับแค้นใจในเวลา
เดียวกัน
แต่กุ่ยสือเล่ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าว่านเย่าจงเป็นใคร
“พี่เฟยหลง ได้โปรดช่วยพูดอะไรด้วย ช่วยลูกสาวของผม อำนาจควบคุมในปีนี้ เป็นของตระกูลหลี่ ตระกูลว่านของผมจะ เป็นคนแรกที่สนับสนุน
แล้วว่านเก่าจงเป็นใคร
หลี่เฟยหลงนิ่งในขณะนี้
ท่าทางดูลังเล
และเพื่อนของว่านเสวีที่อยู่บนเวทีซิ่วจิ๋วและคนอื่นๆ ก็กังวล มากเช่นกัน
ใครจะไปนึกว่า จะมีคนชั่วร้ายอย่างเลี้ยวซางเชิงปรากฏ
เห็นได้ชัด ทั้งสองตระกูลว่านและหลี่ แทบจะไม่สามารถรับมือ กับเสี้ยวชางเชิงได้เลย
โดยเฉพาะหลีเส้าจงคนนั้น
ฉันแม่งเชื่อจริงๆ เลย หลับตาตั้งแต่ขึ้นเวที ถ้าไม่รู้ก็คงจะคิด จริงๆ ว่าเขาเป็นผู้มีฝีมือชั้นสูงที่ไม่มีใครเทียบได้
ทุกครั้งที่เจอคนที่ร้ายกาจ ก็มีสภาพเป็นแบบนี้
หลวซิ่วพูดไม่ออกเลยจริงๆ
“เฉินเกอ เฉินเปียวเปียวนั่นเป็นเพื่อนนายสินะ ทำไมนายไม่ และขณะที่หลี่ซิ่วซิ่วกระวนกระวายแทบทนไม่ไหว เธอมองข้าง
กังวลเลยล่ะ!”
กายตัวเอง เฉินเกอกลับกำลังหลับตางีบหลับซะงั้น
เชรด!
หลี่ซิ่วซิ่วแทบเป็นบ้า
จึงเขย่าเฉินเกอ
สร๊าบ!
เฉินเกอจึงลืมตาขึ้น
ในขณะที่เฉินเกอลืมตาขึ้น หลี่ซิ่วจิ๋วก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่า ดวงตาของเฉินเกอ ส่องแสงเจิดจ้าสองดวง
ทําให้ตัวเองตกใจด้วย
“อ๊า?”
เฉินเกอจึงดึงสติกลับมา มองไปที่หลี่ซิ่วจิ๋วอย่างอดไม่ได้
เมื่อกี้ สิ่งที่คล้ายจานกลมทั้งห้า ในร่างกายของเงินเกอปรากฏ ขึ้นอีกครั้ง
เงินเกออดไม่ได้ที่จะทำใจให้นิ่ง เฝ้าดูอย่างระมัดระวัง
แน่นอนอยู่แล้ว เฉินเกอยังควบคุมทิศทางสถานการณ์ทั้งหมด ในสถานที่แห่งนี้ได้
เพียงแค่เมื่อกี้ตัวเองดูอย่างจริงจังเกินไป
“อ๊าอะไร นายรีบดู เพื่อนของนายจะตายแล้ว!”
หลี่ซิ่ว วปิดปาก
“เป็นไปได้ไง! และอีกอย่าง เธอไม่ใช่เพื่อนฉัน เป็นลูกศิษย์ ของฉัน!”
เฉินเกอเห็นท่าทีกังวลของเธอ ก็กล่าวด้วยรอยยิ้มอย่างอดไม่
“อะไรลูกศิษย์ไม่ลูกศิษย์? นายฝันอยู่สินะ?”
หลี่ซิ่วซิ่วพูดอย่างเบื่อหน่าย
สาวๆ ที่อยู่ข้างๆ หลี่ซิ่วจิ๋ว ก็มองไปที่เฉินเกอด้วยสายตา แปลก ๆ
“โอเค ตอนนี้ลูกศิษย์ของฉันตกที่นั่งลำบาก ฉันจะไปจัดการ สักหน่อย ใช่แล้วซิ่วซิ่ว ขอบคุณสำหรับความมีน้ำใจของเธอ นะ!”
เฉินเกอก็รอดูพอสมควรแล้ว
เห็นเงินเปียวเปียวกำลังตกที่นั่งลำบาก ถ้าตัวเองยังไม่ทำ อะไรอีก คงจะไม่ดีแน่ถ้าเกิดเรื่องกับเธอ
ขณะนี้ เฉินเกอลุกขึ้นยืนทันที
“นี่ๆๆ นายจะทำอะไรเฉินเกอ? อย่าวู่วาม ระวังพวกเขาจะฆ่า นาย!”
เมื่อเป็นเกอยืนขึ้น หลี่ซิ่วจิ๋วรีบดึงแขนเสื้อของเฉินเกอ
“ไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง!
เฉินเกอยิ้มอย่างไม่แคร์
ขณะนี้ เดินตรงไปจากที่นั่งผู้ชมที่หน้าเวที
และเสี้ยวชางเชิงที่อยู่บนเวที ขณะนี้เกิดความคิดขึ้นมาอย่าง เฉียบพลัน ยื่นมือตรงไปจับเฉินเปียวเปียวและว่านเส
กำลังจะออกแรง
“นักพรตเสี้ยวเทียน สบายดีไหม!!
เสียงที่คุ้นเคยดังเข้ามาในห
ทำให้เสียวชางเชิงสั่นไปทั้งตัวทันที ราวกับถูกฟ้าผ่า
“หืม?”
ทันใดนั้นเสี้ยวซางเชิงก็หันหน้าไป เห็นเฉินเกอที่กำลังเดินมา ด้านหน้าเวทีอย่างช้าๆ ในทันที
“คือเขา!”
ว่านเย่าจงอดไม่ได้ที่จะประหลาดใจอย่างมาก เมื่อเขามองดู เงินเกอที่เดินผ่านข้างกายตัวเองอย่างช้าๆ
นี่มันไอ้หมอนั่นที่กำลังหลงลูกสาวของตัวเองตัวเองไม่ใช่เหรอ เขารู้จักเสี้ยวซางเชิงงั้นเหรอ?
ว่านเย่าจงกล่าวด้วยความเหลือเชื่อ
และว่านเสว ก็หันศีรษะโดยไม่คาดคิด
“เฉินเกอ?”
ว่าเสวรู้สึกประหลาดใจ
มองไปที่เฉินเกอที่สองมือล้วงกระเป๋าขึ้นมาบนเวทีอย่างสงบ หลี่ซิ่วจิ๋วและพวกเธอผู้หญิงหลายคนก็คาดไม่ถึงอย่างมาก
“ท่านเองเหรอ ท่านมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?
รูม่านตาของเสี้ยวชางเชิงหดตัวทันที เขาก็กลืนน้ำลายอย่าง
ยากลำบากและถอยหลังไปสามก้าว
ดวงตาของกุ่ยสือเล่าหรี่ลงเล็กน้อย สังเกตเห็นการ เปลี่ยนแปลงของเสี้ยวชางเชิงอย่างชัดเจน
“เสี้ยวชางเซิง คนนี้คือใคร? ทำไมทำให้ท่านกลัวได้ขนาดนี้? หรือว่า คนที่ทำให้ท่านบาดเจ็บคือเขา?”
กุ่ยสือเล่วจ้องมองเฉินเกอ ถามเชี่ยวชางเชิงอย่างเย็นชา
“เป็นเขา!”
เสี้ยวชางเชิงพูดขึ้นอย่างยากลำบาก
“น่าสนใจซะแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นผู้มีฝีมือชั้นสูงที่ยัง หนุ่มขนาดนี้ พี่เสี้ยว ในเมื่อเขาความแข็งแกร่งที่ไม่ธรรมดา อย่างที่ท่านบอก และยังทำให้ท่านบาดเจ็บสาหัส วันนี้ผม กุยสือเล่ายินดี ช่วยท่านฆ่าเด็กคนนี้! เชื่อในความสามารถของ ท่านและผม แทบจะกวาดไปได้เกือบครึ่งหนึ่งของขอบเขตผู้ฝึก ตนแล้วล่ะ?”
กุ้ยสือเล่าหัวเราะเย็นชา
“ไม่!!!”
และเสี้ยวชางเชิงส่ายหัวครั้งแล้วครั้งเล่า
“หมายความว่าไง? ท่านกลัว ไม่กล้าลงมือเหรอ?” กุ้ยสือเล่าประหลาดใจเล็กน้อย
“ไม่! ไม่ใช่ว่าฉันกลัว ยิ่งไม่ใช่เพราะฉันไม่กล้าลงมือ กุ้ยสือเล่วแกรู้ไหม ฉันเสี้ยวซางเชิง ในดินแดนของขอบเขตผู้ฝึก ตน ไม่มีคำว่ากลัว เป็นไปไม่ได้อย่างยิ่งว่าจะไม่กล้าลงมือ ต่อให้ เจอศัตรูที่แข็งแกร่งกว่า ตราบเท่าที่ฉันสามารถต่อสู้ ฉันก็จะสู้กับ เขา! ต่อให้ตัวเองอาจจะต้องต่อสู้จนตายก็ตาม!
“ไม่ว่าจะเป็นการดูดเงินของผู้ฝึกตนก็ตาม หรือการต่อสู้กับผู้ มีฝีมือขั้นสูง ก็เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของฉันหรือเพิ่มชื่อเสียง ของฉันนี่คือเป้าหมายสูงสุดของฉัน!”
เสี้ยวชางเชิงตัวสั่นกล่าว
“ท่านหมายความว่ายังไง?”
กุ้ยสือเลวขมวดคิ้ว
“ความหมายของฉันชัดเจนมาก ฉันไม่อยากตายแบบนี้ ฉันไม่ อยากตายไปแบบไร้ความหมายแบบนี้
พริบ!
ทันทีที่เขาพูดจบ ขาทั้งสองก็อ่อนแรงอย่างช่วยไม่ได้ คุกเข่า ต่อหน้าเฉินเกอทันที
“ท่านมหาเทพ ไว้ชีวิตด้วย! “
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ