ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 687 เสียงกรีดร้องของสุ่ยเสีย



บทที่ 687 เสียงกรีดร้องของสุ่ยเสีย

“วางใจได้ ขอเพียงแค่ช่วยผมจับเฉินเกอได้ ผมก็จะมีพลังมาก พอที่จะเดินทางระหว่างโลกและโลกความเป็นจริงได้ ก็จะทำให้ ตระกูลของพวกคุณกลายเป็นผู้มีอำนาจที่สุดของโลก ซึ่งพวก นี้มันก็ไม่ใช่ปัญหาอีกแล้ว ! อีกอย่างเรื่องราวของผม เจ้าเองก็ เข้าใจอย่างแจ่มแจ้งไม่ใช่หรือไง? เหอะๆ มันเป็นเงินเกอเองที่ ปล่อยผมออกมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งนี่คงเป็นการถ่ายโทษจาก สวรรค์ที่ขังผมเอาไว้นานถึงหมื่นๆปี ฮ่าๆ

ทันใดนั้นแสงสีดำก็ส่องสว่างออกมาจากคาหยกหรูอี้

แสงสีดำวนว่ายไปมากลางอากาศครู่หนึ่ง จากนั้นก็ควบแน่น กลายเป็นร่างของมนุษย์

และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าภาพร่างของคนคนนี้ เหมือนกับคนวัยหนุ่ม ใบหน้าที่มีคิ้วถึงดาบตั้งตรง จมูกงุ้มแบบ เหยี่ยว ดวงตาประกายรังสีแห่งความชั่วร้ายออกมาเป็นครั้ง คราว

ซึ่งใครจะรู้ได้ว่าถึงภายนอกของเขาจะยังดูเป็นชายหนุ่ม แต่ แท้จริงแล้วเขากลับมาชีวิตมานานเป็นเวลาหมื่นปีแล้ว

“จิ๋วโลหวาง ฉันบอกกับคุณชัดๆเลยนะว่าตอนนี้ฉันเริ่มรู้สึก เสียใจ ที่ตอนนั้นเข้าไปพัวพันกับคุณ ถูกบังคับให้ความร่วมมือ ด้วยนี่อาจเป็นสาเหตุในการทำลายล้าง ตระกูลของพวกเรา สิ่ง ที่ฉันพูดกับหยูเซียวล้วนเป็นเรื่องจริงทั้งหมด เฉินเกอเป็นคนที่น่ากลัวเกินไป ทั้งยังมีพลังที่ก้าวหน้าอย่างรวดเร็วด้วย! ” ดวงตาของเยวคือปรากฏอาการที่ซับซ้อนขึ้นมา

“แต่จิ๋วโล่หวางคุณกลับต่างกัน คุณเป็นเพียงจิตวิญญาณตัว หนึ่ง เมื่อใช้จิตวิญญาณนี้ คุณควบคุมคนจำนวนมาก ให้มาเป็น หุ่นเชิดของคุณ ฉันเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ถ้าเกิดทุกอย่างไม่สำเร็จ คุณก็ยังสามารถมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ และคงจะสามารถกลับไปเป็น คุณชายในโลกของพวกคุณได้ คุณจึงสามารถที่จะถอนตัวได้ ง่าย แต่พอถึงเวลานั้นพวกเราจะเหลือศพที่สมบูรณ์ยังเป็นไปได้ ยากเลย คุณรู้หรือเปล่าว่าพวกเรากำลังเผชิญกับอะไร! ”

ก่เยว่ อพูดต่อ

“ฮ่าๆๆ คุณกังวลเกินไปแล้ว คงเป็นเพราะผมบอกเรื่องตัวตน

ของเฉินเกอมากเกินไปจนทำให้เจ้ากลัว ที่จริงแล้วเขาไม่ได้มี

อะไรน่าเกรงกลัวขนาดนั้น ในสายตาของผมเขาก็เป็นแค่มดตัว

หนึ่งเท่านั้น ยิ่งกว่านั้นเจ้าก็ไม่ทางที่จะเดินหันกลับแล้ว เฉินเกอ

จําคุณได้แล้ว ดังนั้นตอนนี้สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือทำตาม

แผนการที่วางไว้ ! ”

“แล้วอีกอย่างคือคุณเองก็โลภเหมือนกัน ที่อยากจะมีชีวิต ยืนยาว ผมก็ตกลงกับคุณไปแล้ว ว่าจะพาตระกูลของคุณไปยัง โลก เพื่อยืนเป็นที่หนึ่ง พอถึงเวลาอย่างน้อยคุณก็ได้ที่ชีวิต ยืนยาวเป็นพันปี สำหรับเงื่อนไขนี้ การเสียสละของคุณตอนนี้ ล้วนนับว่าคุ้มค่าแล้ว ! ไม่ใช่หรือไง? ”

จิ๋วโล่หวางหัวเราะออกมา
“ดังนั้น ฉันเองก็ไม่คิดจะถอนตัว ฉันตัดสินใจแล้ว ถ้าเกิดถึง เวลาจําเป็น ฉันจะออกไปจับเขาเอง

ทันใดนั้นเสียงของเขาคือก็เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น

* ในตอนนั้น โลกเกิดความวุ่นวาย ชีวิตที่แปดของเทพจิต เก้าภพ ทำลายขอบขีดจำกัดหนีออกมายังโลก ผมเพื่อที่จะครอบ ดรองเทพจิตเก้าภพ จึงติดตามออกมา แต่ผมประเมินพลังของ ขอบขีดจํากัดนั้นน้อยเกินไป ผมถึงได้ถูกฟ้าผ่าแผดเผาจนมอด ไหม้ จิตวิญญาณก็ถูกคนกักขังเอาไว้อีก แล้วจากไกลออกมาจาก ตระกูลของผม ถ้าจะให้พูดคนที่ต้องร้อนรนนั้นควรเป็นผม

“ผมเฝ้ารอมานานถึงหมื่นกว่าปี ถึงได้มีโอกาสในวันนี้ ผม อยากจะบรรลุเป้าหมายจึงไม่สามารถออกจากพวกคุณได้ ดังนั้น ทั้งหมดนี้คุณวางใจได้เลย! “จิ๋วโลหวางพูดอีกครั้ง

“ดี หวังว่าวันแห่งความสำเร็จของเราจะใกล้เข้ามาในเร็ว

วัน! “เยวคือพยักหน้า

“พวกคุณคิดจริงๆหรอว่าสามารถรับมือกับเขาได้ ? ผมพูดกับ พวกคุณกี่ครั้งแล้วว่าให้รักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ จงทะนุถนอมสิ่ง นี้ตอนที่ยังไม่ตาย อย่าไปยุ่งกับเขา เพราะพวกคุณไม่มีทางเป็นคู่ ต่อสู้ของเขาได้ แล้วแผ่นการของพวกคุณ ก็จะไม่ประสบผล สําเร็จ! ”

แล้วในตอนนั้นเองก็มีเสียงนกขมิ้นดังแทรกขึ้นมา มันเป็น เสียงที่น่าฟัง ไพเราะ ทำให้รู้สึกราวกับสายลมยามฤดูใบไม้ผลิ กําลังพัดไสว
แล้วจึงเห็นร่างของหญิงสาวชุดขาวที่อยู่บนโลงศพโบราณ กําลังลอยตัวขึ้นกลางอากาศ

เธอสวยจริงๆ สวยราวกับเทพธิดาบนสวรรค์ ถึงกับทำให้สาย ตาจิ๋ว โล่หวางเหม่อลอยไป

“ในที่สุดเธอก็ยอมออกมาจนได้! “จิ๋วโลหวางพูด

“ที่ฉันออกมา ก็เพื่อที่จะเตือนพวกคุณเท่านั้น หากจะให้พูด พวกคุณก็มิได้มีความแค้นอันใด แต่เพียงเพราะความโลภที่อยู่ ในใจ นี่จึงเป็นความขัดแย้งระหว่างพวกคุณ และผลของความ ขัดแย้งก็คือหายะ! “ริมฝีปากแดงของหญิงสาวชุดขาวค่อยๆ ขยับพูดอย่างเรียบนิ่ง

“หายนะ คุณมั่นใจขนาดนั้นเชียว การร่วมมือของพวกเราสอง คนมีหรือจะต่อกรกับเฉินเกอเจ้าเด็กนั่นไม่ได้? คุณช่างดูถูกผม จิ๋วโลคนนี้มากเกินไปแล้ว ผมสามารถสัญญาได้เลยว่าในอีกไม่ นานผมจะทำให้คุณคุกเข่า สรรเสริญชื่นชมผมต่อหน้าของผม และผมก็จะทำให้เขาต้องร้องไห้ฟูมฟายร้องขอชีวิต ให้ผมปล่อย เขา ปล่อยให้เขากลับไปเป็นคุณชาย ฮ่าๆๆ! “ความอิจฉา ปรากฏขึ้นมาบนใบหน้าของจิ๋วโล่หวาง

เช่นเดียวกับที่หญิงสาวชุดขาวนั้นสรรเสริญชื่นชมในเทพเจ้า จิ๋วโล่หวางเองก็สรรเสริญชื่นชมในตัวของหญิงสาวชุดขาว แต่ ในใจของนางกลับมีแค่เขา และเขาก็เป็นคนคนนั้นขอเธอ เป็น ความหลงใหล ราวกับว่าบนโลกใบนี้นอกจากเขาคนนั้นแล้ว ก็ ไม่มีชายใดเลยที่จะเข้าตาเธอเลย
นึกจนรู้สึกอิจฉา แล้วเขาจึงกัดฟันพูดกรอกๆ

“ยิ่งไปกว่านั้นรอให้ผมได้เทพจิตเก้าภพแล้ว ผมก็จะเป็น ผู้ใหญ่ พอถึงเวลานั้นผมจะทำให้คุณยอมสวามิภักดิ์แล้วยอม เป็นผู้หญิงของผม ผู้หญิงของผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด

หญิงสาวชุดขาวส่ายหน้าอย่างเอือมระอา แล้วร่างของเธอก็ ค่อยๆสลายไป กลับเข้าไปอยู่ในโลงศพดังเดิม

“คุณหมายความว่าอย่างไร ? คุณไม่ได้ยินที่ผมพูดหรือไร? ”

จิ่วโล่หวางคําราม

เยวคือไขว้มือไว้ด้านหลังก็ได้แต่ยืนมอง

“ฉันว่าคําพูดของเธอก็ชัดเจนแล้ว! “เยวคือพูด

“หมายความว่าอย่างไร?

“หญิงสาวที่เคยพบเจอกับพญาอินทรี จะลดตัวมาชอบ ตั๊กแตนบนดินตัวหนึ่งได้ยังไงกัน! “เยวคือพูดอย่างไม่รู้ตัว

“สารเลว คุณหมายความว่าอะไร? “ใบหน้าของจิ๋วโลหวาง เต็มไปด้วยความโกรธ

แล้วกู่เยวคือถึงเพิ่งได้ตอบสนองกลับมา พลันเม้มปากตัวเอง ที่เหมือนจะพูดความคิดที่อยู่ในใจออกมาแล้ว

“จิ๋วโลหวาง คือฉันพูดผิดไป! “เยวคือรีบแก้ตัวทันที

“หึม รีบไปทำธุระของคุณเถอะ ตอนนี้ผมได้ผนึกเธอเอาไว้แล้ว ข้าจะให้เธอได้เห็นกับตาตัวเองกับเรื่องที่ผมได้พูดไปทั้งหมดเมื่อสักครู่นี้!!

พูดจบจิ๋วโล่หวางก็เปลี่ยนกลายเป็นแสงสีดำ หายวับเข้าไป ในคทาหยกหรู

กลับมายังฝั่งของเฉินเกอ

เฉินเกอนั้นได้รักษาอาการป่วยของแม่ซูโร่ซี แล้วก็พาซูโร่ซีไป กลับด้วยกันกับสองพี่น้องสุ่ยเสีย

แล้วตามที่ป้าได้พูดไว้ การจะทำพิธีชุบชีวิตวิญญาณ จะต้อง รอจนถึงเที่ยงคืนของวันนี้ จึงอดกระวนกระวายไม่ได้

“สุ่ยเกิน ทนายบอกว่างนั้นอยู่ใกล้บริเวณเขา นายยังจำ ได้หรือเปล่าว่ามันอยู่บริเวณไหน? “อยู่ๆเฉินเกอก็คิดขึ้นมาได้ สุ่ยเกินสามารถสัมผัสได้ถึงถ้ำนั้น ซึ่งในนั้นเหมือนจะมีการ บันทึกข้อมูลไว้เป็นจำนวนมาก และสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เป็นเก ออยากที่จะทําความเข้าใจ

และเรื่องของตระกูลกู่ก็ทำให้เงินเกอเข้าใจว่าเพียงแค่สละ อิสรภาพตามหา มู่หานและลุงสอง ก็เท่ากับรนหาที่ตายแล้ว เพื่อเข้าใจโลกเข้าใจสิ่งต่างๆมากขึ้นและเป็นส่วนหนึ่งของเส้น ทางนี้ในอนาคต

“ถ้าคุณพูดถึงสิ่งนั้น ผมจำได้อยู่แล้ว เมื่อไม่นานนี้ผมก็ยังกลับ ไปอยู่หลายครั้งเลย ผมจะพาคุณไปตอนนี้เลยก็ได้นะ! “สุ่ยเกิน พยักหน้า

“เดี๋ยวๆ ถ้ำ? ถ้ำงูอะไร? ”
ซูโร่ซีที่นั่งอยู่ข้างได้ยินเข้าก็รู้สึกงุนงง

“พาฉันไปด้วย ฉันก็อยากไปกับพวกคุณด้วย! “เธอพูดด้วย ใบหน้าที่อยากรู้อยากเห็น

แพลัง!

และในขณะที่ทุกคนกำลังยืนคุยกันอยู่ที่ลานฝึกกังฟู ก็มีเสียง โต๊ะและชามหล่นลงมาที่พื้น แล้วตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของ

สุ่ยเสีย

“หืม? เกิดอะไรขึ้น? ”

สุ่ยเกินถึงกับตกใจอย่างหนัก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ