ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 499 มาครบแล้ว



บทที่ 499 มาครบแล้ว

ภายใต้แสงจันทร์ที่สาดส่อง ก็ทำให้เห็นว่า คนชุดด่าคนนั้น หนี ไปอย่างเร็ว

และการเคลื่อนที่ของเขานั้น ก็เร็วมากเช่นกัน ซึ่งยอดหญ้าที่ เขาเหยียบนั้น แทบจะไม่ได้ยินเสียง

ไม่ทันไร เขาก็ได้หายไปในอากาศ

เฉินเกอก็ได้ตามไปติด ๆ

ถึงแม้ว่า คนชุดด่าคนนี้ จะใช้วิชาตัวเบาได้อย่างชำนาญ แต่ ว่า เมื่อเทียบกับเฉินเกอแล้ว ก็ยังห่างชั้นกันอยู่

“ยังจะหนีอีกหรอ”

เฉินเกอ หัวเราะพร้อมพูดขึ้นด้วยอาการพอใจ

การเคลื่อนที่บนกิ่งไม้ด้วยปลายเท้า ราวกับบินได้ จากนั้น เฉิน เกอก็ได้สะบัดนิ้วมือ

ทันใด ก็เกิดเป็นเสียงคล้าย ๆ กับลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจาก คัน เมื่อวัตถุนั้น กระทบกับอากาศก็เกิดเป็นเสียงดัง

ฟี้ว!

ทันใด คนชุดดำนั่น ก็โดนวัตถุนั้นเข้า แล้วกลิ้งกับพื้นไปไกล จนถึงด้านล่างของเนินเขา
แต่สิ่งที่เฉินเกอรู้สึกแปลกใจ คือ เมื่อตอนที่เขาจะเดินเข้านั้น คนชุด ที่โดนเขาจัดการจนได้รับบาดเจ็บ กลับหายไปแล้ว

แถมรอบ ๆ ยังไม่ได้มีร่องรอยการหนีไปแต่อย่างใด

แปลกจริง หรือว่ามันสามารถละเหยไปในอากาศได้เหรอ”

เฉิดเกอขมวดคิ้วด้วยอาการสงสัย

ไม่ได้การแล้ว

หลังจากที่เขาได้สํารวจยังบริเวณรอบ ๆ แล้วไม่พบร่องรอยใด ๆ จากนั้น เขาก็ได้รับจากไปจากตรงนั้น

“แอ๊ก! ”

ประตูห้องในโรงแรมถูกเปิดออก

และก็ได้มีเงา ๆ หนึ่งเดินโซซัดโซเซเข้ามา อยู่ภายในห้องน้ำ แขนทั้งท่อน อาบไปด้วยเลือดสด ๆ

จากนั้น ก็ได้ถอดผ้าคลุมหัวออกอย่างเบา ๆ แล้วเห็นเป็น ใบหน้าอันสวย ๆ บวกกับเส้นผมสีดำนิล ยิ่งทำให้เห็นได้ชัดว่า ใบหน้านั้น ขาวซีดมาก

ผู้หญิงคนนั้น อยู่ในอาการอิฐโรย แข็งใจเอาไว้ แล้วนําผ้าพันแผล มาพันบริเวณแผลด้วยตัวเอง สามวันแล้ว เวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็ว แค่พริบตา ก็ถึงวันงานประมูลแล้ว
สามวันมานี้ ดูเหมือนว่า สถานการณ์ทุกอย่างจะเงียบสงบเป็น

ปกติ

แต่ว่า ก็เกิดการเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ตั้งมากมาย

ผู้มีอิทธิพลหลาย ๆ ฝ่าย ต่างก็อยากที่จะรู้ความเป็นมาของ ฝ่ายตรงข้าม เลยได้เกิดการเคลื่อนไหวอย่างลับ ๆ ขึ้น

ไล่ล่ากันไปมา ลักลอบจัดการกันเอง

และแค่ คิดว่าใครเป็นคู่แข่งในการประมูลของตัวเอง ก็ต้อง รับการจู่โจมกันอย่างลับ ๆ ไปก่อน

ผู้มีอิทธิพลทั้งหลาย ต่างก็รู้สึกอิจฉาริษยาต่อกัน

ส่วนฉินหลานและพวก ๆ นั้น เมื่อได้รับการต้อนรับ และการ ดูแลเป็นอย่างดี จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่มีผู้คนจำนวนมาก คอย สังเกตพวกเธออยู่ แต่เฉินเกอก็ยังคงคอยคุ้มครองพวกเธอย่าง ลับ ๆ เช่นกัน เพราะไม่ว่าครั้งไหน ที่มีคนแอบจะทำร้ายพวกเธอ และเฉินเกอก็จะคอยจัดการกับคนเหล่านั้น

แต่ว่า เมื่อถึงวันนี้แล้ว

เหมือนกับว่าสถานการณ์ทุกอย่างเป็นปกติ ผู้มีอิทธิพลทั้ง หลาย ต่างก็ดูมีความดีอกดีใจ และก็ได้นำลูกน้องของตัวเองเข้า มาร่วมงานประมูล

หนึ่งในนั้น คนที่จะพอเป็นจุดเด่นอยู่บ้าง ที่นอกจากฉินหลาน แล้ว ก็ยังมีวงศ์ตระกูลหน่ายและบริษัทเหลยหลงที่มาจาก อเมริกาเหนือ
สถานที่จัดงานนั้น อยู่ที่ลานด้านหน้าของวิลล่า

ภายในงาน ก็จะมีเวทีขนาดใหญ่ ส่วนด้านล่างของเวที ก็จัด ว่างเก้าอี้สำหรับแขกนั่งไว้มากมาย

ตระกูลถึงแม้ว่าจะเป็นเจ้าภาพ แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิ์ที่จะได้นั่งใน ตำแหน่งที่สูงสุดขงงาน สมาชิกของตระกูลยู่ต่างก็ได้นั่งยังเก้าอี้ ธรรมดา ๆ

ผู้มีอิทธิพลสิบแปดเจ้า นั่งยังที่นั่งที่อยู่ด้านหน้าสุด

ส่วนที่เหลือก็นั่งยังที่นั่งด้านหลัง

บรรยากาศรอบข้าง เต็มไปด้วยผู้ที่เข้าร่วงงาน ยืนล้อมดูกัน อย่างคึกคัก

ซูหง ใสชุดพิธีการ แล้วก็กล่าวต้อนรับแขก และดำเนินงานต่าง

ๆ ในการประมูลครั้งนี้

“ตาแว่น หนิงหนิง พวกเธอรีบหน่อย ฉันได้จองที่นั่งไว้ให้พวก เธอด้วยนะ”

ในเวลานี้ ยูจินเซียงได้พูดกับเพื่อน

ตาแว่นหนิงหนิงและคนอื่น ๆ ก็ได้เดินเข้ามา และก็ยังไม่ทักทายกับอาจารย์เฉินเกอด้วย

เฉินเกอเป็นหนึ่งในสมาชิกของตระกูลยู่ก็เลยได้เข้าร่วมงานนี้ ด้วย แต่ว่า ที่นั่งของเขานั้น จะอยู่ทางด้านหลัง และห่างไกลจาก เวทีไปหน่อย
ส่วนเพื่อน ๆ ของยูจินเฟยก็ได้มาร่วมงานด้วย

“จินเฟย เธอคงไม่สานสัมพันธ์กับไอ้นี่ต่อหรอกนะ”

ผู้หญิงสองสามคนที่นั่งข้าง ๆ กับจินเฟยมองไปยังเฉินเกอ นั่งยังตำแหน่งที่ห่างออกไป เลยได้พูดขึ้น

“ใช่แล้วจินเฟย เธอกับเขาเลิกกันแล้ว ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แล้ว ทำไมต้องมาทรมานตัวเองแบบนี้ด้วย เธอดูสิ วันนี้แขกที่มา มีแต่ คนเจ๋ง ๆ ทั้งนั้นเลย และฉันก็เห็นคุณชาย ๆ วัยรุ่นตั้งหลายคน แหน่ะ ที่ดูมีท่าทีสนใจเธอ

“แล้วทำไมเธอไม่ใช้โอกาสนี้ แล้วทิ้งเขาไปซะ แล้วเธอจึงค่อย ตามหาความสุขที่แท้จริงของเธอ

ผู้หญิงเหล่านั้นพูดขึ้น พร้อมกับคำแนะนำ

และในเวลานี้ ยูจินเฟยได้ฟังแล้ว หากเป็นเมื่อก่อน ใจของ นเฟยเองก็ไม่ได้หวั่นไหวอะไร เพราะเรื่องของเธอกับเฉินเกอนั้น เป็นการแต่งงานหลอก ๆ

แต่ว่าตอนนี้นั้น โดยเฉพาะวันนี้ ที่ได้รู้จักกับหนุ่ม ๆ ที่มีฐานะดี ที่มาจากสถานที่ต่าง ๆ

ราศีของพวกเขานั้น แม้แต่แฟนเก่าของเธอ ก็ยังเทียบไม่ติด

เลย

สังคมที่เราอยู่นั้น จะเป็นตัวตัดสินความคิดของเรา เมื่อก่อนนี้ จินเฟยคิดว่า โลกของตัวเองนั้น กว้างพอแล้ว แต่ดูเหมือนว่า วันนี้ ตัวเองเป็นแค่กบในกะลาเท่านั้น

ในตอนนั้น มือทั้งสองของเธอ ที่ชายกระโปรงไว้แน่น

เธอเสียใจ เสียใจที่ตัวเองเอาแต่ใจไปหน่อย เสียใจที่แต่งงาน กับเฉินเกอ ถึงแม้มันจะเป็นแค่การแต่งอย่างหลอก ๆ ก็เถอะ ซึ่ง เธอก็เอง รู้สึกเสียใจจริง ๆ

“ฉันว่าคุณชาย คนนั้น ก็ใช้ได้นะ เธอดูกิริยา วาจาเขาสิ อีก อย่าง เขาแอบมองเธออยู่หลายครั้งแล้วนะ ดูเหมือนว่า คงจะ ชอบเธอเข้าแล้วจริง ๆ ฮ่า ๆ ๆ จินเฟย โอกาสเธอมาถึงแล้ว รีบ หย่ากับเงินเกอเถอะ แล้วหา ความสุขของตัวเอง ว่ามันคืออะไร”

เพื่อน ๆ ต่างก็ได้แนะนำ

“นี่ จินเฟย หากเธอไม่กล้าที่จะบอกเขา เดี๋ยวฉันไปบอกเขา แทน พรุ่งนี้พวกเธอ ก็ไปหย่ากันซะ

เพื่อนสนิทอีกคนได้พูดขึ้น

ส่วนยูจินเฟยในเวลานั้นอยู่ในอาการเงียบ ๆ ไม่ได้พูดอะไร แสดงว่า ยอมรับกับคำแนะนำของเพื่อนแล้ว

“ได้ เดี๋ยวฉันจะไปบอกเขาแทนเธอเอง

เพื่อนสนิทของเธอเหล่านั้น เมื่อเห็นดังนั้น ก็ดีใจกันยกใหญ่ จากนั้น ก็ได้เดินมาข้าง ๆ ของเฉินเกอ แล้วพูดขึ้นว่า “นี่ นาย เฉิน มีเรื่องจะคุยกับนายหน่อย

เพื่อนสนิทเธอคนนั้นพูด
“เรื่องอะไรเหรอ”

เงินเกอถาม

“นายคิดว่า นายเหมาะสมกับจินเฟยไหม ซึม นายเองก็ไม่ดู สารรูปตัวเองบ้างเลย เทียบกับคุณชายไม่ได้หรอก ฉันจะบอก นาย ให้นะ จินเฟยเสียใจนะ และเสียใจมากด้วย เธอให้ฉันมาบ อกนายว่า พรุ่งนี้ พวกนายต้องหย่ากันแล้ว โอเคไหม คงไม่คิด อยากที่จะเกาะจินเฟยกินหรอกมั้ง

เพื่อนสนิทของเธอได้พูดอย่างตรงไปตรงมา

“หย่าหรอ”

เฉินเกอขมวดคิ้ว แล้วได้พูดขึ้นว่า “ได้สิ ฉันตกลง

ที่เฉินเกอแต่งงานกับยูจินเฟยนั้น ก็เพื่อที่จะเข้าร่วมประมูล โสมพันปีเท่านั้น หากว่า วันนี้สามารถประมูลโสมพันปีมาได้ อย่างราบรื่น การแต่งงานนี้ ก็ไม่ได้มีความหมายอะไร

“ดีใจขนาดนี้เลยเหรอ เฮอะ ๆ ถือว่านายเป็นคนมีสำนึกอยู่นะ ได้”

เพื่อนสนิทของเธอเมื่อได้พูดจบ ก็ได้เดินกลับมาหาจินเฟย แล้วก็ได้บอกกับเธอ

ด้านจินเฟยนั้น ก็ได้แค่สางเส้นผมไปมา อย่างเบา ๆ

และสายตา ก็ได้มองที่ยังด้านหน้าของเวที ที่ตำแหน่งที่นั่งของ คุณชายลี่คนนั้น
คุณชายสี่คนนี้ เธอเองก็รู้จัก

เขาเป็นลูกชายของนักธุรกิจ ประเทศข้าง ๆ อย่าง พม่า

ราศีเขาดูไม่ธรรมดาเลย

อีกอย่าง ยังมีความร่วมมือทางด้านธุรกิจกับบริษัทเทียนหลง กรุ๊ปแห่งเทียนเฉิงอีกด้วย

หากว่า ทั้งสองสามารถรวมกันได้ ไม่ว่าจะต่อตนเอง หรือ

ตระกูลยู่แล้วนั้น ต่างก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเหมือนกัน

“อืม พวกเธอมาได้ยังไง แค่เห็นก็อยากจะอ้วกแล้ว”

ในเวลานี้ จินเซียง ไม่รู้ว่า รู้สึกโกรธอะไรให้ใคร จากนั้น ทุกคนก็หันไปดู

ที่จริงแล้วเป็นแค่วัยรุ่น ๆ คนหนึ่ง ที่ได้พาผู้หญิงหลาย ๆ คน เข้ามาร่วมงานนี้ด้วย

และวัยรุ่นคนนั้น ก็ไม่ใช่ใครอื่น ซึ่งก็คือ หยูเจียงแห่งหมู่บ้าน ถาโกว ที่ได้มากับเฉินเมิ่งและยังมีอาจารย์ผู้หญิงสาขาวิชา ชีววิทยาอีกสองคน

เป็นเพราะพวกเขามา จึงทำให้จินเซียงนั้น รู้สึกไม่พอใจ

“เบา ๆ หน่อยจินเซียง หยูเจียงเหมือนว่าเขาจะมากับพ่อเขา นะ พ่อของเขาเป็นคนของบริษัทเทียนหลงกรุ๊ปนะ ระวังพวกเขาจะได้ยินเอา”

หลี่หนิงหนิงพูด
ยูจินเซียงโกรธจนไม่รู้จะพูดอะไรได้

“อาจารย์เฉินเมิ่งเหมือนจะคบหากับอาจารย์หยูเจียงแล้วใช่ไหม”

ผู้หญิงคนหนึ่งถามขึ้น

“ใช่สิ มีคนเห็นพวกเขาทั้งสองคน เดินจูงมือกันในเขต โรงเรียนด้วย และฉันก็ได้ยินเรื่องที่น่าสนใจมาด้วยนะ ฮ่า ๆ เกี่ยวกับอาจารย์เฉินเกอกับอาจารย์เฉินเมิ่ง”

ทันใด หลี่หนิงหนิงก็พูดเบา ๆ อย่างระมัดระวัง “อะไร เรื่องอะไรที่น่าสนใจเหรอ” ยูจินเซียงและคนอื่น ๆ ก็เริ่มที่จะอยากรู้ขึ้นมา


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ