ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 435 ท่านชนชั้นใหญ่มากันครบ



บทที่ 435 ท่านชนชั้นใหญ่มากันครบ

แน่นอนว่าเมื่อเสี่ยวเป้ยได้ยินเช่นนี้แล้วเธอไม่พอใจอย่างมาก และนี่ก็คือความตั้งใจของหยางเที่จะทำแบบนี้

เพราะอย่างไรก็ตามเพื่อนร่วมห้องของตนเองนั้น เธอเรียกมา เพราะต้องการแนะนำให้พี่ของเธอ ไม่ใช่ให้พวกเพื่อนฝูงของ หยางเป

“ไม่ได้ ไม่ต้องไปเดินกับพวกเขา ฉันพาพวกคุณเดินเล่นก็ พอ! ”

เสียวเปียกล่าวด้วยความโกรธ

และเมื่อเห็นเสี่ยวเป้ย โกรธ เพื่อนร่วมชั้นทั้งหลายต่างก็มุ่ย ปาก และไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้

แล้วเดินตามเสี่ยวเป้ยเข้าไป และเมื่อทุกคนมาถึงสวนหลัง บ้าน

ในใจของเฉินเกอ ก็เข้าใจความหมายของที่เสี่ยวเปียกำลัง คิดอยู่

นั่นก็คืออยากจะแนะนำแฟนสาวให้ตัวเองหนึ่งคน

เหอะๆ เฉินเกอเข้าใจถึงความพยายามอย่างเต็มที่ของเสียว

เป้ย

เพียงแต่ว่า ตอนนี้ในใจของเฉินเกอไม่มีความรู้สึกที่อยากจะไปทำความรู้จักกับเพื่อนผู้หญิงเลยจริง ๆ

เพราะด้วยเรื่องแบบนี้ เมื่อก่อนเคยสร้างปัญหาไว้ค่อนข้าง เยอะมาก

และเหตุการณ์ของจ้าวยีฟาน ก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่สุด

ดังนั้น ส่วนใหญ่ฐานะที่เป็นเกอเข้าใกล้สาวสวยเหล่านี้ นั่นก็ คือในฐานะพี่ชายคนโตคนหนึ่งเท่านั้น

แต่เห็นได้ชัดว่า สาวสวยพวกนี้ไม่สนใจตัวเอง และไม่ค่อยมี เจตนาอยากสนทนากับตัวเองมากเท่าไหร่

ดังนั้น บรรยากาศก็ค่อนข้างที่จะเบื่อหน่ายเล็กน้อย

“HI สาวสวยทั้งหลาย เราเจอกันอีกแล้ว? ” และในขณะนี้เพื่อนฝูงทั้งหลายของหยางเก็ได้เดินเล่นมา

ถึงที่นี่

และกล่าวทักทายกับสาวสวยทั้งหลาย

“ใช่ บังเอิญจัง!

สาวสวยทั้งหลายยิ้มและกล่าว

“แสดงว่าเรามีวาสนาต่อกันเป็นอย่างไร เพิ่มเพื่อนวีแชท หน่อยไหม และถ้าต่อไปมีที่เล่นสนุกๆ พวกเราจะแนะนำให้พวก คุณ! ”

ชายหนุ่มทั้งหลายยิ้มและกล่าว
จากนั้นหันไปมองเฉินเกอด้วยสายตาที่ดูถูก :

คนนี้พี่ชายใช่หรือเปล่า? คุณดูเค้กชิ้นเล็กที่คุณถือมาสมัน เล็กเกิน ทําให้สาวสวยทั้งหลายต่างก็ไม่พอแบ่ง และคุณไม่ สามารถซื้อเค้กที่มันชิ้นใหญ่กว่านี้สักหน่อยเหรอ!? ”

ชายหนุ่มหลายคนเริ่มพูดกระทบเฉินเกอ

ส่วนทางด้านพวกเขาทางนี้ ก็ได้เพิ่มเพื่อนวีแชทกับสาวสวย ทั้งหลายจนเสร็จเรียบร้อยแล้ว

และเมื่อเห็นหยางเสียวเป้ยมองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็น มิตร พวกเขาก็ไม่ได้อยู่ต่อ และหลังจากที่กะพริบตา ให้กับสาว สวยทั้งหลายเสร็จพวกเขาก็เดินจากกันไป

“ต้องขอโทษด้วย ถ้าฉันรู้ล่วงหน้าว่าพวกคุณจะมา ฉันก็ เปลี่ยนเค้กให้ใหญ่กว่านี้แล้ว! เหอะๆ! ”

เฉินเกอกล่าวอย่างขมขื่น

ส่วนสาวสวยทั้งหลายนั้น ต่างก็เหลือบตามองบนอย่างไม่มี อะไรจะพูด และไม่สนใจคำพูดของเฉินเกอ

“เฮ้ เหม่ยเหม่ย เมื่อกี้พวกคุณเห็นหรือยัง หนุ่มหล่อหนึ่งใน ผู้ชายพวกนั้นคนหนึ่งเหมือนว่าเป็นหวางกุนแห่งบริษัทตระกูล หวางกรุ๊ปนะ? ”

“นั่นสิ ฉันดูแล้วเหมือนเขาจริง ๆ และอีกอย่าง อีกคนหนึ่งที่ หล่อเหลา ที่ใส่แว่นอยู่ เหมือนว่าเป็นจางหลินแห่งบริษัท เทคโนโลยีสารสนเทศเฟยเยว่ และบริษัทของตระกูลเขากำลังจะเปิดตัวในสาธาราณะแล้วด้วย!

“แม่เจ้า พวกเขาทั้งหลายได้มาอยู่ร่วมกัน แน่นอนว่าไม่ใช่ บุคคลธรรมดาอย่างแน่นอน ทางด้านครอบครัวของพวกเขาต่าง ก็ต้องมีพื้นฐานแน่นอน!

“ทำไมเหรอ? มีความรู้สึกกับหนุ่มหล่อคนไหนเหรอ?

เหม่ยเหม่ยพวกเธอคุยกัน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุยกันเรื่องคุณค่าของพวกเขา พวก เธอก็ยิ่งกระตือรือร้นมากขึ้น

เสี่ยวเป้ยหายใจเข้าลึกๆ และมองไปที่เฉินเกอแล้วกล่าว

“พี่ ขอบคุณนะคะที่พี่ซื้อเค้กให้หนู และนี่ก็ตั้งแต่เล็กจนโต นอกจากคุณแม่แล้ว ยังมีพี่คนหนึ่งนี่แหละที่ตั้งใจฉลองวันเกิดให้ น้องอย่างจริงจัง ไปเถอะ เราไปหาสถานที่แบ่งเค้กกินกัน

เสี่ยวเปียจับมือของเฉินเกอไว้ และกล่าวด้วยความรู้สึกที่

ซาบซึ้ง

และในขณะนี้พ่อบ้านอะเชิงก็ตกอยู่ในสภาพที่ยุ่งมาก แน่นอนว่า เมื่อตระกูลหนึ่งมีสัญญาณที่จะลุกขึ้นอีกครั้ง ไม่ว่า คนที่รู้จักหรือไม่รู้จักต่างก็มากันทั้งหมดอย่างกับฝูงผึ้ง และตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น

และเมื่อนึกถึงเรื่องงานเลี้ยงฉลองวันเกิดอายุ80ปีที่เงียบเหงาของวันก่อน ก็ทำให้รู้สึกว่าโศกเศร้าจริง ๆ

เมื่อดูเวลาอีกที ก็จะสิบโมงครึ่งแล้ว

แขกผู้มีเกียรติส่วนใหญ่ก็มากันจนครบแล้ว และหยางเย่ก็ กลับมาต้อนรับที่ห้องโถงด้านหน้า

และอะเชิงก็ไปยืนอยู่ที่หน้าประตูแทน

และเมื่อไม่มีคนมาเพิ่มแล้ว อะเชิงก็เตรียมตัวจะเข้าไปด้านใน

“หืม? ”

ทันใดนั้นเอง จู่ ๆเขาก็เห็นขบวนรถแล่นมาจากระยะไม่ไกล มากนัก

“ยังมีแขกอีกเหรอ? ”

อะเชิงยืนตัวตรง

และเมื่อตอนที่เห็นขบวนรถแล่นเข้ามาใกล้ๆ

ในใจของอะเชิงก็ตกตะลึงอย่างมาก

มันเป็นขบวนรถหรูทุกคัน

และมันก็เจ๋งมากจริง ๆ !

คาดว่าแขกวีไอพีที่มาในวันนี้ รวมรถหรูของพวกเขาทั้งหมด คงจะมีร้อยกว่าคันได้ แต่ก็เทียบไม่ได้กับราคาของขบวนรถหรู สิบกว่าคันนี้เลย

แขกผู้มีเกียรติที่สูงสุด!
อะเชิงตกตะลึง

และในเวลานี้เอง ก็มีครอบครัวหนึ่งลงมาจากรถด้วยกัน คน

เป็นคู่สามีภรรยาคู่หนึ่ง และยังอุ้มลูกสาวตัวน้อยของพวกเขา ไว้ในอ้อมแขน

“สวัสดีครับ ขอบคุณที่มาร่วมงานเลี้ยงฉลองของตระกูลหยาง คุณ…….คุณคือประธานจาง?

ทันทีที่อะเชิงเห็นชายคนนี้ชัดเจนแล้ว ในใจของเขาก็ตกใจ! “สวัสดีครับ ฉันคือจางโปเหนียน!

“รู้จักครับ! รู้จัก ชื่อเสียงของประธานจาง โด่งดังเป็นตำนาน และคุณคือหนึ่งในสี่คนที่ร่ำรวยที่สุดในจีนเหมิน! ” อะเชิงตื่นเต้นจนมือของเขานั้นสั่นไปหมด

คนที่รวยที่สุดของจินเหมินก็มาแล้ว!

ต้องรู้ว่า ตระกูลหยางกับพวกเขา นั่นคืออยากประจบสอพลอ

ไม่สามารถประจบได้

แน่นอนว่าต้องตะลึงและดีใจอย่างมาก

จากนั้น ก็มีขบวนรถมาอีกหนึ่งขบวน และครั้งนี้ เป็นชายวัยกลางอายุ50กว่าพาครอบครัวของเขา

ยิ่งไปกว่านั้นดวงตาของอะเชิงแทบจะหลุดออกมา
“หยาง ? คุณเองเหรอ? ”

โอ้วพระเจ้า ประธานของเขต เยี่ยนจิงนะ! เขามาที่นี่? โอ้ว พระเจ้า! ! !

หลังจากนั้น ยังมีคนที่มีหน้ามีตาและมีชื่อเสียงมากมายมา ผู้ที่มีชื่อเสียงและร่ำรวยของมณฑลฉินตง และผู้ที่มีชื่อเสียง และร่ำรวยของเมืองฝั่งตะวันตกเหนือหลายคนต่างก็มากัน หมด!

รวมๆแล้วประมาณสิบกว่ายี่สิบคน และทุกคนต่างก็พา ครอบครัวมาด้วย

ถ้าไม่ใช่เพราะอะเชิงหยิกไปที่ต้นขาของตัวเองอย่างรุนแรง จนมีความรู้สึกเจ็บปวดที่ระเบิดออกมาบอกกับเขาว่าทั้งหมดนี้ คือความจริง ไม่ได้ฝันไป

และเขารู้สึกว่าตัวเองนั้นแทบจะเป็นลม

“เชิญทางนี้เลยครับ!

เอวของอะเชิง ไม่เคยยึดตรงขึ้นเลยตั้งแต่ต้นจนจบ

“ไม่ต้องรีบแล้วคุณพ่อบ้าน พวกเราไม่ได้มาร่วมงานฉลองของ ตระกูลหยาง!!

ในเวลานี้เอง จางโป๋เหนียนพูดขึ้นพร้อมกับกำลังโอ้ลูกสาวตัว น้อยของเขา

“ต๊ะ? ถ้าอย่างนั้นท่านประธานทั้งหลาย? ”
อะเชิงสงสัย

รบกวนสอบถามหน่อยว่าคุณหนูหยางเสียวเปียอยู่ที่ไหน พวกเรามาที่นี่เพื่อฉลองวันเกิดให้เธอ

“ต๊ะ? ฉลองวันเกิดให้คุณหนูเสี่ยวเป้ย? ”

อะเชิงตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

คุณหนูเสี่ยวเป้ยรู้จักกับท่านชนชั้นใหญ่ที่ร่ำรวยและยิ่งใหญ่ เยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่!!!

แต่ว่าอะเชิงไม่กล้าถามเยอะ และไม่กล้าที่จะละเลยแม้แต่นิด

“คุณหนูเสี่ยวเป้ยอยู่สวนหลังบ้านครับ ฉันจะพาพวกคุณไป เดี๋ยวนี้!

อะเชิงก้มเอว และพาพวกเขามาถึงที่สวนหลังบ้าน และเมื่อเสี่ยวเป้ยเห็นท่านชนชั้นใหญ่เยอะขนาดนี้ พร้อมกับ

เพื่อนร่วมห้องของตัวเอง ทุกคนต่างก็ตกตะลึงกันหมด

“สวัสดีคุณหนูเสี่ยวเป้ย สุขสันต์วันเกิด พวกเรามาที่นี่เพื่อ ฉลองวันเกิดให้กับคุณ!

ทุกคนต่างก็ยิ้ม

เสี่ยวเปียตกตะลึงหนักมาก

ส่วนเหม่ยเหม่ยพวกเธอต่างก็ตกตะลึงกันทั้งหมดเช่นกัน
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นเสี่ยวเปีย นั่นไม่ใช่ประธานจางแห่งจีนเห มินเหรอ? และนั่นไม่ใช่ครอบครัวประธานหยาง ของเยี่ยนจึง เขต “เราเหรอ? พระเจ้า เกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย? ”

หญิงสาวหลายคนก็ไม่ได้พูดถึงชายหนุ่มอีกแล้ว เพราะใน

ขณะนี้พวกเธอต่างก็ตกตะลึงกันจนพูดอะไรไม่ออก “ฮ่าฮ่า คุณหนูเสี่ยวเป้ย พวกเรามาฉลองวันเกิดให้คุณตั้งไกล คงไม่ใช่ไม่ต้อนรับพวกเราหรอกมั้ง? แม่แต่ที่นั่งก็ไม่จัดให้เรา

เลยเหรอ? ”

จางโป๋เหนียนหัวเราะและกล่าวอย่างเบิกบานใจ

“ต๊ะ! จัด จัด ประธานจาง ประธานหยาง และ……..ฉันจะรีบ ไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้! ” เสี่ยวเป้ยทำอะไรไม่ถูก และเธอกำลังกินเค้กอยู่ไม่รู้ว่าจะไป

จัดเตรียมที่นั่งที่ไหน

เธอตกตะลึงจนใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยเหงื่อ

“ท่านประธานทั้งหลาย พวกคุณต่างก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่ ใหญ่ที่สุด จะจัดเตรียมที่นั่งให้พวกท่านที่สวนหลังบ้านได้ อย่างไร เชิญพวกท่านไปที่ห้องโถงด้านหน้ากับผมเถอะ? ”

อะเชิงกล่าวอย่างตื่นเต้น

“ไม่ละที่สวนหลังบ้านที่นี่ก็ดีน จัดเตรียมโต๊ะให้พวกเราสอง สามโต๊ะ และเสิร์ฟอาหารและไวน์ให้เรา เราดื่มและทานกัน หน่อย ฮ่าฮ่าฮ่า!
พูดจาง โปเหนียนหยิบกำไลหยกออกมา คุณหนูเสียว เป้ย คือของขวัญวันเกิดส่งคุณ หวังว่าธุรกิจใน อนาคตข้างหน้า คุณจะประคับประคองช่วยเหลือหน่อย”

แน่นอนว่า กำไลหยกราคาสูงมาก

แม้ว่าอะเชิงจะตื่นเต้นมาก ยังคงความเงียบสงบอยู่ และเมื่อเห็นท่านยอมไปห้องโถงด้านหน้า ก็รีบสั่งให้รับใช้ ทำตามงานเลี้ยงบริเวณใกล้เคียงนี้

ยิ่งไปกว่านั้นอะเชิงว่าหนูเป้ยตื่นเต้นจนทำอะไร ไม่ถูก และยังพอต้อนรับและดูแลอย่างระมัดระวังอยู่ด้านข้าง……..

บุคคลในนี้ไม่ว่า

สามารถยั่วยุ!


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ