บทที่ 417 น้องสาว (ลูกพี่ลูกน้อง)ทั้งหลาย
“พี่ชายค่ะ พี่รู้จักกับประธานฟางคนนั้นหรอ
ระยะว่างทางกลับบ้าน หยางเสียวเปียก็ได้แต่มองเฉินเกออ ย่างนิ่ง ๆ โดยไม่พูดไม่จา
เพราะเธอเองคิดว่าเรื่องนี้มันแปลกมาก คนที่มีสถานะอย่าง ประธานฟางนี้ จะให้รถกับครอบครัวตัวเองฟรี ๆ ได้อย่างไร และอีกอย่าง ข้อมูลส่วนตัวของตัวเอง ก็มีไม่กี่คนที่จะรู้ และวันนี้ ตอนที่กินข้าวเช้าอยู่นั้น พี่ชายก็ได้ถามตัวเองว่า หมายเลขบัตรประจําตัวประชาชนของตัวเองนั้น คือหมายเลข อะไร
อีกอย่าง เมื่อสักครู่หยางเสียวเปียก็พอจะมองออกว่า ประธาน ฟางคนนั้น ค่อนข้างที่จะให้ความเคารพพี่ชายเป็นอย่างมาก
“อะไรนะ ไม่รู้จักนะ”
เฉินเกอส่ายหน้า เมื่อก่อนไม่รู้จักจริง ๆ
“แล้วเขาจะมอบรถให้หนูฟรี ๆ ทำไมกัน ไม่ใช่ว่าพี่จะรู้จักเขา หรอกหรอ”
หยางเสี่ยวเป้ยเองคงไม่ดูถูกเฉินเนื้อแน่นอน แต่เพราะคิดว่า ครอบครัวของเฉินเกอกับครอบครัวตัวเองนั้น มีสภาพที่ไม่ต่าง
กันมาก
หากว่าไม่ใช่เฉินเกอแล้ว จะเป็นใครไปได้ล่ะ
“เธอลองเดาดูสิ”
เฉินเกอยิ้ม ๆ
หยางเสียวเป้ยอมยิ้มไว้ จากนั้นก็หัวเราะออกมา
ไม่รู้ว่าทำไมหยางเสี่ยวเป้ยถึงได้รู้สึกว่า พี่ชายของเธอน ยิ่ง ดูยิ่งรู้สึกว่าลึกลับ
พอถึงช่วงบ่าย
“พี่ชายคะ คืนนี้มีงานเลี้ยง พี่จะไปด้วยกันไหม
เฉินเกอเองก็กำลังคิดอยู่พอดีว่า จะทำอย่างไรถึงจะสามารถ ไปเยี่ยมคุณยายได้ จากนั้นเมื่อหยางเสี่ยวเป้ยเปลี่ยนเสื้อผ้า เสร็จ และได้เดินออกมาจากห้อง
“คืองานเลี้ยงที่พี่ชายพี่สาวลูกสาวเธอไปหรอ” ต่างก็เป็นแค่ ลูกพี่ลูกน้อง)
พอถึงช่วงบ่าย หยางเสี่ยวเป้ยก็เลยได้บอกเรื่องนี้กับเฉินเกอ
พวกเขาเหล่านั้น ต่างก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของเฉินเกอทั้งหมด ตามที่หยางเสี่ยวเป้ยได้บอกไว้ว่า พอใกล้จะถึงวันเกิดของ คุณย่าในแต่ละปีนั้น ลูกหลานอย่างพวกเขาก็ได้จัดงานเลี้ยงขึ้น และปรึกษาหารือกันว่าจะมอบของขวัญอะไรให้แก่คุณย่า
ที่จริงแล้วก็เพื่อความสนุกสนานเท่านั้นเอง
เงินเกอถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยให้ความสนใจกับงานเลี้ยงเท่าไร แต่ว่า ครั้งนี้ที่เขามานั้น เพื่อที่จะได้เคลียความไม่ลงรอยของ แม่กับคุณยายเมื่อครั้งก่อน และเพื่อที่จะได้ทำความรู้จักกับ บรรดาพี่สาว น้องสาว เพราะเงินเกอคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันสำคัญ มาก
จากนั้น ก็พยักหน้า แล้วพูดขึ้นว่า “ได้ ฉันจะไป
ห้องอาหารในร้านเหล้าหรูในเมืองเยี่ยนจึง
ในเวลานั้น ในร้านเหล้าต่างก็มีกลุ่มผู้ชาย ผู้หญิงที่แต่งตัวกัน สะสวยนั่งอยู่
ดูจากลักษณะแล้ว พวกเขาก็น่าจะมีอายุกันประมาณยี่สิบกว่า
ได้
“พวกเธอได้ยินข่าวไหมว่า พี่ชาย ลูกพี่ลูกน้อง) ของพวกเราที่ อยู่บ้านนอกนั้น เหมือนว่าจะมาที่เยี่ยนจึงแล้วนะ อยู่ที่บ้านของ หยางเสียวเปียนั่นแหละ
“อะไรนะ จริงเปล่าเนี่ย พ่อแม่ของฉันทำไมไม่บอกเรื่องนี้กับ ฉัน อีกก็ถึงวันเกิดของคุณย่าแล้ว เขาจะมาทำอะไร คงไม่ใช่ว่า จะมาอวยพรคุณย่าหรอกนะ คุณย่าได้บอกไปตั้งนานแล้วว่า ตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขาไปนานแล้ว
“อืม มาอวยพรวันเกิดคุณย่าคงจะเป็นไปไม่ได้หรอก ฉันว่า เขาคงอยากจะใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะได้กลับเข้าสู่ตระกูลอีกครั้งแหละ คงรู้ว่า ปีนี้คุณย่าแปดสิบปีแล้ว และเมื่อฉลองวันเกิดเสร็จ ก็จะได้แบ่งมรดกให้แก่พวกเรา ไม่อย่างนั้น ทำไมไม่กลับมา ตั้งแต่แรก ๆ แล้วทําไมถึงได้กลับมาตอนนี้พอดีล่ะ”
ผู้ชายคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยอาการดูถูก
“แต่ว่าคงไม่มีโอกาสมากนักหรอก ป้าห้าเป็นคนดูแลและ ต้อนรับเขา วันนี้ช่วงเที่ยงคุณย่าทราบข่าวนี้ ช่วงบ่ายเลยเรียก ป้าห้าไปหา จากนั้นก็ด่าแบบไม่ยั้งเลย ตอนนี้คุณยายวังโกรธไม่ หายเลย”
ผู้หญิงพูดขึ้น
“ใช่แล้ว พี่ชาย ลูกพี่ลูกน้อง บ้านนอกของพวกเรานั้น ได้ยิน พ่อฉันพูดว่า เหมือนจะชื่อ เฉินเกอ นะ ตอนที่ลำบากที่สุด แม้ กระทั่งข้าวในโรงอาหารที่โรงเรียนยังไม่มีปัญญาซื้อกินเลย พอ หลังจากที่คุณย่ารู้เรื่องแล้ว พวกเธอลองเดาว่า คุณย่าพูดอะไร คุณย่าบอกว่า ปล่อยพวกเขาให้ตามยถากรรมเถอะ ครอบครัว เราอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของคนอื่นเลย
“อืม แต่ก็ไม่แน่นะ พวกเธอลองนึกดูสิว่า วันเกิดของคุณย่าใน ปีนั้น ก็เริ่มที่จะเรียกหาลูก ๆ หลาน ๆ แล้ว เมื่อก่อนนั้นไม่เคยนะ แต่ว่า ตั้งแต่ปีที่แล้วเป็นต้นมา พวกเธอไม่สังเกตกันบ้างหรือ คุณย่าได้พูดถึงเฉินเสี่ยวและเฉินเกออยู่ไม่ใช่หรอ”
“อืม ใช่แล้ว คุณย่าถามว่า ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนนั้นทำ อะไรกันอยู่ พี่สาวลูกพี่ลูกน้อง บ้านนอกนั้นพวกเราไม่รู้จัก แต่ ว่าพี่ชาย ลูกพี่ลูกน้อง บ้านนอกนั้นไม่ใช่เรียนมหาวิทยาลัยอยู่หรอกหรอ”
ทุกคนต่างก็ได้ถกเถียงกันไม่หยุด
และในเวลานั้น ประตูของห้องอาหารก็ถูกเปิดออก
ก็เลยเห็นผู้ชายหนึ่งคนที่เดินมาพร้อมกับผู้หญิงอีกหลายคน เดินเข้ามา
“พี่หยางเย่ พี่มาแล้วหรอ”
“พี่หยางเย่”
ทั้งผู้หญิงและผู้ชายต่างก็ได้พูดและก็ลุกขึ้น
หยางเย่ เป็นหลานชายคนแรกของตระกูลหยาง และปัจจุบันนี้ ก็ยังเป็นอยู่ เป็นที่โปรดปรานของคุณย่ามาก ๆ และก็เป็นหลาน ที่รักที่สุดของท่านด้วย
ดังนั้น จึงเป็นคนที่คนอื่น ๆ ต่างก็ให้ความสนใจ
หยางเพยักหน้า ๆ มากันหมดแล้วหรอ พอดีเลย เดี๋ยวฉันจะ แนะนำให้ทุกคนรู้จักนะ ฉันพาเพื่อนมหาวิทยาลัยของฉันมาด้วย นี่คือ เพิ่งซ่านเพื่อนมหาวิทยาลัยของฉัน พวกเธอคงจะรู้จักแล้ว แหละ สาวสวยคนนี้ เป็นเพื่อนของเพิ่งซ่านสมัยที่เรียนมัธยมที่ดิน หลิงด้วยกัน”
หยางเย่ทั้งได้แนะนำไป และทั้งยังส่งยิ้มให้กับสาวสวยอย่าง ฉินหยาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กับเพิ่งอ่าน
หยางเย่เองก็คิดไม่ถึง เจอผู้หญิงสวย ๆ มาก็เยอะ และก็ไม่เคยรู้สึกสนใจในสาวสวยคนไหนเลย จนกระทั่งมาเจอกันเธอ
หลังจากที่ได้แนะนำกันเสร็จสรรพ
“เสี่ยวหยา เฮอะ ๆ ถ้าฉันจะเรียกเธอว่า เสี่ยวหยา คงจะไม่ ถือสานะ”
หยางเย่พูดขึ้น
ฉินหยาส่ายหน้าเบา ๆ
ที่จริง วันนี้เพื่อนสมัยมัธยมอย่างเพิ่งซ่านบอกให้ตัวเองมางาน เลี้ยงเป็นเพื่อนเธอ ส่วนฉินหยาเองก็เพิ่งจะมาถึงเยี่ยนจิง และ ที่ไหนก็ไม่อยากจะไปด้วย
อีกอย่าง ก็ไม่ค่อยชินกับสภาพแวดล้อมและผู้คนที่นี่ เพิ่งซ่าน จึงถือได้ว่าเป็นคนสนิทคนหนึ่ง
ดังนั้น ก็เลยไม่ได้ปฏิเสธเธอ ครั้นแล้วจึงได้มางานเลี้ยงนี้เป็น เพื่อนเธอด้วย
“อะไรกันเสียวหยา เธอไม่สนุกหรอ พวกเธอต่างก็มีฐานะใกล้ เคียงกัน น่าจะคุยกันถูกคออยู่นะ ฮ่า ๆ ๆ วันนี้ก็สนุก ๆ หน่อย แล้วกัน”
เพิ่งท่านก็ได้พูดขึ้น เพราะเห็นฉินหยาดูมีท่าทีที่ผิดปกติ
“งั้นพวกเราก็เริ่มสนุกกันได้แล้วนะ”
หยางเย่ยิ้มแล้วพูดขึ้น
“เดี๋ยวรอก่อนพี่เย่ ยังมีคนที่ยังไม่มาอีกนะ
“อ๋อ ยังเหลือใคร
หยางเปถาม
“หยางเสี่ยวเป้ยกับพี่ชาย ลูกพี่ลูกน้อง บ้านนอก ที่ยังมาไม่
ถึง”
ผู้ชายคนหนึ่งได้พูดขึ้นอย่างทันใด
“เสี่ยวเป้ย อ๋อ ใช่แล้ว ยังเหลือเสี่ยวเป้ย แล้วพี่ชาย ลูกพี่ลูก น้อง บ้านนอกล่ะ มาจากไหน คงไม่ใช่ ลูกชายของผู้หญิงที่โดน คุณย่าไล่ออกจากบ้านไป ที่ชื่อว่า เฉินเกอ หรอกนะ”
หากจะเรียกตามศักดิ์แล้ว หยางเย่ควรจะเรียกเธอว่า น้าสาว
เพราะว่าพวกเขาต่างก็ดูถูกน้าสาวที่โดนไล่ออกจากบ้าน รวม ไปถึงพี่สาวพี่ชาย(เฉินเกอและพี่สาวของเขาด้วย แต่ในเวลาพูด ปกติก็ใช้สรรพนามว่า น้า อยู่
ในตอนนี้หยางเพูดว่า ผู้หญิงคนนั้น และก็ทำให้เหล่าลูก ๆ หลาน ๆ อีกหลายคนเมื่อได้ฟังแล้วก็เกิดความรู้สึกไม่ค่อย สบายใจเท่าไร
แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
“ถึงว่าสิบ่ายวันนี้คุณย่าทำไมถึงได้โมโหป้าห้านัก ที่จริงแล้ว เสี่ยวเป้ยและเฉินเกอ พวกเขาทั้งสองคนมีการติดต่อกันหรอนี่”
หยางเยู่หัวเราะด้วยสีหน้านิ่ง ๆ จะพูดไปแล้ว ตอนเด็ก ๆ แม่ของหยางเย่กับหยางยู่ฝั่งนั้นก็เคยเจอหน้ากันอยู่หลายครั้ง ความสัมพันธ์ทั้งสองบ้านไม่ค่อยจะ ดีนัก จึงทำให้คนรุ่นหลัง ๆ เลยเกิดความรู้สึกที่ไม่ค่อยชอบกันละ
“เฉินเกอหรอ”
“เฉินเกอหรอ”
และในเวลานี้ ฉินหยากับเพิ่งซานต่างกันตกใจ และได้พูดขึ้น
ทําให้หยางเย่ตะลึง “เพิ่งซ่านเสี่ยวหยา มีอะไรหรอ พวกเธอ รู้จักเขาหรอ อ๋อ ใช่แล้ว เขาเองก็อยู่ที่จินหลิงด้วยนี่”
ฉินหยาเงียบ ไม่พูดอะไร แต่ในใจก็รู้สึกตื่นเต้น แต่ว่าฉินหยายิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ แล้วเพิ่งซ่านรู้จักกับเฉินเกอ
ได้อย่างไร หรือว่า อาจจะเป็นคนที่มีชื่อซ้ำกัน หรือว่าจะบังเอิญใช่เขาจริง
“เสี่ยวหยา เธอรู้จักเฉินเกอหรอ”
เพิ่งซ่านเองก็แปลกใจเหมือนกัน เลยได้ถามก่อน
ฉินหยามีสีหน้าที่ดูสับสนเล็กน้อย จากนั้น เธอเลยพูดขึ้นว่า “น่าจะเป็นคนที่มีชื่อซ้ำกันมั้ง เพิ่งซ่านเธอเองก็รู้จักเฉินเกอหรอ”
“อืม ฉันรู้จักเขาดี แต่ว่า ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นคนเดียวกันไหม เพราะ ว่า งานของพ่อฉันเมื่อก่อนนั้นต้องย้ายที่อยู่ตลอดเวลา ดังนั้น ตั้งแต่เด็กแล้ว ฉันเป็นคนหนึ่งที่ย้ายโรงเรียนอยู่บ่อย ๆ ครั้ง เมื่อตอนเรียนมัธยมปีที่ห้า พ่อของฉันก็มีโปรเจคที่อำเภอผิงอัน และ ฉันเองก็ได้ย้ายตามไป ครั้นแล้วจึงได้รู้จักกับคนจน ๆ อย่างเป็น เกอ”
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ