ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 385 ยอมรับแล้ว



บทที่ 385 ยอมรับแล้ว

“ผมเหรอ”

เฉินเกอ หน้าตัวเอง

“พ่อหนุ่ม น้าเห็นพ่อหนุ่มยังหนุ่มยังแน่น ช่วยงานน้าหน่อยได้

ไหมจ้ะ”

หญิงวัยกลางคนรีบปรับอารมณ์ตัวเองให้เป็นปกติ

“ได้ค่ะคุณน้า ให้เป็นเภออยู่ช่วยงานคุณน้าต่อได้เลยค่ะ”ฟาง

หยีพูด

นี่เธอคิดว่าเฉินเกอเป็นคนใช้ของตัวเองไปแล้วจริงๆสินะ

ทำยังไงได้ เฉินเกอปฏิเสธไม่ได้ด้วย จึงทำได้แค่ตอบตกลง

อย่างจนใจ

แต่รอจนพวกเธอกลับไปแล้วทั้งหมด หญิงวัยกลางคนก็จับ

สองมือของเฉินเกอไว้

เฉินเกอสะดุ้งตกใจ

“คุณน้าครับ มีอะไรครับ” เฉินเกอรีบถามออกไป

“พ่อหนุ่ม ถึงแม้น้าจะไม่รู้ว่าพ่อหนุ่มเป็นใคร แต่ถ้ารู้ว่าพ่อ หนุ่มเป็นคนดี พ่อหนุ่มช่วยบอกน้าได้ไหม ว่าหยกชิ้นนี้พ่อหนุ่ม ได้มาจากที่ไหน”
หญิงวัยกลางคนพูด ก่อนจะหยิบหยกที่เธอเพิ่งเก็บได้ขึ้นมา

ถูกต้องแล้ว มันคือหยกที่สลักชื่อเพิ่งซินไว้เป็นหยกที่เฉียงเวย ให้เขาไว้

เงินเกอตกใจกับอาการของหญิงวัยกลางคนตรงหน้า แต่ก็ยัง ถามออกมา “นี่เป็นของน้องสาวผมครับ มีอะไรหรือเปล่าครับคุณ

หญิงวัยกลางคนรีบถาม “หมายความว่า เธอเป็นน้องสาวของ พ่อหนุ่ม และตอนนี้เธอยังมีชีวิตอยู่ใช่ไหม ใช่ไหมพ่อหนุ่ม

หญิงวัยกลางคนเขย่าเฉินเกอไปมา

เฉินเกอพยักหน้า “แน่นอนสิครับ”

แล้วหญิงวัยกลางคนก็ร้องไห้ออกมา ถึงจะเป็นคนโง่ก็น่าจะดู ออก เพราะอารมณ์ของหญิงวัยกลางคนตื้นตันได้รุนแรงมาก

จนถึงตอนนี้เฉินเกอถึงได้เข้าใจว่าทำไมตอนที่เห็นหญิงวัย กลางคนคนนี้ถึงได้รู้สึกคุ้นหน้ามาก เหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน

ตอนนี้ในหัวของเฉินเกอปรากฏความคิดหนึ่งขึ้นมา ในที่สุด เขาก็นึกออก ถึงแม้ใบหน้าของหญิงวัยกลางคนจะเสียโฉมไป หมด แต่ดวงตาคู่นั้น เหมือนกับเฉียงเวยมาก หรือว่า…

“คุณน้าครับ คุณน้าคงไม่ใช่ญาติผู้น้องของน้าเซียใช่ไหม ครับ”

เฉินเกอถามลองเชิง
“น้า…น้าใช่”

หญิงวัยกลางคนรีบเช็ดน้ำตาตัวเอง แล้วปรับอารมณ์ตัวเอง ให้เป็นปกติ แต่ไม่ว่ายังไงก็ปิดบังไว้ไม่อยู่

“หยกชิ้นนี้สลักชื่อเมิ่งชินไว้ เป็นชื่อของคุณน้านะครับ คุณน้า ก็คือฟางเมิ่งซินใช่ไหมครับ” เฉินเกอถามออกไปตรงๆ

“ฟาง…. หางเมืองขึ้นคือใคร ถ้าไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินชื่อนี้ มาก่อนด้วย พ่อหนุ่มทักผิดคนแล้วล่ะ”หญิงวัยกลางคนรับสาย หน้าปฏิเสธ

“น้าเป็นแค่ชาวไร่ชาวนาธรรมดา ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เล็ก จนโต พ่อหนุ่มทักคนผิดแล้วล่ะ”

“ผมไม่มีทางทักผิดคนแน่นอนครับ เพราะเฉียงเวยกับคุณน้า

หน้าตาเหมือนกันมาก เหมือนแกะสลักมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน”

เฉินเกอรู้สึกตื่นเต้นมาก

จะว่าไปแล้ว ที่เขาอุตส่าห์เดินทางด้วยความยากลำบากมาถึง เมืองชวนก็เพื่ออะไร ถ้าไม่ใช่เพราะมาตามหาหางเมิ่งขึ้น

แต่เฉินเกอเองก็รู้ ว่าสถานการณ์แบบนี้ จะหาฟางเพิ่งซินเจอ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมีผู้มีอิทธิพลเข้ามาขัดขวาง

เบาะแสที่เขามีอยู่ ก็ตกไปอยู่ในมือของตระกูลฟางแล้ว เฉินเกอกำลังปวดหัวอยู่เลยว่าจะทำยังไงต่อไปดี แต่ตอนนี้ กลับมีหญิงวัยกลางคนที่หน้าตาเหมือนกับเฉียงเวยมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าเขา และพอเห็นหยกชิ้นนี้ก็มีอาการตื่น เต้นมาก ยังจะต้องอธิบายอะไรอีก

“พ่อหนุ่มบอกว่าเธอชื่อเฉียงเวย และหน้าตาเหมือนน้ามาก อย่างนั้นเหรอ” หญิงวัยกลางคนถามด้วยท่าทางตื่นเต้น

“ใช่ครับ ยกชิ้นนี้เธอเป็นคนเอาให้ผมเอง เธอใฝ่ฝันว่าจะ ต้องหาแม่ของตัวเองให้เจอ หลายปีมานี้ เธออยู่ตัวคนเดียวมา โดยตลอด มีชีวิตที่ลำบากมาก ใช้ชีวิตอยู่ที่สถานรับเลี้ยงเด็ก กําพร้ามาตั้งแต่เล็กจนโต”เฉินเกอพูด

หญิงวัยกลางคนน้ำตาไหลออกมาทันที เธอร้องไห้ไปด้วย และ ทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้อย่างหมดแรง

“คุณน้ายังไม่ยอมรับอีกเหรอครับ ว่าคุณน้าก็คือฟางเพิ่งซิน”

เฉินเกอถาม

และสุดท้าย หญิงวัยกลางคนก็ปิดหน้าแล้วพยักหน้ารับ “เป็น น้าเอง”

หลังจากนั้น เธอก็รีบลุกขึ้นยืน ก่อนจะจับแขนของเฉินเกอไว้ “น้าขอร้อง ให้น้าเจอกับเฉียงเวยหน่อยได้ไหม ไม่ว่าพ่อหนุ่มจะ เป็นคนของฝั่งไหน น้าก็ตกลงจะไปกับพ่อหนุ่ม ขอแค่ให้น้าได้ เจอกับเฉียงเวยสักครั้ง”ฟางเมิ่งซินพูดเสียงสะอื้น

ก้อนหินที่ทับอยู่บนอกของเฉินเกอหายไปได้สักที

ในที่สุดเขาก็หาฟางเพิ่งซินเจอ

“คุณน้าครับ คุณน้าวางใจได้ เฉียงเวยจะต้องอยากเจอคุณน้ามากแน่ๆ ครั้งนี้ผมพาเธอมาที่เมืองชวนกับผมด้วย

พูดจริงๆ ตอนนี้เฉินเกอเองก็ดีใจมาก

ภารกิจของตัวเองสำเร็จแล้ว ที่สำคัญ เขาหาแม่ของเฉียงเวย เจอแล้ว

“เฉียงเวยมาด้วยเหรอ แล้วตอนนี้เธออยู่ที่ไหน”ฟางเมิ่งชิน กาม

“อยู่ที่บ้านพักของผมครับ ผมให้เธอรอฟังข่าวจากผม”ตั้งแต่ เฉินเกอเจอหน้าฟางเพิ่งซินครั้งแรก เขาก็รู้สึกใกล้ชิดกับเธอมาก จึงถามออกไป “แต่ว่าคุณน้าครับ ผมได้ยินมาว่าเมื่อก่อนคุณน้า มีชื่อเสียงเรื่องความสวยมาก หลังจากนั้น เกิดอะไรขึ้นกับคุณน้า หรือเปล่าครับ”

ฟางเมิ่งซินลูบหน้าของตัวเอง “คุณหมายถึงใบหน้าของน้าใช่ ไหม”

เฉินเกอพยักหน้า

“น้าเป็นคนทําให้เสียโฉมเอง คุณคงจะรู้ว่ามีคนตามหาตัวน้า เยอะมาก เพื่อหลบซ่อนตัวเอง น้าจึงต้องทำแบบนี้

“เมื่อยี่สิบปีก่อน น้าทำลายใบหน้าของน้าให้เสียโฉมด้วยมือ ของน้าเอง หลังจากนั้นก็มาใช้ชีวิตอยู่ที่หมู่บ้านชิงด้วยแห่งนี้ ฉัน กับพี่เซียร่วมมือกัน ขอแค่มีคนมาถามพี่เซีย พี่เซียก็จะใช้วิธีนี้ใน การจัดการ เหอะๆ คงไม่มีใครคิดได้ว่าผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา ที่หน้าตาอัปลักษณ์ ที่จริงแล้วจะเป็นฟางเมิ่งชินที่พวกเขาตามหา”

“ถ้าหากน้าไม่เห็นหยกที่คุณทำตกไว้ คุณเองก็คงจะคิดไม่ถึง เหมือนกันใช่ไหม” ฟางเมิ่งชินถาม

“ใช่ครับ ผมเองก็คิดไม่ถึงเหมือนกัน”

“เดิมที ตอนที่เห็นคุณกับผู้หญิงคนนั้นเดินเข้ามา น้าก็เกือบจะ ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้ว เธอคือเงี่ยนนั้นใช่ไหม เธอเป็น ลูกสาวของพี่ชายน้าใช่ไหม ตอนเธอยังเด็ก น้าเคยอุ้มเธอ เมื่อ ตะกี้ น้าเกือบจะควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ต่อหน้าเธอ เพราะน้า ไม่อยากเจอหน้าคนตระกูลฟางอีกแม้แต่คนเดียว…. จนหน้าได้ เห็นหยกที่น้าทิ้งไว้ให้ลูกสาว น้าถึงได้เสียการควบคุมตัวเอง ลูกสาวของน้า น้าคิดถึงเธออยู่ทุกวัน คิดถึงจนแทบขาดใจ

“น้าเคยเคียดแค้นความไม่เป็นธรรมของสวรรค์อยู่ทุกวัน แต่ ตอนนี้ น้ารู้สึกขอบคุณสวรรค์มาก ลูกสาวของน้ายังมีชีวิตอยู่ และยังกลับมาอยู่ข้างกายน้าแล้ว”ฟางเพิ่งซินพูดเสียงสะอื้น อารมณ์ความรู้สึกแบบนี้ เฉินเกอเข้าใจมันดี

“จริงสิพ่อหนุ่ม คุณชื่ออะไร เมื่อตะกี้น้าได้ยินฟางหยีเรียกคุณ ว่าเฉินเกอ คุณคือคนของตระกูลเฉินแห่งเมืองหนานหยาง ใช้ ไหม”ฟางเมิงซินถาม

“ผม…”

เฉินเกอคิดไม่ถึงว่าฟางเพิ่งซินจะเดาเรื่องราวได้เยอะถึงขนาด นี้ จึงลังเลใจไม่รู้ว่าจะพูดยังไงออกไป
“ใช่สินะ น้ารู้ เฮลิคอปเตอร์พวกนั้นคุณเป็นคนเรียกมา เพราะ นี่เป็นทีมบอดี้การ์ดที่มีแค่ตระกูลเฉินที่ทำได้ คุณเป็นรุ่นที่เท่าไหร่ รู้จักคนที่ชื่อว่าเป็นผิงอันไหม”

ฟางเมิ่งชินยิงคำถามออกมารัวๆ

เฉินเกอยอมแพ้แล้ว ดูเหมือนอยู่ต่อหน้าเธอตัวเองจะไม่มี ความลับอะไรปกปิดเธอได้เลย

เขารีบตอบ “ผมเองก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นรุ่นที่เท่าไหร่ และไม่เคย ได้ยินคนที่ชื่อว่าเฉินผิงอันด้วย ผมรู้แค่ว่า ในตระกูลเฉินมีคน อยากจะเจอคุณน้า หลังจากที่ผมให้คุณน้าเจอกับเฉียงเวยแล้ว คุณน้าต้องไปกับผมสักครั้ง มีผมแค่ข้อเรียกร้องนี้เท่านั้นครับ

“เหอะๆ คุณเป็นคนของตระกูลเฉิน น้าเข้าใจแล้ว เฉินเกอ หลังจากที่น้าได้เจอกับลูกสาวแล้ว น้าจะไปกับคุณ บุญคุณความ แค้นพวกนี้ เกิดขึ้นเพราะพวกน้า ตอนนี้ก็ควรจะไปเคลียร์ให้จบ ได้แล้ว”

ฟางเมิ่งซินลูบศรีษะของเฉินเกอ เหมือนกำลังลูบศรีษะลูกของ

ตัวเอง

ก่อนจะพูดต่อ “แต่ว่าเฉินเกอ น้าเองก็มีข้อแม้หนึ่งข้อแม้ น้า ไม่รู้ว่าคุณกับหลานสาวของน้ามีความสัมพันธ์อะไรกัน แต่น้าขอ ให้คุณรับปากน้า ฐานะของน้า คุณห้ามเอาไปบอกใครเด็ดขาด โดยเฉพาะตระกูลฟาง ได้ไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ