บทที่ 341 ความยากลำบาก
“มู่หาน นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
หัวหน้าโห เห็นคนจํานวนมาก ส่งเสียงเอะอะ ถึงแม้ว่าเขาจะ ชื่นชมซูมู่หานมาก แต่ก็จัดการทุกอย่างอย่างยุติธรรม
“เซียวหยุน เธอบอกหัวหน้าโห!”
หยางหัวลี่ ลากหลีเซียวหยุน ที่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาข้างหน้า หลีเชียวหยุน อึกอักไม่อยากพูด
มู่หานปกติแล้วนั้นดีกับทุกคน หลีเซียวหยุน กับซูมู่หานเองก็มี ความสัมพันธ์ที่ดี
อันที่จริงเมื่อแหวนของเธอเพิ่งหายไป เธอโกรธมากและเธอจะ
โทรแจ้งตำรวจเพื่อจับคนที่ขโมยของไป
แต่หลังจากรู้ว่าคือ มหานนั้น หลีเชียวหยุน ก็ไม่พูดอะไร ตอนนี้เพื่อเห็นแก่หน้าของซูมู่หานจึงไม่อยากพูดอะไรมาก คิด เพียงอยากให้เรื่องใหญ่เล็กลง เล็กลงจนหายไป
“เชียวหยุน พูด !”
หัวหน้าโห ขมวดคิ้วแล้วพูด
ดังนั้นหลีเซียวหยุน จึงบอกสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้
ยิ่งกว่านั้นนะ ยังมีพยานอีกมากมาย
ครั้งนี้ หัวหน้าโห่ ต้องลำบากใจ
พูดตามจริง หัวหน้าโห่ จะต้องไม่เชื่อแน่
แต่ว่าถ้าหากตัวเองไม่แสดงท่าทีออกมาแล้วเอาหูไปนาเอาตา ไปไร่ปล่อยผ่าน หยางหัวลี่ นั้นก็เป็นพวกที่จัดการได้ยาก ไม่แน่ ว่าอาจจะโวยวายหาเรื่องและแจ้งความ
ยิ่งกว่านั้น วันนี้ หยางหัว มีกลุ่มเพื่อนจากมหาวิทยาลัยมา เป็นกองหนุน เห็นได้ชัดว่าคงไม่ปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ
“มู่หาน เรื่องนี้ฉันคงจนปัญญา ถ้าหากว่าเป็นแบบนี้ล่ะก็ ฉัน
ให้โควตานี้แก่คุณไม่ได้
หัวหน้าโห์ พูด
“ให้ไม่ได้หรอก!”
หยางหัวลี่ กอดอกแล้วพูด
และ หม่าหนาน ที่ยืนอยู่ตรงมุมนั้นมองไปที่ซูมู่หาน ในขณะนี้ และคิดจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ในไม่ช้าก็ได้ถูก หยางหัว มอง ในเชิงปรามเอาไว้
ตอนนี้ตัวเองก๋าหมัดแน่นจากนั้นลดศีรษะลงอย่างช่วยไม่ได้ ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอับอาย
ซูมู่หานแก้ตัวลำบากแล้ว ไม่มีทางเลือก เธอทำได้เพียงเฝ้าดู โอกาสนี้ถูกคนอื่นแย่งไป
ซูมหานไม่สามารถทำได้ คนที่อยู่ตรงนี้ไม่มีใครกล้าต่อกรกับหยางหัวลี่ อยู่แล้ว
“มู่หาน!”
ซูเหมิงเหมิง พวกเธอเดินเข้ามา
“ไม่มีอะไร เหมิงเหมิง ฉันไม่เป็นไร ฉันไปห้องน้ำก่อนนะ!
ซูมู่หานพูดจบแล้วก็หันหลังเดินออกไป
หลังจากซูมหานล้างมือและกำลังจะออกจากห้องน้ำนั้น หยางหัวลี กลับพาพรรคพวกของเธอเข้ามาขวางทางมหาน
“เธอจะทําอะไร? ตอนนี้เธอยังไม่พอใจอีกรึไง?”
ซูมหานถาม หยางหัว ด้วยสีหน้าเย็นชา
“หึ ๆ ฉันไม่พอใจอยู่แล้ว ฉันรู้ว่าคนพวกนั้นมองฉันยังไง ไม่ แน่อาจจะเข้าใจว่าฉันจงใจใส่ร้ายเธอก็ได้ แต่ก็ช่างมันเถอะ ตอนนี้โอกาสอยู่ในมือฉันแล้ว เธอแพ้ฉันแล้ว แต่ฉันยังไม่ พอใจ!”
หยางหัวลี พูดพร้อมดวงตาแดงก่ำ
ใช่แล้ว ตั้งแต่เล็กจนโต หยางหัว มักจะอยู่อันดับต้นเสมอ ไม่ว่าจะเดินไปไหนหรืออยู่ในกลุ่มใด เธอจะต้องเด่นที่สุด เป็นเจ๊
ใหญ่
ใคร ๆ ก็ต้องเรียกเธอว่าพี่
คิดว่าเลียนแบบละครทีวี มีการแสดงที่ยอดเยี่ยมแล้ว คิดว่า ตัวเองสมควรได้รับตำแหน่งเจ๊ใหญ่แล้ว? อย่างไรก็ตามในทุกด้านของตัวเองจะต้องโดนซูมทานชิงดีชิง เด่นตลอด
ยิ่งกว่านั้น ซูมหานยังชอบทำตัวเสแสร้งจนทุกคนชื่นชอบเธอ สนับสนุนเธอ
ไม่เว้นแม้แต่ หม่าหนาน ผู้ยากไร้
หรือว่าจะเป็นพวกมีเงิน แม้แต่แฟนของ หลี่เซียวหยุน ที่มี ฐานะร่ำรวยมาก ก็ยังดีกับซูมหาน
ต้องเข้าใจว่า ในอดีตนั้น หลีเชียวหยุน เป็นเพื่อนสนิท มหาวิทยาลัยเดียวกันกับตน
แต่กลับกลายเป็นว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับซูมหาน
คุณคิดว่า หยางหัวลี่ จะมองไม่ออกเหรอ? ถ้าหากว่าเป็นคน อื่นแม้ว่าตัวเธอจะขโมยของมีค่าพอ ๆ กับของหลี่เซียวหยุน เธอ ไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ คงจะต้องฉีกหน้าไปแล้ว
แต่พอเป็นซูมู่หานล่ะ กลับไม่สืบสาวหาความ ยิ่งกว่านั้นยัง เกลี้ยกล่อมให้ตัวเองอย่างประกาศเรื่องนี้ออกไป ห้ามไม่ให้ม หานได้รับผลกระทบที่ไม่ดี
ทำไม!
ทําไม!!!!
ทำไมทุกคนจะต้องชอบซูมหานด้วย
“ทำไมเธอถึงไม่พอใจ ฉันไม่มีทางชนะเธอ!
ซูมู่หานพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ก็ฉันไม่พอใจ ฉันไม่พอใจทำไมทุกคนถึงชอบเธอแต่เกลียด ฉัน ตอนนี้ทุกคนรู้ว่าเธอคือขี้ขโมย แต่คนอื่นพูดถึงเธอว่ายังไง คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ? เขาบอกว่าฉันใส่ร้ายเธอ!”
“ฉันไม่อยากฟังเรื่องพวกนี้ ฉันเชื่อว่าสุดท้ายน้ำลดตอผุด เอง!”
พูดจบ ซูมู่หานหันหลังแล้วคิดจะออกไป
“เธอยืนอยู่ตรงนั้นแหละ จนถึงตอนนี้ฉันคือเจ๊ใหญ่ เธอยังคิด จะมองข้ามฉันเหรอ!”
หยางหัวลี่ ดึงซูมู่หานกลับมา
“เพียะ!”
ทันใดนั้นเธอยกมือขึ้นตบหน้ามหาน
“จะบอกเธอให้นะฉันอยากสั่งสอนเธอมานานแล้วแต่ทุกคน ดันถือหางเธอ ปกติฉันต้องอดทน แต่ตอนนี้ ฉันไม่จำเป็นต้องทน แล้ว ในละแวกนี้ทุกคนต้องก้มหัวให้ฉัน แล้วเธอล่ะมีอะไร!”
หยางหัวง้างมือและคิดจะลงมืออีก
“หยุดนะ หยางหัวลี่ เธอคิดจะทําอะไร?”
ในเวลานี้เองที่ผู้หญิงคนนี้วิ่งเข้ามา
หนึ่งในนั้นมีทั้ง หลีเขียวหยุน และเพื่อนฝั่งของมหาน หลีเซียวหยุน ร้องตะโกนขึ้น เมื่อครู่เห็น หยางหัว พาเพื่อนเข้ามาก็เริ่มรู้สึกว่ามันผิดปกติ
“เธอมีสิทธิ์อะไรไปตบซูมู่หาน?”
หลีเซียวหยุน พูด
“ฉันตบแล้วจะทำไม? จะทำไม? ? ? ตอนนี้ฉันคือเจ๊ใหญ่ ฉัน เห็นเธอแล้วขัดหูขัดตา ก็เลยสั่งสอน!”
หยางหัวลี ตะโกน หลังตะโกน เธอก็ชี้ไปที่ซูมู่หานแล้วพูด “ต่อไปอยู่ที่นี่ ก็จริงใจ หน่อย!”
“มู่หาน เธอไม่เป็นไรนะ?”
ซูเหมิงเหมิง พูดด้วยความกังวลใจ
“ฉันไม่เป็นไร”
“แม่ง หยางหัวลี่ นี่เกินไปมากเลย เดิมทีผู้ช่วย ควรจะให้เธอ แต่ตอนนี้เธอให้คนจัดการเอาเธอไปรับแขกที่หน้าประตูแล้ว เธอ ร้ายกาจมากไปแล้ว ทนไม่ไหวแล้ว พวกเราไปตบเธอสักทีไหม!”
ซูเหมิงเหมิง พูดด้วยความกระฟัดกระเฟียด
“อย่า พวกเธออย่าไปหาเรื่องเธอเพื่อฉันเด็ดขาดนะ ไม่อย่าง นั้นจะอยู่ที่นี่อย่างลำบาก ไม่มีทางเลือกเธอเป็นใหญ่นี่
ซูมู่หานกล่าวอย่างซาบซึ้ง
ไปรับแขกก็ไปรับแขกสิ
ซูมหานไม่อยากจะให้เหมิงเหมิง กับเพื่อน ๆ มีปัญหา
“มู่หาน พวกเราไปต้อนรับแขกกัน ตอนนี้มีแขกกระเป๋าหนัก เยอะเลย พวกเราไปกันเถอะ…
ในตอนนี้ หม่าหนาน เดินเข้ามาและมองซูมู่หาน เธอกระซิบ เสียงเบามาก
“หึ เป็นลูกไล่คนอื่นก็ไม่เห็นจะได้ที่นี่!
ซูเหมิงเหมิง พูดประชด
ทุกคนมองไปที่หม่าหนาน อย่างดูถูกจากนั้นพวกเขาก็ออกไป
ทํางาน
ซูมู่หานก็หันไปมอง หม่าหนาน แล้วพูดขึ้น “พวกเราไปกัน เถอะ!”
เมื่อไปถึงที่หน้าประตูเหนือจัตุรัส ใหญ่มีผู้คนจำนวนมากอยู่ แล้ว มีลูกค้าระดับเจ้าบิ๊กเข้ามาไม่น้อย
การต้อนรับลูกค้า พูดจริง ๆ แล้วจะต้องยืนอยู่ด้านนอกตลอด เวลา
ไม่เหมือน หยางหัว ในเวลานี้ ที่ได้พบปะกับบุคคลที่มีชื่อเสียงตลอด
“มหาน ฉะ…ฉันขอโทษนะ!”
หม่าหนาน มองดูแก้มที่ยังแดงอยู่เล็กน้อยของซูมู่หานหลัง จากที่โดนตบ
เธอร้องไห้และพูดไปด้วย
ใช่แล้ว ต้องแต่จากบ้านมาเรียนหนังสือ ใครที่ดีกับเธอที่สุด ล่ะก็ต้องเป็นซูมู่หานอยู่แล้ว บางครั้งเธอมีเงินไม่พอก็มีซูมู่หาน คอยช่วย
แต่ตอนนี้ตัวเองกลับทำให้เธอต้องโดนทำร้ายขนาดนี้ หม่า หนาน จึงไม่อาจจะทนอยู่ได้
“มู่หาน ฉันถูกบังคับ ฉันกำลังลำบาก…
หม่าหนาน ร่ำไห้
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ