ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 243 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว



บทที่ 243 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว

แม่งเอ๊ย ทำไมพวกเขากินดีขนาดนี้?

หลิวเยอตกใจไปชั่วขณะ

รอยยิ้มจอมปลอมบนใบหน้าได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย “ ไม่มีเงินแล้วยังมาอวดรวยอะไรอีก กินอาหารที่ดีแบบนี้ เพื่ออะไรหรอ?”

หลิวเยอพูดอย่างเยาะเย้ย

หญิงสาวอีกสองคนที่รู้สึกเสียหน้า ก็เยาะเย้ยตาม

เพียงแต่ว่า คนอย่างเฉินเกอก็กินดีจริงอะ แค่สองคนก็สั่งแพง ขนาดนี้ แต่โต๊ะของพวกเขา มีทั้งสี่คนสั่งแค่จานเล็ก

ดังนั้นตอนที่บริกรมาเสิร์ฟอาหาร อดไม่ได้ที่จะเหลือบมอง พวกเขาแวบหนึ่ง

ภายใต้การห้ามปรามของซูเฉียงเวย เฉินเกอก็เลยไม่ถือสา พวกเขา

ก็เลยกินไปคุยไป

พอกินเสร็จ ถึงได้รู้ว่าพวกหลิวเขาที่นั่งอยู่โต๊ะข้างๆได้ออกไป แล้ว เห็นได้ชัดว่าทนต่อความเปรียบเทียบนี้ไม่ได้ รีบกินแล้วรีบ จากไป
“พวกเราก็ไปกันเถอะ!!

เฉินเกอลูบพุงของเขา

จากนั้นก็พาซูเฉียงเวยเดินออกไป

“เอ่อ เฉียงเวย เสื้อผ้าที่ฉันซื้อให้เธอก่อนหน้านี้ละ? ทำไมเธอ ถึงไม่ใส่?”

เฉินเกอยิ้มและมองไปที่ซูเฉียงเวย

เมื่อก่อน เขาซื้อเสื้อผ้าให้ซูเฉียงเวยไปไม่น้อย

ซูเฉียงเวยอายจนก้มหน้าลง: “ฉันอายที่จะใส่เสื้อผ้าดีๆแบบ

นั้น!”

เฉินเกอยิ้มๆ

เหมือนตัวเองไม่มีผิด ตัวเองนั้น เมื่อก่อนจน รู้สึกว่าเสื้อผ้าขอ

เพียงแค่สะอาดก็พอแล้ว

ตอนนี้นั้น ที่เฉินเกอแต่งตัวธรรมดา เพราะเงินเกอไม่อยากที่

จะเป็นจุดสนใจ

แต่ว่าหากเทียบกันแล้ว เฉียงเวย ช่างไม่รักตัวเองเลย

“กลัวอะไรละ ใช่แล้ว ตรงนี้มีร้านขายเสื้อผ้าเครื่องประดับ ฉัน พาเธอไปซื้อชุดใหม่สักสองสามตัว

“อ๋? ฉันไม่ไปดีกว่า มันแพงเกินไป!”

ซูเฉียงเวยส่ายหัวอย่างรุนแรง
“ไม่เป็นไร ไปเถอะน่ะ พวกเรามีแบล็กการ์ต!”

เฉินเกอยิ้มๆ

ซูเฉียงเวยก็ถูกเฉินเกอดึงตัวเข้าไปในร้าน

“เทียนเกอฉันอยากได้เสื้อผ้าตัวนี้ มันสวยมากจริงๆ! นายดูสิ ว่าฉัน ใส่แล้วสวยมั้ย?

หลิวเชอถือเสื้อผ้าไว้ตัวหนึ่ง ถือมาเทียบอยู่บนร่างกายอย่าง เขินอาย

เพราะเสื้อผ้าตัวนี้สวยจริงๆ

คุณชายที่ชื่อเทียนเกอ พลิกดูที่ป้ายราคา เกือบจะโยนทิ้ง “แม่งเอ๊ย ชุดเดรสตัวเดียวราคาสองหมื่นกว่าหยวน ทำไมไม่ไป ปล้นละ!?

ที่รักจ๋า เปลี่ยนเป็นตัวอื่นเถอะ………..

เทียนเกอจับกระเป๋าตังค์ดูแล้ว ก็พูดเกลี้ยกล่อม “งั้นตัวนี้ละกัน ตัวนี้เป็นไงมั่ง?

หลิวเขอก็ถามอีก

แต่มองแล้ว ราคาหมื่นกว่าหยวน ยังแพงมากอยู่ดี

และเพื่อนรักทั้งสอง ได้แต่ถือกระเป๋ายืนมองอยู่ข้างๆ เพราะ พวกเธอไม่ได้มีแฟนอย่างเทียนเกอ เงินเดือนพวกเธอ ก็ไม่ สามารถมาซื้อเสื้อแบรนด์เนมพวกนี้ได้
ยืนชื่นชมอยู่ห่างๆยังพอไหว แต่ถ้าจะให้เทียนเกอซื้อให้นั้น คงจะเป็นไปไม่ได้!

หลังจากเลือกไปสิบกว่าตัวแล้ว เทียนเกอก็ยังบ่นว่าแพงอยู่ดี ยังสรุปไม่ได้เลย

ขณะที่หลิวเขอกำลังหดหูอยู่นั้น

“เฉินเกอ เสื้อผ้า ซื้อเยอะเกินไปมั้ย? ฉันใส่ไม่หมดหรอก และ มันก็แพงมากด้วย!”

ซูเฉียงเวยพูดกับเฉินเกอที่ขณะนี้กำลังถือเสื้อผ้ามากมายไว้

ในมือ

เธอมองแล้วปวดใจมาก

“แพงอะไรล่ะ ไก่งามเพราะขน คนงานเพราะแต่งนะ!”

เฉินเกอคิดในใจ เฉียงเวยไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนตัวเอง ที่

จําเป็นต้องทําตัวสมถะ

“เอ๊ ชุดเดรสตัวนี้ก็ไม่เลว และถูกด้วย เอาเลย!”

เฉินเกอก็ดูเดรสที่อยู่ข้างๆ เลือกไซส์แล้ว ก็ส่งเสื้อผ้าให้ พนักงานที่แนะนำที่กำลังยืนอึ้งกันเป็นแถวไปใส่ถุง

“แม่งเอ๊ย ซูเฉียงเวย? เธอ……..เธอบ้าไปแล้วหรอ?”

หลิวเขอแค่เห็นเขาทั้งสอง เห็นมือของทั้งสองเต็มไปด้วย

เสื้อผ้ากระเป๋า ก็อึ้งไปทันที เสื้อที่เฉินเกอถืออยู่อย่างน้อยๆก็ต้องมีสักสิบกว่าตัวมั้ง?
“โอ้มายก็อด แค่ตัวเดียวพวกเธอมีปัญญาซื้อมั้ย? ยังกล้าที่ซื้อ เยอะขนาดนี้? อวดรวยอะไร? จะถ่ายรูปอีกใช่มั้ยละ?”

เพื่อนร่วมงานทั้งสองก็พร้อมใจกันพูดเยาะเย้ย

ทําราวกับว่าได้เหยียบหางของพวกหล่อนอย่างนั้น ศักดิ์ศรี ของตัวเองถูกดูถูกอย่างรุนแรง

เฉินเกอก็ไม่ได้สนใจพวกเขา หลังจากเลือกเสร็จแล้ว ก็ไปที่ เคาน์เตอร์ชาระเงิน

และพวกเธอต่างสบตากัน แล้วเดินตามเงินเกอและซูเฉียงเว

ยมา

“คุณผู้ชายคะ เสื้อผ้ารวมกระเป๋ารวมแล้วทั้งหมดสามแสน สองหมื่นหยวน ไม่ทราบว่าคุณ?”

พูดตามตรง พนักงานแคชเชียร์ยังอึ้งเลย

ไม่ต้องเอ่ยถึงพวกหลิวเขอแล้ว ทั้งหมดต่างอ้าปากค้าง

“รูดการ์ด!”

เฉินเกอได้หยิบแบล็กการ์ดฟาดลงไปบนเคาน์เตอร์แคชเชียร์ พนักงานแคชเชียร์รีบโค้งคำนับทันที

“คุณผู้ชายคะ วันนี้คุณใช้จ่ายไปเยอะขนาดนี้ ทางร้านเรา จะมี ของแถมพิเศษให้คุณเลือกเสื้อผ้าได้อีกสามตัว เชิญคุณเลือกอีก สามตัว!”

พนักงานแคชเชียร์พูดอย่างสุภาพ
“ไม่เอาไม่เอาแล้ว พวกนี้ก็ไม่เอาด้วย แพงเกินไปแล้วเฉินเกอ ฉันไม่เอาแล้ว!”

ซูเฉียงเวยส่ายหัวราวกับกลองสะบัด

“เสื้อผ้าเหล่านี้ฉันใส่ไม่หมดจริงๆ ไม่เอาจริงๆ!”

เธอตกใจมากเสียจริง

“ใส่ไม่หมดไม่เป็นไร เลือกอีกสามตัวนะ ที่โรงเรียนเธอ ครูที่มี ความสัมพันธ์ที่ดีกับเธอ เธอก็ให้พวกเขาสักตัวสองตัว ก็คือเป็น ค่าคุ้มครองเธอไง!”

เฉินเกอยิ้มเล็กน้อย

ดูก็รู้ คนที่รังแกซูเฉียงเวยที่ใสซื่อช่างเยอะเหลือเกิน และวงเงินของการ์ดใบนี้ ไม่ใช้ก็เปล่าประโยชน์ เพราะทุก เดือนมีวงเงินกำหนดไว้ให้ใช้จ่ายสามแสนหยวน

เงินนี้ใช้ไปกับซูเฉียงเวย เฉินเกอรู้สึกว่าคุ้มว่า

อาจจะเป็นความรู้สึกที่มีต่อซูเฉียงเวย ในใจกำลังสั่งการตั้ง และพวกหลิวเฃอกับเพื่อนร่วมงานหญิงสองคนที่อยู่ด้านหลัง

ได้ยินคำพูดนี้แล้วเซอร์ไพรส์มาก

โดยเฉพาะหญิงสาวสองคนนั้น

“โอ้โห เฉียงเวยแฟนเธอทำไมรวยจัง เขาชื่อเฉินเกอ ใช่ปะ ชื่อ ของคุณชายเฉินเพราะจังเลย คนก็หล่อมากด้วย!”
หญิงสาวทั้งสองรีบเข้าไปประจบสอพลอทันที ตอนนี้ใครมีกำลังซื้อยังไม่ชัดเจนอีกหรอ? “อ๋? ลี่ เหวินเหวิน ขอบคุณพวกเธอนะ เฉินเกอ

ซูเฉียงเวยอยากที่จะพูดว่าไม่ใช่แฟนของเธอ

เฉินเกอก็ได้พูดต่อจากเธอ “ฉันเป็นพี่บุญธรรมของเธอ! และ ฉันก็ไม่หล่อด้วย พวกเธอดูสิว่าฉันแต่งตัวโลว์แค่ไหน!”

“เห่อๆ คุณชายเงิน อารมณ์ขันเสียจริง!

หญิงสาวทั้งสองกระอักกระอ่วนจนต้องแลบลิ้น คิดในใจ ซี พี่ชายบุญธรรม? งั้นซูเฉียงเวยน่าจะเป็นกิ๊กของ เขาแน่เลย

เพียงแต่ตอนนี้ไม่ได้มีผลกระทบต่อความรู้สึกในใจของพวก เธอที่มีต่อซูเฉียงเวย

อย่างไรเสียเขามีเงินและมีคนก้มหัว!

“เฉียงเวย คุณชายเฉินซื้อเสื้อให้เธอเยอะอย่างนี้ และยังได้ พูดแล้ว เธอสามารถที่จะให้เพื่อนร่วมงานที่ดีกับเธอ เฉียงเวย เธอยังจำได้มั้ย ตอนที่เธอมาที่โรงเรียนวันแรก ฉันยังยิ้มให้กับ เธอเลย!”

หญิงสาวคนหนึ่งได้พูดขึ้น

“ใช่จ้า เฉียงเวย เธอไม่รู้ว่าโรงอาหารอยู่ที่ไหน ฉันเป็นคนบอกเธอไง? เธอลืมไปแล้วหรอ?”

หญิงสาวอีกคนก็พูดขึ้น

“ฉันจำได้!”

ซูเฉียงเวยพยักหน้า

“ซี ซูเฉียงเวยคิดไม่ถึงน้อ เธอยังมีพี่ชายบุญธรรมที่รวยแบบนี้ ในเมื่อเขาซื้อให้เธอแล้วเธอก็รับไว้ และฉันจะบอกเธอให้นะ ชุดเดรสตัวนี้ฉันถูกใจตั้งแต่แรกแล้ว หากเธอจะให้เพื่อนที่ ทํางาน ก็ต้องเอาตัวนี้ให้ฉันนะ!”

หลิวเขอนั้นอิจฉาจะตายอยู่แล้ว

” หลิวเยอเธอ ช่างหน้าไม่อายเลย ปกติก็เธอก็มักจะรังแก เฉียงเวยอยู่แล้ว ยังจะกล้าให้เฉียงเวยมอบของให้เธอ เธอนึกว่า ตัวเองเป็นใครหรอ?”

หญิงสาวทั้งสองพุ่งออกมาด่าหลิวเขอ

“แม่งเอ๊ย พวกเธอ?”

หลิวเขอเบ่งตากว้าง

“เอาละเฉียงเวย ในเมื่อเพื่อนร่วมงานสองคนนี้เมื่อก่อนก็เคย ดีกับเธอ งั้นเธอก็เลือกเสื้อผ้าให้พวกเขา ฉันเชื่อว่าต่อไปนี้หากมี เรื่องอะไร พวกเขาก็จะช่วยเหลือเธอได้ไปเถอะ ฉันจะส่งพวกเธอ กลับโรงเรียน!”

เฉินเกอชาเลืองมองหลิวเขอแล้วยิ้ม
“ห้า ขอบคุณคุณชายเฉิน ต่อไปนี้พวกเราจะช่วยเหลือซึ่งกัน และกัน ใช่มั้ยเฉียงเวย?”

หญิงสาวทั้งสองดีใจเป็นที่สุด

ออกจากร้านไป

ไปถึงที่จอดรถ ก่อนที่จะขึ้นรถ หญิงสาวทั้งสองตกตะลึงไปชั่ว ขณะ

“อ๊า? รถเบนซ์จิ๊บ รถคันนี้เป็นของพี่เธอหรอ? โอ้มายก็อด! หลังจากที่สั่งสอนหลิวเขอผู้หยิ่งผยองแล้ว

เย็นวันนั้น เฉินเกอได้นำหยกของซูเฉียงเวย แล้วก็จะเตรียม ตัวกลับไปอำเภอผิงอันไปหาหลี่เจิ้นถั่วเพื่อไปตรวจสอบเรื่องนี้

ยังได้ไปบอกลาฉินหยาที่อยู่โรงพยาบาล

จากนั้นก็ขับรถกลับไปอำเภอผิงอัน

แต่ว่าหลังจากเข้าไปในเมืองแล้ว ถนนสายหลักถูกปิดกั้น และ ได้ติดป้ายห้ามเข้า

ตำรวจ คนงานมากมายและหัวหน้าต่างรายล้อมอยู่ที่ตรงนี้

เฉินเกอเลื่อนกระจกลงมา เอาแว่นตากันแดดออก มองดูข้าง หน้าอย่างสงสัย ก็เลยได้ยื่นบุหรี่ ให้กับคนงานที่อยู่ข้างๆ แล้ว ถามว่าเกิดอะไรขึ้น

คนงานเหล่านั้นเห็นเฉินเกอที่มีมารยาท ก็เลยเล่าให้เขาฟัง
“น้องชาย ข้างหน้าไปไม่ได้ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ