บทที่ 210 เป็นห่วงว่าจะเกิดเรื่องกับเฉินเกอ
“อะไรนะ”
เมื่อเสียงนั้นพูดจบลง บรรยากาศภายในห้องเพลงก็เงียบสงบ ในทันใด จากนั้นสายตาทุกคู่ก็มองไปยังวันรุ่นเจ้าของเสียงพูด คนนั้น
เห็นแก่หน้านายหรอ
นายเป็นใครหรอ ทำไมต้องเห็นแก่หน้านายด้วย
และคนที่พูดนั้น ก็คือเงินเกอ
ตอนแรก เฉินเกอเองก็อยู่ข้างนอกของห้องมาตลอด เมื่อเห็น หลินตงดูหมดท่าไปแล้ว เฉินเกอเองก็ได้แต่ยืนดูละครสนุก ๆ อยู่
ข้าง ๆ
ที่จริงเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับตัวเอง
แต่ว่า เจตนาของหลิงนั้นพุ่งเล็งไปยังเจียงหรานหรานกับส ซินและผู้หญิงคนอื่น ๆ
สําหรับเลี้ยงหราหรานแล้ว หากเขาจะออกหน้ามาช่วย เหตุผลคงไม่พอ
ถึงแม้ว่าเจียงหวานหรานจะแค่เกรงใจตัวเองไปตามมารยาท เถอะ แต่เนิ่นเกอรู้ว่า ผู้หญิงคนนี้อย่างไรก็ยังมีความรู้สึกดูถูก ตัวเองอยู่
และตัวเองก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสแสร้งต่อหน้าเธอด้วย แต่ว่า มีสวีซินอยู่ที่นี่ด้วย หากเฉินกอไม่เข้ามาช่วย ก็คงจะ ทำให้เขาเองรู้สึกไม่ดี
เพราะอย่างน้อยสวนก็ปฏิบัติดีต่อตัวเองมาตั้งแต่แรก และก็ ไม่ได้ดูถูก ถากถางกันแต่อย่างใด
สวนเองคงไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่เมื่อเปรียบเทียบกันดูแล้ว เงินเกอเองก็รู้สึกซาบซึ้งและขอบคุณเธอ
ดังนั้น ในตอนนี้เลยออกมา เพื่อที่จะช่วยสวนให้ปลอดภัย จากเรื่องนี้
“เฉินเกอ นายพูดอะไรของนาย ยังไม่รีบไปอีก นายไม่เข้าใจ เหตุการณ์นี้หรอกว่ามันเกิดอะไรขึ้น
และเจียงหรานหรานก็ได้พูดขึ้นอย่างนิ่ง ๆ
เธอเองก็เมาแล้ว เจียงหวานหวานเกิดในเมืองเล็ก ๆ ไม่ว่า เรื่องอะไรเธอก็เคยประสบพบเจอมาก่อน และในสถานการณ์ อย่างนี้ เธอเองก็เข้าใจดี
อีกทั้งเจียงหวานหวานนั้นก็ได้ตัดสินใจแล้ว อย่างมากตัวเองก็ แค่เลียนแบบหลินตง ที่กระดกเหล้าลงในปาก แล้วหลังจากนั้น ตัวเองก็จะได้รีบกลับไป และคิดว่าหลิงเองคงไม่กล้าที่จะกลืน น้ำลายตัวเองหรอก
แต่คิดไม่ถึงว่า ในเวลานี้เฉินเกอจะกล้าลุกขึ้นออกมาช่วย อย่างลูกผู้ชาย เธอเองก็ไม่เข้าใจจริง ๆ
แทบอยากจะตบบบ้องหูของเฉินเกยสักสองสามที่เสียจริง “เห็นแก่หน้านายหรอ นายเป็นใคร”
หลัง ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย และคนอื่น ๆ เองก็กำลัง พิจารณาดูเฉินเกอ
เงินเกอเอามือทั้งสองข้างล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง จาก นั้นก็พูดนิ่ง ๆ ขึ้นว่า “ผู้หญิงคนนี้เป็นเพื่อนของฉัน ดังนั้น เรื่องนี้ ฉันจะยอมรับโทษแทนเธอเอง คุณชายหลิวหากคุณต้องการที่จะ ดื่มจริง ๆ เอาอย่างนี้ รอให้ฉันโทรศัพท์เสร็จ ฉันจะให้คนมาดื่ม เป็นเพื่อนคุณ
แค่อันธพาลที่คอยรีดไถคนอื่นไปวัน ๆ ไม่อยู่ในสายตาของ เฉินเกอหรอก
จากนั้นก็มองที่สวีซินแล้วก็ยิ้ม
“ไอ้เด็กนี่ เป็นวีรบุรุษคอยช่วยสาวงาม มันต้องได้รับโทษ อย่างสาสม และเมื่อครู่นี้ นายหมายถึงอะไรนะ จะให้คนมาไฟท์ กับคนอย่างหลิงหรอ ฮ่า ๆ ๆ นายเองก็ไม่ดูสภาพของตัวเอง เลยว่าเป็นอย่างไร ช่างกล้าเสียจริง
หลังพิจารณาดูเฉินเกออยู่สักพัก จากนั้นก็ได้หัวเราะดังขึ้น มา
“เฉินเกอ เรื่องนี้นายไม่ต้องเข้ามายุ่ง นายรีบปเถอะ” สวนพูดขึ้นด้วยความเป็นห่วง
จากนั้น เฉินเกือก็หันไปมองเธอด้วยสายตาที่บอกกับเธอเป็น นัย ๆ ว่าไม่ต้องเป็นห่วง และเขาก็พูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไร เธอไม่ ต้องห่วงหรอก”
เมื่อพูดจบเขาก็ได้มองที่หลังแล้วพูดต่อว่า “เอาอย่างไร คุณชายหลิว คุณจะกล้าหรือไม่กล้า อีกสักพักคนของฉันจะมาดื่ม กับคุณสักแก้วสองแก้วเป็นอย่างไรบ้าง
“ใต้ ๆ ๆ ที่อำเภอผิงอัน นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีคนกล้า ประกาศสงครามต่อหน้าขาใหญ่หลาย ๆ คนกับหลิงอย่างฉัน งั้นวันนี้เราคงต้องทำความรู้จักกันเสียหน่อยแล้ว แต่ว่าฉันจะ บอกเลยว่า อีกสักพักฉันคงไม่ปล่อยนายแน่ และนายเองจะได้รู้ ว่าผลของการทําให้หลังไม่พอใจมันจะเป็นอย่างไร หากไม่เชื่อ ก็ลองถามคนอื่น ๆ ดูนายก็จะรู้เอง ”
หลิงหัวเราะอย่างนิ่ง ๆ ราวกับว่าเป็นคนสติไม่สมประกอบยัง ไงยังงั้น
และเฉินเกอเอง ในเวลานี้เขาก็ได้ให้สวีซินกับเจียงหวานหวาน และผู้หญิงคนอื่น ๆ ออกไป
สวนมองเฉินเกอด้วยสีหน้าที่ดูกังวล ดูเป็นห่วงมาก เธอเองก็ อยากจะอยู่กับเขาที่นี่
ส่วนเจียงหรานพราน ในเวลานั้นมองดูเฉินเกอด้วยสายตาที่ กำลังมองไอ้โง่คนหนึ่ง
หลิงเองก็ไม่ได้ห้ามพวกเธอเอาไว้แต่อย่างใด เพราะว่าเขา เองก็รู้ว่า เรื่องนี้คงไม่จบลงง่าย ๆ แน่ พอถึงเวลาค่อยตามหาผู้หญิงเหล่านี้กลับคืนมาก็ได้ คงไม่ใช่ให้พวกเธอดื่มแค่เหล้าขาว ง่าย ๆ แค่ขวดเดียวหรอก
ครั้นแล้ว เฉินเทอก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดโทรออก จากนั้นเขาก็ได้โทรหาเทียนหลง ตี้หู่และพรรคพวก
“เรียกมาเลย มีเท่าไรก็เรียกมาให้หมด ฮ่า ๆ ๆ
เมื่อเงินเกอโทรศัพท์เสร็จ ก็มองยังหลังอย่างนิ่ง ๆ แบบมี เลศนัย
ส่วนเฉินเกอนั้น เพราะว่าอยู่ต่อหน้าคนรู้จักมากมาย เลยไม่ กล้าที่จะแสดงตัว จึงได้แต่แสร้งทำเป็นคนที่ถ่อมตน ก็เหมือนกับ วันนี้ในตอนที่อยู่ที่บ้านของเจียงเวียดงนั่นแหละ เพราะว่าเขาเป็น เพื่อนของคุณพ่อ
ซึ่งเฉินเกอเองก็ไม่ใช่ว่าเกิดในครอบครัวของผู้ลากมาก ดัง
นั้น เรื่องเหล่านี้ถ้าเขาอดได้ก็อดไปก่อน เพราะหากเงินเกอไม่อยากไว้หน้าพวกเขา แค่ยกมือขึ้นเบา ๆ หน้าพวกก็แหกแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องนิดเดียวสำหรับเงินเกอ
แต่ว่าครั้งนี้ที่หลังทำนั้น มันเกินไป คล้าย ๆ กับครั้งก่อนที่ส เว้ยแห่งบริษัทไห่ซาน กรุ๊ป ได้ทำกับตัวเอง เมื่อเขาเจอเข้ากับ สถานการณ์เดียวกัน เฉินเกอเองก็ไม่ยอมคงเหมือนกัน
ผ่านไปไม่นาน
ก็ได้ยินเสียงของเบรกรถดังขึ้น ก็เห็นที่ประตูของร้าน KTV มีรถหรูจํานวนหลายคันมาจอดเรียงรายไว้
เห็นกลุ่มบอดี้การ์ดชุด จำนวนมากลงมา และสองคนที่อยู่ หน้าสุดก็คือ เทียนหลงและหู
ทั้งสองคนนั้นตอนนี้เป็นผู้พิทักษ์ของเฉินเทอก็ว่าได้ และเป็น ถึงบอดี้การ์ดที่คอยติดตามอีกด้วย
ไม่ว่าเฉินเกอจะอยู่ที่ไหน พวกเขาก็จะปรากฏตัวที่นั่น พร้อมที่ จะเข้าไปช่วยเหลืออยู่ตลอดเวลา
“คุณชายเงินอยู่ข้างใน บุกเข้าไป
เทียนหลงและหูโบกมือกวักเรียกเป็นสัญญาณ ให้บุกเข้าไป ใน KTV
ในเวลานี้ บรรยากาศในห้องเพลง
หลิงเองเวลานี้ในมือกำลังถือแก้วเหล้า และกำลังเล่น โทรศัพท์มือถืออยู่ จากนั้นเขาก็มองดูนาฬิกาข้อมือ แล้วพูดขึ้น ว่า “ไอ้หนุ่ม ตอนนี้ผ่านไปแล้วห้านาที ยังไม่เห็นมีโทรศัพท์โทร กลับมาเลย นายหลอกฉันหรือเปล่า”
พอพูดไม่ทันไร
ก็ได้ยินเสียงกระจกแตก ประตูของห้องเพลงถูกถีบออกอย่าง
แรง
และก็มีคนจำนวนมากบุกเข้ามา
ขาใหญ่ในห้องเพลงหลาย ๆ คนก็สัมผัสได้ จากนั้นก็คิดที่จะสู้
แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ก็โดนบอดี้การ์ดชุดเหล่านั้นจัดการ จนหมอบกับฟันเสียก่อน
พวกเขาลงมือเร็วมาก เร็วอย่างกับเสือตะครุบเหยี่ย
“พวกแกเป็นใคร”
พลิงลีตะลึง
เมื่อเห็นฝีมือและความดุเดือดเลือดเย็นของคนเหล่านี้ หลัง เองก็รู้ว่าคงไม่ใช่คนธรรมดา ๆ แน่ ๆ
“คุณชายเงิน ใชไอ้หมอนี้ไหม”
เทียนหลงและเดินเข้าไปหาเงินเกอ พูดกระซิบเบา ๆ
“ใช่ ๆ สั่งสอนสักหน่อยสิ”
เงินเกอพยักหน้าเบา ๆ
“เซีย แม่ง พวกแกซ่าหรอ พวกแกรู้ไหมว่าที่นี่ถิ่นของใคร ชายวัยกลางคนที่ชื่อหลงเอ๋ พูดขึ้นด้วยความโมโห
ถึงแม้ว่าหน้าตาจะดูเหี้ยมโหด แต่ว่าบนหน้าผากนั้น กลับมี เม็ดเหงื่อออกมาเต็มไปหมดแล้ว
ในใจคิดว่าครั้งนี้เจอกับของแข็งเข้าเสียแล้ว
“นี่คือถิ่นของพี่ต้าเฟย รอให้ตาเฟยมาก่อน พวกแกอย่าหวัง เลยว่าจะได้เดินออกไปกันดี ๆ
หลิงลี้เองก็พูดขึ้น
“พี พี่หง) รีบโทรหาพี่ต้าเฟยหน่อยสิ”
จากนั้น เขาก็ส่งสัญญาณผ่านสายตาให้กับพี่ พี่หง)
พี่ พี่หง) พยักหน้ารับ “อืม ฉันส่งข้อความให้เขาแล้ว ตอนนี้พี่ ตาเฟยกำลังนำคนมา พอพวกเขามาถึง คงจะได้ดูอะไรสนุก ๆ
และอีกฝั่ง
“หลินตง นายจอดรถสี ฉันจะลงไป”
หลินตงและพวกเขาต่างก็รีบขับรถกลับไปด้วยอาการที่เหนื่อย
แต่เมื่อถึงครึ่งทาง สวีซินก็รู้สึกไม่ค่อยดีเข้า จึงอยากจะลงรถ
ไป
“เป็นอะไรหรอสวีซิน”
เจียงหวาน รานถามขึ้น
“ไม่ได้ ๆ ฉันเป็นห่วงเฉินเกอที่อยู่ที่นั่นคนเดียว หลัง เป็นใคร พวกเราต่างรู้กันดี เขาคงจะทำร้ายเงินเกอจริง ๆ แน่
เมื่อสวนคิดได้ดังนั้น จึงรู้สึกเป็นห่วงแทบจะร้องไห้ออกมา
“อืม เธอจะเป็นห่วงเขาทำไม ใครอยากจะให้เขาเป็นวีรบุรุษ เข้าไปเองล่ะ สมควรแล้ว
เจียงหรานหรานพูดขึ้นด้วยอาการดูถูก ตอนนี้เธอรู้แล้วว่า เฉินเกอกับหลินตงนั้นเปรียบเทียบกันไม่ได้จริง ๆ
คนหนึ่งเป็นเหมือนกับไอ้โง่ และอีกคนเป็นดั่งสามีที่มีความ
พลิกแพลงได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะหลินดงที่เมื่อครู่ ทําให้ทุกคนดูเป็นตัวอย่าง ใน การกระดกเหล้าขาวขวดเดียวหมดในเวลาอันสั้น และก็ทําเอา
เจียงทรานทรานเองรู้สึกประทับใจมาก
ผู้ชาย ก็มีแค่นี้แหละ
แต่เมื่อคิดถึงเฉินเกอ เจียงหวานหรานเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากส่ายหน้า
“ใช่แล้วสวน อีกอย่างพวกเธอสองคนก็ไม่ได้สนิทกัน เขาจะ เป็นจะตายแล้วมันจะเกี่ยวอะไรกับพวกเรา เธอดูสิ แม้แต่หวาน หรานยังไม่สนใจเขาเลย เขี่ย อย่าบอกฉันนะว่าเธอ สวนเธอ ชอบไอ้คนจนกระจอก ๆ คนนั้นหรอ”
หลินตงทั้งขับรถไป และก็ได้ถามขึ้น
“พวกเธอจะคิดอย่างไรก็คิดไป แต่ว่าฉันว่า หากวันนี้ไม่มีเงิน เกอ พวกเธอทุกคนคงไม่ได้ออกมาง่าย ๆ อย่างนี้หรอก นาย หยุดรถสี ฉันอยากจะกลับไปดูเขาหน่อย
ในตอนนั้นสนใจร้อนแทบทดไม่ได้แล้ว จากนั้นหลินตงก็ได้ หยุดรถ
สวีซีนเองก็ได้วิ่งย้อนกลับไปยังทางเดิม
“สวีซินเธอกลับมาเดี๋ยวนี้
เจียงหวานทรานเองก็รีบร้องเรียกตามไป “หลินตง นายว่าควร จะทําอย่างไร หากเกิดเหตุร้ายกับสวีซิน แล้วจะบอก ของเธอ อย่างไรล่ะ
“เออ ฉันว่าเอาอย่างนี้ไหม พวกเราก็กลับรถไปดู “อะไรนะ พี่ตงหรือว่าพี่เองก็อยากจะไปช่วยเงินเกอหรือ
“เซีย ฉันจะช่วยเขาทำไมกันล่ะ ฉันกลัวจะเกิดเรื่องกับสวน ต่างหาก หากพวกเรากลับไป ก็บอกให้สวซินดูสถานการณ์อยู่ ไกล ๆ ได้นี่ แบบนี้ พวกเราเองก็จะได้รู้ความเคลื่อนไหวแล้ว
หลินตงอธิบายขึ้น
และทุกคนต่างก็เห็นด้วย จากนั้นรถทั้งสองคันก็ได้รับกลับ
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ