ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 102 ความโกรธของเฉินเกอ



ไม่นานเฉินเกอก็กลับมาถึงมหาวิทยาลัย พอมาถึงเขาก็เดินตรงไปทางห้องเรียนของ สาขาตัวเองทันที

แต่เพิ่งจะเดินไปถึงประตูทางตะวันตก ก็พบ ว่าทางนี้มีผู้คนที่ล้อมรอบอยู่เต็มไปหมด

มีนักศึกษาจากทุกสาขายืนอยู่ที่นั่น จน แทบจะขวางถนนไว้หมดแล้ว

เมื่อเฉินเกอเห็นว่าหยางฮุยพวกเขากำลัง ยืนอยู่กลางฝูงชน เฉินเกอจึงเบียดผู้คนเดิน เข้าไปหาเขา

และตอนนี้เองเขาถึงได้เห็นต้นเหตุของ เรื่องนี้

เพราะว่าตอนนี้ตรงประตูฝั่งตะวันตกมีผู้ หญิงคนหนึ่ง ถือป้ายไว้ในมือด้วยความรู้สึก คําต้อย

เธอก้มหน้าไว้

แต่แค่เฉินเกอมองเขาก็ดูออกว่าเป็นใคร ถ้า ไม่ใช่เอาหลานลันแล้วจะเป็นใครไปได้อีกล่ะ

และคนที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ ก็มีเพิ่งไฉ่หรู แล้ว ยังมีประธานคณะกรรมการนักศึกษาของสาขาอย่างเจียงเวยเวยและหวังหยาง

ตอนนี้ พวกเขากำลังถ่ายรูปอยู่ ทําราวกับ ว่าเอาหลานล้นเป็นพื้นหลัง

อ้าว ไอ้เฉิน นายมาแล้วเหรอ แบบนี้มันน่า โมโหมากเกินไป! ”

หยางฮุยตบไปที่ไหล่ของเฉินเกอ และพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ

“มันก็ใช่ที่ตอนนี้เฮาหลานลันเจอกับปัญหา อยู่ แต่อาจารย์ท่าเกินไปสักหน่อย รับบริจาคก็รับ บริจาคสิ ทําไมต้องให้เฮาหลานลันต้องมายืนถือ ป้ายแบบนี้ด้วย!”

หลี่ปินพูด: “ถ้าไม่ทำอะไรแบบนี้ สาขาของ พวกเราจะมีชื่อเสียงได้ยังไง? นายก็ดูตอนนี้สิ เรื่องที่อาจารย์กับหวังหยางและเจียงเวยเวยรับ เงินบริจาคเพื่อช่วยเฮาหลานล้น ถูกจัดมาถึงครึ่ง วันแล้ว พวกเขาให้เฮาหลานล้นยืนถือป้ายอยู่ อย่างนี้ แต่ในความเป็นจริงคือการโอ้อวดตัวของ พวกเขาเอง”

“และเรื่องนี้ก็กลายเป็นเรื่องสำคัญของ

โรงเรียนขึ้นมาทันที ทางโรงเรียนพูดว่า ต้องให้ ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอย่างมาก จะต้องช่วย ให้นักศึกษาผ่านช่วงเวลาลําบากนี้ไปให้ได้ อะไร ทํานองนี้!

จริงๆแล้วมีนักศึกษาหลายคนที่รู้เบื้องลึกของเรื่องนี้ และพวกเขาทั้งหมดรู้สึกทนไม่ได้กับ เรื่องนี้

คนที่ไม่รู้ความจริงอาจจะคิดว่า พวกเธอรีบ มาดูซิ เด็กผู้หญิงคนนี้น่าสงสารมากๆ เพราะว่าที่ บ้านไม่มีเงินแล้ว ถึงแม้จะต้องมายืนถือป้ายอยู่ กลางผู้คนมากมาย เธอก็ต้องหาวิธีรับบริจาคเงิน เพื่อไปรักษาอาการป่วยของน้องสาวให้ได้

น่าสงสารจริงๆเลย!

ดังนั้น มีคนเป็นจํานวนมากจึงยอมบริจาค เงินช่วยเหลือเธอ

แต่คนที่รู้เบื้องลึก พวกเขารู้ดีว่านี่เป็นแผน ของเมิงไฉ่หรู ปัญหาได้เกิดขึ้นในช่วงเช้า เฮา หลานลันเลยได้กลับมาที่มหาวิทยาลัย เพื่อมา ขอร้องให้เมิงไฉ่หรูช่วย

ผลก็คือเมิ่งไฉ่หรูเสนอวิธีนี้ออกมา และถ้า

หากเฮาหลานล้นไม่ทําตาม ก็จะไม่ยอมให้ความ

ช่วยเหลือเธอ

“ผู้อำนวยการจาง ท่านมาแล้วเหรอครับ”

เพิ่งไฉ่หรูหันไปจับมือกับผู้อำนวยการหัว ล้านวัยกลางคนคนหนึ่ง จากนั้นอาจารย์ที่ปรึกษา วัยกลางคนคนนั้นก็นําเงินบริจาคจํานวนสองร้อย หยวนมาหยอดใส่กล่องรับบริจาค

ผู้อำนวยการจางคะ ถ่ายรูปร่วมกันหน่อย ค่ะ!”
“ได้ได้ได้!”

ทั้งสองคนร่วมถ่ายรูปด้วยกันหนึ่งรูป

“โยว! จางเทา หวังหมิง พวกนายก็มาแล้วเห

50!”

ทันใดนั้น ก็มีเพื่อนที่อยู่สาขาอื่นของหวัง หยางเดินเข้ามา และพวกเขาก็เป็นเพื่อนในสภา นักศึกษาทั้งหมด

“อืม อึม ใช่!”

พูดเสร็จ พวกเขาก็บริจาคไปร้อยสองร้อย หยวน

และตามมาด้วยการถ่ายรูปร่วมกัน

เฉินเกอยืนดูอยู่ข้างล่างสักพัก ก็เห็นว่า กระบวนการในการรับบริจาคเงินก็เป็นแบบ

เดียวกันหมด

นี้คือการรับบริจาคที่ไหนกัน? นี่มันคือการ มาอยู่ที่นี้เพื่อแสดงออกถึงเกียรติของตัวเอง เท่านั้น!

เฉินเกอรู้สึกโกรธจนสีหน้าแทบเปลี่ยนเป็น สีขาวแล้ว

และรู้สึกเห็นใจคนที่สีหน้าซีดเซียวไปหมด อย่างเฮาหลานลัน จนเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมาเล็ก น้อยทั้งๆที่ตัวเองเป็นคนแรกๆที่ได้รู้เรื่องปัญหา ในครอบครัวของเขาหลานล้น เพราะว่าเธอเชื่อใจ เขา ก็เลยบอกเขาเป็นคนแรก

ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเองยังได้ปลอบใจเธอ และ ให้ความหวังกับเธอไป

แต่อีกหลายวันต่อมา ตัวเองก็ไม่สามารถ ช่วยพาเธอเดินออกมาจากความลําบากได้ทัน

จึงทำให้เธอต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ไม่ใช่เพราะเฉินเกอมีจิตใจที่โอบอ้อมอารี แต่เป็นเพราะทุกครั้งที่เขาได้เจอสถานการณ์ แบบนี้ ก็จะนึกถึงตัวเองขึ้นมา จึงทำให้เขารู้สึก เห็นอกเห็นใจ

ไม่ได้ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าเฮาหลาน ลันจะไม่เหลือแม้แต่ความหวังที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป

เมื่อคิดได้แบบนี้ เฉินเกอจึงพุ่งเข้าไปกลาง ฝูงชนจนทุกคนแยกออก และผลักหวังหยางที่ กำลังถ่ายรูปอยู่ออกไป แล้วนำป้ายที่เฮาหลาน ลันถืออยู่ทิ้งไป

“เฉินเกอ นาย!”

เฮาหลานล้นพูดขึ้นมาด้วยเสียงแหบ ไม่รู้ว่า ผ่านการร้องไห้มากี่ครั้ง

“เอาหลานลัน อย่าเป็นพื้นหลังให้กับคน พวกนี้ ถ้าพวกเขาอยากจะช่วยเธอจากใจจริงๆ พวกเขาจะไม่ทําแบบนี้กับเธอเด็ดขาด! เรื่องเงินของเธอ เดี๋ยวฉันจะช่วยเธอคิดหาวิธีเอง ตอนนี้ เธอกลับไปที่ห้องเรียนก่อนเถอะ!”

เฉินเกอพูดประโยคนี้ออกมาด้วยความ โกรธเล็กน้อย

บนโลกใบนี้ยังมีคนดีๆอีกมากมาย เมื่อมี ใครคนหนึ่งลําบาก และมีอีกคนมาเห็นเข้า ยังไง ซะเขาก็ต้องช่วยอีกคนอยู่แล้ว

แต่ว่าพวกเขาเพิ่งไฉ่หรูหวังหยางกลับใช้ ความลําบาก ของเฮาหลานล้นมาทำให้ตัวเองได้ หน้า แบบนี้มันไร้เหตุผลเลยจริงๆ!

“เฉินเกอ! นายบ้าไปแล้วหรือยังไง?”

เจียงเวยเวยมองเฉินเกอด้วยความโกรธ เขากล้าขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

“เฉินเกอ นายรู้หรือเปล่าว่าเมื่อกี้นายพูด อะไรออกไป ฉันขอเตือนนายเลยนะ ให้นายรีบ ไสหัวออกไปให้พ้นหน้าของฉัน ไม่อย่างนั้นนายก็ รอรับหนังสือไล่ออกได้เลย!”

เมิงไฉ่หรูเป็นคนที่ห่วงภาพลักษณ์ของตัว

เองมาก เมื่อได้ยินเฉินเกอประชดพวกเธอแบบนี้

เธอจึงรีบหนี

แต่คนที่รู้สึกโกรธกว่าใคร ก็คงเป็นหวัง หยางนี่แหละ
“คนจนอย่างนาย คิดว่าการถูกลอตเตอรี่จะ ทําให้คนอื่นเทียบนายไม่ได้ใช่ไหม? นายถึงกล้า มาผลักฉันนะ?”

พูดเสร็จ หวังหยางก็จับผมของเฉินเกอไ และกระชากเข้ามาหา และตามมาด้วยการชก เข้าไปที่ปาก

เขารู้สึกโกรธมากๆจริงๆ ด้วยฐานะทาง ครองครัวดี เขาเคยถูกใครปฏิบัติต่อตัวเองแบบนี้ ที่ไหนกัน?

แต่แรงของเฉินเกอจะมากกว่าแรงของเขา ได้ยังไง!

หมัดหนึ่งหมัดถูกชกมาบนใบหน้า มันเจ็บ จนแสบร้อนไปหมด

“นี่! พวกนายหยุดเดี๋ยวนี้นะ หวังหยางฉัน ขอนายล่ะ นายหยุดทำร้ายเฉินเกอเถอะ! ฉันไม่ ต้องการเงินบริจาคนี้แล้ว พวกนายอย่าทำร้ายเขา อีกเลยนะ! ”

เฮาหลานลันรีบเข้าไปดึงหวังหยางไว้ด้วย ความตกใจ เพราะยังไงซะเธอก็เป็นต้นเหตุของ เรื่องนี้

“เธอออกไปห่างๆจากฉันเลยนะ! ไอ้พวก คนจน พวกเธอกล้ามาแตะต้องตัวฉันเหรอ?”

หวังหยางตะโกนเสียงดังขึ้นมา ยังอยากจะกระโจนเข้าใส่เฉินเกออก
“ตูบ!”

อยู่ๆ หวังหยางก็รู้สึกว่าข้างหน้าของเขามืด ลงทันที มีวัตถุสีแดงสิ่งหนึ่ง เลื่อนเข้ามาใกล้ข้าง หน้าของเขาใกล้ขึ้น ใกล้ขึ้น แล้วใกล้ขึ้นอีก!

เป็นเฉินเกอ ที่หยิบก้อนอิฐก้อนหนึ่งขึ้นมา แล้วทุบลงไปที่หัวของเขา!

และแรงที่ใช้เป็นแรงที่เยอะมาก

แรงจนก้อนอิฐแตกกระจาย

“อ๋อ!”

หวังหยางกุมหัวของเขาไว้ นอนอยู่บนพื้น แล้วร้องไห้ขึ้นมา

“อร้าย! มีคนตีกัน! ” คนที่อยู่รอบๆก็รู้สึกตกใจทันที

เจียงเวยเวยและเพิ่งไฉ่หรูก็ตกใจจนอึ้งไป

เลย

เฉินเกอก็โหดเหี้ยมเกินไปหรือเปล่า!

“ไอ้บ้า! ไอ้คนจนแกทำร้ายพี่หยางเหรอ?”

“เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อแล้วล่ะมั้ง ถึงไม่รู้

ว่าพ่อขอพี่หยางเป็นคนใหญ่คนโตของที่นี่?”

“ตายแล้ว เขาอยู่ต่อที่มหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้ แน่นอน! ”

“ยังจะให้อยู่ต่ออีกทําไมล่ะ ฝ่ายมหาวิทยาลัยน่าจะไล่ออกเขาจากมหาวิทยาลัย แล้ว และเขาก็ไม่สามารถเดินไปสู่ถึงสถานีรถไฟ ของเมื่อจีนหลังได้นะ!

ทุกคนรู้สึกตกตะลึง เพราะในสายตาของ พวกเขา มีบางคนที่เป็นนักโทษ แค่เขาไปแตะ ต้อง ชีวิตทั้งชีวิตก็ดับลงทันที

“พี่หยาง พี่ไม่เป็นไรใช่ไหม?

“แม่งเอ้ย ไอ้คนจนคนนี้ มันกล้าดียังไง

ทําร้ายพี่ พี่ต้องรีบโทรบอกคุณลุง ให้สั่งฆ่า

ครอบครัวของเขาให้หมดเลย! ”

“จริงด้วย หยาง อย่าปล่อยคนแบบนี้ไป เด็ดขาดนะคะ!!

“ฮือ ฮือ ฮือ พี่หยาง เลือดของพี่ไหลเยอะ มากเลย!

อยู่ๆก็มีกลุ่มผู้หญิงกลุ่มหนึ่งมาล้อมรอบ ทันที แล้วประคองหวังหยางขึ้นมาด้วยความเป็น

และพวกเธอทั้งหมด ก็มองเฉินเกอด้วย สายตาที่โกรธมาก

ในสายตาของพวกเธอ พี่หยางเป็นราวกับ ของมีค่า มีเงินและยังหล่ออีกด้วย แต่คนที่อยู่ ข้างหน้านี้ ก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ได้ทําร้าย พี่หยาง พวกเธอแทบอยากให้เขาตายเป็นหมื่นๆ
“ฉันไม่ปล่อยมันไว้แน่นอน แต่พาฉันไปส่ง ที่โรงพยาบาลก่อน และฉันจะโทรหาพ่อเดี๋ยวนี้!

หวังหยางได้รับบาดเจ็บไม่เบา อย่างน้อยๆ สมองกระทบกระเทือน ทันใดนั้น เขาก็พูด ประโยคหนึ่งออกมาแบบเหี้ยมโหด แล้วก็ถูก ประคองไปขึ้นรถฉุกเฉิน

“เฉินเกอ ฝากไว้ก่อนเถอะ! ส่วนเฉินเกอ น

ฮาฮา ฝากไว้ก่อนอย่างนั้นเหรอ? จะฝากไว้ ทําไม!

พูดตามตรง เฉินเกออยากจะตีหวังหยางมา นานแล้ว!

เมื่อก่อนตอนที่เขาถูกนักศึกษาคณะ กรรมการเรียกให้ไปใช้งาน และเพราะว่าเขา ทํางานช้า หวังหยางเลยได้เตะและทำร้ายเขา หลายครั้ง

อย่างเช่นช่วงแรกๆครั้งที่เขาเจอกับซูมู่หาน ในห้องบรรยาย เพราะว่าเขาทำรองเท้าของซูมู่ หานสกปรก ถ้าไม่ใช่เพราะว่าซูมู่หานห้ามไว้ เขา ก็ต้องจะถูกหวังหยางตีแล้ว?

ถึงแม้ปกติเขาจะไม่พูด แต่เขาก็จำได้ดี

เมื่อสักครู่ได้ยินหวังหยางด่าตัวเองและเฮา หลานลันว่าไอ้พวกคนจน จากที่เฉินเกอรู้สึกโกรธ197294415_490964112231833_3667381643921652818_n


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ