ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 750 นายไม่ใช่คนที่ฉันรอ



บทที่ 750 นายไม่ใช่คนที่ฉันรอ

“อย่า…….อย่า

หลี่เจียวเจียวร้องไห้จนใบหน้าเต็มไปด้วยคราบน้ำตา

นอนเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้น

ส่วนต้าเบียวนั้น ในเวลานี้ ก็ไม่ได้สนใจเฉินเกอแล้ว จากนั้น เขาเลยได้ปล่อยมือ แล้วรีบวิ่งไปยังหลี่เจียวเจียว

สีหน้าของหลี่เจียวเจียวดูซีดขาว ได้ใช้มือกุมส่วนนั้นของตัว เองไว้ เพราะรู้สึกว่ามันทรมานสุดจะทน

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“ปวดมาก ปวดจะตายอยู่แล้ว”

ด้านเฉินเกอนั้นก็ได้แต่ยิ้ม แล้วก็ส่ายหน้าเบา ๆ จากนั้น ก็ได้ พาเฉินเปียวเปียวกับเซียวเหยียนเดินจากไป

“เกิดอะไรขึ้นเหรอ ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ปวดขนาดนี้ กู้ผ่านถามขึ้นด้วยอาการสงสัย

“ใครจะรู้ล่ะ พูดไปก็บงเอิญนะ เมื่อครู่ ที่ต้าเบี้ยวออกแรง ตรง นั้นของเจียวเจียวก็รู้สึกปวดขึ้นมา

“แม่ง นี่มันมนตร์ดำจริง ๆ เหรอ เชี่ย พวกเขาไปไหนแล้วล่ะ ต้าเบียวเหงื่อไหลท่วม จากนั้น ก็ลุกขึ้นยืนด้วยอารมณ์โมโห
“ฉันรู้แล้ว พวกเขาคงหนีไปแล้ว เพราะกลัวว่าพวกเราจะหา เรื่อง”

กู้ผ่านได้พูดขึ้น

“โคตรแม่ง มันน่ากระทืบจริง ๆ เดี๋ยวฉันจะทุบรถพวกมันให้ แหลกไปเลย ให้พวกมันได้รู้หน่อยว่าใครเป็นใคร”

พูดไป จากนั้น ต้าเขียวก็หยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วกำลังจะ

กดโทรออก

ในเวลานี้ มือของต้าเขียวนั้นก็แข็ง โทรศัพท์ก็ร่วงหลุดจากมือ และแขนของเขา ก็แข็งค้างอยู่อย่างนั้น ขยับไม่ได้เลย จากนั้น ก็มีอาการปวด ๆ เหมือนมีอะไรมากรีด ต้าเบียวรู้สึกปวดเป็นอย่างมาก จนต้องนอนลงกลิ้งไปมากับ พื้น

“โอ้ยปวด แขนของฉันทำไมปวดอย่างนี้ ลานจอดรถ ทันใด ก็วุ่นวายกันใหญ่

ส่วนเฉินเกอนั้น

พวกเขาได้มาถึงที่ด้านในของหมู่ตึกแล้ว

“อาจารย์คะ หลี่เจียวเจียว ไม่เป็นอะไรใช่ไหม เรื่องนั้นมัน เกี่ยวกับท่านด้วยหรือเปล่า”
เฉินเปียวเปียวถามขึ้น

“ใช่ นี่เรียกว่าแอบยักยอกถ่ายทพลัง

เฉินเกอได้พูดขึ้น

“หมายความว่าอย่างไรคะ อาจารย์”

“ก็คือ เอากำลังของหนุ่มนั่นรวมกับกำลังของฉัน แล้วเคลื่อน ย้ายไปยังตัวของหลี่เจียวเจียว ”

เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ เฉินเปียวเปียวก็อดที่จะหัวเราะ

ไม่ได้

“สมควรแล้ว ใครอยากให้พวกเธอพูดไม่ระวังปากเองล่ะ เฉินเกอได้พูดขึ้นอย่างนิ่ง ๆ พร้อมกับส่ายหน้าเบา ๆ จากนั้น ก็หันกลับไปมองยังลานจอดรถ ที่มีผู้คนเนืองแน่น “นี่ นาย ใช่เฉินเกอปะ

ในเวลานี้ ก็ได้ยินเสียงของผู้หญิงพูดขึ้น

“เสวีเสวี่เธอรีบดูสิ เป็นหมอนั่นจริง ๆ ด้วย พอหันกลับมา ก็เจอเข้ากับผู้หญิงสองสามคน นี่มันอะไรกัน เนีย

เฉินเกอคิดอยู่ในใจ
ส่วนว่านเสว ก็ทำท่าที่มองมายังเฉินเกอ ไม่รู้ว่าเพราะอะไร เธอมีอาการตื่นเต้นอีกแล้ว

เป็นไปไม่ได้หรอก

ถ้าหากครั้งแรกเป็นความบังเอิญ แล้วครั้งนี้ล่ะ มันหมายความ ว่าอย่างไร

แล้วทำไม เมื่อตัวเจอกับคนธรรมดา ที่โคตรจะธรรมดาแล้ว

ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่อย่างนี้ล่ะ

ในใจของว่านเสว่เริ่มเกิดอาการสงสัย

แต่ว่า เธอก็ยังรู้สึกไม่ค่อยเหมือนกัน

เธอคิด จะเข้าไปทักเขาดีไหมนะ

ทันใด

คนที่อยู่ลานนั้น ก็เกิดเสียงเอะอะขึ้นมา

ผู้คนทั้งหมด ต่างก็มองไปยังแหล่งกำเนิดของเสียงนั้น เฉินเก อเองก็หันไปมองด้วย

ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากนั้น ก็เห็นคนยืนอยู่เต็มไปหมด ในเวลานี้ ก็ได้หลีกทางให้กับ

ในวันนี้ หนุ่มที่เขาได้เจอที่มหาวิทยาลัยนั้น ก็ได้มายังหมู่ตึก หลงแห่งนี้ด้วย เป็นผู้ฝึกตนจริง ๆ ด้วย ต่างก็แฝงตัวเข้ามาในสถานะที่ต่างกัน

ไป และก็ได้มาถึงยังหมู่ตึกหูหลง
ผู้ฝึกตนหนุ่มที่มีชื่อว่า หลี่เส้าจง ก็เป็นหนึ่งในนั้น

ซึ่งเป็นผู้ฝึกตนตอนที่เขาอายุสามขวบนั้นก็เปิดรากปราณ เรียบร้อยไปแล้ว

เรียกได้ว่า เป็นพรสวรรค์โดยกำเนิด

และพลังของเขานั้น ก็ไม่ต่างกับหลินจิ๋วไปมากเท่าไร

น่าจะอยู่ในขั้นที่หนึ่งของการฝึกอยู่

เมื่อเขามาถึง ต่างก็ทำให้หมู่ตึกหูหลงนี้ ดูคึกคักขึ้นมาทันที จะ ว่าไปแล้ว เขาดูเชิดและหยิ่งมาก และสัมผัสได้ว่า ด้านหลังของ เขานั้น มีพลังที่แข็งแกร่งคอยช่วยเขาอยู่

“คุณหนู ท่านปู่สั่งว่า เมื่อคุณชายหลี่มาถึง คุณต้องไปต้อนรับ นะ”

ในเวลานั้น คนแก่ที่อยู่ข้าง ๆ ของว่านเสว ก็ได้พูดขึ้นด้วย

ความนอบน้อม

คนแก่คนนี้ หนวดเคลายาวถึงอก ดูเผิน ๆ น่าจะแปดสิบปีได้ บนใบหน้า มีเม็ดไฝเม็ดเล็ก ๆ ว่าไปแล้ว ก็ดูมีความเมตตาและ อ่อนโยนมาก

เขามองที่เฉินเกอ จากนั้น ก็หันไปพูดกับว่านเสน่

“หนูรู้แล้วค่ะ ลุงไป์”

ว่านเสวพยักหน้า คิดอยู่ครู่หนึ่ง ความรู้สึกที่จะอยากเข้าไป ทักทายกับเฉินเกอนั้น ก็หายไป ซึม อย่างไรล่ะ
ตั้งแต่เด็กจนโต ถึงแม้ว่า จะเป็นคุณหนูใหญ่แห่งตระกูลว่าง มี ชีวิตที่สมบูรณ์แบบที่คนอื่นไม่มี เพราะว่า ตระกูลนี้ ไม่ว่าจะเป็น เรื่องของเงินทองทรัพย์สินหรืออำนาจวาสนา ต่างก็เหนือกว่า ใครเป็นไหน ๆ มีอยู่แค่ไม่กี่อย่างที่ครอบครองไม่ได้ คือ ดวงดาว กับ พระจันทร์ นอกนั้น ตัวเองอยากได้สิ่งไหน ก็สมปรารถนาไป ทุกอย่าง

แต่อย่าคิดแบบนี้นะว่า ว่านเสว่จะเป็นผู้หญิงที่มีความสุขที่สุด ในโลก

ที่จริงแล้ว ไม่ใช่เลย ก็เพราะว่าในตระกูลนั้น มีกฎเกณฑ์ต่าง ๆ มากมาย จึงทำให้เธอพลาดโอกาส ในการเลือกที่จะรักกับ ใคร

แต่ว่า ว่านเสวไม่ยอมง่าย ๆ หรอก เพราะคนที่ไม่เคยมีความ รักอย่างเธอนั้น ได้ตัดสินใจแล้วว่า ต้องได้ลองชิมรสแห่งความ รักสักครั้งหนึ่ง

ดังนั้น เธอเลยได้ไปหาหมอดูที่นั่งอยู่ข้าง ๆ กับแม่น้ำในเมือง เขาบอกเธอว่า ชายคนที่เธอรอนั้น อีกไม่นานนี้ ก็จะได้พบกัน

แล้ว

ดังนั้น ว่านเสว่จึงพยายามอดทนที่จะรอต่อไป เพื่อที่จะได้อุทิศ และมอบความรักครั้งนี้ ให้กับผู้ชายคนดังกล่าว

และคนที่อยู่ด้านหน้าของตัวเองคนนี้ ถึงแม้จะทำให้ตัวเอง รู้สึกใจเต้นอยู่บ้าง หรือคิดว่าเขาเป็นคนมีอนาคต
แต่ว่า เขากลับไม่ใช่คนที่ตัวเองนั้น กำลังรอ

วันนี้ เพื่อนสาวคนสนิทก็ได้อยู่กับตัวเองตลอด และเธอก็คอย บอกเตือนตลอด

ว่านเสว่เชื่อว่า เธอได้เจอกับชายคนที่ตัวเองนั้นรอแล้ว นั้นก็ คือ หลี่เส้าจง คุณชายหลี่ นั่นเอง

ความรู้สึกบางอย่าง หากได้ใช้เวลาในการสัมผัสและทำความ

เข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น ก็คงจะเกิดขึ้นมาได้

ดังนั้น ว่านเสวีเลยไม่ได้ทักทายกันกับเฉินเกอ เพราะว่า ทั้ง สองคนนี้นั้น ต่างก็มีวิถีการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันมาก

หลังจากที่เธอพยักหน้าให้กับลุงไปแล้ว ก็ได้เดินตามแสง สว่าง ไปยังหลี่เส้าจงที่กำลังโดนผู้คนมุงล้อมอยู่

“เด็กหนุ่ม เห็นหรือยัง นายคงไม่มีโอกาสแล้วล่ะ”

และหลังจากทีวซิ่วทำหน้าผีหลอกใส่ ก็ได้เดินตามว่านเสวไป เฉินเกอเกาที่หัวเบา ๆ ไม่รู้ว่า ที่ซิ่วซิ่วพูดนั้น หมายถึงโอกาส อะไรเหรอ

เฮ้ย ช่างเถอะ ไม่สนใจหรอก ตัวเองตั้งใจดูผู้ฝึกตนที่มาที่นี่ดี กว่า

คนแรกที่เฉินเกอให้ความสนใจนั่นก็คือ หลี่เส้าจง เมื่อถูกผู้คนรุมล้อมดู หลี่เส้าจงก็ยังดูเชิดและหยิ่งอยู่ เขาหรี่ตามอง ราวกับว่าผู้คนเหล่านั้นเป็นแค่มดตัวเล็ก ๆ
ที่จริงแล้ว คนเหล่านี้ ก็เป็นแค่มด

และมด ก็ไม่คู่ควรที่จะอยู่ในสายตาของคนที่ไม่ธรรมดา

เพราะเขาไม่เข้าใจคนเหล่านี้ว่า ขนาดตัวเองเป็นแค่สิ่งเล็ก ๆ แล้วยังมีหน้าใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้ต่อไปด้วยเหรอ

โลกนี้ ควรจะเป็นโลกของผู้ที่แข็งแกร่งอย่างเขา ไม่ใช่เหรอ ที่ผ่านมา หลี่เส้าจงก็กังวลเรื่องพวกนี้มาตลอด กังวลที่ต้องเจอ คนพวกนี้

“คุณชายหลี่ คนนี้คือ คุณหนูว่านเสว

ในเวลานี้ คนรับใช้ข้าง ๆ หลี่เส้าจง ก็ได้กระซิบบอกเบา ๆ

นี่จึงพอจะทำให้หลี่เส้าจงนั้น เริ่มที่จะลืมตาขึ้นมา ภาพที่ ปรากฏข้างหน้าคือ ว่านเสว ผู้ที่สวยราวกับนารีเทพ

ทําเอาดวงตาของหลี่เส้าจงลุกเป็นประกาย และใบหน้าของ

ว่านเสวนั้นก็แดงก่ำ

“คุณชายหลี่ ได้ยินชื่อเสียงมานาน ฉัน ว่านเสว ค่ะ”

ส่วนว่านเสวนั้นก็ได้มองหนุ่มรูปหล่อที่อยู่ด้านหน้า ด้วยสาย ตายและอาการที่รู้สึกชื่นชม จากนั้น ก็ยื่นมือออกไปสัมผัส เพื่อ เป็นการแสดงการทักทาย

หลี่เส้าจงเอง ก็ไม่ได้ถือตัวแต่อย่างไร ทันใด ก็ได้สัมผัสมือกับเธอ

แต่ว่า ไม่รู้เป็นเพราะอะไร ถึงแม้ว่าทั้งสองคน จะได้สัมผัสมือกันแล้ว แต่ใจของว่านเสวกลับไม่มีความรู้สึกอะไรเลย นี่มันเป็นเพราะอะไรกัน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ