ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 684 เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาคือใคร



บทที่ 684 เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาคือใคร

ถ้าเกิดไม่ได้ยินกับหูตัวเอง ต่อให้มีคนมาตีก็คงไม่มีใครเชื่อ ถึง แม้ว่าตอนนี้จะได้ยินเช่นนี้ ซูโรซีก็ยังคิดว่าเฉินเกอนั้นไม้ โอ้อวด เช็คนี้เป็นเช็คพิเศษจากธนาคารจริงๆ

ไม่รู้ว่าเขาไปทำมาจากที่ไหน แต่ถ้าเธอเขียนพันล้าน หรือห้า

พันล้านเขาก็จะให้งั้นหรอ?

สำหรับจำนวนเงินที่จะให้เขียนด้านบน สำหรับซูโร่ซีเองก็ไม่รู้ จะเขียนยังไง

เฉินเถียหลินเองก็ถึงกับตะลึง

“ถึงสองนาทีแล้ว คุณคิดดีหรือยัง ถ้าคุณคิดดีแล้วก็เขียน ตัวเลขที่คุณชอบบนนั้นได้เลย”เฉินเกอยิ้มจางๆ

“ก็ได้ นี่คุณเป็นคนพูดเองนะ ฉันจะเขียนเท่าไหร่ก็ได้ใช่ ไหม? “ซูโร่ซีถามด้วยความโกรธ

“แน่นอนครับ อยากเขียนเท่าไหร่ก็ได้! ”

“ได้ คุณว่าคุณมีเงินใช่ไหม งั้นฉันก็จะเขียนสักห้าพันล้านละ กัน! ”

ในใจของซูโร่ซีคิดว่าเขาพูดเรื่องไร้สาระอะไรกัน สงสัยคงจะดู ละครเยอะเกินไป ถึงได้ให้เช็คคนอื่นแล้วให้เขาเขียนตัวเลขอะไร ก็ได้ แต่นั่นก็เป็นเพียงเนื้อหาที่อยู่ในละครเท่านั้น ที่ถึงนักแสดงในนั้นจะเขียนมันก็เป็นเพียงความรับผิดชอบของตัวละคร นั้นเท่านั้น ที่จะเขียนร้อยล้านพันล้านก็ได้ แต่เขาเนีย เป็นนัก แสดงหรือยังไง? ถึงได้กล้ามาโอ้อวดเอ็ดตะโรแบบนี้

“ฉันเขียนจริงๆแล้วนะ เช็คใบนี้มีกฎหมายคุ้มครองอยู่ หลัง จากที่ฉันเขียนเสร็จเงินห้าพันล้านก็จะกลายเป็นของฉันทันที ตอนนี้ถ้าคุณจะกลับใจก็ยังทันอยู่นะคะ! “ซูโร่ซีกล่าวเตือนเป็น ครั้งสุดท้าย

“ประธาน คุณอย่าจริงจังเกินไปเลย! “หลี่สุ่ยเสียที่ตกใจ ไม่แพ้กัน ก็รีบพูดขึ้นมา

“คุณเขียนก็พอแล้ว ผมโทรไปบอกธนาคารเรียบร้อยแล้ว คุณ แค่เขียนแล้วก็สามารถนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารได้เลย!!

เฉินเกอส่ายหน้ายิ้มอย่างเอือมระอา ในใจก็คิดว่าแค่เงินห้า พันล้านอย่างนั้นหรอ?

“คุณพูดเองนะ! “ซูโร่ซีกัดริมฝีปากสีแดงของตัวเอง จากนั้นก็ เขียนตัวเลขห้าพันล้านลงไปจริงๆ ก่อนจะโทรไปยังธนาคาร ตามเบอร์โทรที่อยู่บนเช็ค

“สวัสดีค่ะ ใช่คุณซูโรซีหรือเปล่าคะ โปรดบอกจํานวนเงิน พร้อมกับหมายเลขบัญชีของคุณในการรับเงินด้วยค่ะ!”

เสียงหวานๆของสาวสวยดังแทรกเข้ามาในสาย ซูโร่ซีกลืนน้ำลายพร้อมกับบอกจำนวนเงิน

“ได้ค่ะ กรุณารอสักครู่นะคะ!

“แล้วพนักงานก็เริ่มไปจัดการทันที

เห็นได้ชัดเลยว่าลูกค้าอย่างเฉินเกอนั้นไม่จำเป็นเลยที่จะต้อง ไปถึงธนาคารเลย เพียงแค่เขาออกคำสั่งมันก็ถือเป็นหลักฐานที่ ยิ่งใหญ่ที่สุดแล้ว แล้วในเวลาอันรวดเร็ว โทรศัพท์ของซูโร่ซีก็ได้ รับข้อความการรับเงินเข้าเป็นจำนวนเงินห้าพันล้าน!

ติ้ง!

ชูโร่กลืนน้ำลายลงคอ พลางมองไปยังเฉินเกอด้วยความไม่ อยากจะเชื่อ

“คุณ…..ทำไมคุณถึงมีเงินเยอะขนาดนี้ได้ ถ้าเกิดว่าเมื่อกี้นี้ฉัน เขียนไม่ใช่เงินห้าพันล้าน แต่เป็นเงินห้าหมื่นล้านหล่ะ? ”

ซูโร่ซีพูดด้วยความตกใจ

“ห้าหมื่นล้านก็ห้าหมื่นล้าน ก็แค่เลขศูนย์เยอะกว่าห้าพันล้าน มาตัวเดียวเอง ทำไมครับ? “เฉินเกอถามกลับ

เขานั้นไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมทุกคนถึงได้ให้ความสำคัญ กับเงินมากขนาดนั้น จนเฉินเกออดนึกถึงชีวิตที่แสนขมขื่นในวัย เด็กไม่ได้แล้วเขาก็รู้สึกว่าชีวิตแบบนั้นถึงจะเป็นชีวิตที่มีสีสันอัน แท้จริง! พอนึกถึงมันก็อดที่จะคิดถึงชีวิตแบบนั้นไม่ได้

“แค่…..เลขศูนย์เพิ่มมาหนึ่งตัว! ? ”

ซูโร่ซีถูกคำพูดของเฉินเกอทำให้ตกใจอีกครั้ง จะไม่มีใคร ทำลายเจ้าคนๆนี้ได้เลยหรอ เขานี่สุด ……
“โอเคแล้วนะครับ เรื่องที่หนึ่งผมช่วยคุณเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้

พวกเราก็ออกเดินทางกันเถอะ! “เฉินเกอพูด

“เดินทาง? ไปไหน? “ซูโร่ซีสงสัย

“แม่ของคุณกำลังป่วยหนักไม่ใช่หรือไงครับ ผมก็จะไปรักษา อาการป่วยของแม่คุณให้หาย จากนั้นผมก็ขอใช้ร่างคุณสักสาม วันหลังจากสามวันงานของคุณก็จะถือว่าสำเร็จ ถ้าคุณคิดว่าเงิน มันน้อยไป ผมสามารถให้คุณได้อีก ด้วยการมอบเช็คเงินกับคุณ แล้วคุณก็ไปเขียนตัวเลขเอง!

พูดจบเฉินเกอก็เอามือล้วงกระเป๋าแล้วเดินออกจากห้องไป

“พี่ชาย! “เมื่อเดินมาถึงข้างกายของเฉินเดียหลิน เฉินเดีย หลินก็รีบพยักหน้าด้วยความเคารพทันที

ชายคนนี้ไม่สามารถตัดสินเขาได้ด้วยสายตาจริงๆ นี่สิถึงจะ เป็นคนสุดยอดที่แท้จริง ให้เช็คเงินที่สามารถเขียนได้ตามใจ เขียนจำนวนเงินที่ชอบ ต้องมีเงินมากจริงๆถึงจะกล้าพูดแบบนี้! เมื่อกี้ตัวเองก็เกือบจะสร้างความขุ่นเคืองกับเขาเสียแล้ว ตอนนี้ ในใจของเฉินเถียหลินก็รู้สึกอยากตายขึ้นมา

“น้องชายท่านนี้! “เมื่อเฉินเกอเดินไปถึงประตูสไห่เอ๋อ ที่นอนกองอยู่กับพื้นก็ลุกขึ้นมาพิงตัวกับโซฟา

“เมื่อกี้นี้ฉันใช้พลังทั้งหมดคิดว่าจะโค่นนายได้โดยที่นายจะ ต้านทานมันไม่ได้ แต่น้องชายนายช่างสุดยอดจริงๆ เมื่อสักครู่นี้ นาย ใช้พลังเท่าไหร่กัน? ”
เงินเกอเหลือบมองเขาอย่างแผ่วเบา คุณ? ผม…….ไม่ได้ ออกแรงเลย ก็แค่สะบัดมือเฉยๆเท่านั้น!

“อะไรนะ? “สวีให่เอ๋อง

แต่เงินเกอกลับเดินออกไปข้างนอกแล้ว ตอนนี้ซูโร่ซีถึงได้เชื่อ คุณชายเฉินที่ยืนอยู่ตรงหน้าคนนี้แล้วจริงๆ ที่จริงเขาเป็นยอด ฝีมือที่ไม่เปิดเผยตัวตน เขาเก่งเกินไปแล้ว จนทำให้ซูโร่ซีไม่เชื่อ ไม่ได้แล้ว

แล้วเขาจะยืมตัวเธอไปทำอะไรสามวัน

อย่าบอกนะว่า……เขาอยากทำอย่างนั้นกับเธอ

แต่เขาจ่ายเงินเยอะขนาดนี้แล้วยังจะช่วยรักษาอาการป่วยให้ แม่ของเธออีก เพียงเพื่อที่จะอยากจะทำสิ่งนั้นกับเธอเนี่ยนะ? นี่ มันช่าง……..

ไอ้า นี่ตัวเองคิดอะไรอยู่ เรื่องสกปรกผุดแวบขึ้นมาในหัว ของเธอ ทำให้ใบหน้านวลๆของซูโร่ซีแดงขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ ก่อนจะรีบวิ่งตามออกไป

และในขณะเดียวกัน ณตระกูล

“ติดต่อเฟิงเอ๋อได้หรือยัง ไม่ใช่ว่าไปจับเฉินเกอแล้วหรือไง ทำไมจนถึงตอนนี้แล้วยังไม่กลับมาอีก

ก่เยวหีอถามลูกน้องคนหนึ่ง

“ท่านยาย ตอนนี้กำลังไปจับตัวแล้วครับ แต่ว่าเมื่อสักครู่นี้คุณชายเฟิงส่งข้อความมาบอกว่าเฉินเกอหลบหนีเข้าไปในเขา ใหญ่แล้ว ให้พวกเราออกไปช่วยตามหา แล้วโทรศัพท์ก็ปิด เครื่องไปครับ จนถึงตอนนี้ก็ยังติดต่อไม่ได้! คาดว่าเขาคงจะ เข้าไปในภูเขาตามตัวเฉินเกอแล้ว! “ลูกน้องกล่าวอย่างเคารพ

“เฉินเกอคนนี้ ถึงเขาจะเป็นถึงยอดฝีมือผู้แกร่งกล้าเฟิงเอ๋อจับ เขาได้นั้นก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกอะไร ยิ่งไปกว่านั้นสมบัติ ล้ำค่าของเรา และเครื่องรางบุปผาผีก็ถูกเขาเอาไปด้วย ถึงแม้จะ เจอกับยอดฝีมืออย่างคราวที่แล้ว มันก็ไม่มีทางรอดพ้นเครื่อง วัตถุโบราณของพวกเราได้ แต่ทำไมถึงได้ใช้เวลานานขนาดนี้ เล่า? “เยวคือขมวดคิ้วอย่างอดไม่ได้

“พวกเธอรีบไปช่วยเฟิงเอ๋อที่เขาใหญ่!

“ครับ! ท่านยาย! “แล้วลูกน้องคนนี้ก็ขอตัวออกไป จากนั้นเยวคือก็หันหน้าไปยังด้านหลังแผ่นกั้น

“ไม่ต้องหลบแล้ว คุยนานขนาดนี้ รู้ว่าเธออยู่ที่นี่นานแล้ว! ” เยวคือพูดอย่างเย็นชา

ในตอนนี้ก็มีหญิงสาวค่อยๆเดินออกมาจากแผ่นกั้น แล้วเธอก็

คือกู่หยูเซียวนั่นเอง ไม่รู้ว่าทุกอย่างมันเริ่มตั้งแต่เมื่อไหร่กูหยูเซียวตอนนี้ก็ลืม

ผู้ชายคนนั้นไม่ได้ซะแล้วได้แต่คิดถึงเขาอยู่ตลอดเวลา

ได้แต่หวังว่าเมื่อไหร่จะได้เจอกับเขาอีกครั้ง และสิ่งที่คาดหวัง มากที่สุดก็คืออย่าให้คุณยายจับตัวเฉินเกอได้
“จนถึงตอนนี้ ก็ยังจับตัวเจ้าเด็กคนนั้นไม่ได้ เธอคงจะดีใจมาก เลยสินะ? ”

เยวคือพูดด้วยความเย็นชา พลางมองไปยังหยูเซียว

“คุณยายคะ ทำไมถึงต้องจับตัวเฉินเกอด้วย? เขาไม่ได้มีเรื่อง บาดหมางอะไรกับพวกเรา แถมคราวนี้เขาก็อยากจะมาทำความ เคารพกับคุณยายอีก แต่ยายกลับไปร่วมมือกับสำนักฟีนิกซ์ ทั้ง ยังจงใจจะทำร้ายเขาอีกด้วย นี่เราจะไม่สามารถมานั่งเจรจากัน ดีๆแล้วไว้ชีวิตเขาได้เลยหรอคะ? “หยูเซียวกล่าวอ้อนวอนด้วย ดวงตาที่แดงกา

“หม เธอคงจะหลงรักเขาเข้าแล้ว ท่า ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าเจ้า เด็กมันมีเวทมนตร์อะไรกันแน่ ตั้งแต่เล็กจนโตเธอเอาแต่ปฏิเสธ ผู้ชายอยู่ตลอดมา แต่พอได้รู้จักเขาแค่ไม่นาน ก็กลับหลงใหลใน ตัวเขาจนโงหัวไม่ขึ้นแล้ว! “เยวคือพูดอย่างไม่สบอารมณ์

“หนู…….หนูเปล่านะ! “หยูเซียวที่ได้ยินอย่างนั้นก็รีบดึงเสื้อ

ไปมาด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อ

“เปล่าหรอ? อย่าหลอกตัวเองเลย ที่ยายร้อนรนหาตัวเขา นอกจากจะบรรลุเป้าหมายของเหล่าบรรพบุรุษของเราแล้วก็เพื่อ ดีต่อตัวเธอด้วย เธอตกหลุมรักเขา ชะตาชีวิตจะตกต่ำ เธอไม่มี ทางจะได้ลงเอยกันด้วยดี เขาไม่มีทางที่จะคบกับเธอ และเขาก็ เป็นคนที่เธอไม่มีวันที่จะได้เข้าถึง เธอเข้าใจถึงความพยายาม ของยายหรือเปล่า ? “เยวคืออยากที่จะใส่อารมณ์ออกมาแต่ เธอเองก็เคยผ่านเรื่องราวแบบนี้มา ตอนนี้จึงทำได้เพียงแสดงท่าทาง เดือน แล้วมองไปยังหลานสาวของตัวเองด้วยความ เอือมระอา

“ทำไมคะ? ทำไมทุกคนถึงเอาแต่พูดว่าหนูคบกับเขาแล้วจะ

ไม่มีบทสรุปด้วย? ทุกคนมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้? “หยูเซียว

กล่าวด้วยความตื่นตระหนก เมื่อนึกถึงคำพูดพวกนั้นของท่านซินแสกุ่ย ก็ยิ่งทำให้หย เซียวรู้สึก โกรธเคือง

“ก็ได้ ทั้งที่เรื่องบางเรื่องไม่ควรที่จะบอกกับเธอ แต่ก็กลัวว่า ต่อไปเด็กโง่อย่างเธอจะไปก่อเรื่องไม่เป็นเรื่องขึ้นมา ฉันก็จะบอก กับเธอแล้วกัน! “เยวคือหายใจเข้าลึก ๆ ด้วยท่าทีของเธอที่ดู ๆ เคร่งขรึมมากๆ

“เธอรู้หรือเปล่าว่าเฉินเกอคนนั้นเป็นใคร?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ