ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 621 การพบสหายอีกครั้ง



บทที่ 621 การพบสหายอีกครั้ง

“ว้าว! คุณชายเผิง

สาว ๆ ทั้งร้าน Dicos ที่กำลังนั่งกินอาหารในอยู่นั้น ต่างก็ถูก ความโรแมนติกสะกดใจ ทำให้ตะลึงค้าง

แล้วผู้หญิงคนไหนล่ะ ที่ไม่ชอบความโรแมนติกบ้าง

และมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยคนไหนบ้างล่ะ ที่ไม่ฝันอยากจะได้ รับความโรแมนติกแบบนี้

เจ้าชายในฝัน ในมือถือช่อดอกไม้ไว้ คุกเข่าต่อหน้าคุณ แล้ว ขอร้องคุณ เหมือนกับว่าหัวใจของผู้หญิงนั้น มีจุดเยือกแข็ง และ จุดเยือกแข็งนี้ก็ได้กลายเป็นก้อนน้ำแข็งที่คอยโอบอ้อมหัวใจอัน เร่าร้อนของเธอเอาไว้

เธอปรารถนาเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตจะมีผู้ชายที่เธอใฝ่ฝัน สามารถใช้วิธีทำให้หัวใจของเธออบอุ่นได้

และผู้หญิงทุกคน ล้วนแต่ปรารถนาอย่างนี้กันทั้งนั้น

ตอนนี้ ฉากดังกล่าวก็ได้ปรากฏยังเบื้องหน้าของทุกคน และ พวกเธอทั้งหลาย ก็ได้มองด้วยสายตาที่มีความอิจฉาริษยา

เหยาหยวนหยวนและผู้หญิงคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกคล้าย ๆ กัน

พวกเธอตื่นเต้นมาก และรู้ว่าควรจะทำอย่างไร จากนั้น จึงได้

เว้นพื้นที่ว่างเอาไว้ให้
แล้วก็ได้หยิบโทรศัพท์ออกมา บันทึกวีดีโอกันยกใหญ่

มีเพียงเฉินหนานที่นั่งอยู่ตรงนั้น ตัวสั่นจนทำอะไรไม่ถูก เธอ ทำได้แค่เพียงจับผมของเธอ ทัดไปยังหลังใบหู แล้วเห็นใบหน้า สวย ๆ พร้อมกับสีแดงระเรือจากอาการเขินอาย

“หวางเผิงนายทําอะไรของนาย

เธอพูดขึ้นด้วยอาการเขินอาย

“หนานหนาน เธอรู้ว่าฉันต้องการจะทำอะไร ฉันชอบเธอมา นานแล้ว ฉันสาบานนะว่า ฉันจะดูแลเธอให้มีชีวิตดี ๆ ตลอดชีวิต เลย เป็นแฟนกับฉันเถอะ”

หวางเพิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจัง

“ว้าว! ”

ทันใด บรรยากาศในร้านก็ดูหวานชื่นขึ้นมาทันที

“คบเลย”

“คบเลย”

ผู้คนจํานวนไม่น้อย เริ่มเปล่งเสียงร้องขึ้นอย่างพร้อมกัน หวางเพิ่งเอง ก็ดูมีสีหน้าที่พอใจมาก ที่มีตัวช่วยเยอะขนาดนี้

“ฉันเคยบอกว่า ตอนนี้ฉันยังไม่อยากคบใคร

ด้านเฉินหนานนั้น กลับไม่สนใจ สีหน้าเริ่มจริงจังและดุดันขึ้น มา จากนั้น ก็ได้ลุกขึ้นยืน หยิบกระเป๋าได้แล้วรีบเดินออกไป
“หนานหนาน หนานหนาน”

หวางเผิงเองก็คิดไม่ถึงว่าเงินหนานจะทำแบบนี้ ตอนนั้น เขา รู้สึกอายมาก

ราวกับว่า ดอกกุหลาบสด ๆ เหล่านี้ กำลังหัวเราะเยาะเขาอยู่

“โอ้ย! ”

หวางเผิงเหวี่ยงดอกไม้ทิ้งลงที่พื้นอย่างแรง

และก็ยังรู้สึกไม่ยอมรับ จากนั้น เขาก็ได้ตามเฉินหนานไป ส่วนเหยาหยวนหยวนและคนอื่น ๆ ก็ได้ตามไปดูด้วย

“หลบหน่อย”

ในขณะที่เดินผ่านเฉินเกอไปนั้น เหยาหยวนหยวนก็ได้พูดขึ้น อย่างไม่สุภาพและได้ผลักเฉินเกอออกให้พ้นจากทางเดิน

หากว่า เขาไม่มารบกวนอารมณ์ของหนานหนาน ไม่แน่ว่า

ตอนนี้เธอคงจะตอบตกลงคบกับคุณชายเผิงไปแล้ว

ผู้หญิงเหล่านั้น ต่างก็คิดแบบบนี้

“เห็นหรือยัง ว่าหนานหนานตามจีบยากแค่ไหน แม้แต่คุณ ชายเผิงที่รวยขนาดนี้ เก่งขนาดนี้ หนานหนานยังปฏิเสธได้เลย แล้วคนอย่างนายล่ะ ยังจะกล้ามาขอช่องทางการติดต่อของเธอ ไสหัวไปไกล ๆ เถอะ”

และหลังจากนั้น ก็ได้มีผู้หญิงคนหนึ่ง พูดขึ้นอย่างไม่มีความ เกรงใจใด ๆ และมองเฉินเกอด้วยหางตา
แล้วพวกเธอเหล่านั้น ต่างก็พากันแยกย้ายกลับไป เฮ้อ!

เงินเกอเอง รู้สึกไม่พอใจมาก จึงได้ส่งเสียงตะโกน ในใจคน เดียว แล้วตัวเองอยากจะตามจีบเงินหนานตอนไหนกัน เพียงแค่ อยากจะอธิบายกับเฉินหนานให้ชัดเจนเท่านั้นเอง เป็นเพื่อนกัน ได้ และสามารถให้เลือดจุดจื้อหยินแก่ตัวเองสักหยดก็พอแล้ว แต่ตอนนี้ สถานการณ์กลับพลิกผันไปหมดแล้ว

เฉินเกอตอนนี้ กำลังลังเลและคิดว่ามันจะเหมาะสมไหม ถ้า หากยังตามตื้อไปอีก

ด้านหลังของเขา มีวัยรุ่นสาม สี่คนที่กำลังนั่งดื่มโค้กอยู่ พวกเขาสาม สี่คนนั้น เหมือนกับคอยดูสถานการณ์นี้อยู่อย่าง เดียว เพราะตั้งแต่ ตอนแรกจนถึงตอนจบ พวกเขาต่างรู้หมด

“ลูกพี่ เห็นยัง ไอ้คนนี้ ฉันว่าแล้วเขาเอง ก็อยากที่จะตามจีบผู้ หญิงคนที่หนานหนานอยู่เหมือนกัน ฮ่า ๆ แต่ว่า ความรู้สึกช้าไป หน่อย จึงโดนคนที่ซื่อหวางเผิงนั่น เอาไปเสียก่อนแล้ว ตอนนี้ก็ คงจะรู้สึกเสียใจอยู่ละมั้ง ”

วัยรุ่นคนหนึ่งพูดขึ้น

“แม่ง เห็นผู้ชายห่วย ๆ แบบนี้ ฉันยิ่งโมโห อยากจะชกให้สัก หมัดจัง จีบผู้หญิงน่ะเหรอ ต้องกล้าให้มาก ๆ หน่อย หน้าด้าน หน่อย อยากได้ผู้หญิงแบบไหนก็จะได้เอง

และวัยรุ่นอีกคนก็ได้พูดขึ้น
“เจ้าจาง นายไปสอน ๆ เขาหน่อยสิ เมื่อตอนที่เรียน มหาวิทยาลัยนั้น ได้ยินว่า นายก็เป็นคาสโนว่าไม่ใช่หรอ”

วัยรุ่นคนที่โดนพวกเขาเรียก ลูกพี่นั้น ในเวลานี้ ได้ตบ ๆ ไปที่ ไหล่ของเจ้าจาง

เพียงแต่ว่า สายตาของเขานั้น มองจ้องไปที่ด้านหลังของเฉิน เกอ และก็ได้พบกับสิ่งที่ผิดปกติ

“ซึม สอนเขาหรอ ได้ ก็แค่สอนเขา นายเชื่อไหมว่า แค่สาม เคล็ดลับก็พอแล้ว เดี๋ยวฉันจะทำให้เขาได้ผู้หญิงคนนั้นมาครอบ ครอง พนันกันไหม ข้าวสิบมื้อก็พอ”

เจ้าจางพูด

“ฉันไม่เชื่อหรอก นายระวังหน่อยนะ ตอนนี้ไอ้นั่น กำลังอยู่ใน สภาพที่อกหัก หากนายเข้าไปเขา ไม่แน่ว่า นายอาจจะโดนชก เอาก็ได้ แต่ว่า หากเขาตกลงที่จะฟังนาย เดี๋ยวฉันจะเลี้ยงข้าว นาย สิบมื้อเลย”

วัยรุ่นอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับเสียงหัวเราะ

“ชกฉันหรอ ฉันให้เขามียี่สิบมือเลย

เจ้าจางพูดแล้วลุกขึ้นยืน จากนั้น ก็ได้เดินไปยังเฉินเกอ ด้านเฉินเกอนั้น ในเวลานี้เขาเองกำลังที่จะเตรียมตัวกลับ และยังต้องตามหาเงินหนานให้เจออีกด้วย

“นี่ แกหยุดก่อน”
ในเวลานี้ ทันใด ก็มีคนคนหนึ่งกำลังเดินตามหลังมาอย่างติด

และเฉินเกอเองก็สัมผัสได้เหมือนกัน ว่ามีมือข้างหนึ่งของเขา มาตบลงบนไหล่ของตัวเอง

จากนั้น เฉินเกอเลยเตรียมตัวที่จะป้องกันตัวเอง และในขณะที่มือของเขากำลังจะกระทบลงมาบนไหล่นั้น

ไหล่ของเฉินเกอก็มีอาการกระตุกนิด ๆ

เฝ้ยะ!

และมือของเจ้าจางที่กำลังจะแตะลงไหล่ของเฉินเกอ ทันใด ของบางอย่างมากระทบแทน

เมื่อเห็นตัวของเฉินเกอขยับหลบนิดหนึ่ง และเคลื่อนที่ไปอย่าง รวดเร็ว

จากนั้น ร่างของเขาก็ล้มไปใส่โต๊ะเก้าอี้ที่อยู่ตรงนั้น

“เชีย”

เจ้าจางล้มลงไปนอนกองที่พื้น และมือของเขาก็มีอาการชา ๆ และวัยรุ่นอีกสองคน ในเวลานี้ เมื่อเห็นดังนั้นเข้า ก็รู้สึกตกใจ และได้ยืนขึ้นอย่างเร็ว

เพราะฝีมือของเจ้าจางนั้น พวกเขาเองต่างก็รู้ดี ซึ่งคนปกติต่อ ให้มียี่สิบมือ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้กับเขาได้ เรื่องนี้ไม่ได้โม้แต่อย่างใด
คนคนนี้เก่งขนาดนี้เลยหรอ

ลูกพี่และเพื่อนพ้อง ตาค้างและหนังตาก็กระตุกขึ้นลงเป็น จังหวะอย่างรวดเร็ว

“แก หยุดเดี๋ยวนี้ ทำร้ายคนอื่นแล้ว ยังอยากจะหนีอีกหรอ

ทั้งสองคนได้พูดขึ้น พร้อมกับวิ่งเข้ามา

อยากจะรั้งเฉินเกอเอาไว้

แต่สุดท้าย ก็โดนเฉินเกอนั้น จัดการจนกระเด็นออกจากร้าน Dicos ทั้งคู่

นอนอยู่บนถนน และมีสภาพเละเป็นโจ๊ก

“ว่างนักหรอ”

เฉินเกอพูดขึ้นด้วยอาการที่ไม่สนใจ และก็ไม่มองพวกเขาด้วย ซ้ำ และในตอนนั้น เขาเองกำลังจะเดินกลับ

“คุณ……..คุณชายเฉินหรอ”

ในเวลานี้ ลูกพี่ที่กำลังตะเกียกตะกายพยายามที่จะลุกขึ้นมา และเมื่อเห็นด้านหน้าของเฉินเกอแล้ว เลยรู้สึกตกใจใหญ่ และ แถมยังขยับไม่ได้ด้วย

และเมื่อได้ยินเสียง ๆ นั้นเข้าแล้ว เฉินเกอเองก็ชะงักไปครู่หนึ่ง

และก็ได้หันกลับไปดูอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นหนุ่มคนนั้นแล้ว เฉินเกอก็มีสีหน้าเฉย ๆ และก็รู้สึกพอใจอยู่นิด ๆ

“เสี่ยวเฟยหรอ”

“คุณชายเฉิน เป็นพี่……..จริง ๆ ด้วย

และคนที่อยู่ต่อหน้านั้น ก็คือ ทหารอย่างไปเสี่ยวเฟย เขาดีใจแทบจะกระโดด

“เสี่ยวเฟย ไม่เจอกันนานเลย”

เมื่อได้เจอกับเพื่อนเก่า เฉินเกอเองก็รู้สึกดีใจมาก

และทั้งสองคนก็กระโจนเข้ากอดกัน สองปีกว่าแล้วที่ไม่ได้เจอ กัน ไปเสี่ยวเฟยเอง ก็รู้สึกดีใจมากเช่นกัน จนเกือบจะร้องไห้

ที่จริงแล้ว ก่อนหน้านี้ เป็นเพราะเรื่องของโม่เจี้ยนจึงทำให้ไป เสี่ยวเฟยนั้น ต้องไปเป็นทหาร

ซึ่งปกติแล้วฝีมือของไปเสี่ยวเฟียนั้นก็ดีอยู่แล้ว แต่เมื่อไปอยู่ที่

กองทัพมา จึงทำให้ฝีมือของเขาพัฒนาไปไกลมาก

เมื่อเสร็จจากการฝึกทหารใหม่แล้ว ก็จะเข้าสู่การฝึกแบบ หน่วยรบพิเศษ

และในวันนี้ ที่ได้กลับมาที่จีนหลังนั้น ก็เพราะมีภารกิจที่ต้อง จัดการ

และบังเอิญในขณะที่ลาดตระเวนอยู่นั้น ก็ได้มากินข้าวแถว ๆ มหาวิทยาลัยจินหลิงพอดี และก็ได้เจอกับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้
“ในตอนนั้น ทุกคนคิดว่าคุณมีอันเป็นไปไปแล้ว และคงถึงทีที่ จินหลังนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแล้ว และผมเองก็ได้กลับมาที่นี่ เมื่อสองวันก่อนนี้ และก็ได้ยินข่าวคราวมาบ้าง ตอนแรกว่าจะไป หาประธานหลี่เพื่อถามหาเบาะแสของคุณ แต่ว่าประธานหลี่นั้น ไปที่เมืองหลิวเฉิงเสียก่อน

ไปเสี่ยวเฟยพูดขึ้นด้วยอาการที่ดูตื่นเต้นและดีใจ

จากนั้น พวกเขาก็ได้เข้าไปนั่งในร้าน Dicos อีกรอบ

สองปีแล้วที่ไม่ได้เจอกัน เฉินเกอเห็นว่า ไปเสี่ยวเฟียนั้น ค่าขึ้น และดูกสันขึ้นด้วย ซึ่งไม่เหลือเค้าโครงเดิม ให้เห็นแล้ว เพราะตอนนี้ เขาดูสุขุมและเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก

และตอนนี้ ยังเป็นคนที่มีหน้าที่และการงานด้วย

เงินเกอเองก็รู้สึกดีใจ ที่เห็นเพื่อนของตัวเองนั้น ดูเปลี่ยนไป ในทางที่ดี

หากจะคุยกันต่อ ยังไงก็คงคุยกันไม่จบแน่ และเมื่อหลังจากที่ได้ใช้เวลานานในการคุยกันแล้ว ไปเสี่ยวเฟยเลยถามเฉินเกอขึ้นว่า

“พี่ครับ พี่ไม่คิดถึงทุกคนบ้างหรอ คนอื่นเขาห่วงพี่แทบตาย พี่ นี่ก็เกินไป ตอนนี้กลับมาแล้ว ยังไม่บอกกล่าวกับเพื่อนคนอื่น ๆ แถมยังมาตามจีบสาวที่มหาวิทยาลัยในหลิงอีก พี่ว่ามันเกินไป ไหม”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ