ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่560 ที่มาของป้ายหยก



บทที่560 ที่มาของป้ายหยก

บทที่560 ที่มาของป้ายหยก

“อะหลาน”

เฉินเตี่ยนซางกับเฉินจิ้นตงสีหน้าเกร็งขึ้นมาทันที

วันนี้เฉินเดียนซางเสียความเป็นตัวเองไปเล็กน้อย

แต่จะให้เขาทำยังไงได้ เขาจะต้องไปร่วมงานนัดหมายน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์แล้ว และอาจจะไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก ในเมื่อ สวรรค์เป็นใจ ให้เขาได้เห็นหน้าเหลนสาวของตัวเองก่อน เท่านี้ก็

พอแล้ว ทุกคนมองออกว่าตอนนี้เฉินเดียนซางดีใจมากแค่ไหน แต่พอ เห็นฉินหลานเดินเข้ามา เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมา

อะหลาน เป็นลูกสะใภ้ที่พวกเขาต่างยอมรับว่าคู่ควรที่สุด เรื่องทุกอย่างในตระกูลเฉิน ฉินหลานเป็นคนดูแลทุกอย่าง

“เอ่อ ปู่เองก็ไม่รู้ แค่เห็นว่าเด็กคนนี้น่ารักก็เลยอุ้มมาเล่น” เฉิน เตียนชางพูดอย่างตะขิดตะขวง

และฉินหลานก็ไม่ถามอะไรอีก ได้แต่พยักหน้าให้ ในมือของ เธอถือกระดาษไว้

“อะหลาน หนูมาหาเสี่ยวเกอมีเรื่องอะไรหรือเปล่า”เฉินเตี้ยน ชางยื่นหมี่ฟานให้เฉินจิ้นตงอุ้มแทน
ก่อนจะกลับมาวางที่เป็นผู้นำครอบครัวเหมือนเดิม

“ก่อนหน้านี้ตอนที่หนูมองภาพสุริยัน หนูเห็นจุดที่มีความผิด ปกติ เพราะเสี่ยวเกอขอให้หนูช่วยตามหาเบาะแสของผู้หญิงชุด ขาวคนนั้น ทําให้ภาพสุริยัน มีข่าวแพร่ออกไปข้างนอกแล้วค่ะ” ฉินหลานพูด

ตั้งแต่ที่พบว่าดวงตาของฉินหลานมีความสามารถที่พิเศษกว่า คนปกติ เฉินเตี้ยนชางจึงทำการยกภาพสุริยันให้เธอดูแลแทน

“คนนำทางปรากฏตัวแล้วเหรอ” เฉินเดียนชางสีหน้าเคร่งเครียด “ได้ เราไปคุยกันในห้อง ทํางานเถอะ”

ในห้องหนังทํางาน

ฉินหลานเปิดกระดาษใบนั้นออก

เฉินเตี้ยนชางกับเฉินเกอมองดู บนกระดาษมีรูปวาดรูปหนึ่ง

“ผู้หญิงชุดขาวดูเหมือนจะมีความสัมพันธ์อะไรบางอย่างกับ เสี่ยวเกอ เมื่อวานเสี่ยวเกอให้หนูลองใช้ภาพสุริยันเป็นสิ่งล่อใจ เพื่อหาเบาะแสของผู้หญิงคนนั้น หนูพยายามอยู่หลายรอบ ใน ที่สุดภาพสุริยันก็ปรากฏรูปนี้ซ้อนขึ้นมา

“เสี่ยวเกอ คุณรีบร้อนอยากจะหาผู้หญิงชุดขาวคนนั้น เพราะ การเดินทางไปทะเลทราย ในครั้งนี้ได้เบาะแสอะไรมาใช่ไหม”ฉิน หลานรีบถาม
“ผมยังไม่ทันได้บอกทุกคน การเดินทางไปทะเลทรายในครั้งนี้ ผมพบเรื่องที่น่าสนใจเยอะมากครับ รวมถึงคำทำนายแห่งความ ตายของผมด้วย ทุกอย่งมันเชื่อมโยงกับผู้หญิงชุดขาวคนนั้น ผม รู้สึกว่าขอแค่ได้เบาะแสของผู้หญิงคนนั้นปริศนาทั้งหมดจะ คลี่คลายได้” เฉินเกอพูด

เขาเตรียมจะเล่าเรื่องให้คุณฟัง แต่พอกันไปดูรูปภาพบน กระดาษ เขาก็ต้องยนคิ้วขึ้นมา

“แปลกมาก รูปภาพนี้ ทำไมผมถึงได้รู้สึกคุ้นเคยมาก เหมือน เคยเห็นจากที่ไหนมาก่อน”เฉินเกอพูด

“เสี่ยวเกอ หลานเคยเห็นรูปนี้เหรอ” เฉินเตี้ยนชางพูด

เงินเกอขมวดคิ้วครุ่นคิด ก่อนจะนึกขึ้นได้

“จ้าวยีฟาน”

เขานึกขึ้นได้แล้ว ฉินหลานมองไปทางเฉินเธออย่างแปลกใจ “ใช่แล้ว รูปภาพนี้ เหมือนรูปที่สลักอยู่ที่ป้ายหยกของจ้าว ฟานเลย”เฉินเกอพูด

“อ๊ะ ปูนึกขึ้นได้แล้วบนคอของหมีฟานก็แขวนป้ายหยกแบบนี้ ไว้ด้วย”เฉินเตี้ยนชางพูด

เฉินเกอหยิบรูปภาพขึ้นมา แล้ววิ่งไปที่ห้องของจ้าวยีฟานทันที

“เสี่ยวเกอ ในที่สุดคุณก็ยอมมาพบฉันสักที” จ้าวยีฟานพูดไป ด้วยร้องไห้ไปด้วย
เฉินเกอจับป้ายหยกที่ห้อยคอจ้าวยีฟานไว้ แล้วเอามาเทียบ

กับรูปในกระดาษ

เหมือนกันจริงๆด้วย

“เหมือนจริงๆด้วย บอกผมมา ป้ายหยก คุณได้มาจากไหน

เฉินเกอถาม

“ฉัน…ฉันไม่รู้”

จ้าว ฟานร้อนใจ รีบส่ายหน้าไปมา

“คุณจะพูดหรือไม่พูด” เฉินเกอพูดเสียงเข้ม

“เสี่ยวเกอ ขอแค่คุณยอมให้ฉันอยู่กับคุณ ฉันจะยอมบอก บอกทุกอย่าง” จ้าวยีฟานจับแขนของเฉินเกอไว้

“คุณพูดมาเถอะ”เฉินเกอแกะมือของเธอออก

จ้าว ฟานเช็ดน้ำตา ก่อนจะเริ่มเล่าเรื่องออกมา

“เรื่องนี้ต้องเล่าตั้งแต่ตอนที่เราอยู่ที่โรงแรม… พอฟังที่จ้าวยีฟานเล่า เฉินฟานก็เข้าใจทันที

คืนนั้น เฉินเกอถูกจ้าวยีฟานวางยาสลบ และเป็นไปตามแผนที่ จ้าว ฟานวางไว้ เธอตั้งใจจะมีอะไรกับเฉินเกอจริงๆ ทางที่ดีขอ แค่ครั้งเดียวก็มีลูกเลย เธอจะได้เข้ามาในตระกูลชื่อดังจริงๆสักที

แต่คืนนั้น ประจําเดือนของเธอกลับมาก่อนกําหนดซะก่อน ตอนนั้นโมโหจนตบหน้าตัวเองไปหลายที เพราะทำไม่สำเร็จ
ดังนั้นรอยเลือดบนผ้าปูที่นอน ก็เป็นเลือดที่เธอใช้เลือดประจำ เดือนของเธอป้ายไว้เพื่อหลอกเฉินเกอ

ตอนนั้นเฉินเกอรีบไปหาซูมู่หาน จึงยื่นเช็คเงินให้ตัวเองหลาย

สิบล้าน เพื่อให้เธอเอาไปใช้

ตอนนั้นจ้าว ฟานทั้งแค้นทั้งโมโห ฉันรักคุณถึงขนาดนี้ แต่ คุณกลับทำกับฉันถึงขนาดนี้

จ้าวยีฟานเสียใจมาก เธอตัดสินใจทำให้เรื่องเล็กให้เป็นเรื่อง

ใหญ่ ก็เลยมาหาถึงที่ตระกูลเฉิน

เธอทําการเหมาเรือลำหนึ่ง เพื่อไปหาพี่สาวของเฉินเกอที่เกาะ แต่ไม่ว่าจะตามหายังไง ก็หาเกาะนั้นไม่เจอสักที

ไม่นานก็ถึงเวลาดึกดื่น จ้าวยีฟานมองทะเลตรงหน้า ที่เวิ้งว้าง

ไม่มีอะไร คลื่นทะเลพัดแรง

ตอนที่หมดหวังเตรียมจะเดินทางกลับ

ในเวลานั้นได้เจอเรือแปลกๆแล่นมาพอดี จ้ายีฟานเลย สอบถามพวกเขาดู

คนพวกนั้นตกลงจะพาจ้าวยีฟานไปหาเฉินเสี่ยวที่เกาะ แต่ พวกเขาพูดโกหก พวกเขาไม่ได้พาเธอไปจริงๆ แต่หลอกเอาเธอ ไปทิ้งไว้ที่ปากอ่าวของเกาะแห่งหนึ่ง

ตระกูลนั้นมีชื่อว่าตระกูลหนึ่ง

คืนนั้น เธอถูกคุณชายที่ชื่อว่าหมิงถูกใจ จึงถูกหลอกไปใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองแปลก จ้าว ฟานทั้งหวาดกลัวและตื่นตระหนก โชคดีที่ว่าถึงแม้หมิงจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่พอได้ยินว่าเธอท้อง เขาก็ไม่ข่มขืนเธออีกดูเหมือนเรื่องนี้จะเป็นกฎที่ที่แห่งนั้นตั้งไว้

ฉันตกลงไว้ หลังจากเด็กคลอดออกมา ฉันจะแต่งงานกับเขา เขาถึงลดความระวังตัวลง

แน่นอน เรื่องที่ว่าเธอท้องเป็นแค่เรื่องโกหก หลังจากนั้นเรื่องราวมันก็ง่ายขึ้นมาก จ้าวยีฟานรีบหาทางหนี

ได้ข่าวว่าคนที่ชื่อว่าท่านซินแสกุ่ยมีความสามารถรู้ชะตาฟ้า ดิน ทำนายอนาคตได้ และไม่ใช่คนของผู้มีอิทธิพลฝั่งไหน ดังนั้นจ้าวยีฟานจึงขอความช่วยเหลือจากเธอ แน่นอนค่าแรง

ที่ต้องให้คือเงินหกสิบล้าน

ตอนนั้นจ้าวยีฟานไม่มีเงินแล้ว ถึงจะหนีไปได้แล้วเธอจะทำยัง ไงต่อไป

ดังนั้นเธอจึงอยากตามหาเงินเกอ อยากไปอยู่ในตระกูลเฉิน

เขาบอกวิธีให้เธอ บอกว่าตระกูลหมิงมีป้ายหยกคู่หนึ่งที่เจอ ในสุสานของสุสานราชาสมุทร ป้ายหยกคู่นี้สามารถเชื่อมโยง สายเลือดได้

พูดง่ายๆก็คือสามารถทำให้สายเลือดของคนสามคนเชื่อมกัน

คินนั้นเธอเดินทางด้วยความรีบร้อน บนตัวไม่มีสิ่งของของเฉินเกอติดตัวเลย นอกจากเสื้อของเฉินเกอ

เธอหยิบเสื้อของเฉินเกอมา แล้วเตรียมจะเดินทางไปหาเงิน

เสียว ถึงท่านซินแสกุยบอกว่าผลจะออกมาบางเบา แต่เครื่องตรวจ

ดีเอ็นเอไม่มีทางมองออกแน่นอน

ดังนั้นจ้าว ฟานเลยขโมยป้ายหยกออกมา แล้วไปขอรับเลี้ยง เด็กกำพร้าที่อายุเหมาะสม แล้วเดินทางมาที่นี่

เกาะที่ตระกูลเฉินอาศัยอยู่ หรือก็คือสถานที่ที่ท่านซินแสกุย ทํานายไว้

ท่านซินแสกุยยังบอกอีกด้วยว่า เธอมีดวงชะตาจะได้เป็น

ภรรยาของคนรวย ถึงทำให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา

จ้าว ฟานหนีมาตลอดหนึ่งปี คอยหลบซ่อนตัวครึ่งปี ถึงได้ เดินทางมาถึงตระกูลเฉินอย่างปลอดภัย

เพราะตระกูลหมิงออกตามหาเบาะแสของเธอไปทั่ว พอฟังที่จ้าวยีฟานเล่าจบ เฉินก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด

ปัญหาก็คือ ที่พี่หลานบอกว่าภาพสุริยันปรากฏรูปภาพนี้ บ่อยๆ หรือว่าเบาะแสของผู้หญิงชุดขาวคนนั้น จะมีส่วนเกี่ยวข้อง กับสุสานที่เจอป้ายหยกคู่นี้


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ