ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 498 คนรู้จัก



บทที่ 498 คนรู้จัก

ซูหงได้จัดงานประมูลครั้งนี้ขึ้น เพื่ออะไร เฉินเกอเองก็เข้าใจดี

ก็เพื่ออยากให้ผู้มีอิทธิพลทั้งหลายนั้น ได้เข้าร่วม ต่อสู้ และแย่งชิงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย

และ ตระกูลของพวกเขาก็คอยชุบมือเปิบอย่างเดียว

ส่วนฉินหลานและเสี่ยวเปียทั้งสองคนนี้ คิดว่างานประมูลครั้ง นี้มันเป็นเหมือนงานประมูลอื่น ๆ ทั่ว ๆ ไป

และคิดไม่ถึงว่า ยิ่งพวกเธอมีสถานะที่ลึกลับ ก็กลับยิ่งเป็นที่

สนใจของคนอื่นมาก

“พวกเธอผู้หญิงสองคน มาร่วมงานสกปรกอย่างนี้ได้อย่างไร” ถูกแล้ว คนที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น ก็คือเงินเกอนั่นเอง

ในเวลานี้ เฉินเกอได้มองศพสองศพที่อยู่ข้างล่างเท้าตัวเอง ก็ เลยรู้สึกเป็นห่วง จึงได้ถามขึ้นจากที่มืด

งานในครั้งนี้ ฉินหลานค่อนข้างทำตัวให้เรียบง่าย จึงไม่ได้นำ ผู้ติดตามมามากเท่าไร

นี่จึงทำให้เฉินเกอนั้น รู้สึกเป็นห่วง

ก็เลยคอยคุ้มครองพวกเธออย่างลับ ๆ

ศพทั้งสองศพนี้ ก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของผู้มีอิทธิพลฝ่ายใด สั่งให้เข้ามาสอดแนม พอเฉินเกอพบเข้า เลยจัดการทิ้งไป

ถึงแม้ว่า ชายชุดด่านั้น ได้ให้คงหนานซีเปียอารักษ์ขาทั้งสี่คน คอยดูแลตัวเอง

เฉินเกอเลยให้พวกเขาคอยดูแลฉินหลาน แต่ว่าพวกเธอนั้น เฉินเกอรู้สึกเป็นห่วงมากจริง ๆ จึงได้ฟังพี่ลานกับเสี่ยวเปียคุยกัน อยู่แบบนี้

โดยเฉินเกอนั้น นั่งอยู่ด้านนอกของหน้าต่าง

“เฮ้ย ตัวเองหายตัวไปครึ่งปีแล้ว พวกเขาต้องเป็นห่วงเรามาก แน่ ๆ แต่ว่า ในตอนนี้ตัวเองยังกลับไปไม่ได้”

“อีกอย่าง ทั้งชีวิตนี้ คนที่ตัวเองรู้สึกผิดต่อเขามากที่สุด คงจะ เป็นพล่านแล้วแหละ นี่ก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว เธอยังคิดว่าตัวเอง เป็นคู่หมั้นของเขาอยู่ แต่ว่า เรื่องตัวเองกับเธอนั้น มันเป็นไปไม่ ได้”

ส่วนเฉินเกอเอง ก็ได้บอกกับตัวเองอยู่ตลอด

บรรยากาศช่วงนั้น ก็เริ่มดึกขึ้น

เสี่ยวเป้ยจึงได้กลับไปพักผ่อน

ด้านฉินหลาน ที่ร้องไห้อยู่นั้น ก็คอย ๆ หลับไป และเฉินเกอ จึงได้แอบเข้ามาในห้องอย่างระมัดระวัง แสงจันทร์ที่สาดส่องมา เฉินเกอเห็นแก้มของพล่าน ที่ยังเหลือคาบ ตาไว้

จากนั้น เขาจึงได้ยกมือขึ้น แล้วเช็ดไปที่หน้าของเธอ อย่างเบา

และก็ได้ห่มผ้าห่มให้กับเธอ

“เสี่ยวเกอ ตั้งแต่ที่ฉันยังเป็นเด็กอยู่นั้น ฉันก็ได้เลือกแล้ว ว่า ฉันจะเป็นภรรยาของนาย นายเองก็ไม่ต้องหลบอีกต่อไปแล้ว นายกลับบ้านได้ไหม”

พล่านละเมอพูดขึ้น

“บ้านหรอ ฉันเองก็ไม่รู้หรอกว่า ตอนไหนถึงจะกลับไปได้

เฉินเกอนั่งลงข้าง ๆ เตียงนอน แล้วได้พูดขึ้น

“พล่าน ความรู้สึกที่เธอมีต่อฉันนั้น ฉันเองก็รู้ฉัน เฉินเกอขอ สาบานว่า จะคอยคุ้มครองและดูแลเธอ ให้ปลอดภัยตลอดไป”

เฉินเกอได้นึกในใจ

จากนั้น ก็ลูบที่หน้าผาก และใบหน้าอันเหนื่อยล้าของพล่าน

ในเวลานี้ ประตูของห้องพักได้ถูกเปิดออก

เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ได้เดินเข้ามา

เมื่อผู้หญิงคนนั้นเห็นว่า ข้าง ๆ เตียงนอนของพลนมีผู้ชายคน หนึ่งนั่งอยู่ ก็เลยรู้สึกตกใจ แล้วกำลังจะส่งเสียงร้องขึ้น
ก็เห็นมีเงา ๆ หนึ่งเคลื่อนที่ด้วยความเร็ว มายังเบื้องหน้าของ

ตัวเอง

แล้วเขาก็ใช้มือปิดปากของตัวเองเอาไว้

“เสี่ยวเป้ยไม่ต้องกลัว ฉันเอง

เฉินเกอก้มลงไปกระซิบยังข้าง ๆ หูของเสียวเปีย ส่วนเสี้ยวเป้ย เมื่อได้ยินเสียงนั้นแล้ว ตาก็เบิกโตในทันใด

“อย่าส่งเสียง เดี๋ยวพวกเราออกไปคุยข้างนอก

เฉินเกอเดินจูงแขนของเสี่ยวเปียออกมา แล้วก็เดินไปยังห้อง ของเสี่ยวเปีย

“พี่ชายคะ”

เสี่ยวเป้ยรู้สึกดีใจมาก ทั้งพูด ทั้งร้องไห้ไปด้วย แต่ก็ไม่ สามารถที่จะสื่อความรู้สึกของเธอได้ทั้งหมด

จากนั้น เธอจึงกระโดดเข้าไปยังอ้อมอกของเฉินเกอ “พี่ชายคะ เป็นพี่จริง ๆ หรอนี่ ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม” ๆ เสี่ยวเป้ยพูดขึ้น พร้อมกับอาการที่ยังร้องไห้อยู่ กอดเฉินเกอไว้แน่น เพราะกลัวว่า นี่มันจะเป็นแค่ความฝัน “ไม่ใช่ความฝันหรอก ฉันอยู่นี่ ฉันไม่ได้เป็นอะไร

เฉินเกอพูดขึ้น จากนั้น ก็เช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาของเสียวเปีย
“พี่ชายคะ พี่ดูเปลี่ยนไปนะ เหมือนจะขึ้นเลย พี่ชายคะ ครึ่ง ปีมานี้ พี่ไปอยู่ที่ไหน ฉันรู้สึกว่า เหมือนกับฉันฝันไปเลยที่ได้เจอ กับพี่”

เสี่ยวเป้ยร้องไห้ไปด้วย และก็พูดไปด้วย

“เรื่องนี้มันยาว เดี่ยวครั้งหน้าฉันจะเล่าให้เธอฟังนะ สรุปคือ เธอต้องจําไว้ว่า ฉันนั้นปลอดภัยดี

เงินเกอพูด และที่ขอบตาของเขาก็เริ่มมีสีแดงเกิดขึ้น

“อ๋อ ใช่แล้ว พ่อและแม่ของฉัน ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

เฉินเกอถาม

“คุณป้าร้องไห้ทั้งวัน ส่วนคุณลุงนั้น ก็แก่ลงไปมาก พวกเขา เป็นห่วงพี่มากรู้ไหม”

“พี่สาวฉันล่ะ”

เฉินเกอได้ถามขึ้นอีก

“พี่สาว ตอนนี้ก็อารมณ์ไม่ค่อยดีเท่าไรมาก เมื่อก่อนเธอดีกับ ลูกน้องมาก แต่ตอนนี้ ชอบลงไม้ลงมือกับลูกน้องอยู่เรื่อย เหมือนกับว่า อะไรก็ขัดตาเธอไปเสียทั้งหมด ในแต่ละวัน ก็จะ บอกให้ลูกน้องของเธอนั้น ตามหาแต่พี่

เสี่ยวเป้ยพูด

เมื่อเฉินได้ฟังแล้ว น้ำตาก็ไหลลงทั้งสองแก้ม

“แต่ว่านะพี่ชาย ตอนนี้พี่กลับมาแล้ว ช่างดีจริง ๆ ฉันว่าเรื่องนี้หากได้บอกกับ คุณลุง คุณป้าและพี่สาวของพี่ อ้อ ยังมีอีกคน พี่ ล้าน พวกเขาต้องดีใจมากแน่ ๆ ”

โดยเฉพาะพลาน เธอคิดถึงพี่อยู่ตลอดเลยนะ เรื่องราวต่าง ๆ ในบ้าน เหมือนกับว่าพี่ลานจะเป็นคอยจัดการอยู่คนเดียว ฉันรู้ เธอคงจะเหนื่อย แต่เธอได้เคยบอกไว้ว่า ต้องดูแลเรื่องราวใน บ้านให้ดี ๆ จากนั้น ก็รอแค่พี่กลับไป เธอต้องดีใจมาก ๆ แน่ เดี๋ยวฉันจะเรียกเธอมานะ ใช่แล้ว ยังต้องโทรบอกคุณลุงด้วย

เสี่ยวเป้ยดีใจจนไม่รู้จะทำอะไรดี

“เดี๋ยวก่อนเสี่ยวเป้ย ที่จริง วันนี้ฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะมาเจอ เธอ เสี่ยวเปียเธอต้องสัญญากับฉันก่อนหนึ่งเรื่อง เรื่อง ในคืนนี้ ห้ามบอกใครเด็ดขาด ไม่ว่าจะใครก็ตาม โอเคไหม

เฉินเกอพูดพร้อมกับเช็ดน้ำตา

“อะไรกัน พี่ชายคะ ทำไมกันล่ะ”

เสี่ยวเป้ยถามขึ้นด้วยความไม่เข้าใจ

“เพราะว่า ฉันได้ฆ่าลูกชายคนที่สามของโมนางคง ซึ่งเป็นการ ขจัดอิทธิพลทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของเขาแล้ว เรื่องนี้มันเกี่ยว พันกับโม่ฉางดงมาก หากว่าข่าวของฉันแพร่อกไป ตระกูลเฉิน คงจะได้รับความเสียหายเป็นอย่างมาก และฉันเองก็คงจะไม่รอด เธอเข้าใจไหม”

เฉินเกอพูด

“อะไรนะคะ …..โมเจี้ยนพี่เป็นคนฆ่าเขาหรอกหรือ
เสี่ยวเป้ยเอามือกุมปากไว้ แล้วลุกขึ้นด้วยอาการตกใจ

“แต่ฉันได้ยินมาว่า ไม่เจี้ยนโดนยอดฝีมือคนหนึ่ง นำพาตัวไป และตอนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเป็นยังไงบ้าง คนของตระกูลโม่เองก็ได้ ออกตามหา แทบจะพลิกแผ่นดินอยู่แล้ว แต่ก็ไม่พบเบาะแส อะไร”

เสี่ยวเป้ยพูดด้วยอาการช็อค

“ใช่ แม้แต่เส้นผมของโม่เจี้ยนก็ไม่เหลือเอาไว้ เพราะมัน เป็นการตายอย่างไร้ร่องรอยไง ตระกูลไม่กำลังหาตัวเขา เกรงว่า มันจะเร็วไปหน่อย

เฉินเกอพูดขึ้นด้วยอาการนิ่ง ๆ

“พี่ชายคะ แล้วพี่ฆ่าเขาได้อย่างไรกัน ขนาดนักฆ่ายอดฝีมือ ของตระกูล ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลูกน้องของโมเจี้ยน และคงไม่ ต้องพูดถึง โม่เจี้ยนหรอก”

“เด็กเมื่อวานซืนอย่างไม่เจี้ยนน่ะเหรอ ไม่ได้อยู่ในสายตาฉัน หรอก เสี่ยวเป้ยไม่ว่ายังไง เธอต้องสัญญากับฉันว่า เรื่องที่เธอ เจอกับฉันนี้ ห้ามบอกแก่ผู้ใด ยังมีอีก งานประมูลในครั้งนี้ อันตรายรอบด้าน พวกเธอเองก็ต้องระวังให้มาก ๆ หน่อย มีเรื่อง อะไรเกิดขึ้น เธอต้องมาบอกฉันก่อน เดี๋ยวพี่จะคอยดูแลและ คุ้มครองพวกเธออย่างลับ ๆ เอง”

เฉินเกอพูด พร้อมกับโอบไหล่ของเสี่ยวเป้ย เสี่ยวเป้ยพยักหน้ารับคำอย่างจริงจัง จากนั้น ก็ได้พูดขึ้นว่า“ฉันเข้าใจแล้ว ไม่ว่าใครฉันก็จะไม่บอกเด็ดขาด พี่ไม่เป็นอะไร ฉันก็ดีใจมากแล้ว”

“เจ้าเด็กโง่ ใช่ละ ตอนนี้ฉันเป็นประธานของบริษัทเทียนหลง กรุ๊ป งานประมูลครั้งนี้ เสี่ยวเป้ย เธอต้องช่วยฉัน ให้ฉันได้โสม พันปีมานะ ไม่ว่ายังไง ของสิ่งนี้ เธอนำกลับไปที่ตระกูลเฉินก็ไม่มี ประโยชน์อะไรหรอก

เฉินเกอพูด

“ไม่มีปัญหาค่ะ พี่ชาย แต่ว่าพี่ชายคะ เรื่องของพี่นี้ ฉันรับ ประกันนะ แต่ว่า ฉันบอกกับพี่อ่านได้ไหมคะ เพราะฉันต้องอยู่กับ เธอทุกวันเลย และก็เห็นว่าเธอนั้น มีอาการคิดถึงพี่เอามาก ฉัน รับไม่ได้จริง ๆ”

“รอให้ถึงโอกาสที่เหมาะดีกว่า เดี๋ยวฉันจะมาพบเธอเอง เรื่อง

นี้ เธอไม่ต้องบอก

เฉินเกอได้กําชับอีกรอบ

“ฉันรู้ว่าค่ะ……

“ชูว!

และทันใด ในเวลานั้น เฉินเกอส่งสัญญาณให้กับเสี่ยวเปีย ซึ่งสื่อความหมายว่า ห้ามส่งเสียง

“มีคนมา อย่าส่งเสียงนะ”

เฉินเกอขมวดคิ้ว แล้วพูดด้วยเสียงเบา ๆ
เสี่ยวเปียเอง ก็ตกใจ แทบไม่กล้าจะพูดอะไร

ส่วนเงินกอ ในขณะที่เสี่ยวเปียกำลังตกใจอยู่นั้น ก็ได้ออก จากห้องไปอย่างรวดเร็ว

เวลานี้ ด้านนอกของบ้านพัก ก็มีคนชุดคนหนึ่งที่แต่งตัว ปกปิดใบหน้าไว้ เดินเข้ามาใกล้ ๆ กับตัวบ้าน

และเฉินเกอ เมื่อเห็นดังนั้น จึงจงใจที่จะเหยียบกิ่งไม้ที่ตัวเอง

นั้นได้ยืนอยู่

แคว๊ก!

“อะไรกัน”

คนชุดด่าคนนั้น เมื่อรู้ว่ามีคนแอบมอง ก็ได้รีบหนีไปอย่างกับ ความเร็วของลูกธนู

“ฝีมือดีขนาดนี้เลยหรอ ดูเหมือนว่า ครั้งนี้ที่มา ต่างก็ไม่ใช่ลูก สมุนแล้วแหละ”

จากนั้น เฉินเกอก็ได้ใส่ผ้าปิดปาก ปิดไว้แล้ว ก็รีบตามไป อย่างเร็วพลัน…….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ