ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 429 ใช้เส้นสาย



บทที่ 429 ใช้เส้นสาย

“พ่อ คือฉันไม่มีประโยชน์เอง เห็นแม่ถูกพวกเขารังแก ฉันก็ไม่ สามารถเอ่ยปากได้ คือฉันเองที่พึ่งพาไม่ได้!

เสี่ยวเป้ย ร้องไห้

“กำไลหยกพี่แม่รักมากที่สุด เดิมทีให้ฉันเอาออกมา เพื่อหวัง ให้คุณย่าดีใจ ให้ฉันได้ก้าวพัฒนาไปอีกขั้น แต่ว่ากลับถูกหยาง เทแตก! เขาตั้งใจทำแตก คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็เห็น ทั้งหมด!”

“แต่ว่าคุณพ่อ คุณย่ากลับบอกว่าแม่ใจร้อนเกินไป แค่หยกชิ้น หนึ่งเองไม่ใช่หรือ ของทุกสิ่งทุกอย่างในสายตาของคุณย่าแล้ว ก็ล้วนไม่มีค่าเท่า หยางเย่หรือ?

วันนี้หยางเสี่ยวเป้ยรู้สึกคับอกคับใจยิ่งนัก

เมื่อก่อน พวกเธอประชดตัวเอง ประชดแม่

ตัวเองก็อดทนไว้ตลอด

แต่ในครั้งนี้ แม้แต่ความยุติธรรม ตัวเองก็ไม่ได้รับแล้ว

หยางเสียวเป้ยเหลืออดจริงๆ วิ่งกลับมาด้วยความน้อยใจ

“พ่อรู้ไหม โกวหรูนั่นเกลียดพ่อ แม้แต่ฉันและแม่ก็เกลียดไป ด้วย! เธออยากจะให้ฉันกับแม่ไปให้พ้นจากตระกูลหยางยิ่งดี ได้ ตระกูลหยางฉันจะไม่ไปอีกแล้ว!”
หยางเสียวเปียพูด พูดเสร็จ ก็คว่ำหน้าร้องไห้บนเตียง

เงินเกือก็ยืนอยู่ข้างหลังของหยางเสียวเปียตบไหล่ของเธอ เบาๆ

ใช่สิ แม้ว่าเสี่ยวเป้ย ปกติแล้วจะซื่อสัตย์และใจดี แต่ว่าเธอก็มี ศักดิ์ศรีของตนเองเหมือนกัน ไม่มีใครสามารถทนต่อคำเยาะเย้ย ของคนอื่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยไม่ได้รับความยุติธรรมแม้แต่น้อย

ความรู้สึกแบบนี้ นอกจากเสี่ยวเป้ย คงไม่มีใครรู้ดีกว่าตัวเอง อีกแล้ว

เมื่อพูดถึง ครอบครัวของเสี่ยวเป้ย ถ้าในตอนนั้นไม่ใช่เพราะ ช่วยเหลือแม่ของตัวเอง คงไม่ต้องเป็นเช่นนี้

ในเมื่อคุณแม่มอบเรื่องนี้ให้กับตัวเอง

ตัวเองก็ต้องให้คำอธิบายใหม่กับ เสี่ยวเปียและน้าห้า

“พี่ชาย ขอโทษ ให้พี่ต้องกังวลแล้ว งานเลี้ยงวันเกิดของ คุณย่า พี่ก็ไม่ได้เข้าร่วมให้จบงาน

ส่วนเสี่ยวเปียนั้น ร้องไห้อยู่ครู่หนึ่ง ก็เช็ดน้ำตา มองไปที่เฉิน เกอแล้วพูดขึ้น

“ไม่เป็นไร! เสี่ยวเป้ย เธออย่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป ต่อไป จะดีขึ้นเรื่อยๆเอง จริงๆ!

เฉินเกอจับมือของเสี่ยวเบี้ยไว้

“อืมๆ!”
เสียวเปียพยักหน้า

ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเสี่ยวเป้ยดังขึ้นอย่างกะทันหัน

ชาเลืองมอง คือพ่อบ้านอะเชิงที่โทรมา

“ตระกูลจัดการประชุมฉุกเฉิน ทุกคนต้องเข้าร่วม!” หลังจากนั้น อะเชิงก็วางสายโทรศัพท์

“ไปล้างหน้าหน่อย รีบไปเร็ว!”

เฉินเกอพูด

“ฉันไม่ไปแล้ว ฉันไม่อยากเข้าไปในบ้านนั้นอีกแล้ว ในที่สุด ฉันก็รู้ว่า ในตอนนั้น คุณป้ายอดเยี่ยมขนาดนั้น ก็ยังไม่อยากอยู่ ในบ้าน ที่ไม่มีกลิ่นอายของความรักเลยแม้แต่น้อย จริงๆนะพี่ ชาย บางที่สามารถทรมานคนจนเป็นบ้าได้!

เสี่ยวเป้ยพูดงอน

“ไม่ไปจะได้ยังไง เธอต้องคิดแทนคุณอาให้มากๆ อย่าให้ป้า ใหญ่ได้วิจารณ์อีก

อย่างน้อยตอนนี้ต้องไป!”

เฉินเกอยิ้มแล้วพูด

เสี่ยวเป้ย คิดครู่หนึ่ง คราวนี้พยักหน้าเบาๆ การประชุมจนถึงบ่ายสองโมงถึงได้สิ้นสุดลง

จากนั้นฟังเฉินเกอ แล้วก็ไป
ส่วนเฉินเกอนั้น ครั้งนี้ไม่ได้ไปกับเสี่ยวเป้ยจึงอยู่ที่บ้านช่วยน้า ห้าออกกำลังข้อมือเล็กน้อย

เสียวเปียกลับมาพร้อมน้าสะใภ้ห้า แต่ทันทีที่กลับมา ก็ได้ยินเสียงด่าทอของน้าสะใภ้ห้า

“โกวหรู ฉันไม่จบกับเธอแน่ มีการรังแกคนแบบนี้ด้วยเหรอ! ฉันจะไม่จบกับเธอแน่!”

โกวไฉเฟิง ด่าทอ

“น้าห้า เป็นอะไรหรือ?”

เฉินเกอเดินออกมาถาม

โกวไฉเพิ่งก็ไม่ได้ตอบกลับ ดวงตาแดงก่ำเดินเข้าไปในห้อง โดยตรง

เสี่ยวเปียก็อารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังคงพูดว่า

“พี่ชาย ตอนนี้ตระกูลหยางเกิดเรื่องแล้ว วุ่นวายเละเทะเหมือน โจ๊กเลย!”

“เกิดเรื่องแล้ว?”

จากนั้น เสี่ยวเป้ย ก็ได้เล่าถึงสถานการณ์

ก็เพียงแค่ครั้งนี้ตระกูลหยางตกอยู่ในช่วงวิกฤต แต่ไม่คาด คิดว่า ตระกูลหลงกล้าที่จะแตกคอกันอย่างโจ่งแจ้ง แล้วแทงข้างหลังตระกูลหยางอีกครั้ง

ธุรกิจหลักในปัจจุบันของตระกูลหยาง ซึ่งเป็นโครงการพัฒนา ที่ใหญ่ที่สุดที่เหลืออยู่ในตอนนี้ โดยตระกูลหลง โกงไปแล้ว แม้ว่าตอนนี้ทรัพย์สินของตระกูลหยางก็ยังใหญ่โตมาก แต่อย่างไรก็ตาม แต่ละครอบครัวทำแผนของอุตสาหกรรม

ขนาดใหญ่มาก ความต้องการของเงินทุนก็ยิ่งเยอะ โดยเฉพาะธุรกิจที่เป็นหัวหลักของตระกูลแบบนี้ ก็ต้องเป็น เส้นชีวิตที่หล่อเลี้ยงตระกูลหยางอยู่แล้ว

โครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ ได้สูญเสียไป

ก็ต้องเจ็บใจแน่นอน

ส่วนโกวหรูล่ะ ในขณะที่ถูกคุณย่า ก็ไม่ลืมที่จะปัดความรับ ผิดชอบ

บีบให้เสี่ยวเป้ยไปคุยโครงการใหม่

คุณย่าก็กำลังโกรธจัด จึงพูดออกมาว่า จะให้คนที่ได้ ประโยชน์ไปให้พ้น

ซึ่งหมายถึง เสี่ยวเปียและน้าสะใภ้ห้าโดยตรง

นี่เลยทำให้สองแม่ลูกโกรธแทบตาย

“เหอะๆ คือเรื่องนี้เหรอ? นั้นง่ายนิดเดียวเอง! หลังจากที่เฉินเกอฟังจบ อดไม่ได้ที่จะยิ้มแห้งๆ
“พี่ชาย จนเวลาแบบนี้แล้ว ตระกูลวุ่นวายไปหมด อยู่อย่าล้อ เล่นกับเสี่ยวเป้ยแล้ว! เฮ้ย ฉันกับแม่ก็โกรธจริงๆเลย ทั้งๆที่ลุง ใหญ่ก่อเรื่องขึ้น ทำไมมาโทษถึงพวกเรา!”

เสียวเป้ยบ่นเล็กน้อย

“พี่ชายจะล้อเล่นกับเธอได้ยังไง ที่จริงแล้วคุณยายก็ไม่ได้รับ ร้อนสำหรับโครงการนี้ เพราะอย่างไรแล้ว ตระกูลหยางก็ไม่ได้ ขาดแคลนเงินนี้หรอก แต่กังวลตระกูลหยางไม่มีโครงการใหม่ แล้ว ธุรกิจหลักของตระกูลหยาง คือการพัฒนาด้านวิศวกรรม มี โครงการ ก็เหมือนมีการโฆษณาอยู่ตลอดเวลา เป็นวัฏจักรที่ดี งาม ไม่มีโครงการ ก็จะแย่ลงเรื่อยๆ เป็นวัฏจักรที่เลวร้าย สิ่งที่ คุณยายกังวลคือจุดนี้!

เฉินเกอกล่าว

“พี่พูดถูก พี่ชาย แต่ถึงแม้ฉันจะอยู่ในแผนก โครงการ แต่การ ทำโครงการคนเดียวแบบนี้ ฉันทำไม่ได้แน่นอน นี่เป็นโกวหรู ที่ รับผิดชอบมาโดยตลอด ฉันเข้าใจว่า เธอแค่ต้องการใช้โอกาส เพื่อกำจัดฝ่ายตรงข้าม ในตระกูล! ขับไล่ฉันกับคุณแม่ไม่ออก ไป!”

“นั้นเธอก็ไปคุยโครงการใหญ่มาหลายโครงการให้เธอดู พี่ ชายช่วยเธอ!

เฉินเกอพูดยิ้ม

“พี่ชาย พี่ล้อเล่นกับฉันอีกแล้ว!”
“ไม่ได้ล้อเล่น เรื่องจริง!

เฉินเกอส่ายหน้า จากนั้นหยิบโทรศัพท์ออกมา หลังจากที่พูดไม่กี่คํา

ก็ได้พูดกับเสี่ยวเป้ยว่า “ได้แล้ว ตอนบ่ายเธอไปที่สำนักงาน ใหญ่ของบริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ปทางนั้นจะมีคนส่งมอบเรื่องโครงการ กับเธอ?”

“พี่ชาย พี่รู้จักคนใน บริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ปหรือ?”

ที่จริงแล้ว เสี่ยวเป้ย รู้สึกมาตลอดว่าพี่ชายลึกลับมาก “อืมๆ รู้จักมั้ง เพื่อนสมัยเรียนของฉันคนหนึ่งอยู่ที่นั่น!

เฉินเกอพูดส่งๆ

เพราะยังไงแล้ว ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะเปิดเผยอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าจะไม่มีความลับใดสำหรับเสี่ยวเป้ย แต่ก็มีบางเรื่องที่ยุ่ง ยากในการอธิบาย ไม่ใช่หรือ

“เธอวางใจได้ พี่เคยโกหกเธอเมื่อไหร่ หลังจากไปแล้ว แค่หา คนที่ชื่อจ้าวดังก็พอ เขารับผิดชอบเรื่อง โครงการ!

เฉินเกอพูดอย่างจริงจัง

เสี่ยวเป้ยเห็นว่าพี่ชายดูเหมือนจะไม่ได้โกหกตัวเอง จึงพยัก หน้าเบาๆ

ในความเป็นจริง เฉินเกอซึ่งตอนนี้ได้ควบคุมธุรกิจของตระกูล ในจีนทั้งหมดแล้ว จะมีอะไรที่จะทำให้เขาสะดุดล่ะ
ในขณะเดียวกับ เสี่ยวเป้ยก็ไม่ได้ละเลย

หลังจากที่จัดเตรียมเรียบร้อย ก็ได้ไปที่ บริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ป

จริงๆ เพราะเธอเชื่อว่า พี่ชายจะไม่ล้อเล่นกับเธอใหญ่ขนาดนี้ บริษัทซิ่นเฟิงกรุ๊ปเป็นกลุ่มบริษัทที่ยิ่งใหญ่อย่างมากในเยี่ยน จิง ไม่ใช่แค่ธุรกิจวงศ์ตระกูล แต่ว่าได้รับการยกย่อง และถูก

มองว่าเป็นไฉ่ซิ่งเอี้ยของธุรกิจวงศ์ตระกูลจำนวนมาก

ความสามารถใหญ่โตแค่ไหน สามารถจินตนาการได้

“คุณผู้หญิงคะ วันนี้ลูกค้ามีมากไปหน่อย เชิญคุณไปรอใน ห้องVIP!”

เมื่อหยางเสียวเปียไปถึงที่นั่น เจ้าหน้าที่บริการคนหนึ่ง ได้ พาหยางเสียวเป้ยไปยังห้อง VIP อย่างเคารพ

และเพิ่งเข้าไป

เมื่อหยางเสียวเป้ย เงยหน้ามองขึ้นมอง ก็ได้เห็นคนที่คุ้นเคย หลายคนอยู่ที่นี่

และเวลาเดียวกัน คนที่คุ้นเคยพวกนี้ ต่างก็เห็นหยางเสียวเ ยกันหมด

อุ้ยๆๆ นี่ไม่ใช่หยางเสี่ยวเป้ยเหรอ? ถึงกลับมาที่นี่ด้วย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ