ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 380 ชิงตัดหน้า



บทที่ 380 ชิงตัดหน้า

หวางเหวินและเหลียงเมิ่งพวกเขาหลายคนต่างเคลิบเคลิ้มไปกับ คฤหาสน์สูงเสียดฟ้าบนหน้าจออย่างลึกซึ้ง

“จินหลิงมีคฤหาสน์แบบนี้อยู่ด้วยหรือนี่? เหวินเหวิน ทำไมฉัน ไม่เห็นเคยรู้บ้างเลยล่ะ?”

โหเสี่ยวเซี้ยพูดอย่างตะลึง

หวางเหวินพยักหน้า : “ฉันก็เพิ่งเคยเห็นเหมือนกัน แต่ว่า เหมือนว่าฉันจะเคยได้ยินเรื่องคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าของจีนหลังนี้ มาก่อน มูลค่าเฉียดพันล้านเลยนะ!!

“พันล้าน?”

โหเสี่ยวเซี่ยกัดริมฝีปาก : “นี่ต้องเป็นของพวกผู้มีอิทธิพลใน ท้องถิ่นแน่!”

“นี่คือคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าของจินหลิง ทุกคนคงได้เห็นแล้วนะ ครับ ความจริงแล้วจุดประสงค์ของงานเลี้ยงในครั้งนี้ ผมก็แจ้ง ให้ทราบโดยชัดเจนแล้วอำเภอหงเซียนของพวกเรา ผู้คนมีความ เป็นอยู่อย่างดี ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและน้ำทะเลใส! ทีมของ พวกเราวางแผนว่า จะสร้างคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าในพื้นที่อำเภอ หงเซียน!!

ประธานโกวกล่าว
เมื่อได้ยินดังนั้น แขกเหรื่อที่มาในงานพากันฮือฮากันใหญ่

“ถ้าที่ อำเภอหงเซียน สามารถสร้างคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าแบบ นี้ได้ นั่นมันช่างยอดเยี่ยมจริงๆ! “ไม่รู้ว่าราคาเท่าไหร่เนอะ แต่ก็คงไม่ต่ำกว่าห้าหกร้อยล้าน

แน่ๆ!”

ผู้ชมกล่าว

ประธานโกวยิ้มไปพลางกล่าวว่า : “พูดไปแล้วก็น่าอึดอัดใจ ความจริงแล้วพวกเราคิดว่า จะนำภาพถ่ายระยะใกล้ของ คฤหาสน์สูงเสียดฟ้าของจินหลิงมาให้ทุกท่านได้ชมกัน แต่น่า เสียดาย ที่นั่นไม่สามารถเข้าไปใกล้ชิดได้ตามใจชอบ! ด้วยเหตุ นี้ พวกเราจึงเลือกมุมหลายมุม ถ่ายภาพมาหลายภาพ ให้ทุก ท่านได้เข้ามาชมกันก่อน!

ประธานโกวเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด

ก่อนอื่น วิลล่าประเภทนี้มีเพียงมหาเศรษฐีเท่านั้นที่ซื้อได้ และ ช่องทางการประชาสัมพันธ์แข็งแกร่งที่สุด ก็คือลูกชายของ ตระกูลเศรษฐีเหล่านี้

การพูดกันไปปากต่อปากของพวกเขา จะนำมาซึ่งความคิด เห็นและความนิยมของสาธาณชน มาสู่โครงการคฤหาสน์สูง เสียดฟ้าของจินหลิง ที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน

นี่คือวัตถุประสงค์หลักที่ประธานโกวจัดงานขึ้น ในวันนี้ ประธานโกวเห็นท่าที่ตกตะลึงของแขกเหรื่อ รู้สึกพอใจอย่างมาก

ตอนนี้ติดภาพไปที่ภาพหลักทางด้านหน้าอีกภาพ

เมื่อมองจาก ณ จุดนี้ มีบันไดทอดยาว ไปยังปลายเมฆ ทีละ ชั้นๆ

มันทำให้ผู้คนถึงกับตะลึงก็คือ

ภาพถ่าย ถ่ายติดภาพบุคคลมาด้วย

ที่บริเวณเชิงเขา เห็นมีรถหรูจอดอยู่หลายคัน

กลุ่มบอดี้การ์ดในชุดดำกลุ่มหนึ่ง ยืนเอามือไพล่หลัง ยืนแบ่ง กันอยู่สองฝั่ง

ภาพแบบนี้ เป็นฉากที่พบเห็นได้แต่ในครอบครัวของมหา

เศรษฐีดั่งในละครเท่านั้น

โหเสี่ยวเชีย ให้ความสนใจกับคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าบรรยากาศ ดีแบบนี้มาก

และสังเกตคนที่อยู่ในภาพถ่ายโดยละเอียด

เพราะบอดี้การ์ดชุดดำที่อยู่สองข้าง กำลังจ้องมองอย่าง เคารพไปที่ ชายหนุ่มคนหนึ่งที่กำลังเดินลงมาอย่างช้าๆจากบน ยอดสุด

ที่น่าเสียดายก็คือ เพราะมุมของการถ่ายภาพ มองเห็นเพียง เงาร่างของชายคนหนุ่มคนนี้

เห็นชัดว่า นี่คือภาพถ่ายที่ประธานโกวไปร่วมงานฉลองวันเกิดของ หลิน แล้วถ่ายไว้ในตอนแรก

“หนุ่มคนนี้เป็นใครกัน?”

“ยังจะถามอีก นี่ก็คือ เจ้าของคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าไงล่ะ!”

“แม่เจ้า นี่สิถึงจะเรียกชีวิตคนเรา ชีวิตเราควรจะได้อยู่แบบนี้สิ น่าอิจฉาเหลือเกิน!”

ทุกคนต่างพากันชื่นชม

หลังจากที่โหเสียวเซีย ให้ความสนใจอยู่สักพัก อดไม่ได้ที่จะ

ตื่นตะลึง

หา?

แต่ว่า โหเสียวเซียมีท่าทีหวาดกลัวมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ออกมา

ณ ตอนนี้ หวางเหวินดึงแขนของโหเสี่ยวเซีย พลางกล่าวว่า : “เสี่ยวเซี้ยเสี่ยวเซี่ย เธอดูเร็ว คุณชายคนที่อยู่ตรงกลางนั้น ดู คล้ายเฉินเกอใช่ไหม? เธอว่าไหมล่ะ?”

“ไหน? จะเป็นเขาไปได้อย่างไร อย่างมากที่สุดก็แค่คล้าย เฉิน เกอจะมีปัญญาซื้อคฤหาสน์แพงขนาดนี้ได้ที่ไหน!

โหเสี่ยวเชียกล่าว

ความจริง โหเสียวเซียไม่ได้เตรียมใจเอาไว้เลย ถ้าคนๆนี้เป็น เฉินเกอจริงๆขึ้นมาจะทำอย่างไร? ตัวเองต้องตายแน่ๆ ฮ่าๆ น่า เสียดายจะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ
“ไม่ใช่หรอ ฉันว่ามันคล้ายมากเลยนะ! ฉันไปถามเงินเกอ

กว่า!”

หวางเหวินตื่นเต้น โดยไม่มีสาเหตุ

จากนั้นหันหน้ากลับมา มองไปทางเฉินเกอ

และโหเสียวเซียก็มองไปทางเฉินเกอด้วยเช่นกัน แต่ว่า ผู้หญิงทั้งสองคนตกตะลึงพร้อมกัน : “อ้าว? เฉินเกอ ล่ะ?”

“เมื่อกี้ยังอยู่ตรงนี้เลยนี่ เขาหายไปไหนแล้วล่ะ?”

โหเสี่ยวเซียกล่าว

“อืม ฉันรู้แล้ว เฉินเกอต้องเกี่ยวข้องแบบพิเศษอยู่ที่นี่แน่ๆ ดัง นั้นจึงปลีกตัวออกไป พูดแล้ว น่าขนลุกจัง!”

โหเสี่ยวเซี่ยเหมือนเห็นพิรุธอะไรบางอย่าง บอกตรงๆ

หวางเหงินส่ายหน้าอย่างทำอะไรไม่ถูก

ตอนนี้เธออยากโทรหาเฉินเกอเหลือเกิน อยากจะถามเงินเกอ ว่าหายไปไหน แต่เห็นสีหน้าของเหลียงเมิ่งไม่ค่อยดี จึงไม่ได้โทร

ออกไป

พูดถึงเฉินเกอ

ถูกต้อง ตอนที่ประธานโกวพูดถึงคฤหาสน์สูงเสียดฟ้าของจิน

หลิงอะไรนั่น
เฉินเกอก็รู้แล้ว่าวันนี้ประเด็นของ ประธานโกว คืออะไร

ขึ้นอยู่ที่นี่ต่อไป ต้องอึดอัดใจเป็นแน่

ถ้าเกิดมีคนเห็นเขาขึ้นมาละก็คงไม่ดีแน่

โดยเฉพาะต่อหน้าโหเสียวเซีย

ดังนั้นเฉินเกอจึงเดินออกมาก่อน

ทีแรกตัวเองกะว่าจะมาเที่ยวกับหวางเหวินเล่นๆ แต่ยังมีธุระอีกหลายอย่าง อยู่นานไม่ได้หรอก

จึงเตรียมกลับไปที่ห้องพักตัวเอง

ขณะนี้ เฉินเกอรับสายขึ้นมาสายหนึ่ง เป็นลูกน้องโทรมา

“คุณชายเฉิน พวกเราผิดเองครับ ทีแรกพวกเราตามหา เบาะแสของสาวใช้คนนั้นเจอแล้ว ก็รีบไปทันที แต่ว่าสุดท้าย……. สาวใช้คนนั้น ถูกคนอื่นชิงเอาตัวไปก่อนแล้วครับ!

ถึงแม้จะมีเบาะแส ลูกน้องก็ติดตามอย่างใกล้ชิด คิดว่าการ ตามตัวสาวใช้คนนั้นไม่มีปัญหา

แต่ว่าสิ่งที่เฉินเกอคิดไม่ถึงก็คือ ถึงแม้ตัวเองจะระมัดระวังมาก แล้ว พอได้ข่าวก็ส่งลูกน้องออกไปทันที แต่ว่าก็ถูกคนซิงตัดหน้า

ไปเสียก่อน!

เฉินเกอรู้สึดหดหู่ใจ

“ใครกันที่เอาตัวไป?” เฉินเกอถาม
“ตอนนี้พวกเรากําลังสืบอยู่ครับ แต่ที่แน่ชัดคือ นอกจากพวก เราแล้ว ยังมีคนอีกกลุ่มหนึ่ง กำลังแข่งกับเราในการตามหาสาว ใช้คนนี้อยู่!”

“ผมรู้แล้ว ผมจะเพิ่มกำลังคนโดยเร็วที่สุด พวกคุณรีบไปสืบ มาเร็วๆเถอะ!”

เฉินเกอวางสายอย่างหัวเสียเล็กน้อย

ไม่รู้จะทำอย่างไรดีจริงๆ การตามหาคนๆหนึ่งทำไมถึงได้ยาก เย็นขนาดนี้!

“เฉินเกอ?”

ขณะที่เฉินเกอเตรียมจะขึ้นไปชั้นบน

ด้านหลัง มีเสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกชื่อเขาขึ้นมา

เสียงนั้นค่อนข้างกะทันหัน

เฉินเกอหันกลับไปมอง รู้สึกตกใจนิดหน่อย

เพราะบริเวณล็อบบี้ของโรงแรม มีคนอยู่จำนวนมากมาย

พวกเขาเป็นบอดี้การ์ดในชุดดำ และสวมแว่นตาดำเหมือนกัน

ดูพิเศษกว่าใคร

อย่างน้อยต้องมีราวสามสิบกว่าคน

ถ้าไม่เห็นว่ามีผู้หญิงสองคนอยู่ท่ามกลางคนกลุ่มนั้นด้วย เฉิน เกอคงคิดว่าน่าจะเป็นลูกน้องของตัวเองหรือเปล่า
ผู้หญิงสองคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นฟางเจี่ยนกันกับฟาง หยี!

“พวกคุณนั่นเอง!”

เฉินเกอส่งยิ้มให้

ถ้าตัวเขาจำไม่ผิด นี่น่าจะเป็นครั้งที่สองที่เห็นฟางเจียนนั้น เข้าออกสถานที่โอ่อ่าเช่นนี้

เฉินเกอรู้สึกสะเทือนใจเล็กน้อย

ไม่มีเหตุผล ฟางเจียนนั้นและฟางหนีทั้งสองคนปกติรัก ใน การเรียน ไม่ยอมขาดเรียนเลยแม้แต่คาบเดียว ทำไมวันนี้ ถึงได้ มาที่งานใหญ่ในอำเภอหงเซียน ได้ล่ะ

แต่เฉินเกอเข้าใจอะไรๆได้ทันที

ใช่แล้ว ฟางเจี่ยนนั้นและฟางหยี เป็นคนของตระกูลฟางนี่นา

ฟางเมิ่งชินก็ด้วย

พวกที่ตามหาเบาะแสของสาวใช้ของฟางเมิ่งซิน ก้ต้องเป็น พวกเขาฟางเจียนนันแน่เลย

“คิดไม่ถึงเลยจริงๆ จะได้เจอเธอที่นี่ เธอมาทำอะไรที่อำเภอหง เซี่ยนล่ะ?”

ฟางหยีถามอย่างงงๆ

แต่อย่างรวดเร็ว ฟางหยกขมวดคิ้ว มองหน้าฟางเงี่ยนนั้น แล้วหันไปมองเฉินเกอตั้งแต่หัวจรดเท้า
ถูกสายตาของสองสาวมองมา เฉินเกอรู้สึกขนลุกเล็กน้อย

มีอะไรหรือ ตัวเองมีพิรุธตรงไหน? ไม่มีหรอกมั้ง?


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ