ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 242 ต้องทานอาหารที่รสเลิศและมีระดับ



บทที่ 242 ต้องทานอาหารที่รสเลิศและมีระดับ

” ถึงว่าละวันนี้ซูเฉียงเวยถึงกล้าที่จะไม่ฟังฉัน ที่แท้เขาหาแฟน ได้แล้วนี่เอง ฉันอยากจะบ้าตายจริงๆ!” หลิวเอกลอกตามอง เฉินเกอและซูเฉียงเวยแล้วพูด

“เชอเอ๋อ ทําไมหรอ?”

และผู้ชายคนนั้นที่สองมือล้วงอยู่ในกระเป๋ากางเกงพิงอยู่ ประตูรถ ก็มองเฉินเกออย่างตั้งใจยิ้มเยาะ

“ก็ซูเฉียงเวยคนนี้ไง เดิมทีวันนี้นักเรียนก็หยุดเรียนกันหมด แล้ว พวกเราต้องตรวจการบ้านอยู่ที่โรงเรียน แต่ว่าฉันจะไปเดิน ช็อปปิ้งไม่ใช่หรอ ก็เลยจะให้เธอช่วย สุดท้ายแฟนของเธอมา เธอก็ไม่ช่วยฉันเลย!”

“หากไม่รู้ก็นึกว่าเธอหาแฟนได้เจ๋งแค่ไหน ที่แท้ก็ไอ้คนนอก นอกนี่เอง!”

หลิวเขอเล่าเรื่องราวเมื่อกี้ทั้งหมด

เธอเห็นเฉินเกอสวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงกีฬาและรองเท้า ผ้าใบอะไรพวกนี้ แวบแรกก็รู้สึกว่าแต่งตัวเหมือนพวกนอกคอก

จึงได้พูดจาแบบไม่สนใจความรู้สึกคนอื่น

“ก็ใช่ไง ถึงเธอได้ตำแหน่งครูที่สวยที่สุดแล้วจะยังไง ยังไง แฟนของเขอเอ๋อก็เก่งสุดแล้ว ยังขับรถเบนซ์ซี่รี่ส์ห้าอีก โคตรเจ๋งเลย!”

“แน่นอนจ้า พอดีฉันกับแฟนจะไปช็อปปิ้ง ยังไงละ จะนั่งรถ ของแฟนฉัน ไปเที่ยวด้วยกันมั้ย ถึงอย่างไรต่อไปนี้เราก็สามารถ ที่จะสร้างความสัมพันธ์ฉันเพื่อนร่วมงานได้ด้วย!

หลิวเซอพูดอย่างยิ้มแย้ม

อยากจะใช้โอกาสนี้ทำให้ซูเฉียงเวยโดดเดี่ยว

“จ้าดีจ้า!”

ผู้หญิงกลุ่มนั้นต่างพากันขึ้นรถอย่างอารมณ์ดี

เดิมทีเฉินเกออยากที่จะไปโต้ตอบหลิวเยอ

อย่างไรเสียเห็นซูเฉียงเวยถูกเธอรังแกแบบนี้แล้ว เฉินเกอ ต้องโกรธอย่างแน่นอน

เพียงแต่ว่า ซูเฉียงเวยได้ทั้งเงินเกอเอาไว้ไม่อย่าให้เงินเกอ

วู่วาม

“เย็ดแม่! มีเงินแล้วจะยังไง!?

เฉินเกอได้ด่าไปหนึ่งประโยคขณะที่ดูพวกเขาจากไป

จากนั้นก็พาซูเฉียงเวยไปนั่งบนรถเบนซ์จิ๊บของตัวเองที่จอด อยู่ข้างถนน แล้วก็จากไป

ตอนนี้เกือบจะสิบเอ็ดโมงแล้ว

เฉินเกอพาซูเฉียงเวยเดินเข้าไปยังร้านอาหารร้านหนึ่ง
“เฉินเกอ นายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับฉัน เรื่องอะไร หรอ?”

หลังจากที่นั่งลงแล้ว ซูเฉียงเวยก็ถามอย่างสงสัย

“เฉียงเวย เธอรู้จักผู้หญิงที่ชื่อเมิ่งซินหรือไม่?” เงินเกอก็ไม่อ้อมค้อม เรื่องนี้ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวข้องกับชาติ กำเนิดของซูเฉียงเวย ซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวเองด้วย หากเพิ่งชินคนนี้เคยเป็นผู้หญิงของคุณพ่อมาก่อน งั้นก็เท่ากับว่าตัวเองอยู่ดีๆก็จะมีน้องสาวหนึ่งคนแล้ว! และความรู้สึกแบบนี้ทำให้เงินเกอรู้สึกแปลกมาก เพราะฉะนั้นตอนนี้ เขาต้องถามให้ชัดเจน

และซูเฉียงเวยนั้น ได้ยินชื่อนี้แล้ว ทันใดนั้นได้เกร็งไปทั่วร่าง จากนั้นมองเฉินเกอด้วยใบหน้าที่ประหลาดใจ

“นาย…………นายรู้จักเธอได้ยังไงกัน?”

ซูเฉียงเวยถามอย่างตกใจ

เฉินเกอได้ฟัง น่าจะมีมูลแน่เลย

รีบพูดขึ้น: “เขาเป็นอะไรกับเธอ?”

ซูเฉียงเวยสายหัวอย่างเศร้าสร้อย “ฉันก็ไม่รู้ว่าเธอเป็นอะไร กับฉัน รู้เพียงแต่ว่าเขาได้ทอดทิ้งฉัน อาจจะเป็นแม่ของฉันก็ได้ ฉันเคยถามผู้อำนวยการสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าในภายหลัง เขาเป็นคนบอกฉันเอง!”

“เพราะฉันถูกพบที่หน้าประตูสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ตอนนั้น ตัวฉันได้แขวนไว้ด้วยหยกชิ้นหนึ่ง ข้างบนได้สลักค่าว่าเพิ่งน

ซูเฉียงเวยมองไปยังเฉินเกอ: “เรื่องนี้ฉันไม่เคยบอกกับใครมา ก่อน นายรู้เรื่องนี้ได้อย่างไร? พวกต้าหู เอ้อหูบอกนายหรอ?”

เฉินเกอคิดทบทวนแล้ว

ยังไม่บอกความจริงกับซูเฉียงเวยตอนนี้

ประเด็นสำคัญคือเงินเกอไม่รู้จะพูดยังไง

ก็เลยพูดไหลตามน้ำ: “อืมๆ เหมือนจะเคยได้ยินพวกเขาพูดถึง แต่จำไม่ได้ว่าใครเป็นคนพูดแล้ว แล้วเธอไม่คิดจะตามหาแม่ ของเธอหรอ? หรือตามหาคนที่เพิ่งซนคนนี้?”

เฉินเกอได้แยกถาม

“ฉันอยากที่จะตามหาเธออย่างแน่นอน แต่ว่าฉันก็ไม่รู้ว่าจะไป ตามหาเธอได้ที่ไหน!”

ซูเฉียงเวยพูด: “นี่ก็เป็นเหตุผลที่ทำไมฉันถึงไม่บอกกับนาย นายช่วยเหลือฉันมากเกินไปแล้ว ฉันไม่อยากที่จะให้นายช่วย เหลือฉันอีกแล้ว ตอนนี้ฉันก็ไม่รู้ว่าต้องตอบแทนนายยังไงแล้ว!”

“นี่ไม่ใช่เรื่องอะไรเลย ในเมื่อเธออยากจะตามหา งั้นเธอก็ วางใจได้เลย ฉันจะช่วยเธอเอง!”
เฉินเกอยิ้มแล้วก็ตบที่ไหล่ซูเฉียงเวย

“อืมๆ!”

ซูเฉียงเวยพยักหน้าอย่างหนักแน่น

จากนั้น ก็ได้เอาห่อสีแดงออกมาจากบนตัว หยิบหยกออกมา หนึ่งชิ้น

“เฉินเกอนายดูสิ ก็เป็นหยกชิ้นนี้แหละ!”

ซูเฉียงเวยได้นําหยกยื่นให้กับเฉินเกอ

เฉินเกอเพ่งมองแล้ว นี่มันเป็นหยกที่อยู่ในรูปที่คุณพ่อส่งมา ให้ตัวเองไม่ใช่หรอ

“เฉียงเวย หยกชิ้นนี้ให้ฉันเก็บไว้ก่อนได้ไหม ฉันอยากจะหา

อาจารย์ที่เชี่ยวชาญตรวจสอบที่มาที่ไปของหยกชิ้นนี้

เฉินเกอพูดอย่างยิ้มๆ

ซูเฉียงเวยนิ่งไปสักพัก แล้วก็พยักหน้า: “ได้จ้า!

ต่อมาเฉินเกอก็ได้ถามเรื่องราวในอดีตของซูเฉียงเวย “ข้างนอกร้อนมากเลย ครีมกันแดดของฉันยังเอาไม่อยู่เลย!”

ในเวลานี้ มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเข้ามาในร้านอาหาร หนึ่งในผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างอดไม่ได้ ในมือยังถือข้าวของอยู่

มากมาย

พี่เขอเอ่อ ข้างๆร้านอาหารยังมีร้านขายเสื้อผ้าเครื่องประดับเดี๋ยวพวกเราไปดูกันนะ

หญิงสาวคนหนึ่งได้กล่าวขึ้น

“ได้สิ ทานข้าวกันก่อนนะ!!

หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นหลิวเซอเพื่อนร่วมงาน ของซูเฉียงเวย

“ว้าว พี่เบอเอ๋อดูนั่น คนนั้นมันซูเฉียงเวยไม่ใช่หรอ? เธอก็มา ทานข้าวทีนี่ด้วย?”

หญิงสาวที่อยู่ด้านข้างได้ชี้มาที่ซูเฉียงเวยและเฉินเกอ

ดูเหมือนจะแปลกใจมาก แฟนของหลิวเยอรวยขนาดนั้น คงไม่พาพวกเธอมากินข้าวใน

ร้านที่ธรรมดาอย่างแน่นอน

เพราะฉะนั้นร้านอาหารร้านนี้ระดับไฮเอนด์

แต่ไม่คิดว่า ร้านระดับไฮเอนด์แบบนี้ ผู้หญิงอย่างซูเฉียงเวยที่ ปกติจะกินแค่กับข้าวหนึ่งอย่างก็สามารถที่จะเข้ามาได้

“โอ๊ย นี่มันซูเฉียงเวยไม่ใช่หรอ? มาทานข้าวที่นี่หรอ?”

หลิวเขอยิ้มเยาะแล้วเดินเข้ามา

เฉินเกอก็ได้เก็บหยกเรียบร้อยแล้ว เห็นหญิงสาวพวกนั้นเดิน เข้ามา เขาก็ได้ขมวดคิ้วขึ้น

“สั่งอาหารหรือยัง? ทำไมสั่งแค่เครื่องดื่มสองแก้วเองล่ะ?”
หลิวเซอพูด น

“เห่อๆ ไม่แน่ว่าสองผัวเมียนี้ แค่อยากเข้ามาสัมผัสดูเท่านั้น คนแบบนี้เห็นมาเยอะแล้ว หลังจากที่เข้ามาแล้ว อะไรก็ไม่สั่ง ก็ สั่งแค่เครื่องดื่มสองแก้ว แล้วก็ถ่ายรูป โพสต์ลงโซเชี่ยวโอ้อวด ทําเป็นรวย”!

ตอนนี้เพื่อนร่วมงานที่สนิทกับหลิวเซอได้พูดขึ้น

ถึงกับทําให้พวกหลิวเยอหัวเราะเสียงดัง

“บริกร มีอาหารชุดสำหรับสี่ท่านไหม? เอาอาหารชุดหนึ่ง เซ็ท? เอามาตรฐานที่สูงหน่อยนะ!”

“มีครับคุณผู้ชาย อีกอย่างทางร้านมีเมนูใหม่หนึ่งเมนูผัดเผ็ด กบชั้นเลิศ เชฟเสฉวนเป็นคนทำ ไม่ทราบว่าคุณผู้ชายจะลองชิม ดูไหมครับ?”

บริกรก็ได้มองไปที่พวกของหลิวเยอ

หลิวเจอก็ทำเสียงอู้ๆๆมองไปที่แฟนของตัวเอง แฟนของหลิวเขอหยิบเมนูขึ้นมา มองไปแวบเดียวก็อึ้งไป ทันที:

“เอาละๆ งั้นก็ลองชิม…………….

“แม่ง เธอสบายปะ? กบแค่จานเดียวราคา1699? จานเท่านี้ เนี่ยนะ?”

แฟนเธอพูดไม่ออก
หลิวเซอก็ตกตะลึง: “อ๋? แพงขนาดนี้เลยหรอ เท่ากับเงิน เดือนครึ่งเดือนของฉันเลยนะ!

“ใช่ครับคุณผู้ชาย นี่คืองานเล็กครับ ประมาณหกตัว อาหาร จานนี้ไม่ว่าจะเป็นวิธีกิน หรือการลิ้มลองรสชาติ ก็จะทำให้คุณ รู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่เสียไป

“คุณดูสิครับ ลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ต่างก็สั่งกัน

บริกรได้ชี้ไปโต๊ะที่อยู่ด้านข้างที่ลูกค้ากำลังรับประทาน

ก็จริงอยู่ วิธีการทำกับจานนี้ทำได้ถึงพริกถึงขิงอย่างแน่นอน

และพวกหลิวเขอต่างก็พากันดูราคาจานใหญ่ 2698หยวน

โหดไปมั้ยเนี่ย

ที่พวกเธอเข้ามาใช้บริการ ก็ตั้งงบประมาณไว้ที่หนึ่งถึงสองพัน

หยวน

งั้นก็เอาจานเล็กมาชิมดูก่อน? เห็นโต๊ะข้างๆต่างก็สั่งกัน ก็พูด อู้อี้อู้อี้ในปาก

“เอาละ งั้นก็เอามาหนึ่งจาน? เห่อๆ ไม่มีปัญหา!

พูดจบ แฟนของเธอยังตะโกนด้วยเสียงสูง: “เอาผัดกับมาชิม ดูหนึ่งจานซิ!”

เพื่อยืนว่าตัวเองนั้นมีกำลัง

ในเวลานี้ ฝั่งของเฉินเกือบริกรก็ได้เสิร์ฟอาหารแล้ว
บริกรได้ยกบะหมี่มาสองชาม

“ฮ่าๆ ว้าว กินแค่บะหมี่สองชามเองหรอ ช่างน่าอายเสียจริง?”

“โอ้มายก็อด เดี่ยวสั่งเข้าเปล่าสองถ้วยกับผัดเส้นมันฝรั่งให้ พวกเธอก็ได้นะ!”

หญิงสาวเหล่านั้นต่างก็หัวเราะขึ้นมา

“คุณผู้ชายครับ หลีกหน่อยครับ อันนี้คือผัดกบพิเศษจานใหญ่ ครับ ผมจะเสิร์ฟอาหารให้คุณครับ!”

ตอนนี้ บริกรคนหนึ่งได้ยกอาหารมาเสิร์ฟอย่างสุภาพ

และพวกที่อยู่ข้างโต๊ะ ที่กำลังปิดปากหัวเราะเงินเกือกับซู เฉียงเวย ในเวลานี้ รอยยิ้มก็ถูกสตาฟทันที……….


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ