ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 221 สิ่งต่างๆ ยังคงอยู่ แต่คนกลับเปลี่ยนแปลงแล้ว



บทที่ 221 สิ่งต่างๆ ยังคงอยู่ แต่คนกลับเปลี่ยนแปลงแล้ว

เฉวง เธอก็มาแล้วหรอ!”

พวกหวังรุ่ย ก็ได้ยิ้มทักทายกับเจียงเฉาง

“เฉินเกอ นายรอนานแค่ไหนแล้ว?”

เจียงเฉวง ในเวลานี้ก็ยิ้มพูดกับเฉินเกอ

“ไม่นานเท่าไหร่!” เฉินเกอพูดขึ้น

วันนี้เจียงเฉว่ฉิงแต่งตัวสวยไม่น้อย เป็นผู้หญิงที่ทําให้คนอื่น มองแล้วหวั่นไหวจริงๆ

แต่เฉินเกอ เพียงแค่ดูเท่านั้น ในใจไม่มีความคิดอะไรเกินเลย

“ใช่แล้ว เฉวง เมื่อวานเห็นในกลุ่มงานเลี้ยง เห็นพวกเขา คุยกันว่าคุณหาเจองานที่ดีมาก บริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ ปนั่น คุณเข้าไปได้อย่างไร? ได้ยินมาว่าเพียงแค่ทุนจดทะเบียน ก็ เป็นหนึ่งหมื่นล้านแล้ว!”

ในเวลานี้หวังรุ่ยพูดด้วยความอิจฉา

เดิมที่เธอได้คบกับตาเพิ่งที่มีร้านค้าเป็นของตัวเอง ก็ถือว่าได้ เข้าสู่ชีวิตฐานะปานกลาง

มีชีวิต ๆแน่นอน

ดังนั้นหวังรุ่ย ก็ค่อนข้างเหนือกว่าต่อหน้ากลุ่มเพื่อนๆ ในชั้นเรียน

แต่เมื่อเทียบกับเจียงเฉาง แล้ว ก็ยังรู้สึกว่าตัวเองด้อยกว่า

บริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ป มีใครไม่รู้บ้างว่าก่อตั้ง ลงทุน โดยคุณขายเฉิน แห่งจินหลัง เป็นโครงการพัฒนาขนาด ใหญ่ของ อำเภอผิงอันในอนาคต หากใครเข้าร่วมองค์กรนี้ ให้ ละล้านสองล้าน ก็ไม่ยอมแลกเปลี่ยนแน่นอน

ดังนั้นหลังจากที่ข่าวนี้หลุดออกมาในกลุ่ม ในกลุ่มก็ลุกไหม้ ทันที

ใครก็รู้ดีว่า ใช้เวลาอีกไม่นาน อำเภอผิงอันก็จะมีการ เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่หลวงแล้ว

“ตอนนี้ฉันก็เพิ่งเข้าบริษัทได้ไม่นาน ในอนาคตจะก้าวหน้ายัง ไงใน บริษัทยังไม่รู้เลย พูดตามตรงฉันก็ไม่ค่อยมั่นใจนัก! และที่ ฉันอยู่ไม่ใช่สำนักงานใหญ่ของบริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ ปแต่เป็นเพียงบริษัทเล็กๆ ที่ บริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ ปลงทุนเท่านั้น ไม่ได้ลึกลับอย่างที่พวกเขาพูด!

เจียงเฉว่ฉิง ยิ้มแห้งๆ

“ก็ยังเยี่ยมมากเหมือนกัน เฉวง คุณอย่าถ่อมตัวเลย!

หวังรุ่ย พูดด้วยความอิจฉาเล็กน้อย

สำหรับเงินเกอ อยู่ข้างๆรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยอยู่ข้างๆ ที่แท้เจียงเฉาจึงได้เข้าทำงานในเครือบริษัทที่บริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ปนี่เอง

และบริษัทตรีมเมอร์อินเวิร์สเมนท์กรุ๊ปเป็นของใคร?

ก็ต้องเป็นของเงินเกอแน่นอน!!

นั้นก็ไม่น่าแปลกใจเลย เมื่อวานตอนที่ตัวเองตัดริบบิ้นเสร็จ กำลังจะปั่นจักรยานออกไป ทันทีที่เข้าไปในงาน ในสนามกว้าง หน้างาน ก็ได้พบกับพวกเจียงเฉวง

งานฉลองเมื่อวาน มีคนดังมาไม่น้อย คนเลยเยอะเป็นธรรมดา

และเจียงเฉาในฐานะสมาชิกหนึ่งของบริษัทดรีมเมอร์อินเวิร์ส เมนท์กรุ๊ปพาไม่กี่คนเข้าไปเล่น ก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว

เฉินเกออดคิดไม่ได้ว่า บังเอิญจัง

“พอดีเลย เดี๋ยวเราเข้าไปด้วยกันนะ!”

เจียงเฉวง กำลังพูดถึงการไปงานเลี้ยงด้วยกัน

หวังรุ่ยพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว เฉวง เดี๋ยวคุณนั่งรถของเราไป

ด้วยกัน? มีคนมารับพวกเรา!

เจียงเฉว่ฉิงกำลังจะพูดอะไร

โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้นกะทันหัน

หลังจากรับสาย ก็เดินไปข้างหน้าด้วยใบหน้าเป็นอายเล็ก น้อย ตอบอื่นๆ สองสามที่ถึงได้วางสายโทรศัพท์

“แฟนของคุณหรอ?”
เงินเกอเห็นเจียงเฉิง ใบหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย เลย ยิ้มแล้วถามขึ้น

“พูดอะไรกัน ฉันยังไม่มีแฟนนะ แต่เพื่อนคนหนึ่งของฉัน เท่านั้น!”

เจียงเฉวง ยิ้มอย่างเก้อเขิน

และเฉินเกอก็ได้หยิบกุญแจรถออกมา เตรียมที่จะไปขับรถรับ

เจียงเฉวงไปด้วย

และในขณะนี้

Audi A4L สีขาวคันใหม่ก็พุ่งออกจากถนนราวกับเสือดุร้ายลง

ภูเขากะทันหัน

แล้วเบรกกะทันหันอีกครั้ง จอดหน้าป้ายรถเมล์โดยตรง

เลื่อนกระจกรถลง ผู้ชายสวมแว่นกันแดดคนหนึ่ง ยื่นใบหน้า

ออกมา

“ไปกัน เฉวง เดี๋ยวเพื่อนๆร่วมชั้นก็จะไปกันแล้ว เราสองคน

ไปกันก่อน!”

ชายหนุ่มพูดกับเจียงเฉว่ฉิง

และรถคันนี้ ก็ดึงดูดความสนใจของผู้คนจำนวนมากที่รออยู่

ตรงป้ายรถเมล์

เฮ้ย จริงๆเลย สาวงามก็ต้องมีไฮโซหนุ่มมารับ

ผู้ชายบางคนพูดอย่างน้อยใจ
“ลีเหวินหยาง พี่หยาง พี่เองหรอ พี่เพิ่งซื้อรถหรอ?” หวังรุ่ย ชายหนุ่มใต้ พูดด้วยความประหลาดใจในตอนนั้น

สี่เหวินหยางเห็นหวังรุ่ยกับตาเหิงก็อยู่ด้วย ก็รู้สึกประหลาดใจ ขึ้นมาเล็กน้อย

ก็เลยเดินออกมาจากรถ

มือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงพิงที่รถแล้วยิ้มพูดว่า “ซื้อมา ครึ่งเดือนก่อน ตอนนี้ถึงฝึกคล่องมือ

เหวินหยางก็อยู่ในห้องเดียวกันกับเฉินเกอ

ตอนแรกในชั้นเรียน คนที่มีอำนาจเงินทอง มีเพียงผู้ชายสอง คนเท่านั้น คนหนึ่งคือเขา ที่มีความสัมพันธ์กับองค์กรสาธารณสุข และ

อีกคนหนึ่งที่มีเงิน ก็คือเหวินหยางแล้ว

ลี่เหวินหยางและ ลี่เซา สองคนเล่นด้วยกัน สร้างปัญหาความ วุ่นวายในชั้นเรียน

แต่คนเขามีทุนทรัพย์ หลังเรียนจบ แต่ละคนก็ยังมีชีวิตที่ดีไม่ น้อย

แต่ที่มาทำให้เฉินเกอรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยก็คือ สี่เหวิน หยางในตอนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ค่อนข้างแย่กับเจียงเฉาง ยัง ทะเลาะกันหลายครั้งตอนนี้ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์จะไม่เลวนัก

พวกเขาคุยกันอยู่พักหนึ่ง ในเวลานี้หวังรุ่ย ชี้ไปที่เงินเกอแล้วพูดว่า “พี่หยางเงินเทอก็อยู่ด้วยนะ พี่ พี่ไม่คุยกับเขาเลย สี่เหวินหยางถึงได้พ้นสายตาไปมองเฉินเกอที่ยืนอยู่ข้างๆ “เฮ้ย! ปัดโธ่ รุ่ยส าคุณไม่เดือน ฉันจำไม่ได้จริงๆ เฉินเกอ มาด้วยหรอ!”

ลี่เหวินหยางยิ้มอ่อนๆ

“ซึม จริงๆเลยนะ หรือพี่หยางลืมไปแล้วว่า ตอนที่พวกเรา เรียนอยู่มัธยมปลาย ตอนที่พี่ขอเงินเกือลอกการบ้าน เฉินเกอ ไม่ได้พี่ลอก พี่ก็เลยเอาเก้าอี้ทุบตีเงินเกอจากบนเวทีถึงหลัง ห้องเรียน โดยตรง ตอนนั้นทุบตีกันหนักขนาดนั้น ทำให้คนอื่น ตกใจกลัวจะตาย!”

หวังรุ่ยยิ้มแล้วพูด คำพูดเหล่านี้ไม่ได้มีความตั้งใจแต่อย่างไร

แต่ทำให้เงินเกอรู้สึกอึดอัดยิ่งนัก

เหตุการณ์นี้เฉินเกอจําได้อย่างชัดเจนอย่าง แม้กระทั่งในตอน นั้น เหวินหยางก็คือความเจ็บปวดในหัวใจของเฉินเกอ เขามัก จะล้อเลียนตัวเองในที่สาธารณะ และยังทุบตีตลอดเวลา

ทําให้เงินเกอได้ยินชื่อของเขา ในใจก็หวาดกลัว

ก็เพราะการทุบตีในครั้งนั้น เจียงเฉวงกับหลี่ซื้อหาน เพื่อ ช่วยตัวเอง จึงได้ทะเลาะกับเหวินหยางยังทะเลาะกันค่อนข้าง รุนแรง
โดยเฉพาะเจียงเฉวง เพื่อออกหน้าแทนตัวเอง เอาหนังสือ เรียนตบตีสี่เหวินหยาง

ก็คือทําให้ค่อนข้างไม่สบายใจนัก

เฉินเกอเพียงแค่ยิ้มแห้งๆ

และสี่เหวินก็เปลี่ยนเรื่องแล้วพูดว่า “พอแล้ว ไม่ต้องรอแล้ว เราไปกันเถอะ เมื่อตอนที่ฉันโทรหา เฉวถึง ฉันนึกว่าแค่ตัวเธอ คนเดียว พอดีพวกคุณก็กำลังรอรถเมล์อยู่ นั่งรถของฉันไปด้วย

นั้นสายที่โทรเข้ามาเมื่อกี้ ก็คือเหวินหยางโทรหา เจียงเฉ วง

และเจียงเฉว่ฉิงก็อาจกลัวว่าตัวเองจะคิดมาก ดังนั้นจึงหลบๆ

ช่อนๆ

เฉินเกอคิดในใจ

เหอะๆ ที่จริงแล้วไม่มีความจำเป็นจริงๆ เฉินเกอก็ไม่คิดว่ามัน จะเป็นอะไร

เพียงแค่เดิมที่ได้พูดกันไว้แล้วว่า จะไปกับเจียงเฉว่ฉิงด้วยกัน แต่สุดท้ายแล้ว เจียงเฉานิ่งไม่เพียงแต่นัดกับตัวเองเท่านั้น ยังนัด กับเหวินหยางทำให้ เฉินเกอรู้สึกอึดอัดในใจเล็กน้อยเท่านั้น

“ใช่เลย งั้นเงินเกอเรานั่งรถของเหวินหยางไปด้วยกันเถอะ นายก็จะไม่ต้องนั่งรถเมล์ด้วย!”
เจียงเฉาง ในเวลานี้มองไปที่เฉินเกอด้วยใบหน้าแดงก่ำ

และต้าเหิงกับหวังรุ่ย ก็ต้องเห็นด้วยร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่แล้ว นั่ง Audi รู้สึกมีเกียรติไง! ยังสามารถทำความรู้จักกับ คุณชาย หยางมากขึ้น ช่างดีจริงๆ

“เกรงว่าจะไม่ได้แล้ว เดี๋ยวฉันยังต้องไปรับเพื่อนร่วมกันของ เราอีกคนหนึ่ง ห้องเขาอีกคน ที่นั่งก็เต็มแล้ว

ตอนนี้เหวินหยางได้นั่งอยู่ในรถ และเจียงเฉางเอง ก็นั่งอยู่ ข้างคนขับ

เหวินหยางพูดด้วยสีหน้าขมขื่นในเวลานี้

ทำให้เจียงเฉางยิ่งรู้สึกอับอายมากขึ้น “หา แล้วจะทำยังไง i?”

“ฉันว่าเอาอย่างนี้ดีไหม เฉินเกือนายนั่งแท็กซี่แล้วกัน ยังไง แล้วค่าแท็กซี่ก็เพียงแค่สิบกว่าหยวนเท่านั้น!” เหวินหยางพูด ด้วยสีหน้ารู้สึกผิด

“นั่งแท็กซี่อะไรกัน ข้างถนน จักรยานไม่ใช่หรือ เฉินเกอนาย ไปสแกนบาร์โค้ด แล้วไปได้เลย!” หวังรุ่ย พูดขึ้น

“ฮ่าๆๆ ให้ตายเถอะ นี่มันรุนแรงเกินไปแล้วมั้ง!” เหวินหยาง

หัวเราะเสียงดัง

จากนั้นก็พูดว่า “แค่นี้นะ เฉินเกอ เดี๋ยวเราเจอกันที่โรงแรม หลังจากพูดจบ เหวินหยางก็ขับรถออกไปโดยตรงเลย
และเจียงเฉาฉิง อยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเงินเกอ คำพูด อยู่ในปากแล้ว ก็ไม่ได้พูดออกมา เพียงแค่เลื่อนกระจกรถขึ้นไป เท่านั้น!

เฮ้ย! ยังจะพูดอะไรได้อีก………

หลังจากที่พวกเขาจากไป คนจำนวนไม่น้อยที่ป้ายรถเมล์ ต่าง มองเฉินเกออย่างน่าเวทนา บางคนยังแอบหัวเราะเยาะ

สิ่งที่เกิดขึ้นในเมื่อครู่ ไม่มีอะไรจะชัดเจนไปกว่านี้แล้ว เห็นได้ ชัดว่าชายคนนี้เป็นไอ้หนุ่มที่โดนคนอื่นดูถูก เฮ้ย น่าสงสาร จริงๆ!

เงินเกอท่าเหมือนหูทวนลม ยิ้มเบาๆอย่างจำใจ จากนั้นก็เดินไปที่จอดรถข้างๆ ขับBenz G ของตัวเอง ออก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ