บทที่ 181 ใช่พวกเขารึเปล่า
“อะไร?”
ในขณะที่มองเงินเกอถือกล่อง 2 กล่องเตรียมจะออกไป หล ซื้อทานกับเฉินหลินที่อยู่ข้างๆ ก็ตกตะลึง
ใช่ เมื่อกี้กำไลหยกสองชิ้นนี้เกือบทำให้หลีชื่อทานตกใจแทบ
กว่าจะจัดการเรื่องเสร็จ ตอนนี้เพิ่งจะหายใจได้สะดวกเอง ไม่คิดเลยว่าเงินเกอจะเป็นคนซื้อกําไลหยกสองชิ้น
หล่อหานรู้สึกเหมือนมีคนกำลังเตะหัวเธออีกครั้ง หัวแทบจะ ระเบิดจนว่างเปล่า!
ลูกตาของเฉินหลินกับตึงห้าวก็ต่างเบิกกว้าง
โดยเฉพาะเฉินหลินที่จับกำไลหยกครึ่งขึ้นอย่างมือไม้อ่อนจน มันตกลงพื้นแล้วแตกอีกครั้ง
“เดี๋ยวนะเฉินเกอ! กำไลหยกสองชิ้นนาย…..นายเป็นคนซื้อ อย่างนั้นหรอ?”
หลี อพานพูดอย่างตกตะลึง
เฉินเกอไม่ได้พูดอะไรเพียงแค่ถือกำไลหยกแล้วหมุนตัวออกไป
ครั้งนี้โกรธจริงๆแล้ว
ทำไมต้องพูดกับพวกเธอเยอะแยะค่ะ
“เฮอะ! ใครจะรู้ว่าจริงๆแล้วเขาเป็นคนซื้อรึเปล่า! ช่างเถอะซื้อ หานเฉินหลิน พวกเราไปกินข้าวที่ร้านอาหารกันเถอะ!!
ต่งห้าวพูดอย่างไม่ยอมที่จะให้คนอื่นเห็นว่าตัวเองด้อยกว่า
โธ่เอ้ย! คิดไม่ถึงว่าเงินเกอจะตบหน้าเขาอีกครั้ง
แล้วเขาล่ะ วันนี้จ่ายเงินไปตั้งมากมายเพื่อคิดที่จะผลักเด็กผู้ หญิงอย่างหลี่ซื้อหาน ให้ล้ม
แต่ตอนนี้กลับพังไม่เป็นท่า
ดังนั้นติงห้าวจึงรีบดึงความสนใจกลับมาที่ตัวเอง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ถ้าเงินเกอเป็นคนซื้อจริงๆ จะทำยัง
ไง? เขาจะเอาเงินมาจากไหน?”
พวกเขาเดินออกมาจากร้านทอง
ในใจหล่อหานหงุดหงิดไม่สบายใจนัก
เฉินหลินก็เช่นกัน เธอรู้สึกเหมือนมีคนกอกเธอจนเจ็บ
และน่ากลัวตรงที่มันคือความจริง
น่ากลัวกว่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นซะอีก
“เอาอย่างงี้ละกัน พวกเราเรียกเงินเอกลับมาดีไหม แล้วชวน เขามากินข้าวจะได้ถามเขาเรื่องนี้ดีๆ แล้วอีกอย่างครั้งแล้วที่เฉิน เกอซื้อโทร พท์พวกเธอก็เห็นว่าเขาเป็นคนมีเงิน! ต้องถามให้ ชัดๆไปเลยว่าเกิดอะไรขึ้น!
เงินหลินออกความเห็น
“ยิ้มๆ ฉันก็คิดแบบนั้น แต่เมื่อกี้ที่ฉันทำแบบนั้นกับเขาไป เขา จะยอมมาหรอ?”
หล่อหานพูดอย่างกังวล
“วางใจได้ เรื่องนี้เดี๋ยวฉันจัดการเอง ยิ่งห้าว เราไปสืบเรื่องนี้ มาให้ชัดเถอะดีไหม?
เฉินหลินถามตึงห้าวที่มีสีหน้าไม่ค่อยดีอีกครั้ง
“อื้มๆ ได้สิ ไม่มีปัญหา อาหารแค่มื้อเดียวเอง พวกเธอนัด
เถอะ!”
ถึงห้าวรู้สึกวุ่นวายแต่ก็อยากรู้เหมือนกันมามันเกิดอะไรขึ้น เมื่อก่อนถึงห้าวมองว่าหม่าเฟยเป็นคู่แข่งตัวฉมัง
ส่วนทีพวกหล่อหานเล่าว่าเมื่อตอนมัธยมปลายเกือบได้คบ กับเฉินเกอพวกนั้น ตึงห้าวกลับไม่เคยมองว่าเป็นเกอเป็นคู่แข่ง เลย
แต่ไม่คิดเลยว่าจะพบว่าเด็กคนที่น่าสงสารคนนั้นจะกลับกลาย เป็นภัยคุกคามต่อตัวเองที่สุด!
หากคูน้ำเสียงที่หรือทานที่พูดถึงเฉินเกอให้เฉินหลินฟังก็รู้
แล้ว
หลังจากที่หารือกันเรียบร้อย เงินหลินก็โทรหาเงินเกอ
ในขณะที่เฉินเกอกำลังเดินอยู่ เมื่อหยิบโทรศัพท์ออกดูก็พบว่า เฉินหลิน โทรมา
งานเลี้ยงคนบ้านเดียวกันคราวที่แล้วทำให้เฉินหลินมีช่อง ทางการติดต่อเงินเกอ
“ฮัลโหลเฉินเกอ นายไปไหนแล้วล่ะ? คืออย่างงี้นะ เรื่องเมื่อกี้ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ ตอนนี้พอฉันมาสงบอารมณ์คิดๆดูแล้ว ฉัน ไม่ควร ทำแบบนั้นกับนายเลย!”
“แล้วเมื่อกี้ฉันก็วู่วามมากไปหน่อย!
หล่อหานรีบตะโกนเข้ามาในสาย
“ใช่ๆ เพราะฉะนั้นฉันกับซื้อหานรู้สึกผิดมากเลยอยากชวน นายมากินข้าว กมือเพื่อขอโทษแล้วก็มาระลึกความหลังกัน!!
เฉินหลินกล่าว
เงินเกอหัวเราะเพื่อนๆ ถ้าวันนี้เขาไม่หยิบกำไลหยกสองชิ้นนั้น ไปเดาว่าก็คงไม่มีการขอโทษอะไรนั่นแน่ๆ และยิ่งไม่มีทางระลึก ความหลังนั่นด้วย
พูดตรงๆก็คือเพราเรื่องเงินนั่นแหละ
ถ้าคุณมีเงิน คนอื่นก็อยากจะระลึกความหลังด้วย
ถ้าคุณไม่เงิน การที่คนอื่นจำชื่อคุณได้ก็นับว่าเป็นเกียรติมาก แล้ว
อีกอย่างถ้าคุณมีเงิน ไม่แน่นะว่าจะสามารถสานสัมพันธ์กับห อหานได้อีกครั้ง
เหอะๆ
“ช่างเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร!”
เงินเกอไม่อยากไปแล้ว
“ไม่ได้นะเงินเกอ นายต้องมา นายดูถูกพวกเราใช่ไหม? ดูถูก เพื่อนมัธยมปลายกลุ่มน้อย่างพวกเราล่ะสิ? ก็ใช่สิ นายมันสอบ ติดมหาวิทยาลัยจีนหลังแล้ว พวกเรามันแค่ติดมหาวิทยาลัยครู ธรรมดาๆ ไม่คู่ควรกับนายหรอก! ฉันเข้าใจแล้ว!”
เฉินหลินพูดรัวเป็นชุดไม่หยุด
“ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น โอเค อย่างนั้นก็ไปกินข้าว สักมื้อกัน!!
เฉินเกอไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว
เอาเป็นว่าถ้าพวกเธอเต็มใจจะกินข้าวก็กินข้าวแล้วกัน ก็คงจะ กินเลือดกินเนื้อไปไม่เท่าไรหรอก จะได้ไม่เป็นขี้ปากพวกเธออีก
ดูที่พวกเธอพูดเข้าสิ!
ดังนั้นเฉินเกอจึงกลับไป
พวกเขาไม่ได้ไปกินในร้านบนถนนการค้า แต่กลับเลือกมากินร้านอาหารธรรมดาที่อยู่ข้างๆถนนการค้า
หลี่ซื่อทานยังสั่งอาหารให้เงินเกือมากมาย “เสี่ยวเหอ นายรีบพูดมาเลยนะว่าทำไมตอนนี้ถึงได้มีเงินขึ้น
มาล่ะ?”
หลังจากที่พูดสัพเพเหระอยู่นาน ในที่สุดเฉินหลินกับหลี่ซื้อ หานก็พูดเรื่องที่สนใจที่สุดออกมา
“มีเงิน? ฉันไปมีเงินตอนไหน ฉันไม่มีเงินสักหน่อย!”
เมื่อเห็นท่าทางของทั้งคู่เฉินเกอก็รู้สึกอยากจะทำออกมาใน ขณะที่พูดแกล้งเล่นด้วยค่าตอบที่แสนจะเรียบๆ
เขายัดพวกขาหมูกับข้าวเข้าปากไป
“ฮ่าๆ ช่างขี้แกล้งจริงๆเลยนะ ดูไม่ออกเลยนะเงินเกือว่านาย จะแกล้งทําได้เก่งขนาดนี้”
เมื่อก่อนเฉินหลินเรียนศิลปะจึงมีใจเปิดกว้าง
เธอพูดพลางหยกขาเงินเกอไปด้วย
“ฉัน…….ฉันไม่มีเงินจริงๆ!” เฉินเกอพูด
“ที่ไม่มีเงิน? ไม่มีเงินแล้วนายจะซื้อโทรศัพท์เครื่องละห้าหก หมื่นได้ไง ยังมีอีกนะ ยังมีอีก ไม่มีเงินแล้ววันนี้นายจะซื้อกำไล หยกสองชิ้นได้ไง! สองแสนห้านะ นายหลอกใครอยู่เนี่ย!”
เฉินหลินพูดอย่างข้องใจ
หลี่ซื่อหานก็มองเฉินเกอตาโต
“อ๋อๆ เธอพูดถึงโทรศัพท์กับกำไลหยกใช่ไหม พวกนี้มันใช่ เงินฉันหรอก ฉันแค่เป็นธุระให้คนอื่นเฉยๆ วันนี้กำไลหยกนี้ฉันก็ ต้องรีบเอาไปส่งแล้ว!”
เงินเกอไม่อยากพูดความจริงกับพวกเธอเลย
จึงปิดหูปิดตาพูดไป อย่างมากอีกหน่อยก็แค่กลายเป็นคนไม่รู้ จักกันเท่านั้นเอง ซึ่งก็ดีนะ
“ต๊ะ? อะไรนะ? ไม่ใช่ของนายจริงเหรอ?”
เฉินหลินกับหลอหานมองหน้ากันเหมือนได้ยกภูเขาออกจาก อกแล้ว
“ซื้อหาน เธอตัดขาหมูมาให้ฉันหน่อย ฉัน
เกอพูดขึ้นมา
น่ะ!” เฉิน
“โธ่เอ๊ย จะกินไปทำไมขาหมูนะ นายเป็นหมูไง? ถึงกินเยอะ ขนาดนี้ ถ้ายังกินเข้าไปอีกนะ นายนายแทบจะหายใจไม่ออก อยู่แล้ว!”
หล่อหานพูดออกมาอย่างเย็นชา
ใช่สิ โธ่เอ้ย ก็นึกว่าตอนนี้จะพัฒนาแล้วเสียอีก อุตส่าห์เลี้ยง
ข้าว สุดท้าย……. ก็แค่มาทำธุระให้
ส่วนเฉินหลินนั้นก็นั่งตีตัวออกห่างจากเฉินเกอ
แล้วพูดอย่างเย็นชา “เฮ้อ! เฉินเกอ เมื่อก่อนฉันคิดว่าถึงนายจะจนแต่นายก็เรียนเก่งต้องเป็นประโยชน์ในอนาคตแน่ๆ แต่ ตอนนี้ฉันคิดว่า ในอนาคตนายมันไร้ประโยชน์!
ค่าเรียกจากเสียวเทอก็กลายเป็นเงินเก
“พวกเราไม่ได้เพิ่งจะพูดไปหรือว่าอีกหน่อยเราจะอยู่ที่จีนหลัง คอยประคับประคองกัน พวกเธอรวมกันน่ะดีกว่าฉันเยอะอย่าง นั้นก็ช่วยดึงฉันขึ้นไปด้วยละกัน ยังไงซะพวกเราก็เป็นเพื่อนเรียน มัธยมปลายมาด้วยกันทั้ง 3 ปีแหนะ!”
จินเกอถาม
“ให้ตายสิ แล้วนายจะประคับประคองยังไง นายจะทำอะไรได้ ไม่ต้องพูดถึงมัธยมปลายสามปีเลย ฉันยังไม่เคยคุยกับนายเลย สักครั้ง นายไปพูดกับซื้อหานเถอะ ตอนนั้นพวกเธอทั้งคู่เกือบได้ คบกันแล้วไม่ใช่หรอ! ซื้อหานก็ชอบนายนะ!”
เฉินหลินตั้งใจพูดแบบนี้ให้ถึงห้าวฟัง
หล่อหานทนฟังไม่ได้ “เฉินหลิน เธอหมายความว่ายังไง อะไรคือการบอกว่าฉันชอบเฉินเกอ ฉันไปชอบเขาตอนไหนกัน!
หลี่ซื้อทานโกรธควันออกหู
เมื่อเห็นว่าสองคนพี่น้องกำลังทะเลาะกัน
ถึงห้าวก็คอยพูดโน้มน้าว
ความจริงยิ่งห้าวก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็เกิดมาหล่อ มีเงิน ผิดด้วย
หรอ?
เงินเกยไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้แล้วเขากินข้าวต่อราวกับมาดูความ กกเฉยๆ
ทันใดนั้นเอง
ประตูห้องอาหารที่เปิดออก
จู่ๆตำรวจสองสามนายก็เดินเข้ามา
“ไข่พวกเขาเปล่า?”
ตำรวจนายหนึ่งไปที่พวกเงินเกออย่างเย็นชา
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ