ที่แท้....ฉันเป็นลูกเศรษฐี!

บทที่ 141 ช่วยเพื่อนรักสักหน่อย



บทที่ 141 ช่วยเพื่อนรักสักหน่อย

วันนั้นตอนสิบเอ็ดโมงเช้า

หน้าประตูมหาวิทยาลัยจีนหลัง

มีหญิงสาวสามคนกำลังยืนที่ตำแหน่งหน้าประตูมหาวิทยาลัย มองไปรอบด้านอยู่ไม่ขาด

ใบหน้าเผยท่าที่ร้อนอกร้อนใจ

“ฉินเฟย นี่มันเรื่องอะไรกัน? ตกลงกันแล้วไงว่ามาเจอกันที่ หน้าประตูมหาวิทยาลัย ทำไมหลี่ปินถึงยังไม่มาอีก?”

“ใช่แล้วพี่เฟย ที่จริงคิดว่าหลี่ปินจะเอารถคันใหญ่มารับพวก

เราซะอีก สุดท้ายให้พวกเรามารอนานขนาดนี้!

ผู้หญิงสองคนถามผู้หญิงคนตรงกลางที่ชื่อฉันเฟยไปอย่างทน

ไม่ไหวสักเท่าไร

หญิงสาวสามคน หน้าตาสดสวยกันอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะคนตรงกลางที่ชื่อฉันเฟย เผยกลิ่นอายความสุภาพ สงบเสงี่ยมบุคลิกสง่า

“พอแล้วหลินเยว่ ตอนนี้หลปินเขากำลังเริ่มกิจการ เปิดร้าน มากขนาดนั้น อาจจะยุ่งมาก เมื่อกี้โทรศัพท์หาเขา เขาบอกว่า จัดการงานในมือเสร็จแล้ว วันนี้จะใช้เวลาทั้งวันมาอยู่เป็นเพื่อน พวกเรา”
จีนเฟยยิ้มตอบ

โรงเรียนของพวกหล่อนอยู่ที่เมืองนั่งเฉิง เคยได้ยินว่านหลัง เจริญรุ่งเรืองมาตั้งนานแล้ว เลยอยากมารู้จักสักหน่อย

หญิงสาวคนที่ซื่อหลินเยวคนนั้น เป็นรูมเมทของฉันเฟย

ได้ยินว่าหลี่ปินแฟนของฉันเฟยเก่งกาจมากที่จีนหลัง วันนี้ฉัน เฟยก็มาหาหลินอีก แน่นอนว่าพวกหล่อนสองคนเลยอยากตาม มาดูด้วย

ด้านหนึ่ง มาอาศัยบารมี

อีกด้านหนึ่ง คืออิจฉาอยู่บ้างเลยอยากมาดูหน่อยว่าหน แฟนของฉันเฟยสรุปว่าขี้โม้หรือเปล่า

ถ้าเก่งกาจขนาดนี้จริงๆ และดีต่อฉันเฟยขนาดนี้ด้วย คงทำให้

คนอิจฉาจริงๆ เลย

“นี่ สามสาวคนสวย พวกเธอกำลังรอใครกันอยู่?”

ทันใดนั้นเวลานี้ รถโฟล์กสวาเกนสีดำคันหนึ่งก็มาจอดตรง หน้าของฉินเฟยสามคน

พอปลดกระจกลง ก็เผยให้เห็นผู้ชายสองคนที่นิสัยอันธพาล ออกมา

พวกฉันเฟยก้มหน้าไม่ได้พูดอะไร เนื่องจากเจอผู้ชายแบบนี้มา จ็บมากเหลือเกิน และผู้ชายสองคนนี้ เห็นทั้งสามหน้าตาดูดีมาก
อย่างไรเสียก็ไม่ไปหรอก

“ดูท่าทางพวกเธอไม่ใช่นักศึกษาของที่มหาวิทยาลัยจีนหลัง ของพวกเรา มาหาคนสินะ? บอกพวกฉันได้นะ ไม่แน่ฉันอาจจะ ช่วยได้!

ผู้ชายทั้งสองคนรีบลงจากรถทันที “ขอโทษนะ เดี๋ยวหลปินก็มารับพวกเราแล้ว!”

หลินเยวพูดไปตามตรง

*หลี่ปิน? ไอ้สาด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่ะ?”

ผู้ชายสองคนมองหน้ากัน เดาว่าคงเป็นพวกโลโซที่ไม่มีชื่อ เสียงในมหาวิทยาลัย

ถ้ามีชื่อเสียงอยู่บ้าง ผู้ชายสองคนนี้ก็คงหมุนตัวไปแล้ว โดย

เฉพาะสามารถลดศัตรูไปได้สักคน ก็จะได้ลดลงไป

แต่ก็นะ อย่างพวกที่ไม่ได้โด่งดังแบบนี้ เขาทั้งสองคนก็ไม่กลัว แล้ว

ยิ่งเห็นฉันเฟยกับหลินเยวที่หน้าตาสวยงามจริงๆ อย่างไรเสียผู้ชายทั้งสองก็ต้องเอาวีแชทมาให้ได้

“อ๋อๆ หลี่ปินคนนี้พวกฉันไม่รู้จักหรอก แต่อากาศร้อนขนาดนี้ พวกเธอรออยู่ที่นี่ระวังโดดแดดไหม้จนผิวสวยๆ หมดนะ เอา แบบนี้เถอะ ด้านข้างมีร้านกาแฟ ฉันจะพาพวกเธอไปดื่มกาแฟรอ ดีไหม? ไปขึ้นรถเถอะ!
พูดตามจริงแล้ว หลินเยวมีความคิดอยากพุ่งขึ้นรถไปพอ

สมควร

พอมองเห็นผู้ชายสองคนนี้เป็นพวกที่มีเงินมาก ทว่าพอคิดถึง หลานอาจจะมีเงินยิ่งกว่าพวกเขา จะว่าไปแล้วอย่างไรตนเองก็ แค่มาเป็นเพื่อนฉันเพีย

เห็นฉันเฟยส่ายหน้า หลินเยวจึงส่ายหน้าตาม

“พวกเธอจะเกรงใจอะไรกัน รีบขึ้นรถสิ คิดซะว่าเป็นเพื่อนกัน

ผู้ชายคนหนึ่งพูดพลางเข้าไปดึงมือของฉันเฟยอย่างใจกล้า

“พวกนายทําอะไรกัน! เป็นบ้ารึเปล่าเนี่ยพวกนาย

ถูกฉินเฟยสะบัดมือทิ้งไปด้านข้างฉับพลัน

แถมยังถูกต่อว่าอีกประโยคหนึ่ง

อยู่ในที่ที่ผู้คนมากมายเช่นนี้ ทำเอาผู้ชายทั้งสองขายขี้หน้า มาก พวกเขาเคยจีบผู้หญิงมาไม่น้อย เคยมีฉากที่โดนผู้หญิง ปฏิเสธต่อหน้าสาธารณชนที่ไหนกัน?

เวลานี้ผู้ชายสองคนมองหน้ากัน พูดหัวเราะเยาะ “คนสวย น ช่างไม่ไว้หน้ากันไปหน่อยมั้ง? คนอื่นเขายอมรับผิดแล้วตัวเองยัง มาอีกงั้นเหรอ?”

พูดจบ ยังอยากจะลงไม้ลงมือ

“เชี่ยแม่ง!”

จากนั้น ทว่าครั้งนี้ยังไม่ทันแตะต้อง
ก็ได้ยินเสียงปิ้งที่หนึ่ง ผู้ชายคนหนึ่งที่เป็นหัวหน้าก็โดนถีบ กระเด็นออกไปราวกับว่าว สายขาด

เป็นหลปินกับหยางฮุย ทั้งยังมีเงินเกอพุ่งเข้ามาแล้ว ตอนที่ทั้งสามคนออกมาหน้าประตูมหาวิทยาลัย ก็มองเห็น ผู้ชายสองคนนี้กำลังลงไม้ลงมือกับพวกฉันเพียอยู่

ตอนนั้นจึงพุ่งเข้ามาอย่างเดือดดาลเกินทน

“แม่ง กล้าแตะต้องผู้หญิงญี่ปุ่นของพวกฉันรนหาที่ตายนี่หว่า หยางฮุยด่าไปชุดหนึ่ง ร่วมมือกันกับเฉินเกอตีอีกคนไปด้วย

เลย

“ไอ้สาด พวกแกสามคนอยากตายรึไง? กล้ามาต่อยฉัน?” ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าร้องด่าทอ จับเอวที่เจ็บจนเหงื่อตกลงมา

แล้ว

“ต่อยแกเหรอ? ใครใช้ให้แกมาคุกคามแฟนฉันล่ะ? ฉันเอา แกตายแน่!”

หลี่ปินตาแดงขึ้นจริงๆ แล้ว

ดูออกว่าเขาห่วงใยฉันเฟยมากเหลือเกิน ตอนนั้นจึงกระโจนขึ้นมาแล้ว เงินเกือกับหยางฮุยในบังคับจัดการไป

ทั้งสองต่างก็โดนตีไปไม่เบา
“ไอ้เด็กน้อย จําเอาไว้ด้วย ต่อไปเวลาเจอผู้หญิงของคุณชาย หลี่ของพวกฉันก็เบิกตาดูให้ดี แล้วใสหัวไปให้ไกลๆ หน่อย ได้ นโยัง?”

เงินเทอตะคอกใส่

“คุณชายหลี่? ได้ ฉันได้ยินแล้ว จำไว้แล้ว!”

ผู้ชายทั้งสองคนแม้แต่จะสู้ก็สู้ไม่ได้ ตอนนี้จึงได้แต่หลบไป ก่อนเหมือนยอมแพ้

อันดับแรก คนคนนี้ชื่อหลี่ปิน ถึงแม้จะไม่เคยได้ยินชื่อ แต่ว่ามี ลูกน้องที่ซื่อสัตย์สองคนเช่นนี้ แสดงว่าต้องไม่ธรรมดาแน่

ต้องไปสอบถามให้ดี แล้วค่อยวางแผนอีกมั้ง?

ส่วนเฉินเกอกับหยางฮุยได้หารือกับหลี่ปินเรียบร้อยตั้งแต่แรก

วิธีของเฉินเกอก็คือวันนี้ช่วยหลี่ปินผ่านสถานการณ์นี้ไปให้ได้ ทั้ง สองจึงรับบทเป็นลูกน้องของหลี่ปุ่น ว่ากันตามหลักการแล้ว หลี่ปินคุยโม้จีบสาว เฉินเกือกับหยาง

ฮุนไม่ควรช่วยเหลือ

ทว่ากลับโดนความรู้สึกที่หลีในมีต่อฉันเลยทำให้หวั่นไหว แล้ว

จะว่าไปความสัมพันธ์อย่างเพื่อนรักสามสี่ปีของทั้งสามคนนี้ จึงไม่สามารถมองหลปินระทมทุกข์แบบนี้ไปต่อหน้าต่อตาได้ ดังนั้นทั้งสองคนจึงเตรียมช่วยต่อไป
ให้หลปินผ่านด่านนี้ไปได้ก่อนแล้วค่อยว่ากัน

นึกไม่ถึงว่าจะเจอแฟนสาวของหลี่ปินไดนรังแกเข้าให้ ยังทน ได้ที่ไหนกัน

“ร้าย พี่เฟย แฟนเธอ หล่อสุดๆ ไปเลย!!

เวลานี้หลินเยวมองหลี่ปินด้วยความตื่นเต้น

บอกจะดีก็ดี เรียบง่ายแต่ก็นุ่มบ่าม ต่อยจนสองคนนี้ไม่รู้จะ ตอกกลับอย่างไร

ช่างเป็นวีรบุรุษ ช่างหล่อเหลือเกิน

“หลี่ปิน นายทําให้พวกเขาตกใจหนีไปก็พอ จะลงมือสู้คน ทําไม ต่อยคนอื่นจนแย่แล้วไม่ต้องชดเชยเงินเหรอ?”

ฉันเฟยพูดกับหลี่ปินอย่างต่หนีอยู่บ้าง

“ไม่เป็นไร พวกนี้มันเรื่องเล็กๆ

หลี่ปืนตบหน้าอกพูด “ใช่แล้วเหล่าเฉิน จัดการสถานที่กินข้าว ไว้เรียบร้อยรึยัง?”

เงินเกอรีบยิ้มตอบด้วยท่าทางของลูกน้องทันที “วางใจได้คุณ ชายหลี่ จัดการไว้หมดแล้ว สถานที่เลือกเป็นที่ห้องครัวเจียหยวน ตอนนี้พวกเราเข้าไปกันเลยไหม?”

นี่คือสถานที่ที่เฉินเกอตั้งใจเตรียมการไว้

ในเมื่อต้องการรักษาหน้า จึงต้องเลือกที่ถนนการค้าจีนหลัง วิลล่าสปานั้นมาตรฐานสูงเกินไป มีความรู้สึกขี้โม้เกินไป ห้องครัวเจียหยวนไม่เล็กไม่ใหญ่ นี่จึงกำลังดี

หล่อนเอาศีรษะอย่างตกใจอยู่บ้าง ส่งสายตาให้เงินเพื่อไป ความหมายคือห้องครัวเจียหยวนนี่แพงเกินไปอยู่มั้ง จะ สามารถจ่ายค่าอาหารได้ไหวอย่างไรกัน?

เงินเกอเพียงแค่ส่งสายตาให้เขาวางใจได้ไปที่หนึ่ง จากนั้นทุกคนถึงเรียกรถ แล้วทั้งหมดก็มุ่งหน้าไปยังห้องครัว

เจียหยวน

“ว้าว นี่คือถนนการค้าจินหลิงเหรอ ห้องครัวเจียหยวน มาตรฐานต้องสูงมากแน่ ฉันเคยได้ยินเพื่อนนักเรียนที่จีนหลังพูด กัน”

ระหว่างทาง หลินเยว่กำลังมองอย่างตื่นเต้นไปหมด

หยิบมือถือมาถ่ายรูปไม่หยุด

“คุณชายหลี่ รอคุณเรียนจบซื้อรถแล้ว ฉันกับพี่เฟยจะมาเที่ยว อีก คงไม่ต้องขึ้นรถมาแล้วใช่มั้ย?”

หลินเยวพูดอย่างเสียใจอยู่นิดๆ

“แน่นอน !”

หลปินเช็ดๆ เหงื่อที่หน้าผากแล้วตอบ

ส่วนฉินเฟยก็จับมือหลี่ปินเอาไว้ ภายในดีใจอยู่นิดๆ หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงที่เห็นเงินแล้วตาลุกวาวแบบนั้น ทว่าแฟนหนุ่มเจริญก้าวหน้า เป็นใครก็รู้สึกว่าตนเองมีหน้ามีตาไม่ใช่เหรอ

“เฮ้ๆ ถึงแล้วๆ ลงรถกันเถอะ!!

เงินเกฎกับหยางฮุยนั่งอยู่รถคันด้านหน้า เวลานี้เป็นเภอสาย สะโพกเดินเข้ามาเปิดประตูให้หลี่ปิน

ไป ไปกินข้าวด้วยกัน”

หลี่ปินยิ้มบอก

ทุกคนตามกันมาถึงหน้าร้านอาหาร เตรียมไปห้องอาหารที่ เงินเกอจัดเตรียมไว้แต่แรก

“ให้ตายเถอะ! หลี่ปิน หยางฮุย นามสกุลเงินอีก? ทำไมเป็น พวกนายล่ะ?”

ในหน้าร้านอาหารเวลานี้ มีชายหญิงกลุ่มหนึ่งมาพอดี พวก

เขากำลังเตรียมจะไปที่ห้องอาหาร

ทว่าพอหันตัว ผู้หญิงคนหนึ่งในนั้นที่แต่งตัวเพริศพริ้งมากก็

พูดด้วยท่าทางตกตะลึง

เห็นได้ชัดว่าแปลกใจมาก

“หลินเจียว?”

เฉินเกอก็มึนงงเช่นกัน คาดไม่ถึงว่าจะเจอกับยัยผู้หญิงบ้าคน

เวลานี้ทั้งสองฝ่ายล้วนเบิกตาโตกันพอสมควร


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ