แต่ก็ยังคงโทรหาเจิ้งยวก่อน
ถึงแม้ว่าเจิ้งยวจะหน้าเงิน แต่ช่วงนี้ที่ได้ คบหาสมาคมกัน ขอเพียงเป็นเรื่องของเขา เจิ้งยวี่ ก็จะใส่ใจเป็นพิเศษ
เป็นเช่นนั้นจริง หลังจากที่เขาโทรไป เธอก็ รีบมาทันทีเลย
เฉินเกอจึงได้ปาดเหงื่อยบนหน้าผาก แล้วก็ โทรหาซูมู่หาน
“ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกไม่ สามารถติดต่อได้ในขนาด…..….
ปิดเครื่องไปแล้ว!
เฉินเกอก็เลยส่งข้อความ
เป็นไปตามคาด ถูกเธอบล็อกไปแล้ว
เฮ้ย!
พูดตามตรง ตอนนี้เฉินเกอรู้สึกโทษตัวเอง แล้ว
โทษตัวเองมากกว่าเมื่อวานอีก การที่โดนเท เป็นเรื่องที่ใหญ่พอสมควร จนเขาไม่รู้ว่าควรจะ อธิบายยังไงดี
หลังจากที่เฉินเกอกลับไปที่มหาวิทยาลัย ยังอุตส่าห์ไปหาซูมู่หานตั้งหลายครั้ง ก็ถูกปิดประตูใส่ทุกครั้ง
ซูมู่หานไม่ยอมมองหน้าเขาเลยแม้แต่นิด
เดียว
สงครามเย็นนี้ ไม่รู้ว่าจะต้องต่อสู้ถึงเมื่อไหร่ เฉินเกอเดินอยู่ที่มหาวิทยาลัยคนเดียว ก็
เลยไปนั่งที่สวนสาธารณะสักพัก
ปัญหาเรื่องความรักระหว่างชายหญิงนั้น เฉินเกอไม่รู้จริงๆว่าควรจะทำยังไง
วันนี้เขาได้ยินค่าพูดประโยคหนึ่ง ก็คือเวลา ที่ผู้หญิงบอกว่าไม่อยาก แท้จริงแล้วก็คืออยาก
ทําให้นึกถึงหยางเสว
เมื่อก่อนก็อยู่ในสวนสาธารณะแห่งนี้
ทั้งสองเดินจูงมือกัน
แล้วเฉินเกอก็ได้รวบรวมความกล้า ถาม หยางเสวว่า ไปเปิดห้องด้วยกันมั้ย
“เจี๊ยะ!”
“ไปไกลๆเลยเฉินเกอ นายเห็นฉันหยางเส่ว เป็นผู้หญิงยังไงเหรอ!”
เฉินเกอจําได้ หลังจากที่ตัวเองโดนตบไป แล้ว หยางเสวยังด่าเขาชุดใหญ่
เห็นได้ชัดว่าเธอไม่อยากไป แต่พฤติกรรมนั้น คือไม่อยากจริงๆเหรอทําให้ตอนนั้นโทษตัวเองอย่าง หนัก ก็ใช่น้อ เสี่ยวเล่นเป็นผู้หญิงที่ดีขนาดนี้ จะ ทําเรื่องแบบนั้นได้ไง ยิ่งทำให้เฉินเกอดีกับหยาง มากกว่าเดิม
ตอน
เห่อ ผู้หญิง~
ก็ไม่รู้ว่าหยางเสวตอนนี้ไปไหนเสียแล้ว ทำ อะไรอยู่?
สภาพแวดล้อมนี้ ทำให้เฉินเกอคิดถึงหยาง เสวขึ้นมา
แต่ความคิดแบบนี้ ชั่วพริบตาเดียวก็หายไป
เพียงแค่นั่งในสวนสาธารณะ นั่งติดลมบน จนถึงเวลาห้าโมงกว่า
เวลานี้ โทรศัพท์เฉินเกอได้ดังขึ้น เป็นเจิ้งย ที่โทรมา
คุณชายเฉิน อยู่ไหน?
ฟังเสียงพูดของเจิ้งยวี่เหมือนมีเรื่องร้อนใจ อยู่ในสถานะกึ่งร้องไห้
เฉินเกอเส้นประสาทตึงทันที หรือว่าหยิงเอ๋
อเป็นอะไร?
“ผมอยู่ที่มหาวิทยาลัย กำลังจะเตรียมตัว ไปโรงพยาบาล ส่งของกินไปให้เธอ! เธอ เป็นอะไรหรือเปล่า?”
เฉิน
“คุณชายเฉิน วันนี้บ่าย มีเรื่องเกิดขึ้นกับฉัน เพราะแม่ฉันทั้งนั้น ไอ้หยา ตอนแรกฉันก็นึกว่า เธอแค่คุยเล่นกับฉัน และฉันก็ได้บอกกับเธออย่าง ชัดเจนว่าไม่ได้ ไม่ได้จริงๆ แต่ตอนนี้? แม่ฉันได้ จองโต๊ะและอาหารไว้ที่จินหลิง จะให้ฉันและคนที่ จะมาดูตัวกับฉันไปกินข้าวด้วยกัน!”
“คุณชายเฉิน ฉันไม่อยากไปจริงๆ ฉันอายุ
ยังน้อย คุณว่าไหม?” เจิ้งยวี่พูดอย่างร้องไห้
เฉินเกอฟังจบ ถึงได้โล่งอก
เรื่องนัดบอดที่ทางครอบครัวจัดให้นั้น
พูดตามจริง ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดขึ้นตามร
อบๆตัวของเฉินเกอ
มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร
ตอนนี้เขาก็ใกล้จะจบแล้ว แต่เจิ้งยวี่ที่จบไป นานแล้ว มีคำพูดอยู่ประโยคหนึ่ง คนเราที่อยู่ใน แต่ละช่วงเวลา เกือบทุกคนต้องประสบสิ่ง เดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน
นัดบอดก็เป็นหนึ่งในนั้น
“เธอไม่อยากไปจริงๆใช่มั้ย?”
อืมๆ ไม่อยากไปเลยคุณชายเฉิน คุณว่า
ฉันควรทําไงดี? ตอนนี้แม่ฉันได้สั่งอาหารเตรียมพร้อมแล้ว ฝั่งผู้ขายก็ได้ไปแล้ว ก็ไม่ได้พูดชัดว่า ไปดูตัว แค่บอกว่านัดทานข้าวตามประสาคนรู้จัก
“ได้ เดี๋ยวฉันไปเป็นเพื่อนเธอ ฉันช่วยเธอ
ปฏิเสธเอง!”
เฉินเกอพูดอย่างเรียบเฉย
“อ่า? จริงเหรอคุณชายเฉิน คุณช่างดีเหลือ เกิน ฉันควรจะพูดไงดี พูดว่าคุณเป็นหัวหน้าของ ฉัน หรือว่าเป็นเพื่อนของฉัน? หรือว่า…
“ก็บอกว่าเป็นเพื่อนของเธอละกัน!”
เฉินเกอยิ้มแหยๆ
ยังไงวันนี้เจิ้งยวี่ก็ช่วยเหลือเขา เขาช่วย เธอก็เป็นเรื่องที่สมควร
ยังไงก็แล้วแต่เจิ้งยวี่ก็เป็นพนักงานของตัว เอง ขอร้องถึงตัวเองแล้ว ตัวเองก็ไม่สามารถที่นิ่ง ดูดายได้
ดังนั้นครั้งนี้เฉินเกอเลยเสนอตัวช่วยเอง
หลังจากที่นัดแนะกันเรียบร้อยแล้ว เฉินเก อก็มาส่งข้าวให้หยิงเอ่อที่โรงพยาบาลก่อน รอ จนกว่าซูเฉียงเวยมาถึงแล้ว ถึงได้พาเจิ้งยวออก
สถานที่เป็นห้องวีไอพีของร้านอาหารร้าน หนึ่งในจิงหลิง
เรื่องแบบนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฉินเกอทำ ถือว่าเป็นเรื่องที่ถนัดเลยก็ว่าได้
โดยส่วนใหญ่การเปิดตัวก็จะเหมือนๆกัน
ผลักประตูห้องวีไอพีออก “อ้อ ยวี่ย ทําไมเธอเพิ่งมา หม? ผู้ชายคนนี้ เป็นใคร?”
ในห้องวีไอพี มีผู้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่ง ที่แต่งกายทันสมัย น่าจะเป็นคุณแม่ของเจิ้งย เวลานี้จ้องมองเฉินเกอด้วยสายตาที่เย็นชา
ดูการแต่งกายที่ธรรมดาของเฉินเกอ ก็ ทำให้ผู้หญิงวัยกลางคนนี้ดูแคลนเขาเล็กน้อย
เธอเป็นคนในเมือง ตั้งแต่ไหนแต่ไรก็ดูถูก การแต่งตัวของคนบ้านนอกอยู่แล้ว
“อ๋อๆ เขาชื่อเฉินเกอ เป็นแฟน………ของหนู เอง!”
และเจิ้งยวี่ ก็ไม่รู้ว่าในสมองกำลังคิดอะไร
อยู่ ถึงได้พูดแบบนี้ออกมาได้ เต็มทีได้นัดแนะว่าเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอ?
ถูกแต่งตั้งให้เป็นแฟนอีกแล้ว แม่ง!
ในใจเฉินเกออึดอัดเล็กน้อย ในเมื่อเป็นแบบ นี้แล้ว ก็ไม่สามารถคัดค้านอีก
และเจิ้งยวนั้น หลังจากพูดจบก็แลบลิ้น ลนลานทันที
ใช่ไง ตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่น่ะ?
ก็ต้องคิดแบบนี้สิ หากคุณเฉินเป็นแฟน ของเธอคงจะดีมากเลย ช่วงสองสามวันนี้ แม้แต่ในฝันเจิ้งยวี่ยัง
อยากเป็นแฟนเขาเลย เมื่อก่อน เจิ้งยวี่รู้ว่าเฉินเกอมีเงิน ถึงได้ชอบ
เฉินเกอ
แต่ว่าจากการคบหาสมาคมในช่วงนี้ เจิ้งยวี่ ได้เห็นอีกด้านหนึ่งของเฉินเกอ ไม่ทำตัวให้เป็น จุดสนใจเก็บความรู้สึกเก่ง ใจกว้างกับทุกคน และ คุณชายเฉินยังเป็นคนเชื่อมั่นตัวเองมาก
เจิ้งยั่วที่รักเฉินเกออยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้ยิ่ง เทิดทูนเฉินเกอมากขึ้นอีกขั้น
หลงใหลได้ปลื้มเป็นอย่างมาก
“อะไรนะ? หนูพูดว่าอะไรนะ? เขา
เป็นแฟนของหนูเหรอ?”
คุณแม่ของเจิ้งยวตกใจทันที คุณพ่อก็
เหมือนกัน ทั้งสองตกใจจนอ้าปากค้าง ท่านทั้งสองเป็นข้าราชการ แต่ไหนแต่ไรก็
ใส่ใจเรื่องฐานะที่เหมาะสมกัน ตอนนี้ลูกสาวกลับพาแฟนเด็กมาดูตัวด้วย
คุณพ่อ คุณแม่ ใช่ค่ะ เขาคือแฟนของหนูเราคบกันมาสักระยะหนึ่งแล้วค่ะ!”
“เฉิน……….เกอ ทักทายคุณพ่อคุณแม่
หน่อย!” เห็นสายตาของเฉินเกอไม่มีท่าทีที่จะ
ปฏิเสธ เจิ้งยวี่ก็เลยใช้ความกล้าอันน้อยนิดนี้
เตือนเฉินเกอ
“สวัสดีครับคุณน้า..
“ฉันไม่ดีด้วย ฮ่ม! เด็กที่ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม นี้มาจากไหนกัน ลูกสาวของฉันใช่คนที่แกจะมา อาจเอื้อมได้เหรอ? รีบไสหัวไปให้ไกลๆเลย!”
แม่ของเจิ้งยวต่อว่าโดยตรง
มันไม่ง่ายเลยทีเธอ กว่าจะคุยกับภรรยา ของหัวหน้าได้ วันนี้ถึงได้นัดกันมาทานข้าว เพื่อ ให้ลูกของทั้งสองบ้านรู้จักกันก่อน
หากสําเร็จ ทั้งสองครอบครัวก็จะได้ดองกัน มันเป็นเรื่องที่ดีแค่ไหน
ไม่คิดว่าลูกสาวตัวเองจะไม่รักดีขนาดนี้ ตอนนี้มันช่างสุดยอดเสียจริง ตัวเองบังคับลูกสาว มาจนได้ แต่เธอกลับพาแฟนเด็กมาด้วย
ฝั่งผู้ชายก็จะถึงในไม่ใช้นี้ หากถูกพวกเขา
พบเข้า อยากว่าแต่ดองกันเลย ดีไม่ดีอาจจะ กลายเป็นศัตรู
เธอที่กลุ้มใจมาก มองดูเฉินเกอ ก็ต้องเกลียดชังเป็นธรรมดา
ขณะที่พูด จู่ๆประตูห้องวีไอพีก็ได้เปิดออก
ด้านนอก มีคนกลุ่มหนึ่งถือข้าวของเข้ามา “เหล่าเจิ้ง ขอโทษด้วย พวกเรามาสายแล้ว ช่าๆๆ
มากันทั้งหมดสี่คน ในนั้น ยังมีวัยรุ่นสองคน ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง
โดยเฉพาะเด็กผู้หญิงคนนั้น แต่งตัวได้สวย มาก
พูดตามจริง ภาพนี้ทำให้ตระกูลเจิ้งงงๆอยู่ เหมือนกัน
มันยังไงกันแน่? ผู้ชายคนนั้นน่าจะเป็น ลูกชายของเหล่าเจียง
แล้วผู้หญิงละ?
คงไม่ใช่ว่าพาแฟนมาอีกคนนะ?
“อ้อ เหล่าเจิ้ง ฉันมาแนะนำหน่อย คนนี้คือ ลูกสาวของน้องชายคนที่สามของฉัน หลานสาว ฉันเอง จะมากับพี่ชายให้ได้ เรียนอยู่ที่มหาวิทยา ลัยจินหลิง ปีนี้เรียปีสี่แล้ว!”
“หลานจ๊ะ ทักทายคุณอาเจิ้งหน่อยเร็ว!”
และผู้หญิงคนนี้เหรอ ทำราวกับว่าไม่ได้ยิน ตอนนี้สายตาจ้องมองไปที่เฉินเกออย่างไม่ยอม ขยับมุมปากเหรอ ดูแล้วเหมือนคนที่กำลังยิ้ม อย่างเยาะเย้ย
“เห่อๆ เฉินเกอ ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอนายที่
Please enter a description
Please enter a price
Please enter an Invoice ID
เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ