ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่571 แต่ผมไม่มีอะไรเลยเหลือแค่แสงนั่น



บทที่571 แต่ผมไม่มีอะไรเลยเหลือแค่แสงนั่น

เขาจ้องมองโมมอยอี้ที่คุยกับถังซิน ท่าทางอ่อนโยน ทำให้เขาคิดถึงความผูกพันมาก แต่เขาคิดถึงที่โต๊ะ อาหารครั้งนั้นอีกครั้ง ท่าทางก้าวร้าวบังคับคนของ หล่อน สายตานั่นก็มองไปนอกหน้าต่าง มือข้างกายก็กำ แน่น

เขารู้ว่าโมมอยอิ่ไม่ยอมรับตัวเอง ท่าทางอบอุ่นนี้ เพราะว่ามีถังซินอยู่

เพราะตอนหล่อนเข้ามาไม่มองตัวเองเลยสักนิด

คุยกับถังซินอยู่พักนึง โมมอยอิ้รู้สึกว่าดึกแล้วสมควร

ไป

“เสี่ยวซินดูแลตัวเองดีๆ ถ้าพรุ่งนี้ว่างป้าจะมาใหม่

โมมอยยิ้มองผ้าห่มบางๆ ท้องถังซินป่องออกมาอย่าง ประหลาดใจ”ท้องใหญ่อีกแล้วเหรอ? ”

“ค่ะ เด็กๆโตไวมาก”

“ลำบากหนูแล้ว”โมมอยอี้จับมือถังซิน ดันเก้าอี้แล้วลุก

โมมอยอี้หยิบกระเป๋าที่โต๊ะไม่รีบออกไป แต่หันไป มองหลินเฉิงจี่ที่ยืนตรงข้างหน้าต่าง“เสี่ยวซินต้องพัก ผ่อน น่าจะไม่ต้องการให้คนอยู่ด้วย เธอไปส่งฉันสิ”
ถังซินนิ่งแล้วพูด: “ฉันเริ่มง่วงแล้ว อยากนอน เฉิงจื่ นายไปส่งคุณป้าสิ

ถ้าความสัมพันธ์ของโมมอยอิ้กับหลินเฉิงจี้เคลียร์กัน แล้ว มันก็คงดี

หลินเฉิงจี่เหมือนจะคิดไม่ถึงว่าโมมอยอี้พูดกับตัวเอง งงไปแปปแล้วก็พยักหน้า พอคุยกับถังซินสองประโยค ก็พาโมมอยอิ้ออกไป

ทั้งสองเดินตรงโถงทางเดินแล้วไปทางลิฟท์

สีหน้าของโมมอยอี้ไม่อบอุ่นเหมือนตอนที่อยู่ในห้อง มี ความไม่แยแสอยู่หน่อย”หาที่นั่งนั่งเถอะ”

หลินเฉิง ขยับปาก”ครับ”

พออกจากโรงพยาบาล หลินเฉิงจี๋ก็มองไปรอบๆ พา โมมอยยิ้มาร้านกาแฟข้างๆโรงพยาบาลแล้วหาที่นั่งนั่ง ลง

เขาถามอย่างมีมารยาท คุณอยากดื่มอะไรครับ? ”

“น้ำมะนาวแก้วนึง ขอบใจ”โมมอยอี้ไม่ตอบเขา แต่หัน ไปสั่งพนักงาน

การกระทำนี้ทำให้หลินเฉิงจี๋ละอาย แต่เขาขยับแว่น ไม่พูดอะไร
โมมอยอี้เอากระเป๋าวางที่ข้างๆแล้วพูดอย่างราบ เรียบ: “ถังซินบอกกับฉันว่านายไม่ได้ผิด ต่อไปถ้าฉัน เจอนายอีกอย่าเกลียดนาย ฉันเลยไว้หน้าหล่อน”

ฟังหล่อนพูดแบบนี้ หลินเฉิงจี๋ก็ผิดหวัง เจ็บปวดในใจ

ที่แท้ตัวเองก็คิดมากไปเอง!

หล่อนยังคงไม่ยอมรับตัวเอง ที่ดีต่อเขาก็เพราะถังซิน เคยพูดไว้นี่เอง

หลินเฉิงจี่กลืนน้ำลายแล้วถามหล่อน”ในเมื่อคุณไม่ อยากเจอผม ทําไมต้องนัดผมมานั่งที่นี่?

พนักงานเอากาแฟกับน้ำมะนาวมาเสิร์ฟ

โมมอยอี้เอาน้ำมาดื่มไปสองคำ สีหน้าราบเรียบพร้อม กับน้ำเสียงเย็นชา”นายก็รู้ว่าเสี่ยวซินท้องนานแค่ไหน ท้องก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ต้องให้คนมาดูแล”

“หล่อนท้องลูกใครนายก็รู้ดี สามีภรรยาทะเลาะกัน เป็นเรื่องปกติแต่ก็ต้องคืนดีกันอยู่ดี”โมมอยอี้เงยหน้า มองเขา”นายไปจากเมืองหนานเฉิงเถอะ ไปไกลๆยิ่งดี”

หลินเฉิงจี่จับแก้วกาแฟแน่น ไม่รู้สึกว่าลวก

หล่อนนิ่งไปพักนึงก็ยิ้ม“เป็นผมที่แต่งกับยินยิน งาน แต่งก็โดนมู่เฉินหย่วนทำลาย ถ้าพูดถึงคนที่ทำลาย ความรู้สึกนี้ก็คือเขาที่ทำลายผมกับยินยิน ทำไมผมต้องไปจากเมืองหนานเฉิง? “

“ผมรู้ว่าคุณเกลียดผม ไม่รู้จักผมไม่เป็นไร ผมไม่ สน……”หลินเฉิงจื่นิ่งไป ออกแรงบีบแก้วกาแฟ แต่คุณ จะเห็นแก่ตัวแบบนี้ไม่ได้

ไม่ใช่ความผิดเขาเลย ทําไมเขาต้องถอย?

โมมอยอี้ยิ้มแล้วพูดอย่างไม่เกรงใจ”ฉันไม่ได้เห็นแก่ ตัว แต่นายกับถังซินไม่มีทางเป็นไปได้ ฉันก็ไม่อยากดู ลูกสะใภ้ฉันถูกคนลวนลาม!”

หลินเฉิงจี๋มองไปที่หล่อน”ในสายตาคุณ ผมน่า รังเกียจขนาดนี้เชียว? ”

“คิดยังไงก็เรื่องของนาย”โมมอยอี้พูดเรียบๆ ใบหน้า สง่างาม อ่อนโยน

แต่เหมือนว่าระยะห่างกับหลินเฉิงจี๋นั้นจะเย็นชาสุดๆ

โมมอยอี้เปิดกระเป๋าหยิบสัญญามาจากด้านในแล้ว ยื่นให้หลินเฉิงจี๋“ฉันรู้ว่านายมีเงิน นี่คือความตั้งใจของ ฉัน นายไม่เอาก็ได้

“ถ้านายไปจากเมืองหนานเฉิงได้ ไปจากเสี่ยวซินกับ เฉินหย่วนไกลๆ ฉันก็จะยอมรับว่านายออกมาจากท้อง ฉัน ยอมให้นายเรียกว่าแม่”

หลินเฉิงจี๋จ้องสัญญาตรงหน้า มุมปากยิ้ม“คุณทำทุกอย่างได้จริงๆ”

โมมอยอี้ฟังคำพูดของเขาก็ขมวดคิ้ว

คุยกันสักพักนึงโมมอยอี้ก็หมดความอดทน น้ำเสียง หนักขึ้น”ยังไงเฉินหย่วนก็เป็นพี่ชายนาย จะแย่งสาวกับ พี่เหรอ? ”

เห็นหลินเฉิงจี่ไม่ตอบ โมมอยอี้ก็หยิบกระเป๋าลุก ขึ้น”ฉันพูดทุกอย่างที่ควรพูดไปหมดแล้ว คิดเองละกัน แต่อย่าเหมือนกับพ่อนายที่ทำให้คนขยะแขยง

จนโมมอยอื้ออกไปนานแล้ว หลินเฉิงจี๋ก็ยังนั่งอยู่ตรง

นั้น

ในร้านมีคนไปๆมาๆเรื่อยๆ กาแฟบนโต๊ะก็เย็นแล้ว หลินเฉิงจี่ถึงขยับตัวเปิดสัญญาบนโต๊ะ อ่านอย่างไม่ แยแส

อ่านถึงบรรทัดสุดท้าย หลินเฉิงจี๋ก็ยิ้มที่มุมปาก ขำ ออกมาหนักขึ้นเรื่อยๆ

ลูกค้าข้างๆหันไปมองเขาอย่างแปลกใจสุดๆ

ยิ้มอยู่อย่างนั้น หลินเฉิงจี๋ก้มลงไม่ขยับ ร่างที่ว่าง เปล่านั้นทำให้คนสงสาร
“คุณลําเอียง ผมยังไม่ว่า……เขาพึมพำ น้ำเสียงซ่อน ความเจ็บปวดไว้ แต่ผมไม่มีอะไรเลย ก็เหลือแค่แสงนั้น ทำไมไม่เหลือไว้ให้ผ……..

ไม่มีแสงนั่นแล้ว สายตาเขาก็มืดมิด จะใช้ชีวิตต่อไป ยังไง ?

หลินเฉิงจี่นั่งที่ร้านกาแฟยันพระอาทิตย์ตก แล้วก็มี สายเข้ามาเขาเลยเช็ดบิลแล้วออกไป

ตอนออกไปก็มีลูกค้าเข้ามาพอดี

ทั้งสองชนกัน ผู้หญิงที่เข้ามาจำหลินเฉิงจี่ได้ก่อนแล้ว ยิ้มบางๆ“ประธานหลิน? บังเอิญจัง”

หญิงสาวสวมชุดสีดำเล็กๆทำให้เห็นความสูงและ ความคล่องแคล่วชัดเจน

แค่มองหลินเฉิงจี่ก็จำหล่อนได้ ผู้จัดการคนใหม่ของ แผนกR ก่อนหน้านี้เอามู่เฉินหย่วนมาทำให้ตัวเองมีชื่อ

เขาไม่เคยพูดคุยกับจ้าวอี้ซีนและก็ไม่อยากรู้จัก

แต่ฝ่ายนั้นทักตัวเองอย่างมีมารยาท หลินเฉิงจี๋เลย พยักหน้า

ตอนเขาจะไปจ้าวอี้ซีนก็พูด : “ประธานหลิน ก่อนหน้า นี้คุณจัดงานแต่งเพื่อคุณถัง จนตอนนี้ฉันก็ยังจำได้ งาน แต่งที่โบสถ์โรแมนติกมากค่ะ!”
“ตอนนั้นฉันดูถ่ายทอดสดอย่างเดียวเลย พอพวกคุณ แลกแหวนกัน คิดไม่ถึงว่า……..เสียงหล่อนเปลี่ยนไป อย่างเสียใจ”จะโชคร้ายแบบนั้น ทำให้ใจคอไม่ดีจริงๆ”

หลินเฉิงจี่กุมมือด้านข้างตัว สีหน้าไม่แยแสแต่ยิ้ม ให้ลำบากคุณแล้วที่ต้องมากังวล แต่ว่าผมกับหล่อนยัง ดีกันอยู่ งานแต่งแบบนั้นผมจัดให้หล่อนอีกรอบก็ได้”

“ฉันฟังข่าวได้ยินว่าประธานหลินเอาใจคุณถังมาก ตอนนี้ได้ยินประธานหลินพูดแบบนี้ก็จริงๆด้วย”จ้าวอี้ซีน ยกปากขึ้น น้ำเสียงอ่อนโยนไพเราะกระชากใจ”ฉันว่า คุณถังเหมาะกับประธานหลินที่สุด”

หล่อนทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจ“ฉันได้ยินคนในแวดวง พูดกันว่าคุณถังท้องลูกของประธานมู่ก็กลัวว่าเพราะลูก จะทำให้คุณถังคืนดีกับประธานมู่แล้วทิ้งประธานหลิน ไป”

“ประธานหลิน ถ้าคุณชอบคุณถังก็ควรเห็นตัว หน่อย”จ้าวอี้ซีนเดินเข้าไปหาเขาเหมือนจะเข้าไปในร้าน กาแฟ“ใจกว้างเกินไปก็อาจจะไม่ได้อะไร……

ไม่รอเปิดประตูกระจก ข้อมือเล็กๆก็ถูกจับไว้แน่น

ข้อมือถูกจับจนเจ็บ จ้าวอี้ซีนยิ้มน้อยๆ

**
ผู้อ่านที่รักทุกคนค่ะ เรื่องนี้ผู้แต่งกำลังเขียนอยู่ค่ะ เวลาอัพเดทตอนใหม่ไม่แน่ค่ะ รบกวนอดใจรอนะคะ ขอ ขอบคุณสำหรับการสนับสนุนและความเข้าใจของคุณ


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ