ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 438 เจ้าของธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังคือใคร



บทที่ 438 เจ้าของธุรกิจที่อยู่เบื้องหลังคือใคร

มู่เฉินหย่วนเงยหน้าขึ้น และเห็นผู้ช่วยจางยืนซื่อบื้อ ใจลอยอยู่ตรงนั้น จึงขมวดคิ้ว “ไม่เข้าใจที่ฉันพูดหรอ?”

“ประธานมู่ คุณไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย?” ผู้ช่วยจางมอง ชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ “ให้เพียงแค่งานพรีเซนต์ เตอร์สินค้าแบรนด์เนมระดับโลกสามงานก็พอแล้ว หนัง ที่มีการลงทุนสูง แม้แต่ดาราอันดับหนึ่งยังไม่ได้แสดง เลย จะให้ดาราหญิงคนนั้นเหรอ?”

เขาคาดเดาอย่างใจกล้า “ประธานมู่ คุณเห็นว่างบ ประมาณของบริษัทเหอซ่งมีจำกัดใช่หรือไม่ ทำแบบนี้ อยากที่จะช่วยคุณถึงอย่างนั้นหรือ? ถ้าอย่างนั้นตกลง แล้วคุณกับคุณถังเลิกกันแล้วหรือยัง?”

“ นายเพียงแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้ว” มู่เฉินหย่วน ยิ้มตาหยีเล็กน้อย และพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “สำหรับที่ว่าฉันทำไมถึงทำเช่นนี้ ฉันไม่มีความจำเป็นที่ จะต้องบอกนาย

ผู้ช่วยจางพูดเตือนสติเขา “ประธานมู่ คุณทำเช่นนี้ ผู้ บริหารระดับสูงของบริษัทเหม่ยซิงจะรู้เข้า

“รู้แล้วยังไง อืม?”

ผู้ช่วยจาง…..

ไม่ต้อง!
นี่เป็นการที่ประธานมู่ช่วยคุณถังอย่างเปิดเผย ไม่ สนใจบริษัทที่อยู่ภายใต้การบริหารเลย เขายังจะพูด อะไรได้อีก?

ผู้ช่วยจางได้ติดต่อไปที่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท ภาพยนตร์และโทรทัศน์พิงโอก่อน บอกต่อความคิดเห็น ของมู่เฉินหย่วน และโทรศัพท์หาเอเจ้นท์ของดาราหญิง คนนั้น

เอเจ้นท์เห็นว่าเซ็นต์สัญญาถ่ายหนังสั้นโฆษณาสาม นาทีแค่หนึ่งฉบับ แต่ได้เงินเพิ่มจากบริษัทมู่ชื่อ นัก แสดงของตนเองยังได้แสดงหนังและเป็นพรีเซ็นเตอร์ สินค้าแบรนด์เนมเพิ่มอีก เหมือนกับได้ของดีที่หล่นลง มาจากฟ้า เป็นสัญญาที่ทำให้รู้สึกอิ่มอกอิ่มใจ

ผู้ช่วยจางกลัวว่าถ้าให้งานดาราหญิงคนนั้นอย่าง โจ่งแจ้งขนาดนี้ จะทำให้นักแสดงคนอื่นๆในบริษัท สงสัยว่าดาราหญิงคนนั้นกับประธานมู่มีอะไรกัน ผู้ช่วย จางจึงไม่เปิดเผยให้ใครรู้ เขาทำงานเหนื่อยจนแทบจะ เป็นลม

เพื่อประธานมู่ของเขา เขาก็เป็นห่วงเหมือนกัน!

ผู้ช่วยจางทำงานทั้งหมดเสร็จได้สักครู่ กลับมาพัก ผ่อนที่ห้องทำงาน ผ่านไปได้ไม่กี่วินาที จ้าวอี้ซีนจึงเอา เอกสารเข้ามา

เสื้อเชิ้ตสีขาวคู่กับกางเกงสูทสีดำ ทำให้เห็นรูปร่าง ที่ผอมบางได้อย่างชัดเจน สวยและมีความสามารถในการทำงาน

“ส่งงานของไตรมาสที่แล้ว ตรวจสอบตัวเลขแล้ว จ้าว อี้ซีนเอาเอกสารวางไว้บนโต๊ะ เมื่อเห็นท่าทางที่เหนื่อย มากของผู้ช่วยจาง จึงเอ่ยถามขึ้นว่า สองวันมานี้ไม่เห็น คุณอยู่บริษัทเลย มีงานให้ทำเยอะเหรอ?”

“ใช่แล้ว” ผู้ช่วยจางยกแก้วกาแฟขึ้นดื่ม และจึง ตอบเธอกลับไปว่า “แผนงานโฆษณาน้ำหอมรุ่นใหม่ ของบริษัทเหอซ่งเหมือนกับว่าจะจัดการเสร็จสมบูรณ์ แล้ว เลือกดาราหญิงคนหนึ่งของบริษัทพิงโอเป็นพรี เซนเตอร์”

จ้าวอี้ซีนพูดอย่างประหลาดใจขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ ควรจะเป็นคนของบริษัทพิงโอไปประสานงานกับบริษัท เหอซ่ง ทำไมถึงให้คุณไปรับผิดชอบ?”

ผู้ช่วยจางลังเลใจอยู่ครู่หนึ่ง คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็น ความลับอะไร และเธอก็เป็นคนของบริษัทมู่ซื่อ จึงเอา เอกสารส่งให้เธอ “เงินทุนของบริษัทเหอซ่งมีจำกัด เซ็น ต์สัญญากับดาราหญิงคนนี้ ให้เพียงแค่สามล้านหยวน”

“ใช่เหรอ?” จ้าวอี้ซีนพลิกเปิดดูเอกสาร จากนั้นจึง พูดกับผู้ช่วยจางขึ้นว่า “ฉันได้ยินมาว่าบริษัทเหอซ่งได้ เซ็นต์สัญญาข้อตกลงกับบริษัทเหม่ยซิงที่อยู่ภายใต้ การบริหารงานของบริษัทมู่ซื่อแล้ว บริษัทมู่ซื่อทำเช่นนี้ เป็นการทำลายสัญญา ผู้บริหารระดับสูงของเหม่ยซิง จะยินยอมมั้ย?”
ผู้ช่วยจางยักไหล่ และพูดอย่างจนปัญญา “ถ้าไม่ ยอมก็ไม่มีวิธีอื่น นี่เป็นการตัดสินใจของประธานมู่ ฉัน แปลกใจจริงๆว่าประธานมู่ทำเช่นนี้กับคุณถังตกลงแล้ว มันหมายความว่าอย่างไร”

แววตาของจ้าวอี้ซีนจึงเคร่งขรึมขึ้น จากนั้นไม่นาน จึงยิ้มออกมาเล็กน้อย และพูดด้วยเส้นเสียงที่อ่อนโยน “ประมาณว่าอยากชดใช้ให้กับรุ่นพี่ถัง ก่อนหน้านี้ที่ บริษัทมู่ซื่อตกอยู่ในสถานการณ์ต่อสู้กันระหว่างคนใน ครอบครัว รุ่นพี่ถังก็ได้เป็นคนดูแลจัดการบริษัทมู่ซื่อ เธอถือได้ว่าเป็นบุคคลที่สร้างคุณูปการให้แก่บริษัทมู่ ซื่อ”

“ถ้าความสำเร็จของการเปิดตัวน้ำหอมรุ่นใหม่ของ บริษัทเหอซ่งในครั้งนี้ไม่ดี สัญญาข้อตกลงก็จะล้มเหลว อย่างมากรุ่นพี่ถังก็จะถูกถอดถอนออกจากตำแหน่ง และประธานมู่ก็ไม่อยากเห็นรุ่นพี่ถังโชคร้ายขนาดนั้น เพื่อเห็นแก่มิตรภาพในอดีตจึงอยากที่จะช่วยเธอ

ผู้ช่วยจางคิดว่าจ้าวอี้ซีนวิเคราะห์ได้อย่างถูกต้อง

ถึงแม้ว่าประธานมู่กับคุณถังจะเลิกกันแล้ว คงจะเห็น แก่มิตรภาพในอดีตจึงอยากที่จะช่วยเธอ

แต่ว่าหลังจากที่พวกเขาเลิกกันแล้ว การเห็นแก่ มิตรภาพในอดีตของประธานมู่นั้นเกิดขึ้นหลายครั้งไป มั้ย?

‘เอ๋” ผู้ช่วยจางคิดอะไรออก และมองมาที่จ้าวอี้ซีนด้วยแววตาที่งงงวย “เรื่องที่เกี่ยวกับคุณถังอยู่ที่บริษัทมู่ ชื่อ ผมยังไม่เคยพูดให้คุณฟังเลยนะ ทำไมคุณถึงรู้ได้ อย่างชัดเจนขนาดนี้?”

จ้าวอี้ซืนชี้นิ้วไปที่พื้น “ที่ที่มีคนอยู่ อะไรก็สามารถ รู้ได้หมด ถ้าคุณเป็นผู้หญิง แล้วเข้าไปในห้องน้ำหรือ ห้องน้ำชาก็จะรู้เอง เป็นสวรรค์ของการซุบซิบนินทา อย่างแท้จริง”

“ผู้หญิงนี่ชอบซุบซิบนินทาจริงๆ” ผู้ช่วยจางยิ้มสาย หัว และไม่ได้คิดอะไรมาก

แม้ว่าฉางผิงจะพักอยู่กับมู่เฉินหย่วน แต่เขากลับคุยวี แชทกับถังซินทุกวัน

เช่นการบ่นว่ามู่เฉินหย่วนมีนิสัยที่รักความสะอาดเกิน ไป บ้านสกปรกนิดหน่อยก็เรียกให้คนทำความสะอาด มา สั่งอาหารนอกบ้านมากินทั้งสามมื้อ ถ้าเขาบอกว่ากิน จนเบื่อแล้ว มู่เฉินหย่วนก็จะเข้าครัวทำอาหารด้วยตัว เอง อาหารที่เขาทำล้วนแล้วแต่แปลกประหลาดและไม่ อร่อย และยังเอาอาหารที่แปลกประหลาดนั้นให้ถังซินดู เขาบอกว่าดีที่มู่เฉินหย่วนมีเงิน สามารถสั่งอาหารนอก บ้านได้ ถ้าให้เขาทำอาหารเองคงจะหิวตาย

เมื่อดูแล้ว ถังซินก็รู้สึกสงสารฉางผิง จึงตอบเขากลับ ไปว่า : พรุ่งนี้ป้าจะทำอาหารอร่อยๆให้นายกิน และให้ คนไปส่งอาหารให้
ฉางผิงตอบข้อความอย่างรวดเร็ว : เป็นคุณป้าที่ดีกับ ผมที่สุด! คุณลุงรองเลี้ยงผมอย่างอิสระ ทุกครั้งเอาเงิน ยื่นให้และไล่ผมไป ผมไม่อยากให้เขาลงมือทําอาหาร แล้ว ผมกลัวฝีมือการทำอาหารของเขามาก

ถังซิน: ให้นายมาพักกับฉันนายก็ไม่มา

ฉางผิงตอบกลับ : ไม่ไป ผมอยากควบคุมคุณลุงรอง อยู่ใกล้ๆ จะดูว่าแฟนใหม่ของเขาคือใคร แต่ว่าผมพัก อยู่กับคุณลุงรองมานานขนาดนี้แล้ว ตอนเย็นคุณลุง รองก็กลับบ้านมาตรงเวลา บนตัวก็ไม่มีกลิ่นน้ำหอมของ ผู้หญิง

ถังซิน : …..นายไปพักที่นั่น เพื่อที่อยากจะไปควบคุม เขาหรอ?

ฉางผิง : ใช่แล้ว คุณป้าว่าถ้าข้างกายคุณลุงรองไม่มี

ผู้หญิง หรือว่ารสนิยมทางเพศของเขาจะเปลี่ยนไป?

เมื่อเห็นข้อความวีแชทที่เด็กน้อยส่งมา ถังซินหัวเราะ จนน้ำตาไหล คิดว่าช่วงนี้เขาอ่านหนังสืออะไร ทำไมใน หัวถึงคิดไปเรื่อยเปื่อย

ขณะนั้นหลินเฉิงจี่ก็ได้โทรศัพท์เข้ามาพอดิบพอดี เธอจึงยังไม่ตอบข้อความเด็กน้อย และรับสายโทรศัพท์

หลินเฉิงจี่เอ่ยถามขึ้น : อยู่ที่เมืองหนานเฉิงสบายดี มั้ย?
“อืม ดีมากเลย” ถังซินมองดูเวลา ยิ้มหัวเราะและเอ่ย ขึ้นว่า “ตอนนี้งานยุ่งเล็กน้อย คุณโทรศัพท์มาหาฉัน ทำไมเหรอ งานไม่ยุ่งหรอ?”

“ไม่ยุ่ง เพียงแค่คิดถึงเธอก็เท่านั้น ดังนั้นจึงต่อสาย โทรศัพท์หาเธอ” ชายหนุ่มพูดด้วยเส้นเสียงที่อ่อนโยน

ถังซินแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน และเอ่ยถามเขาขึ้นว่า “จะมาเมื่อไหร่?”

ประมาณอีกช่วงระยะหนึ่ง หลินเฉิงจี่ทำเสียงทอด ถอนใจ คล้ายกับจนปัญญาและวิตกกังวล

เขารู้ว่าที่เมืองหนานเฉิงมีมู่เฉินหย่วน จึงอยากที่ จะไปอยู่กับถังซินที่เมืองหนานเฉิง ไม่ให้พวกเขาได้ มีโอกาสติดต่อกัน แต่ว่าที่นี่งานเยอะ และเขาก็ไม่ไว้ วางใจคนสนิท

ถังซินขมวดคิ้ว และถามอย่างประหลาดใจ “ที่บริษัท เตรียมทําโครงการใหญ่อะไรเหรอ? นายถึงได้ยุ่งขนาด

“โครงการนี้ใหญ่มากจริงๆ” หลินเฉิง เงียบไปสักครู่ และเอ่ยถามเธอเบาๆ “รู้จักโครงการAoba หรือไม่?”

“ไม่รู้จัก คือโครงการอะไรเหรอ?”

หลินเฉิงจี๋จึงเอ่ยขึ้นว่า “เธอก็รู้ว่าตอนนี้อินเตอร์เน็ต กำลังพัฒนา มีอุปกรณ์ทุกอย่างได้เข้าถึงอินเตอร์เน็ตเคลื่อนที่มากยิ่งขึ้น จากสถิติที่สิ้นสุดถึงเดือนธันวาคม ปีที่แล้ว มีผู้ใช้บอร์ดแบนด์ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ จาก ทั่วโลกมีจำนวนสูงถึงสิบพันล้านคน การพุ่งสูงขึ้นอย่าง รวดเร็วของข้อมูลการสตรีมจะทำให้การประมวลผล ข้อมูลเปลี่ยนไปอย่างช้าๆ จะทำให้เกิดความล่าช้าใน การดาวน์โหลด การติดต่อสื่อสารกันทั่วโลกก็จะไม่ เสถียร เป็นต้น

“ดังนั้น โครงการAoba เป็นการวิจัยเทคโนโลยี ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ใหม่ที่สุด” ถังซินเข้าใจอย่าง รวดเร็ว และทอดถอนหายใจลึก “โครงการนี้ไม่ใช่ใหญ่ ธรรมดาแล้ว ยังไงก็ไม่สามารถออกมาภายในสองสาม ปีนี้อย่างแน่นอน อย่าบอกนะว่านาย สร้างห้องทดลอง แล้ว รับสมัครคนที่มีความสามารถแล้ว เพื่ออยากที่จะ ทำเทคโนโลยีระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่นี้”

“ฉันมีความคิดนี้นานแล้ว คิดไม่ถึงว่าจะมีคนที่เร็ว กว่าฉัน” หลินเฉิงจี๋เอ่ยขึ้น “ที่ประเทศRนี้ได้ดำเนินการ โครงการAoba แล้ว กลุ่มเล็กๆที่รับผิดชอบมาจากคุณ เทซึกะของบริษัทIK”

หยุดไปชั่วขณะ เขาจึงเอ่ยขึ้นอีกว่า “แต่ว่าเจ้านาย ที่อยู่เบื้องหลังโครงการAoba ไม่ใช่นักลงทุนจาก ประเทศR ได้ยินมาว่าเป็นคนประเทศZ ให้กลุ่มของคุณ เทซึกะไปวิจัย และให้เงินทุนสนับสนุนอย่างไม่จำกัด”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ