ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 117 ของขวัญของคุณอาม่เสี่ยว



บทที่ 117 ของขวัญของคุณอาม่เสี่ยว

ที่จริงความหงุดหงิดใจของถังซินได้ดีขึ้นมาบ้างแล้ว เธอ จ้องมองลูกอมมงคลและยั่งเปาที่วางอยู่บนโต๊ะ สายตา เฉียบแหลมนั้นก็รู้สึกเจ็บขึ้นมา

เสี่ยวหนานเข้ามาส่งพอดี

ถังซินเอาอังเปาและลูกอมมงคลให้เธอ “ฉันไม่อยากกิน ลูกอม เธอเอาไปกินไป

“ได้ค่ะ” เสี่ยวหนานมองอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะถามอย่างระวัง ผู้จัดการถังคะ เป็นเพราะช่วงนี้พวกเราทำงานได้ไม่ดีหรอ คะ ทำไมหลายวันมานี้คุณดูอารมณ์…ไม่ค่อยดีเลย”

ใครๆก็มองออกหรอว่าเธออารมณ์ไม่ดี?

ถังซินงงเล็กน้อย ก่อนที่จะกระตุกยิ้มออกมา “พวกเธอ ทำงานได้ดีมากแล้วล่ะ ฉันเองที่มีปัญหา”

“มีอะไรจะกำชับพวกเรา พูดได้เลยนะคะ”

เสี่ยวหนานเดินออกไปอย่างรวดเร็วพร้อมทั้งหยิบกล่อง ลูกอม ทว่าไม่ได้หยิบเอาอังเปาไปด้วย

ถังซินมองไปยังเอกสารที่อยู่ด้านหน้า หลังจากที่มองได้ สักพักก็รู้สึกว่าตัวหนังสือเหล่านั้นเริ่มจะเบลอ สุดท้ายเธอก็ อ่านเอกสารมาจนจบแต่ก็อดไม่ได้ที่จะต้องกุมขมับ
จริงๆแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่ ทำไมถึงได้รู้สึกแปลกๆไป?

เห็นได้ชัดว่าความสัมพันธ์ของเธอกับคุณอาม่เสี่ยวไม่ได้ ใกล้ชิดกันขนาดนั้น หลังจากกลับมาจากต่างประเทศก็ยังคง ทํางานใครงานมัน จะไปชอบเขาได้ยังไงกันล่ะ?

หน้าจอโทรศัพท์สว่างขึ้น มีข้อความใหม่จากวีแชทส่งเข้า

มา

มู่เฉินหย่วน : (คุณถัง ผมอยากเชิญคุณทานข้าว วันนี้ ตอนหนึ่งทุ่มเจอกันที่ร้านอาหารห้องแดง

เมื่อเปิดดูและอ่านมาถึงตรงนี้ถังซินจึงฉงนใจ

หลายวันมานี้คุณอามู่เสี่ยวไม่ได้ติดต่อเธอมาเลย ข้อความวีแชทสักประโยคยังไม่มี ทำไมวันนี้ถึงได้เชิญให้ เธอไปกินข้าวด้วยนะ?

ส่งผิดหรอ?

แต่ประโยคแรก “คณถัง”

ข้อความนี้ทำให้ถังซินจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปทั้งวัน เธอคิดวนไปวนมาระหว่างจะไปหรือไม่ไปตลอดเวลาจน กระทั่งเลิกงาน เธอจึงตัดสินใจกลับบ้านกับหลี่ซูเจ๋

ตอนที่เพิ่งออกมาจากลิฟต์ถังซินเห็นกาวเหม่ยซีที่อยู่ด้าน นอกกําลังยิ้มให้เธอ
กาวเหม่ย ยิ้มเล็กน้อย “ผู้จัดการถังคะ ข้างนอกฝนกำลัง ตก ท่านประธานมู่กลัวว่าคุณจะไม่สะดวกเลยให้ฉันขับรถไป ส่งคุณที่ร้านอาหารห้องแดง คุณคิดว่าได้มั้ยคะ?”

“ฉันคิดว่าได้!” ถังซินยังไม่ทันได้ตอบอะไร หลี่ซูเจ๋ที่อยู่ ด้านข้างของเธอได้ตอบแทนเธอไปหมดแล้ว “งั้นฉันไป ก่อนนะ”

เธอรีบเอ่ยขึ้น และออกไปโบกรถอย่างรวดเร็ว

ถังซิน “……….”

วันที่ฝนตกรถจะติดมากกว่าวันธรรมดา หนึ่งทุ่มยี่สิบเพิ่ง ถึงร้านอาหารห้องแดง

ถังซินเปิดประตูร้านอาหารเข้าไปเองโดยไม่ต้องให้ พนักงานเปิดให้ สายตาก็เหลือบไปเห็นชายที่กำลังอยู่ ติดกับหน้าต่าง ร่างค่อยๆขยับมาที่เก้าอี้ราวกับว่ากำลังคุย โทรศัพท์ และแสะยิ้มเบาๆ

เธอเม้มปากเล็กน้อยก่อนที่จะเดินเข้าไป

“ท่านประธานมู่คะ”

มู่เฉินหย่วนเงยหน้าขึ้นก็พบว่าเป็นถังซิน จึงพูดเสียงเบา กับคนในโทรศัพท์เพียงสองประโยคและวางสาย อีกทั้งยัง ช่วยลากเก้าอี้มาให้ถังซินที่ยืนอยู่ตรงข้ามกับเขา
พนักงานน่ารายการอาหารมาให้ ถังซินเปิดดูสักครู่ก็สั่งไป สองอย่าง

หลังจากรอให้พนักงานเดินออกไป ถังซินก็อดไม่ได้ที่จะ ถาม “ท่านประธานมู่คะ ทำไมถึงอยากจะเลี้ยงข้าวฉันคะ มี เรื่องอะไรหรอ?”

“ ไม่มีอะไรหรอกก็แค่อยากเลี้ยงข้าวเธอเฉยๆ” มู่เฉิน หย่วนยิ้มอ่อน

ตอนนั้นเองถังซินเห็นว่าสีหน้าของมู่เฉินหย่วนนั้นยิ้มออก มาด้วยความสบายใจ แต่ไหนแต่ไรมาเขาเป็นคนที่เยือกเย็น ไม่มีใครอยากเข้าใกล้ แต่ราวกับว่าจะเข้าหาได้ง่าย ทว่าก็ ไม่ใช่เช่นนั้น เธอจึงรู้สึกฉงนใจเล็กน้อย

เหตุผลเป็นเพราะเรื่องหมั้นหรอ?

มู่เฉินหย่วนหยิบกล่องของขวัญออกมาจากกระเป๋าและยื่น ให้ถังซิน “คุณถัง ของขวัญนี้ผมให้คุณ”

ถังซินหยิบของขวัญมาเปิดดู

ในกล่องนั้นเป็นสร้อยหนึ่งเส้น อีกทั้งยังสลักแบนด์ภาษา อังกฤษ Van cleef & Arpels ไว้ ด้านล่างของสร้อยเส้น เล็กละเอียดนั้นมีเพชรที่ตัดได้คมกริบและเขียนเป็นภาษา ฝรั่งเศสว่า Néonata

Neonata แปลว่า ‘เกิดใหม่’
ไข่มุก ระยิบระยับสะท้อนเข้านัยน์ตาของถังซิน ทว่า เธอกลับปิดฝากล่องอย่างรวดเร็วและส่งคืนเขา “ขอบคุณ สําหรับความเมตตาค่ะ แต่ไม่ต้องหรอก ไข่มุกฉันซื้อได้ อีก อย่างเมื่อก่อนคุณยังเคยซื้อ….นั้นให้ฉัน ถ้าเลขาเกาว่างเมื่อ ไหร่ รบกวนคุณบอกเขาให้หยิบมาให้ฉันหน่อยนะคะ”

“คุณถัง ที่ผมให้ของขวัญคุณเพราะผมอยากจะขอบคุณ คุณ ไม่มีอะไรอย่างอื่นเลย” มู่เฉินหย่วนเอ่ย “ของเหล่านี้ คณถังก็ซื้อเองได้ ดังนั้นสำหรับผมแล้วมันไม่ใช่ความรับผิด ชอบอะไร

ถังซินส่ายหน้า “ฉันรับไว้ไม่ได้หรอกค่ะ ที่ท่านประธาน ซื้อบ้านราคาสี่ล้านบาทให้กับฉัน ฉันก็ซึ้งใจมากๆแล้วค่ะ ไม่ ต้องให้ท่านประธานบอกฉันก็จะทำงานแทนมู่ชื่อ แทนท่าน ประธานมู่อย่างสุดความสามารถอยู่แล้วค่ะ”

น้ำเสียงของเธอเรียบเฉย ทุกๆถ้อยคำที่เอ่ยว่า “ท่าน ประธานมู่” ทำให้มู่เฉินหย่วนต้องมุ่นคิ้วและรู้สึกหงุดหงิด

ตอนนี้กลับรู้สึกว่าให้เธอเรียกเขาว่าเสี่ยวซู่เหมือนเมื่อ ก่อนคงจะน่าฟังกว่านี้เยอะเลยล่ะ

“งั้นคุณก็คิดซะว่านี้เป็นของชำร่วยชิ้นหนึ่งละกัน” มู่เฉิน หย่วนเลื่อนกล่องกลับคืนไป พร้อมเอ่ยขึ้นด้วยปากอันบาง เฉียบ “คุณถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการแผนก Regulators ผม ยังไม่ได้แสดงความยินดีกับคุณอย่างเป็นทางการเลยนะ”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ…”
ถังซินยังอยากจะพูดอะไรอีกหน่อย เธอจึงเลื่อนกล่องของ ขวัญคืนกลับไป มู่เฉนหย่วนกลับเอามือมาห้ามไว้บนกล่อง พร้อมกับสายตาที่จ้องเขม็งไปยังเธอ มือของถังซินสั่นเล็ก น้อย สุดท้ายเธอจึงรับของขวัญไว้ในที่สุด

อาหารตะวันออกอันโอชะถูกนำมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ขณะที่ทั้ง สองกำลังกินอยู่นั่นแทบจะไม่ได้คุยกันเลย

พอมีบ้างที่มู่เฉินหย่วนถามเธอเกี่ยวกับเรื่องบริษัทว่า จัดการได้ดีหรือไม่ ถังซินบอกไม่มีปัญหาอะไร แต่มีเรื่อง ที่เธออยากจะถามเขาสักหน่อยนั่นคือเรื่องงานหมั้น ทว่า คำถามเหล่านั้นกลับติดอยู่ที่ปากแต่พูดไม่ออก

ตอนที่พวกเขาสองคนกินข้าวเสร็จและกำลังจะกลับนั้น ด้านนอกยังคงมีฝนตกเบาๆ อากาศอึมค็มนิดหน่อย

มู่เฉนหย่วนขับรถมาและไปส่งถังซินกลับบ้าน

ในรถเงียบสงัด ถังซินได้ยินแม้กระทั่งเสียงหายใจของตัว เอง เธอหันหน้าแล้วหันหน้าอีกเพื่อมองไปยังมู่เฉินหยวน ที่กำลังขับรถอยู่ พร้อมเม้มปากเล็กน้อยก่อนเอ่ย “ท่าน ประธานมู่คะ ยินดีด้วยนะคะกับงานมั่นของคุณ”

มู่เฉินหยวนเอ่ยขึ้นเพื่อตอบรับ “ที่จริงแล้วเรื่องหมั้นนี้แค่ ทั้งสองครอบครัวมากินข้าวด้วยกันก็พอแล้ว แต่ที่บ้านตระ กูลส้ง จิ้งเหอค่อนข้างจะมีฐานะที่พิเศษ ดังนั้นฉันจึงบอก สื่อมวลชนให้ประกาศข่าวนี้ออกไป เพื่อให้เกียรติเธอ
“หรอคะ? จะว่าไปแล้วท่านประธานก็ดูเป็นห่วงคุณสัง เหมือนกันนะคะ” ถังซินบีบกล่องที่อยู่ในมือแน่น รู้สึกทำมือ ไม่ถูกยังไงไม่รู้ พูดถึงคุณสังขึ้นมา น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็น ความสุขทันทีเลย

มู่เฉินหย่วนรู้สึกได้ถึงความแปลกในคำพูดของถังซิน จึง จ้องไปยังเธอ หญิงสาวก้มหน้าลงพลางบีบกล่องของขวัญ แน่นและเม้มปาก เพราะไม่ทันได้เห็นสีหน้าอย่างชัดเจน จึง ทำให้ในใจของเขารู้สึกแปลก

นี่เธอ…ชอบเขางั้นหรอ?

มู่เฉินหย่วนยื่นมือมาขยับเนคไทเล็กน้อยและอยากจะพูด อะไรสักหน่อย ในที่สุดเขาก็เอ่ยขึ้น “ในชั้นที่อยู่ด้านหน้า เธอมีเอกสาร กลับไปถึงค่อยดูก็แล้วกันพอดีว่าผมมีเรื่อง อยากให้คุณช่วยหน่อย”

“ค่ะ” ถังซินตอบรับไปทีและเปิดที่เก็บของออกแล้วหยิบ เอกสารออกมา

ที่จริงตอนที่พวกเขาออกมาจากร้านอาหารฝนเริ่มซาลง แล้วและมีท่าทีเหมือนจะหยุด ทว่าตอนนี้กลับตกแรงขึ้น เสียงกระทบของเม็ดในที่ตกลงมาบนกระจกรถนั้นช่างใสให้ ความรู้สึกเย็นสบาย

มู่เฉินหย่วนหันหน้ามองกระจกหลังเล็กน้อย และเหมือน ว่าเขาจะเจอเข้ากับอะไรบางอย่าง สายตาเย็นชาลงพร้อม กับเผยยิ้มที่เยือกเย็นขึ้น เท้าที่เหยียบคันเร่งอยู่นั้นกลับเหยียบแรงขึ้น เครื่องออกตัวแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว

ความแรงของรถผลักร่างของถังซินเอนไปด้านหลัง เมื่อ เธอได้สติจึงยื่นมือมาจับ จับแล้วเอ่ยขึ้น “ท่านประธานคะ ในกําลังตกอยู่ขับช้าๆก็ได้ค่ะ”

เธอไม่ได้รีบกลับไปไหน

สิ้นสุดเสียงของถังซินในไม่ช้า ด้านหน้ากลับมีแสงไฟ สว่างวาบของรถพุ่งเข้ามา แสงไฟที่แสบตานั้นทําให้ถังซิน ลืมตาแทบไม่ขึ้น แค่รู้สึกว่ารถที่กำลังส่ายอยู่นั้นชนเข้ากับ อะไรบางอย่างอย่างแรง

หลังจากนั้นโลกก็หมุนฟ้าดินสลับกัน เธอเกือบจะลอย ออกไปจากเบาะนั่งนี้แล้ว ทว่าถุงลมนิรภัยได้เด้งออกมา ทับตัวเธอไว้ ก่อนที่รถจะพลิกคว่ำ รอบๆตัวเธอของได้แตก กระจัดกระจายไปหมด ทั้งหัวของเธอมึนงงก่อนที่ตาจะ ค่อยๆหลับลง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ