ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 176 ฉันมาทําตัวน่าขายหน้าถึงบ้านยายเลยหรอ



บทที่ 176 ฉันมาทําตัวน่าขายหน้าถึงบ้านยายเลยหรอ

ถัง นฝันร้ายอีกแล้ว

ทว่าครั้งนี้ตอนที่เธอตื่นขึ้นมากลับนอนทับอยู่บนตัวของมู่ เฉินหย่วน

ที่จริงแล้วบนเตียงนี้มีเส้นแบ่งเขตแดน แต่แขนทั้งสอง ข้างของมู่เฉินหย่วนยังอยู่แนบกับเอวบางๆของเขา กฎของ การนอนเตียงเดียวกันนี้ เธอเองที่นอนดิ้นจนไประรานที่คน อื่น

หน้าของถังซินแดงขึ้นเล็กน้อย และค่อยๆเอาเท้าที่พาด อยู่บนตัวของเขาออกและวางดีๆ

ลงเล็กนอนหลับสนิทขนาดนี้เลยหรอ?

ถังซินจ้องไปยังมู่เฉินหย่วนที่กำลังหลับลึกอยู่ ขนตายาว เป็นแพที่งอนลง ลูกกระที่โค้งให้ความรู้สึกเซ็กซี่ ยากที่จะ ทําให้ใครอดใจไม่กดไหว

เธอกดลงไปนิดหน่อยอย่างคันไม้คันมือ หลังจากนั้นพริบ ตาเดียว ข้อมือของเธอก็ถูกจับไว้

ชายหนุ่มเหลือบมองไปยังเธอ เสียงแหบซากที่เพิ่งตื่น นอนในตอนเช้า อีกทั้งยังเป็นน้ำเสียงที่ทนไม่ได้ “คุณถังซิน คุณชอบกดลูกกระเดือกคนอื่นเล่นหรอ? นิสัยไม่ดีเลยนะ”
“ฉันแค่สงสัยเฉยๆ” เธอถูกจับได้ซะแล้ว ถังซินยิ้มแหยะๆ “ประธาน คะ คุณนอนได้อร่อยมาก

“ผมได้นอนตอนตีห้า” เฉินหยวนมองดูเธออย่างเหมือน จะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้ม “มีบางคนนอนไม่ค่อยจะอยู่สุข ชอบมาถ่าย ผมตลอดเวลา แถมยังถีบผมตกลงไปด้วยครั้งหนึ่ง

ถังซิน “…”

ดูจากสถานการณ์ที่ตื่นนอนตอนเช้าแล้วนั้น เฉินหยวน ไม่น่าจะโกหกเธอ

“อะไรกัน ฉันไปล้างหน้าดีกว่า” ถังซินการขออ้างเพื่อจะ หนีไป ทว่าผลลัพธ์คือเมื่อเธอลุกขึ้นกลับถูกเขาดึงไปยังตัว ของเขา ทั้งสองแนบชิดกัน

มู่เฉินหย่วนล็อคแขนเธอไว้ พร้อมทั้งจ้องมองไปยังเธอ “คุณไม่คิดว่าควรจะชดใช้ให้ผมหน่อยหรอ?”

“ชด ชด ชด” ถังซินติดอ่างเล็กน้อย ร่างทั้งร่างของเธอ แข็งทื่อไปหมด ท่าทีแบบนี้ทำให้เธอใจบางมากๆเลยล่ะ “หลังจากกลับไป ฉันจะทำข้าวให้คุณทานเยอะๆเลย หึ!”

ชายหนุ่มดึงเธอมาไว้ตรงหน้า บังคับให้เธออยู่แนบชิดกับ เขา แล้วค่อยๆประกบริมฝีปากกับเธอ

ลมหายใจของถังซินสอดประสานกับเขา ใจเต้นแรงพร้อม จะระเบิดออก เธอทนไม่ไหวที่จะไม่จูบตอบ
จูบเสร็จ ถังซินยื่นมือไปจับหัวของเขาทั้งสองข้าง พร้อม ทั้งพูดเชิงบังคับแบบแข็งๆคล้ายหุ่นยนต์ “ประธานมู่คะ ถ้า คณไม่ชอบ….

มู่เฉินหย่วนมองเธอและฟังเธอพูดอย่างตั้งใจ เพื่อให้ถัง ซินมีความกล้าที่จะพูดออกมา เธอมีคำพูดมากมายที่เตรียม ไว้ในใจ เมื่อตอนที่เธอกำลังจะพูดต่อนั้นก็รู้สึกว่าร้อนวาบขึ้น มาบริเวณช่วงท้องด้านล่าง ราวกับว่า…

เหมือนว่า เฉินหย่วนน้องก็รู้สึกได้เช่นเดียวกัน อารมณ์ ของพวกเขาเปลี่ยนอย่างกะทันหัน

ถังซิ ลานออกมาจากบนตัวของเขา หลังจากที่เห็นรอย เลือดเปื้อนอยู่บนชุดนอนสีเทาควันบุหรี่ของเขา เธอยกมือ ขึ้นมาปิดหน้าอย่างรู้สึกกระอักกระอ่วนใจ “โอ้มายกอด ขาย หน้ามากๆเลย!”

ฉันมาทำตัวน่าขายหน้าถึงบ้านยายเลยหรอ!

“จะว่าไปแล้วตอนที่คุณทำเรื่องขายหน้า ผมยังไม่เคยเห็น สักครั้งเลยนะเนี่ย” มู่เฉินหย่วนเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเฉย เขา เหลือบไปมองรอยเลือดบนชุดนอน และส่งสายตามายังเธอ ก่อนจะเอ่ย “มันทำให้ผมรู้สึกดีอยู่หนึ่งอย่าง

ถังซินไม่สนว่าเขาจะคิดยังไง เธอเดินไปห้องน้ำอย่างเร่ง รีบเพื่อสงบสติอารมณ์

ตอนที่ถังซินล้างหน้าล้างตาเสร็จและออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าในห้องนอนมีชื่อของคุณหมอเยอะแยะเต็มไปหมด ขณะที่มู่เฉินหย่วนกำลังคุยกับคนที่นั่งอยู่บนรถเข็นนั้น ตอน ที่เธอเดินไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคุยกันจบแล้ว

ถังซินเอ่ย “ประจำเดือนฉันแค่มาน่ะ ประธานมู่คะ คุณ เลี้ยงพวกคุณหมอไม่มากเกินไปหรอ?”

ทว่าเธอเองก็รู้สึกซาบซึ้งเล็กน้อย

หลังจากที่รอให้คุณหมอเดินออกไป มู่เฉินหย่วนจึงหัน มาคุยกับเธอ “ที่ผมเลี้ยงเขาเพราะฉันมีแผนการที่คิดไว้อีก หนึ่งแผน อีกสักพักคุณแค่นั่งสวยๆข้างๆผมก็พอไม่ต้องพูด อะไร”

ถังซินผิดหวังเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยรับไป

หลังจสกที่พวกเขาลงไปข้างล่าง ห้องรับแขกเต็มไปด้วย คนกลุ่มหนึ่ง มันคึกคักมากกว่าหากเทียบกับเมื่อวาน ห้อง รับแขกนี้ดูเหมือนว่าจะถูกอุยวินหลงเป็นคนจัดแจง อารมณ์ ของแต่ละคนนั้นดูแตกต่างกันออกไป

“เฉินหย่วน” มู่เจิ้งเฉิงเดินออกมาจากกลุ่มคน ราวกับว่าเขา มีอะไรยางอย่างอยากจะพูดกับมู่เฉินหยวน

มู่เฉินหย่วนเอ่ยรับเสียงเรียบ มีเรื่องอะไรจะพูดค่อยพูด หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ” พูดจบเขาพาถังซินไปนั่งและสั่ง ให้คนนำอาหารมาให้
ถังซินเห็นคุณผู้ชายมู่ก็มาในงานนี้เช่นกัน ทว่าดูสีหน้า ท่านไม่ค่อยดีเท่าไหร่

เธอพูดกับมู่เฉิงหย่วนเบาๆ “เรียกคุณผู้ชายมู่มาทานข้าว เช้าด้วยกันมั้ยคะ?”

”มู่เจิ้งเฉิงก็มา เขาไม่มีอารมณ์กินข้าวแน่” เฉินหยวน แสะยิ้ม พร้อมทั้งยกโจ๊กมันเทศขึ้นมาป้อนเธอ “อดข้าวแค่ มื้อเดียวเขาก็ทนหิวไม่ไหวแล้ว”

“ประธานมู่คะ ฉันทานเองค่ะ” ถังซินอยากจะเอาช้อนที่อยู่ ในมือเขามาทานเอง ทว่ามู่เฉินหย่วนกลับจ้องมองเธออย่าง ลึกซึ้งทำให้เธอต้องยอมที่จะเอามาลง

กินก็กิน จําเป็นต้องใช้สายตามาบังคับคนอื่นหรอ!!

หลังจากที่กินข้าวกันอย่างช้าๆจนเสร็จ ทั้งสองจึงเดินไป นั่งยังด้านข้างของคุณผู้ชายมู่ที่ห้องรับแขก

“เฉินหย่วน เป็นเพราะฉันเองที่ไม่ได้อบรมสั่งสอนจินเซวี ยนมาให้ดี ทําให้เขากล้าที่จะทำเรื่องที่น่าละอายใจแบบนี้” มู่เจิ้งเฉินเดินมา นี่เป็นครั้งแรกที่ถังซินได้เห็นเขาก้มหัวขอ โทษให้มู่เฉินหย่วน ด้วยท่าทางผิดหวังในตัวเอง

หลังจากนั้นกู่เจิ้งเฉินก็หันกลับมาคุยกับถังซิน “ขอโทษ ครับคุณผู้หญิงถัง รอให้จินเซวียนฟื้นก่อนผมจะลากตัวมัน มาขอโทษต่อหน้าของคุณถังด้วยตัวเอง
มู่เฉินหย่วนมุ่นคิ้วอย่างเยือกเย็น “ลุงสาม นี่ไม่ใช่เรื่อง เล็กๆ ช่วยอธิบายคำว่า “ขอโทษ” ให้เข้าใจด้วย

“ใช่ใช่ ลุงสามรู้” มู่เจิ้งเฉิงพูดอย่างรู้สึกผิด “แต่นายยิงจิน เซวียนทั้งสองนัด เขาสาหัสมาก ถึงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น ยังไง ก็ครอบครัวเดียวกัน ทำไมต้อง…

“ทำไมต้องทำเกินเรื่องใช่มั้ย?” มู่เฉิงหย่วนพูดตัดบทเขา ก่อนจะพูดออกมาอย่างอดไม่ได้ “ผมเห็นมันเป็นน้อง ไม่ว่า จะเรื่องอะไร ผมก็ตามใจมัน แต่มันไม่เคยเห็นผมเป็นพี่ชาย มันเลย!”

มู่เฉิงหย่วนให้คนเลื่อนโปรเจ็คเตอร์ออกมา

หลังจากนั้นเพียงนาทีเดียว โปรเจ็คเตอร์ก็ได้ฉายวิดิโอที่ จินเซวียนทำร้ายถังซินในห้องไพร์เวทรูมที่ร้านอาหาร แม้จะ ไม่มีเสียงใดๆ ทว่าคนที่อยู่ในงานทั้งหมดได้เห็นวิดิโอต่าง พากันเข้าใจเรื่องราวอยู่บ้าง

คุณผู้ชายมู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ “ไอจินเซวียนคน นี้…เห้อ!”

สีหน้าของมู่เจิ้งเฉิงเปลี่ยน ทันใดนั้นเขาก็หัวเราะออกมา “ดุแล้วนี่เหมือนจะเป็นการทะเลาะกันระหว่างเพื่อนนะ เฉิน หน่วย นายกำลังทำให้เรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่หรือเปล่า เข้าใจอะไรผิดหรอ?”

“ลุงสาม แหกตาไปดูที่โรงพยาบาลหน่อยเถอะ!” มู่เฉินหยวนไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่นิดเดียว อีกทั้งยังตะคอกต่อ “ถ้า ไม่ใช่เพราะว่ามันเป็นญาติพี่น้อง กระสุนสองนัดนั้นได้ไปอยู่ กลางหัวใจมันแน่!”

สีหน้าของมู่เจิ้งเฉิงอึกอัก

“จินเซวียนไม่ถูกก็จริง แต่เขาทําผิดคนเดียวจริงหรอ?” ม่ เจิ้งหย่าเอ่ยขึ้น “ไฟในห้องไพรเวทรูมนั้นก็ดูมืดสลัว ฉันดู แล้ว อาจจะจําคนผิดก็ได้”

“มู่เฉินหย่วนยิ้มแล้วถามกลับ “อ่อ งั้นครั้งนี้ล่ะ ยังจะจำผิด อยู่มั้ย? บนถนนกั้นด้วยไฟถนนที่ทอดยาวไม่กี่เมตร มู่จินเซวี ยนสายตาสั้นเป็นพันเลยหรอ? ยังจะจําผิดคนมั้ย?”

“คุณอา ………ยังไงเขาก็เป็นหลานคุณอานะ แต่คุณอา ต้องรู้ไว้ว่า คนที่เขาลงมือคือใคร แล้วลงมือได้หรือไม่!

คนทั้งงานต่างพากันรู้สึกว่าห้องรับแขกเย็นลงจนทำให้ใจ สั่นไปหมด

ปกติมู่เฉินหย่วนเป็นคนสุขุม น้อยครั้งมากที่จะกลับมายัง คฤหาสน์ดู่ ต่อให้มาก็แค่กลับมากินข้าวซึ่งทำให้ใครๆต่าง พากันเกรงใจทุกครั้งที่เขามา และวันนี้เขากลับมากพร้อมกับ ความน่ากลัวที่สามารถฆ่าคนได้จึงทำให้ผู้คนต่างพากันรู้สึก หวาดกลัว

เฉินหย่วน ก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่งหน่า จะมาเทียบอะไรกับ น้องได้?” มู่เจิ้งเฉิงลุกขึ้นยืนจากโซฟา “นายยังเป็นคนมนครอบครัว อยู่รีป่าว ทำไมต้องให้คนอื่นทําให้เราแตกหัก?”

“ต่างพากันบอกว่าจินเซวียนผิด แต่ฉันว่าถังซินเองก็ผิด เหมือนกัน! เมื่อก่อนเธอเคยแต่งงานกับมู่หยางซิว ทั้งสอง คนทะเลาะจนหย่ากันทำให้คนอื่นมากเกินจะรับได้ ใครจะรู้ ว่าในใจของเธอต้องการจะแก้แค้นตระกูลมู่หรือไม่!

“บอกไม่ได้แน่ชัดว่าอุบัติเหตุรถยนต์ของนายก็เป็น แผนการของเธอ เพราะอยากจะจับคู่ชื่อ”

มู่จินเซวียนเอ่ยปากต่อว่าเธอไม่มีชิ้นดี อีกทั้งยังใส่ร้าย เธอ สีหน้าถังซินเงียบขรึมลง มู่เฉินหยวนจับมือเธอไว้แน่น เพราะไม่อยากให้เธอพูดอะไรออกมา

คุณผู้ชายมู่ตะคอกกลับเสียงดัง “พูดบ้าอะไรของนาย อุบัติเหตุทางรถยนต์ของเฉินหยวนเป็นเรื่องที่ไม่คาดคิด อย่าไปโทษซินน้อย แล้วการที่ให้เธอเป็นผู้จัดการก็เป็น ความคิดของฉัน หรือนายมีปัญหากับความคิดของฉันใน ครั้งนี้?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ