ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 118 การปกป้องครั้งสุดท้าย



บทที่ 118 การปกป้องครั้งสุดท้าย

หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นสงบลง ในหูของถังซินได้ยินวิ้งๆ ไปหมด ไหล่ขวาของเธอได้รับบาดเจ็บหนัก เธอรู้สึกเจ็บคอ และในที่สุดเธอก็สำลักเลือดออกมา

ตอนที่เธอสามารถลืมตาขึ้นได้ ก็พบว่าทั้งร่างของเธอ ราวกับมีคนมาทับร่างเธออยู่และไม่มีอะไรที่หนักไปกว่านี้ได้ อีกแล้ว

ตอนที่มู่เฉินหย่วนกดถุงลมนิรภัยให้เธอนั้นเพื่อปกป้อง เธอ จนกระทั่งกระจกรถเกือบทั้งหมดแตกละเอียดและทิ่ม เต็มหลังเขาไปหมดและเลือดเขาไหลออกมา เขาถูกอัดอยู่ ในรถนี่

“มู่…มู่เฉินหย่วน..” ถังซินพยุงมู่เฉินหยวนที่ใบหน้าเต็ม ไปด้วยเลือดอย่างมือสั่นมองเขาด้วยสายตาที่ตกใจ ลม หายใจแผ่วเบาทำให้เธอทำตัวไม่ถูก มู่เฉินหย่วนขยับตา เล็กน้อย ทว่ากลับเป็นเรื่องยากที่จะลืมตา

สายตายังคงมองด้วยความห่วงใยและมองไปยังเธอด้วย ลมหายใจที่แผ่วเบา ก่อนจะเอ่ยถาม “เป็นอะไรมั้ย?”

“ฉันไม่เป็นไรค่ะ คุณ…” ถังซินมองไปยังเศษกระจกที่อยู่ บนหลังของเขา น้ำตาไหลออกมาและน้ำเสียงสั่นเทา “ฉัน จะช่วยคุณค่ะ…”

“ผมไม่เป็นไร คุณออกไปก่อน”
ช่วงขาทั้งหมดของเขาติดอยู่ในรถ น้ำเสียงแผ่วเบา และ เขาพยายามที่จะออกแรงทั้งหมดที่มีทุบกระจกให้แตกเพื่อ ให้ถังซินออกไป

หลังจากที่ถังซินออกไปก็อยากจะดึงเขาออกมาด้วย ร่าง ทั้งร่างเปียกไปด้วยฝน เธอแทบจะร้องไห้

ร่างกายที่ถูกทับอย่างเจ็บปวด ทว่าเขายังคงคว้ามือเธอ ไว้พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “ถังซิน คุณเป็นคนที่มี พรสวรรค์และมีความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ คุณเป็นคน เดียวที่ผมจะเชื่อได้ถ้าผมตายไป ฝากคุณดูแลมู่ชื่อด้วยนะ”

“คุณอย่าพูดอย่างนี้สิ คุณห้ามตายเด็ดขาด!” “ตาย” คำๆนี้ เข้าไปอยู่ในหูถังซิน จึงทำให้เธอตะโกนใส่เขาใหญ่ และยัง บอกให้เขาหยุดพูด อีกทั้งยังเอาของต่างๆที่อยู่บนขาที่ถูก กดทับของเขาออก

ทว่าร่างที่ถูกกดทับอย่างแน่นนั้นไม่ว่าจะออกแรงอย่างไร ก็ไม่สามารถช่วยได้

เสื้อผ้าบนร่างของมู่เฉินหย่วนเต็มไปด้วยเลือด มือของ เขาค่อยๆคลายออกและไม่อาจจับมือของเธอได้อีก พร้อม หลับตาลงท่ามกลางถังซินที่กำลังร้องไห้อย่างหนัก

“มู่เฉินหย่วน ห้ามหลับได้ยินมั้ย!”

“ฉันสั่งให้คุณลืมตา!
ไม่ว่าถังซินจะพูดยังไง แต่มู่เฉินหย่วนกลับไม่ขยับแม้แต่ นิดเดียว อีกทั้งยังแทบจะไม่หายใจแล้ว

ในตอนนี้ถังซินถูกความหวาดกลัวเข้าปกคลุมเธอไปทั่ว

โชคดีที่ถังซินหาโทรศัพท์ในรถเจอ แม้ว่าหน้าจอจะแตก แต่ก็ยังใช้งานได้ปกติ เธอเช็ดหน้าจอโทรศัพท์ที่เปียกโชก และกด120

“ฮัลโหล 120 รึป่าวคะ…ถนนฉิววี่เกิดอุบัติเหตุรถชน…ใช่ รุนแรงมาก พวกคุณรีบมานะคะ”

รถของหลินเฉินจี่อยู่ทางด้านหลังของถังซินมาโดยตลอด

อุบัติเหตุเมื่อสักครู่นี้ทำให้เขาตั้งตัวไม่ทัน

รถเบนซ์คันดำที่อยู่ทางด้านหน้าเขาถูกชนจนพังยับไปทั้ง คัน รอบด้านเป็นเศษกระจกที่แตกละเอียด

หลินเฉิงจี้รีบวิ่งเข้าไป ตอนที่เขามองเห็นถังซินนั่งคุกเข่า ร้องไห้อยู่ด้านข้างรถนั้นก็ถอนหายใจและพยุงเธอขึ้นมา “ไม่เป็นไรใช่มั้ย?

เมื่อเห็นว่าไหล่ขวาของถังซินมีเลือดไหลออกมา เขาจึง รีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากกระเป๋าห้ามเลือดไว้อย่าง รวดเร็ว มือหนึ่งประคองตัวเธอไว้ อีกทั้งยังจะพาเธอออก ไป
“ฉันจะพาเธอไปส่งที่โรงพยาบาล

“มู่เฉินหย่วนยังอยู่ด้านใน คุณรีบไปช่วยเขาเร็ว” ถังซิน คว้ามือเขาอย่างเร็ว ก่อนจะเอ่ยอย่างรีบร้อน

“เขาถูกรถอัดไปทั้งตัวเลย ฉันกลัวว่ารถฉุกเฉินจะไม่ทัน เวลา หลินเฉิงจี้คุณไปช่วยเขาหน่อยเถอะ!”

ในใจของหลินเฉิงจี้ร้อนรุ่ม เค้ายื่นมือไปปัดโทรสั่งของ เธอจนตกลงพื้น “กวนรั่วยิน เธอยังจะแคร์อะไรอีก ตอนนี้ เธอจะแคร์คนอื่นทำไม ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วไง ไปกับฉัน!”

ฉันไม่ไป!” ถังซินผลักเขาออกอย่างแรง และตะคอก กลับใส่เข้าไปที่ “หลินเฉิงจี๋ นายรู้สึกว่าการทำแบบนี้มันมี ความหมายหรอ นายคิดว่าหลายเดือนที่ผ่านมานี้การที่นาย คอยส่งดอกไม้มาให้ฉัน สะกดตามรอยฉัน มันจะสามารถ ทำให้นายได้อะไรคืนกลับมาบ้างงั้นหรอ?”

“ฉันไม่ได้บอกวนรัวยิน กวนรั่วยินตายไปตั้งนานแล้ว!”

มีความเจ็บปวดบางอย่างในหน้าอกของหลินเฉิงจี้ เขา อยากจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้กระจ่าง ทว่าตอนนี้ยังไม่ใช่ เวลาที่เหมาะสม

ทั้งสองดึงดันกันอยู่ท่ามกลางสายฝน

ถังซินดิ้นไม่หลุด สุดท้ายเธอโกรธจนสบัดมือตบเขาเข้า อย่างแรง
ตบครั้งนี้ถึงกับทำให้หน้าของหลินเฉิงจี๋หน้าหันเล็กน้อย แว่นในตากระเด็นหลุดออกไป มีรอยนิ้วมือทั้งห้าพาดอยู่ บนหน้า ถังซิ่นลงมือเพราะโมโห ทว่าสุดท้ายกลับไม่รู้ตัวว่า ตนเองทําอะไรลงไป

เสียงหวอดของรถกู้ภัยได้ยินอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล ไม่นานก็ มาถึงยังสถานที่ที่เกิดอุบัติเหตุ ถังซินเอ่ยเพียงคำขอโทษ ก่อนที่จะวิ่งไปช่วยกู้ภัยและทิ้งเขาหลินเฉิงจี้ไว้ที่นั่น

ถังซินและพยาบาลจำนวนหนึ่งออกแรงช่วยกันดึงยกใหญ่ เพื่อที่จะนำมู่เฉินหย่วนออกมาจากรถขาของเขาถูกทับเป็น เวลานานและมีทั้งเลือดไหลทั้งเนื้อหลุดออกมา เธอมอง เห็นแววตาที่เจ็บปวด

ไม่นานนักมู่เฉินหย่วนก็ถูกหามขึ้นเปลและถูกนำตัวเข้าไป ยังรถพยาบาล หลินเฉิงจี๋มองเห็นถังที่ขึ้นไปบนรถพยาบาล เขาจึงฉับเท้าเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“กวนรั่วยิน!”

มองเห็นแววตาได้เพียงครู่เดียว รถพยาบาลก็เคลื่อนตัว ไปอย่างรวดเร็วเสียแล้ว

หลินเฉิงจื้อยากจะตามเธอไป ทว่าหัวใจที่เต้นแรงนั้น ทำให้เค้าเจ็บปวดจนหายใจแทบไม่ไหวและทนไม่ได้ ร่าง สูงใหญ่ค่อยๆถอยหลังลงจนกระทั่งล้มตัวลงไปบนพื้นที่ฝน ตกอย่างแรง
จากบนรถพยาบาลจนถึงห้องผ่าตัด ใจของถังซินกระวน กระวายใจมาตลอดทั้งทาง ใจทั้งใจเต็มไปด้วยความหวาด กลัว เธอจ้องมองไฟสีแดงที่อยู่หน้าห้องผ่าตัดอย่างใจจดใจ จ่อ หมอพูดว่าไม่เป็นอะไรเขาถึงจะวางใจ

เวลาผ่านไปทุกวินาทีจนไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว เสียงเท้าที่เดินผ่านไปมาที่ระเบียง อีกทั้งผู้คนมากกว่าเจ็ด แปดคนก็ได้มาถึงหน้าห้องผ่าตัด

ถังซินพยุงตัวกับกำแพงลุกขึ้น สายตากวาดมองไปรอบๆ ราวกับว่าทั้งหมดจะเป็นคนตระกูลมู่ ก่อนที่เธอจะหย่ากับมู่ หยางซิวนั้นเธอเคยไปกินข้าวและพบปะกับคนตระกูลมู่มา ก่อน และตอนนี้มู่หยางซิวก็อยู่ด้วย

เมื่อเห็นว่าถังซินก็อยู่ที่นี่ นัยน์ตาของมู่หยางซิวก็รู้สึก สับสน และเห็นว่าเธอตัวสั่นเทาไปหมด อีกทั้งไหล่ด้านขวา มีความผิดปกติ จึงถอดเสื้อกันหนาวออกก่อนที่คลุมไปบน ตัวเธอ

ถัง นผลักออก

“ตอนนี้อย่าถอดออกเลย” มู่หยางซิวยื่นมือขึ้นไปห้ามเธอ ไว้ พร้อมถาม “ผมเห็นรถของลุงเกิดเรื่องที่ถนนฉิววี่ในข่าว คุณเองก็อยู่บนรถหรอ?”

ในหัวถังซินสับสนเล็กน้อยกับคำถามของมู่หยางซิวก็เอ่ยรับไปที “มีรถขับย้อนศร และยังเปิดไฟสูง ท่านประธานมู่ หลบแสงไม่ทันเลยทําให้เกิดอุบัติเหตุ

“เรื่องเป็นยังไง ตำรวจอาจจะถามได้” มู่จิ่นหลิงเดินผ่าน มา พร้อมเอ่ยเสียงแข็ง “ถ้าการเกิดอุบัติเหตุรถชนของเฉิน หย่วนเกี่ยวข้องกับเธอ ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่!”

“พอได้แล้วจิ่นหลิง น้องของเธอกำลังอยู่ในห้องผ่าตัด พูดน้อยๆหน่อย “ มีคนตระกูลมู่พูด “คุณผู้หญิงท่านนี้คุณ กลับไปก่อนเถอะ ที่นี่ไม่ต้องการคุณ”

ถังซินเอ่ยขึ้นกลับอย่างเยือกเย็น “ฉันต้องอยู่ที่นี่ค่ะ รอให้ ท่านประธานมู่ปลอดภัยดีแล้ว ฉันจะกลับไปเองค่ะ”

“ถังซินคำพูดเธอทำให้คนต้องคิดมากได้มั้ยนะ?” มู่จิ่นหลิ งกระแนะกระแหนถังซิน “เป็นห่วงเขาขนาดนี้ ที่จริงแล้ว พวกเธอมีความสัมพันธ์อะไรกันรึป่าว?”

“ประธานมู่คือหัวหน้าของฉัน

“เหอะ เธอให้เขาเป็นหัวหน้าอะไรกันล่ะ พูดผิดแล้ว!”

ถังซีนเม้มปากเล็กน้อย

เมื่อกี้เธออยากจะพูดอะไร ก็ควรมาพูดกันแค่สองคน

หญิงสาวผู้ดูดีมีชาติตระกูลคนหนึ่งที่กำลังสวมใส่ กระโปรงสีม่วง ใบหน้าที่เป็นมิตรและอบอุ่น การอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ผมสีขาวสักเส้นก็ไม่มีซึ่งทำให้คนอื่นมองอายุ ของเธอไม่ออก เท้าคู่หนึ่งที่สวมใส่รองเท้าส้นสูงหนังแกะสี เทาพร้อมทั้งคนใช้ที่เดินมาตามหลังของเธอหนึ่งคน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ