ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 160 คุณจูบฉันอีกสิคะ



บทที่ 160 คุณจูบฉันอีกสิคะ

“ไม่ค่อยต่างจากคนอื่นเท่าไหร่” มู่เฉินหย่วนพูด เขาเข้าใจ ความหมายของถังซินอยู่บ้าง “คุณอยากถามว่า ตอนที่พวก เขาเปลี่ยนรสนิยมทางเพศ มีลางอะไรหรือเปล่าใช่ไหม”

“ใช่ค่ะ นี่แหละค่ะ” ถังซินตบต้นขาไปหนึ่งที “เสี่ยวซู คุณ ฉลาดจังเลยค่ะ”

“ไม่มีลางอะไรหรอก”

ถังซินไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ไปชั่วขณะ

มู่เฉินหยวนมองเธอแว๊บหนึ่งแล้วค่อย ๆ เอ่ยปาก “พวก เขาเหมือนกับคนปกติ ไม่แตกต่าง พอเจอคนที่ชอบก็ดูความ รู้ใจกันก่อน ขอแค่ชอบ พวกเขาไม่ได้สนใจเพศ”

“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง… ” ถังซินพึมพำใจลอยไปไกล

มิน่าล่ะ เธอกับกวนชิงเฟิงอยู่ด้วยกันมานานหลายปีขนาด นั้นถึงดูไม่ออกว่าเขาผิดปกติตรงไหน

มู่เฉินหย่วนถาม “ทำไมคุณต้องถามเรื่องนี้ด้วย

พอเขาถามเรื่องนี้ ถังซินก็อยากจะร้องไห้ หน้าคว่ำลงมา “คุณรู้ไหมคะ ฉันเลี้ยงน้องชายมาสิบกว่าปี ฉันคิดว่าเขาเป็น ผู้ชายแมนๆตรง ๆ แต่ผลสุดท้าย…
ถังซินอายที่จะพูดจริง ๆ

มู่เฉินหย่วนนิ่งมาก ยังเอากลับส้มใส่ปากไป “เห็นท่าทาง คณแบบนี้ คนรับไม่ได้เหรอ”

“ฉันรับได้อยู่แล้ว เขาเป็นน้องชายฉันนี่ แค่อยู่ดีมีสุขก็ พอแล้ว แค่แม่ฉัน…” นึกถึงคุณแม่ถังที่หัวโบราณแล้ว ถังซิ นก็ขยี้ผมด้วยความร้อนใจ “ถ้าแม่รู้ว่าน้องชายฉันชอบผู้ชาย คงตกใจจนหัวใจวาย”

เห็นเธอดูร้อนใจ ขยี้ผมจนหัวยุ่งเหยิง มู่เฉินหย่วนอยาก หัวเราะมาก

เขาใช้มือสางผมให้เธอแล้วพูดเสียงทุ้ม “นี่คือเรื่องของ น้องชายคุณ จะแก้ปัญหายังไงก็ดูเขา คุณร้อนใจไปก็ไม่มี ประโยชน์อะไร เลิกดึงได้แล้ว ผมยิ่งน้อย ๆ อยู่”

ถังซินปัดมือของเขาออก ขยับตัวไปด้านหลัง ทำหน้าไม่ พอใจมาก “ประธานมู่คะ คุณพูดแล้วไม่ต้องจับสิค่ะ คุณจับ กลีบสัมมาเหนียวมากนะคะ เปื้อนผมฉันไปหมดแล้วเนี่ย”

มู่เฉินหย่วนเบะมุมปากลง

กวนชิงเฟิงไม่รู้อะไรเลยว่าพูดโกหกไปประโยคเดียวโดย ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตัวเองโดนตีตราว่าเป็น “เกย์” ไปแล้ว
เขายกของกลับมาคอนโด

ตอนเช้าพอเขาออกมา คอนโดยังสะอาดสะอ้านอยู่ พอ เปิดประตู ระเกะระกะไปหมด บทละคร อาหารว่าง แร็กด อลล์ เละเทะไปหมดเลย

จู๋ซือซือใส่ชุดนอนกำมะหยี่ทำรังบนโซฟา เหมือนผู้หญิง ติดบ้าน

กวนชิงเฟิงนับถือมาก ตอนเช้าจ่ซือซือแต่งตัวสวยตามตัว เองออกไป แค่ไม่กี่ชั่วโมงก็กลับบ้านล้างเครื่องสำอาง นั่ง หงอยเหงาบนโซฟา

“กินข้าว” กวนชิงเฟิงกําจัดขนมบนโตะจนหมด วางอาหาร เที่ยงที่เอากลับมาลงแล้วพูด “กินของอ้วน ๆ พวกนี้ให้มัน น้อย ๆ หน่อย มันไม่ดีต่อสุขภาพนะ

จ่ซือซือหน้าบึ้ง เอาหัวมุดเข้าไปในหมอน “ไม่กิน เอาออก

ไป”

“งั้นผมทิ้งนะ” กวนชิงเฟิงรู้ว่าเธออารมณ์ขึ้นอีกแล้ว ไม่ ตามใจ ยกจานกับข้าวจะไปห้องครัว

“ไอ้หมาป่า คุณทำเกินไปแล้วนะ” จู่ซือซือลุกขึ้นจาก โซฟาด้วยความโมโหแล้วเขวี้ยงหมอนไปที่เขา “ฉันเสียแรง ที่ดีกับคุณขนาดนั้น แถมยังซื้อห้องให้คุณด้วย แล้วคุณล่ะ”

กวนชิงเฟิงคิดว่าเธอเป็นเรื่องที่เธอโกรธเมื่อเช้าก็เลยพูดว่า “ผมบอกแล้วไง คุณไม่อยากรอก็สังข้าวกล่อง คุณจะมา โกรธผมอะไรตอนนี้ล่ะ”

เขาเป็นบอดี้การ์ดนะ ไม่ใช่ที่ระบายอารมณ์

จ่ซือซือเดินเท้าเปล่าเดินมาตรงหน้าเขาด้วยความโมโห ใบหน้าอันงดงามเต็มไปด้วยความโกรธ “ฉันไม่ได้โกรธ เรื่องนี้ คุณตาบอดเหรอ ผู้หญิงทั้งโลกตายไปหมดแล้ว คุณ นี่เพอร์เฟคมากเลยเหรอ”

“ผู้หญิงคนนั้นแอบเหยียบเรือสองแคม คุณรู้หรือเปล่า”

จู่ซือซือยิ่งพูดยิ่งโมโห เธอซวยจริง ๆ เลย โดนแย่งพี่เฉิน โดนแย่งบอดี้การ์ด แถมแม่งยังเป็นผู้หญิงคนเดียวกันที่แย่ง ไปอีก

เธอใช้นิ้วจิ้มหน้าอกกวนชิงเฟิงอย่างแรงแล้วด่าต่อ “คุณ มันมีตาหามีแววไม่ ไอ้หมูเอ้ย คุณขาดอะไร บอกฉันไม่ได้เห รอ ต๊ะ”

“แฟนเลว ๆ แบบนั้นทำไมถึงยังไม่เลิกอีก อยากจะรั้งเอา ไว้จนถึงปีใหม่หรือไง ทำไมคุณไม่พูดล่ะ ฉันซื้อห้องให้คุณ คุณอยากเอาไปให้ยัยแพศยานั่นใช่ไหม”

กวนชิงเฟิงก้มหน้ามองเธอ

เธอพูดเหมือนกับกระสุนปืน พ่นออกมาติด ๆ กันไม่หยุด ดู

สวยน่ารัก ไม่รู้ว่าไปเอาความจอากาศในปอดมากมายขนาดนี้มาจากไหน ที่สำคัญเสียงยังดังมากด้วย

“ผมไม่มีแฟนนะ” กวนชิงเฟิงปวดหูนิด ๆ

จ่ซือซือพูดอย่างโกรธ ๆ “คุณมี ฉันตาไม่ได้บอดนะ ดูออก ว่าคุณไม่อยากเลิก

“ผมไม่มี”

“คนโกหก ฉันเห็นหมดแล้ว…อื้อ”

กวนชิงเฟิงเห็นปากเล็ก ๆ ของเธอพูดไม่หยุดก็รำคาญ เลยล็อกหัวจ่ซือซือเอาไว้เอา แล้วบีบบังคับให้เธอกลืนคำ พูดทั้งหมดลงท้องไป โล่งหูไปเยอะเลย

เมื่อกี้เธอน่าจะกินลูกอมวังจือไปไม่น้อย ในปากมีรสชาติ หวาน ๆ ทำให้กวนชิงเฟิงที่อยากปล่อยมือยิ่งดึงตัวเธอเข้า มาอยู่ในอ้อมกอดแล้วจูบหนักขึ้นไปอีก

ที่แท้ปากของหญิงสาวหวานมากนี่เอง

สักครู่ใหญ่ กวนชิงเฟิงถึงได้ปล่อยมือ เขาเห็นจู่ซือซือ ท่าทางเหม่อลอย ถึงได้รู้ตัวว่าเมื่อกี้ทำอะไรลงไป ขมวดคิ้ว แน่น อยากตบหน้าตัวเองสักฉาด

แม่งเอ้ย เขาทำอะไรลงไปเนี่ย ทำไมถึงไปลงมือกับคน ของประธาน ได้นะ
กวนชิงเฟิงรู้สึกอึดอัด เขากระแอ้มคอ พูดอย่างไม่ปกติว่า “ผมไปทำความสะอาดห้องครัวนะ”

จ่ซือซือเอามือลูบ ๆ ริมฝีปาก คิดถึงเรื่องเมื่อกี้ก็หน้าแดง ขึ้นมา

แม้ว่าเธอเข้าวงการนักแสดงมาหลายปี แต่ฉากจูบก็ใช้มุม กล้องหรือสแตนอินตลอด ไม่เคยโดนคนจูบมาก่อน คิดไม่ ถึงเลยว่าโดนจูบมันเป็นอย่างนี้นี่เอง หวานจังเลยอ่ะ

จู่ซือซือตามเข้าไปในครัว พอกวนชิงเฟิงหันมาก็พุ่งเข้าไป ในอ้อมกอดของเขาราวกับกระสุนปืน กอดเอวเขาอย่างแน่ “คุณจูบฉันอีกสิคะ”

“คุณจู่ คุณปล่อยมีอสิ” กวนชิงเฟิงดึงเธอออกจาก ตัวอย่างหยาบคาย

“ฉันไม่ปล่อย” จู่ซือซือเห็นผอม ๆ แต่กอดเขาแน่นมาก ปากแดงยื่นออกมา “ฉันชอบคุณและชอบจูบของคุณด้วย คุณจูบฉันอีกสิคะ

เธอพบว่าเธอรู้สึกที่เธอมีต่อกวนชิงเฟิงไม่เหมือนกับตอน ที่คบกับพี่เฉิน เธอแค่เคารพมู่เฉินหย่วนมาก ๆ เท่านั้น แต่ ๆ กวนชิงเฟิงจูบเธอแล้วทำให้เธอใจเต้นเร็ว

เธอรู้ว่าทำไมเธอถึงโกรธที่เขามีแฟนแล้วขนาดนั้นแล้ว เป็นเพราะเธอชอบเขาแล้วนี่เอง
จ่ซือซือเงยหน้ามองเขาตาแป๊ว “ฉันชอบคุณจริง ๆ นะ ไม่ เชื่อคุณลองสัมผัสดูสิ” เธอดึงมือเขาวางบนหัวใจ “มันเต้น เร็วมากเพราะคุณค่ะ”

กวนชิงเฟิงยังไม่เคยสัมผัสใกล้ชิดกับหญิงสาวมาก่อน โดนจู่ซือซือกอดนานขนาดนั้นเลยตัวแข็งทื่อไปหมด เธอยัง ดึงมือเขาไปวางบนหน้าอกนิ่ม ๆ ของเธออีก”

กวนชิงเฟิงหายใจไม่ค่อยปกติจนเกือบจะกัดฟันพูด “คุณ ปล่อยมือก่อน”

“คุณบอกว่าคุณไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอคะ ฉันตัดสินใจแล้ว ฉันจะเป็นแฟนคุณค่ะ” จ่ซือซือพยายามเขย่งเท้า “คุณห้าม ปฏิเสธ ต้องรับปากนะ”

เธอเหยียบบนรองเท้าแตะเขา อยากฉวยโอกาสจูบเขา แต่ สุดท้ายกวนชิงเฟิงก็ปิดปากเธออย่างไร้เยื่อใย

“คุณจู่ หยุดดื้อได้แล้ว”

พูดจบชั่วเสี้ยววินาที กวนชิงเฟิงหน้าท้องช่วงล่างตึง จู่ ซือซือเป่าฝ่ามือของเขาแถมยังเลียเบา ๆ เหมือนจิ้งจอกตัว น้อยแกว่งหางตัวหนึ่ง

กวนชิงเฟิงใช้กำลังลากเธอลงมาแล้วจ้องเธอ

จ่ซือซือกลับฉวยโอกาสเอาขาสองข้างหนีบเอวเขาแล้ว หัวเราะอย่างชอบใจ “ฉันไม่สน เมื่อกี้ที่คุณจูบ ฉันยังไม่ได้อนุญาตเลย ตอนนี้คุณต้องจูบคืนฉันหนึ่งที

จากนั้นก็จับแก้มเขาแล้วจูบอย่างหนักหน่วงลงไป

ผลสุดท้ายด้วยความไม่บันยะบันยังฟันจึงกระแทกริม ฝีปากล่างของเขา กวนชิงเฟิงหน้าดำคร่ำเครียด จู่ซือซือ หัวเราะเยาะ “โทษที่มันเบี้ยวไปหน่อย เอาใหม่ ! ” “


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ