ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 296 เขากลัวว่านางฟ้าตัวน้อยจะได้รับบาดเจ็บ



บทที่ 296 เขากลัวว่านางฟ้าตัวน้อยจะได้รับบาดเจ็บ

เขาคาดว่าไม่ใช่ภาษาอังกฤษ ฟังเข้าใจก็ไม่เป็นไร เดินไปรอบๆ สอดส่องทุกซอกทุกมุม เดินไปได้เพียง สองก้าวเท่านั้น ก็ได้พบกับคนอื่นที่ตัวใหญ่มาก

แม่งเอ๊ย

ยังดีที่พอมองเขาเพียงผ่านๆ แล้วเก็บปืนลง โชคเข้า

ข้าง

ลู่เหวินซูได้ยินคำว่า “อัญมณี” เขารับคำ และส่งถึงใส่ เครื่องประดับให้ทันที ชายคนนั้นได้วางปืนลงแต่อย่าง ใด

อาศัยช่วงที่เขาก้มหัว ลู่เหวินซูใช้คัตเตอร์ที่เจอใต้ เคาน์เตอร์แทงเข้าที่คอของชายคนนั้นทันที มือหนึ่ง ปิดปากของเขาเพื่อไม่ให้เสียงดัง

เมื่อจัดการเสร็จแล้ว เขาผลุบหายเข้าไปในเคาน์เตอร์ ข้างๆ

เคาน์เตอร์นี้มีพนักงานแอบอยู่หนึ่งคน จึงเปิดไฟใน เคาน์เตอร์ เมื่อเห็นว่าเธอทำท่าจะกรีดร้อง มือของลู่เห วินซูก็ยื่นไปปิดปากของเธอทันที และใช้ภาษาอังกฤษ บอกกับเธอว่าตำรวจ
เมื่อจัดการกับศพแล้ว ลู่เหวินซูก็เอาหูฟังให้กับ พนักงาน เพื่อให้เธอบอกว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังพูดอะไร

เฮ้อ มาเจอโจที่พูดอังกฤษไม่ได้มันก็ต้องใช้วิธีนี้ แหละ

พนักงานรับเขียนตามสิ่งที่ได้ยินเป็นภาษาอังกฤษ ลู่ เหวินซูก็พบว่าพวกเขาไม่เพียงมาขโมยอัญมณี ทั้งยัง มาตามหาคนในรูปภพเพื่อเงินร้อนล้าน

ลู่เหวินซูรู้สึกประหลาดใจอยู่แล้ว ว่าทำไมโจรพวกนั้น จะต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงกับอัญมณี เพราะจุดมุ่งหมาย ที่แท้จริงนั้นอยู่ที่การฆ่าคน

เอาชีวิตคนไปแลกกับเงินร้อยล้าน ชางเป็นตกลงที่

เยี่ยมจริงๆ

เขาเปิดกระเป๋าเสื้อของโจรนั้น ก็จับรูปภาพหนึ่งขึ้นมา ได้ พอเห็นรูปของผู้หญิงบนนั้นก็ตื่นตกใจทันที

เป้าหมายของพวกเขาคือถังซิน

เวรเอ๋ย

ลู่เหวินซูรีบตรงไปยังเคาน์เตอร์ที่พวกถังซินซ่อนตัว อยู่ หางไกลออกไปนั้น ก็พบเห็นชายใส่แว่นกลางคืน คนหนึ่งกำลังเข้าใกล้เคาน์เตอร์นั้น ราวกับนึกจะตรวจสอบ

เมื่อนึกได้ว่าถังซินไม่มีทักษะใดๆ ทั้งในมือของชาย หนุ่มนั้นยังมีปืนอยู่ ลู่เหวินซูจึงไปลังเลที่จะลั่นไก

เล็งผ่านลำกล้องด้วยแว่นกลางคืน เตรียมจะลั่นไกที่ ขมับของชายคนนั้น

ปืนไม่มีตัวเก็บเสียง เสียงที่ดังขึ้นมาสร้างความตื่น กลัวให้กับทุกคน ลู่เหวินซูได้ยินคนกำลังพูดภาษาญี่ปุ่น ด้วยน้ำเสียงกับโกรธจัด

ข้างนอกหน้าต่างนั้นมีเสียงรถของตำรวจดังขึ้น

ตำรวจมาถึงแล้ว

ลู่เหวินซูถอนหายใจอย่างโล่งอก ตำรวจมาแล้ว แปล ว่าวี่เหวินถึงใกล้มาถึงแล้ว

ทันใดนั้นข้างหลังก็มีคนเรียกเขา ลู่เหวินซูไม่ได้ตอบ กลับอะไร ชายคนนั้นมีความสามารถในการแยกแยะสูง ราวกับรู้ว่าเขาเป็นคนนอกก็ลั่นไกใส่ในทันที

ลู่เหวินชูกลิ้งหลบไปเคาน์เตอร์ที่อยู่ข้างๆ รอจนอีก ฝ่ายเปิดนัดที่สอง ปืนจะต้องมีช่วงพักตัว รีบโผล่หน้า ออกไป และยิงเข้าที่หน้าอกของอีกฝ่ายทันที
แต่อีกฝ่ายมีปฏิกิริยาที่ว่องไว มันจึงพลาดไป

เวรเถอะ

กระสุนเพียงหนึ่งนัดเป็นการบอกตำแหน่งในทันที ลู่ เหวินซูมองเคาน์เตอร์ที่อยู่รอบด้าน เพื่อหาเคาน์เตอร์ที่ อยู่ห่างจากพวกถังซินเป็นที่ซ่อนตัว

ชายคนนั้นตะโกนเสียงดังเป็นภาษาญี่ปุ่น ราวกับกำลัง บอกเพื่อนว่าเจอตัวการแล้ว

โจรทยอยมากันถ้วนหน้า เพียงเห็นเงาของลู่เหวินซู ก็ยิงกราดทันที เสียงปืนและเสียงกระจกที่แตกจนร่วง กราวทําให้ผู้คนเริ่มกรีดร้อง

ลู่เหวินซูที่หลบซ่อนอยู่ พบว่าโจรนั้นยังมีอีกหกเจ็ด คน ส่วนหนึ่งไลตามเขา ส่วนนอกนั้นยังคงตามสำรวจ เคาน์เตอร์ที่ไม่ได้ดูต่อไป

โจรพวกนี้แม่งก็เป็นงานฉิบหาย

ในใจของลู่เหวินซูกำลังดาโจร ทั้งด่าวี่เหวินถึงที่มาช้า ไปด้วย เวร เขาไม่ได้นำของมา ปืนในตอนนี้เหลือเพียง สองนัดเท่านั้น

ฟังเสียงปืนของอีกฝ่าย รอหาโอกาส ทันทีที่ออกมาก็ จัดการในทันที
ณ กลางใจ

ลู่เหวินซูเปลี่ยนตำแหน่ง และมองผ่านลำกล้องไป

ยังมีอีกหกคน เขามีเพียงปืนกระบอกเดียว โจรน่าตาย พวกนั้นอยู่ไกลเขาเกินไป หากทะเล่อทะล่าออกไปจะ เป็นการบอกตำแหน่งในทันที โจรนั้นมีแว่นกลางคืน ดัง

นั้นจึงยังเข้าปะทะไม่ได้

รีบร้อนไม่ได้ ต้องสงบไว้

ลู่เหวินซูลอบกล่าวในใจ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อีกครั้ง ในไม่ช้าพวกโจรจะต้องเจอเคาน์เตอร์ที่พวกถังซินซ่อน ตัวอยู่ ทันทีที่ถูกพบเห็นเข้า น่าจะตายทันทีทั้งสามคน

นางฟ้าตัวน้อยของเขาอ่อนแอ ไม่มีทักษะใดๆ ทั้งนั้น

นึกถึงเรื่องที่ยังไม่เกิด แต่อาจจะเกิดขึ้นก็เป็นได้ ลู่เห วินซูที่ใช้ชีวิตมายี่สิบปี เป็นครั้งแรกที่รู้สึกตื่นตระหนก ขึ้นมา เขากลัวหลี่ซูเจ๋จะได้รับบาดเจ็บ

สายตาขี้เล่นของลู่เหวินซูเปลี่ยนไป เขายื่นหน้าออก ไป และรอบมองโจรไปรอบด้าน เขาออกไปหยิบปืน โดยที่ไม่กลัวว่าจะถูกจับได้

ได้ยินเสียงฝีเท้าของโจรมาทางปืนที่เขากำลังจะหยิบ ลู่เหวินซูจึงหลบซ่อนอีกครั้ง แต่พบว่าโจรเหล่านั้นกำลังจะไปถึงเคาน์เตอร์ที่หลี่ซูเจ๋ซ่อนอยู่แล้ว

เขาร้อนใจขึ้นมา เป็นอีกครั้งที่เขาออกไปเผย ตำแหน่งของตัวเอง วิ่งไปหยิบปืน อาศัยเคาน์เตอร์ กระโดดข้ามไปเพื่อตรงไปทางนั้น

ณ เวลานั้น ลู่เหวินซูมั่นใจกับเป้าหมาย ทุกครั้งที่ ลั่นไกออกไป ก็ใช้พลังและความเร็วที่มหาศาล เข้า ประชิดตัวโดยตรง

โจรพวกนี้ไม่มีโชคที่ฟ้าประทานให้ จนดับไปทันที

ลู่เหวินซูสูดลมหายใจอยู่สองวินาที ไม่คิดว่าชายที่ล้ม ลงไปนั้นจะกระเด้งตัวขึ้นมา จับจ้องหน้าอกของลู่เหวิน ซูยิงทันที

การตอบสนองของเขาช้าไปสองวิ ร่างกายกระเด็นไป ข้างหลัง ในจังหวะที่ตกกระทบพื้น เขาไม่ทันระวังจนถึง เสื้อคลุมติดมากับมือ จนเผยให้เห็นพวกของถังซินทั้ง สามคน

หลี่ซูเจรีบไปประคองเขา “ลู่เหวินซู คุณเป็นอย่างไร บ้าง”

ชายหนุ่มคนนั้นลั่นไกขึ้น ลู่เหวินซูไม่คาดคิด พลิก ตัวกลับมากอดหลี่ซูเจ๋เอาไว้ โดยใช้ไหล่นั้นเป็นที่รอง ใบหน้าของเขา กระสุนถูกยิงเข้าใกล้กับหน้าอก ลมหายใจของเขากระตุกดังเฮือก

“ลู่ ลู่เหวินซู..” หลี่ซูเจ๋ได้ยินเสียงเช่นนั้นของเขา นํา เสียงก็สะอื้นฮัก

หลังจากที่ยิงไป ชายคนนั้นก็พบเห็นว่ามีผู้หญิงเพิ่ม เขามาอีกหนึ่งคน ทั้งยังมีอยู่ในรูป จึงร้องด้วยความดีใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้ลั่นไกที่สอง คอของเขาก็ถูกจับ และกดอย่างแรง

สิบนาทีให้หลัง โซนเครื่องประดับนี้ก็สว่างขึ้นมา เปิด พัดลมดูดอากาศ จนควันสีขาวหายไปอย่างช้าๆ

ในที่สุดลู่เหวินซูก็โล่งใจ

มู่เฉินหย่วนและวี่เหวินถึงเองก็รีบเข้ามา ใบหน้าเต็ม ไปด้วยความเป็นห่วง

เมื่อเห็นเสื้อเชิ้ตของลู่เหวินซูชุ่มเลือด มู่เฉินหย่วนก็ ปรี่เข้าไปทันที ราวกับจะอุ้มเขาขึ้น

“พี่รอง ไม่เป็นไร” ลู่เหวินซูใบหน้าซีดขาว แต่ยังคง พูดอย่างสบายๆ “เรียกรถฉุกเฉินให้ผม เอาเปลยกเถอะ ผมรู้สึกรับกับอันนั้นได้มากกว่า”

มู่เฉินหย่วนหัวเราะ ก่อนจะโยนผ้าพันแผลให้เขา “เหนื่อยนายแล้ว”
ลู่เหวินซูอยากจะกล่าวอะไรสักหน่อย ไม่คาดคิดว่า ใบหน้าของหลี่ซูเจ๋จะเต็มไปด้วยน้ำตา ยกมือขึ้นปิดปาก เขา และกล่าวอย่างสะอึกสะอื้น “หากพูดมากเลือดก็จะ ยิ่งไหลเร็วขึ้น คุณหุบปากนะ”

ในที่สุดตำรวจก็มาถึง ปิดล้อมสถานที่แห่งนี้ไว้ และ ทําการสอบสวน

ต่อมารถฉุกเฉินก็มาถึง

วี่เหวินถึงอยากจะไปโรงพยาบาลกับลู่เหวินซู แต่เมื่อ เห็นสายตาปฏิเสธของลู่เหวินซู โดยที่มือจับมือของหลี่ ซูเจ๊ไว้ ราวกับจะบอกว่ามีหลี่ซูเจ๋ไปกับตัวเองก็พอ

สายตาของวี่เหวินถึงดุดัน จิตสังหารแวบผ่านขึ้นมา

บางเบา แต่ก็พยักหน้าไป

ถังซินและส้งจิ้งเหอก็เข้าไปเป็นพยาน ตำรวจสอบ ปากคำพวกเธอ ด้วยคำถามที่ง่ายๆ เมื่อเห็นว่าไม่ต่าง จากพนักงานมากนัก จึงปล่อยตัวมา

ถังซินยังคงกังวลกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงรู้สึกไม่สบายใจ

แต่เธอกังวลลู่เหวินซูมากที่สุด

เมื่อกลับมาถึงโรงแรม เธอจึงถามมู่เฉินหย่วน “กล้อง วงจรปิดใช้งานไม่ได้ แต่บนปืนนั้นมีรอยนิ้วมือของลู่เหวินซู ถึงเวลาสอบสวนจะไม่เป็นอะไรหรือคะ”

“ไม่เป็นไรครับ ถึงมีรอยนิ้วมือของเขาจริง แต่นั่นคือ การป้องกันตัวเอง” มู่เฉินหย่วนลูบผมของเธอ “ผมได้ โทรหาทนายความแล้ว คงจะมาถึงในไม่ช้านี้”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ