ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 346 แม่ของผมให้ผมนำอาหารมาส่ง



บทที่ 346 แม่ของผมให้ผมนำอาหารมาส่ง

“พี่ สวัสดีตอนเย็นนะ” เฉินคางทักทาย “ปีนี้ก็ไปทาน ข้าวที่ตระกูลมู่กับประธานมู่อีกหรือ”

“เปล่า ประธานมู่ปล่อยฉันมา”

เฉินคางร้องฮะ ก่อนจะรีบถาม “แบบนั้นพี่ก็กลับบ้าน ตัวเองแล้วหรือ”

“ประธานมู่ไม่ให้ฉันอยู่ ก็ต้องกลับสี ขับรถตัวเอง มาหนึ่งชั่วโมงก็ถึงบ้านแล้ว ไม่ใช่สิ นายถามฉันทำไม กำลังห่วงใยฉันหรืออย่างไร

“พวกเราเป็นญาติกันนะ ผมใส่ใจพี่มันก็เป็นเรื่องที่ถูก ต้องไหม”

ผู้ช่วยจางที่อยู่ปลายสายแค่นเสียงในลำคอ “พอเถอะ คิดว่าฉันไม่รู้จักนายหรืออย่างไร พ่อแม่นายอยู่บ้านฉัน กันหมด เมื่อครู่ยังให้ฉันรีบหาสะใภ้เข้าบ้านอยู่เลย ทั้ง ยังถามด้วยว่าทำไมฉันถึงไม่มีแฟน”

แม้จะคุยทางโทรศัพท์ แต่เฉินคางก็รับรู้ได้ถึงน้ำเสียง ที่ขุ่นเคืองของผู้ป่วยจาง น่าจะโดนผู้ใหญ่พูดใส่มาพอ สมควร

แต่ก็นะ พี่เองก็ยี่สิบเก้าแล้ว

เฉินคางสอบหัวเราะอยู่ในใจ ก่อนจะลูบจมูกแล้วกล่าว “แล้วพี่จะกลับเมืองหนานเฉิงพรุ่งนี้เช้าไหม พอดี ผมมีของที่จะต้องให้ประธานมู่ แต่ไม่สะดวกไปส่งเอง”

“ของอะไร ของคุณถัง”

“ก็ใช่

“เอาให้เองเถอะ” สีหน้าผู้ช่วยจางเปลี่ยนในทันที ทั้ง

ยังเอ่ยเตือนด้วยความหวังดี “อย่าได้ถูกคำว่าคุณถังให้

ประธานมู่ได้ยินเชียว รักษาชีวิตของตัวเองไว้เถอะ” “ไม่หรอก” เฉินคางไม่อยากจะเชื่อเสียเท่าไหร่

แต่เดิมเขาคิดจะฝากของนี้ไปกับผู้ช่วยจาง และส่งไป ให้ถึงมือของมู่เฉินหย่วน แต่สุดท้ายผู้ช่วยจางไม่ยอม ช่วยเขา

ผู้ช่วยจางถอนหายใจอย่างอึดอัด “หากไม่ใช่เพราะ งานจนเลี่ยงไม่ได้ ป่านนี้ฉันหลบประธานมู่ไปนาน แล้ว อ่อใช่ เมื่อเย็นฉันไปส่งประธานมู่ที่ที่พักของเขา ประธานมู่ไม่ได้ไปตระกูลมู่นานแล้ว คาดว่าคืนข้ามปีนี้ ก็คงจะอยู่ที่นั่น ที่อยู่ของประธานมู่นายก็รู้นี่ ไปเองได้ เลย”

เฉินคาง “………….”

“เฉิง(จางเฉิง)คุยเสร็จยัง จะทานข้าวแล้วนะ” เสียงที่ ดังขึ้นจากทางปลายสายนั้นเป็นเสียงที่อ่อนโยนของผู้ หญิงคนหนึ่ง
เสียงนี้ เฉินคางไม่คุ้นเคยกับมันแม้แต่น้อย

เขาชะงักไปอึดใจ ก่อนจะตะโกนขึ้นมา “เวรเถอะ พี่ นั่นใครกัน พวกพี่ไม่ใช่ว่าทานอาหารข้ามปีอยู่หรือ”

ผู้ช่วยจางกระอึกกระอัก “…ญาติ ที่เพิ่งกลับมาจาก ต่างประเทศ”

“ไปหลอกเด็กเถอะ” เฉินคางตวาดลั่น “ญาติพวก เรา ผมเคยเจอมาหมดแล้ว พี่มีญาติที่กลับมาจากต่าง ประเทศเมื่อไหร่กัน ทั้งเสียงนั้นยังเป็นญาติผู้หญิงเสีย ด้วยสิ”

“โอเค นายรีบเอาของไปส่งเลย” ผู้ช่วยจางไม่ตอบ กลับไป เลือกวางสายทันที

เฉินคางหัวเราะหึ

ยิ่งพี่ปิดเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งรู้สึกว่ามันจะต้องมีปัญหา แน่นอน

“โอ๊ะ แต่ตอนนี้เรื่องส่งของสำคัญที่สุด” เฉินคางบ่น พึมพำก่อนจะมองกล้องในมือ

เพราะพี่กลับบ้านไปแล้ว เขาจึงทำได้เพียงไปที่พัก ของประธานมู่ด้วยตัวเองเท่านั้น

ในตอนที่จะออกรถ เฉินคางก็นึกขึ้นมาได้ วันนี้คือวัน ข้ามปี ประธานมู่และคุณถังก็เลิกกันไปแล้ว หากเขานำของของคุณถังไปให้จะตายหรือไม่

เฉินคางนั่งลังเลอยู่ภายในรถ สุดท้ายก็ดับเครื่อง และ กลับไปยังบ้านคุณแม่ถังอีกครั้ง

โชคดีที่คนเปิดประตูคือคุณแม่ถึง

เฉินคางที่เห็นว่าห้องรับแขกนั้นไม่มีกวนหลิงเอ๋อและจู่ ซือซือ คาดว่าน่าจะไปเล่นที่ห้อง เลยกล่าวกับคุณแม่ถัง “เหมือนว่าประธานมู่จะทำงานเลยไม่ได้ไปทานข้าวที่ บ้านตระกูลมู่ คุณแม่ทำอาหารสักเล็กน้อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมเอาไปให้ประธานมู่เอง”

“เธอจะเอาของไปให้เฉินหย่วนหรือ

เฉินคางลูบหัวไปมา “ครับ ค่อนข้างเป็นของสำคัญ มันเลยต้องส่งเย็นนี้

“เช่นนั้นฉันจะไปทำ รอก่อนนะ”

คุณแม่ถังเข้าห้องครัวไปด้วยท่าทีรีบร้อน กลัวว่ามู่ เฉินหย่วนจะไม่ได้ทานข้าวเสียอย่างไรอย่างนั้น

เฉินคางอดที่จะซาบซึ้งไม่ได้ แม่ภรรยาที่ดีเช่นนี้ช่าง ดีเสียจริง

ครบเวลาหนึ่งชั่วโมง คุณแม่ถังก็ออกมาพร้อมกับข้าว หกอย่างและน้ำซุปอีกหนึ่ง
ซุปรากบัวซี่โครงหมูที่ใช้หม้อแรงดันสูงในการตุ๋น ถูก นำมาใส่กระติกรักษาอุณหภูมิสามชั้นสองใบจนเต็ม

คุณแม่ถังราวกับมีคำถามมากมายที่จะถามเฉินคาง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ถามออกไป เพียงยื่นกระติกรักษา อุณหภูมิไปให้เท่านั้น “บอกเฉินหย่วนพักผ่อนเยอะๆ อย่าทำงานทั้งวันทั้งคืนด้วยนะ”

เฉินคางพยักหน้า “คุณแม่สบายใจได้ครับ ผมจะพูด ตามอย่างไม่มีตกหล่นเลยครับ”

เมื่อมีอาหารที่คุณแม่ถังทำ เฉินคางก็ขับรถไปยัง ที่พักของมู่เฉินหย่วนอย่างมั่นใจ ห่างออกไปนั้น เขาก็ เห็นมีรถคันสีดำจอดอยู่ที่ริมถนน

น่าแปลก นี่มันไม่เหมือนรถที่ประธานมู่ขับเป็นประจำ

เลย

เฉินคางสงสัย จอดรถลงและเดินไปทางวิลล่า เหลือบ มองเข้าไปในรถเพียงเล็กน้อยยามที่เดินผ่าน ราวกับว่า ข้างหลังนั้นมีคนอยู่ ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดออก

หญิงสาวที่ใส่เสื้อคลุมตัวใหญ่สีโทนน้ำตาลก็เดินลง มาจากรถ ผิวขาวสุขภาพดี ดูไม่แก่เลยแม้แต่น้อย

เธอปรี่มาหาเฉินคางอย่างรีบร้อน ท่าทางภายนอกดู สุภาพอ่อนโยน การพูดการจาก็นุ่มนิ่มน่าฟัง “ขอโทษนะ คะ ไม่ทราบว่าจะเข้าไปหาประธานมู่หรือคะ”
“ครับ มีธุระอะไรหรือ” เฉินคางมองเธอเขม็ง

เมื่อโมมอยอี้เห็นกระติกรักษาอุณหภูมิในมือเฉินคาง ก็ยิ้มเล็กน้อย

หลังจากนั้นก็หันกลับเข้าไปในรถและหยิบกล่องข้าว มาให้เขา ทั้งโค้งตัวให้เล็กน้อย “รบกวนมอบให้กับ ประธานมู่ด้วย เขา… วันนี้ไม่ได้กลับไปทานข้าวที่บ้าน คนที่บ้านค่อนข้างจะกังวลค่ะ

เฉินคางไม่ได้รับมา เพียงมองโมมอยอื้อย่างจับผิด “คุณก็มาแล้ว ทำไมไม่เอาไปให้เองล่ะครับ”

เขาอยู่กับประธานมู่มานาน คนในครอบครัวมู่ก็พบ เจอมาทั้งหมด แต่เขาไม่เคยพบเจอผู้หญิงคนนี้ แต่จาก การพูดการจาแล้ว ความสัมพันธ์ของเธอกับมู่เฉินหย่วน คงจะไม่ธรรมดาทีเดียว

คนคุยของประธานมู่หรือ

คำๆนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของเฉินคาง แต่ก็รู้สึกว่าไม่น่า ใช่ในทันที

ผู้หญิงที่อยู่เบื้องหน้าคนนี้อาจจะดูอ่อนเยาว์ แต่ก็มี ตีนกาโผล่ขึ้นมาบ้างแล้ว น่าจะอายุห้าสิบกว่าๆ ได้แล้ว ต่อให้ประธานมู่เลิกกับคุณถังแล้ว ก็ไม่น่า… จะเปลี่ยน รสนิยมไปขนาดนี้

ดวงตาของโมมอยอี้ฉายแววหดหู่ เมื่อเจอกับคำถามของเฉินคาง และเอ่ยเสียงแผ่วเบา “เขาคงไม่อยากเจอ ฉันหรอกค่ะ รบกวนเอาไปส่งให้เขาหน่อยนะคะ ปล่อย ให้เขาหิวก็คงจะไม่ดีเท่าไหร่”

เฉินคางถามออกไปอย่างลังเล “คุณสนิทกับประธาน มู่หรือ” โมมอยอี้ชะงักไปชั่วครู่ แต่ก็ส่ายหน้าในท้ายที่สุด “ไม่

ได้สนิทหรอกค่ะ”

หากไม่สนิทกันทำไมต้องห่วงใยประธานมู่ขนาดนั้น

ด้วย

เฉินคางไม่เข้าใจ และยิ่งไม่อยากรับของที่เธอส่งมา ให้เท่าไหร่ แต่เมื่อเห็นโมมอยอี้ก้มตัวต่ำขนาดนั้น ทั้งยัง กล่าวอย่างจริงใจ สุดท้ายเขาก็ต้องรับมันมา

ในตอนที่เขาเข้าลิฟต์และกดชั้นไปแล้ว ก็เห็นโมมอ ยอี้ขึ้นรถและออกตัวไปอย่างรวดเร็ว

ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันแน่

เฉินคางยังคงใคร่ครวญ ประตูใหญ่ถูกเปิดออกแล้ว มู่เฉินหย่วนอยู่ในชุดคลุมสีเทา ยืนจังก้าอยู่ตรงนั้น สายตาเย็นชาจับจ้องมาที่เขา บรรยากาศน่าขนลุกอยู่ ในที

“มีธุระ”
เฉินคางสันหลังวาบ ก่อนจะฉีกยิ้มแล้วเดินเข้าไป “ประธานมู่ยุ่งไหมครับ แม่ของผมกลัวว่าท่านจะหิว จึง ให้ผมนำอาหารเย็นมาให้

มู่เฉินหย่วนคิ้วขมวด “แม่นายรู้จักฉัน”

“พูดผิดครับ แม่ยายของผมครับ” เฉินคางเรียกแม่ จนชินปาก เลยลืมที่จะเปลี่ยนสรรพนามไป “ประธานมู่ ยังไม่ได้ทานข้าวใช่ไหมครับ เช่นนั้นให้ผมส่งเข้าไปนะ ครับ ทานตอนร้อนๆ มันกำลังดี”

“ไม่จำเป็น” ใบหน้าของมู่เฉินหย่วนนิ่งเรียบ ยื่นมือจะ ไปปิดประตู น้ำเสียงเย็นชาอย่างถึงที่สุด

เฉินคางใช้เท้ากั้นเอาไว้อย่างว่องไว และเริ่มเปิด การ์ดความสัมพันธ์ทันที “ประธานมู่ครับ คุณกับพี่… คุณถังเลิกกันแล้วก็จริง แต่แม่ยายของผมยังคงห่วงใย คุณนะครับ”

“เธอได้ยินมาว่าคุณทำงานจนไม่ได้ทานข้าว ก็เร่งรีบ ทำอาหารภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ต้มน้ำซุป ผัดกับข้าว แล้วให้ผมนำมาให้คุณ ทั้งยังให้ผมมากำชับว่า อย่า ทํางานหนักเกิน พักผ่อนเสียบ้าง


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ