ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 376 คิดว่าฉันแพ้แล้วหรือ



บทที่ 376 คิดว่าฉันแพ้แล้วหรือ

“เรื่องนั้นผมก็รู้” หลินเฉิงจี่กล่าว

ครั้งนั้นที่ไปพบกับโมมอยอี้ เธอบอกเขา เป็นพ่อของ เขาที่ทำเรื่องน่ารังเกียจ ไปแยกครอบครัวของเธอ และ พรากเธอจากสามีกับลูกไป

เด็กคนนั้นของโมมอยอี้ ก็คือพี่น้องคนละพ่อของเขา

เพียงแค่เขานั้นไม่เคยเจอ

หลินเฉิงจี๋กวาดสายตามองโทรศัพท์ สายตาไม่แยแส นั้นเผยแววแข็งทื่อ ทั้งร่างต่างนิ่งชะงัก

ถังซินจ้องเขาอยู่เนิ่นนาน

เมื่อถูกบรรยากาศเคร่งเครียดกดทับอยู่นาน สุดท้าย เธอก็อดส่งเสียงขึ้นมาไม่ได้ “หลินเฉิง…

“เป็นไปไม่ได้ นี่มันไม่ใช่” หลินเฉิงจื่ถลึงตัวลุกขึ้นยืน และปาโทรศัพท์ของเธอลงกับพื้น “จะต้องเป็นข่าวลวง ของจี้เจียจื้อเป็นแน่ ผม ผมกับเขาจะเป็น

“หลินเฉิงจี๋ นายอย่าตื่นตระหนกนะ” ถังซินวิ่งเข้าไป กอด พร้อมจับมือของเขาไว้แน่น พร้อมพูดอย่างทรมาน “ชื่อเดิมของโมมอยอี้ก็คือชิวเสี่ยวอี้ แต่งงานกับมู่ซือ หนาน มีลูกชายชื่อมู่เฉินหย่วน
“ไม่ใช่ ไม่ใช่” หลินเฉิงจี่ไม่ยอมเชื่อ ผลักถังซินออก ห่าง และกระแทกนั่งโซฟาอย่างแรง “นี่มันไม่จริง เธอ กําลังหลอกผม

เขากล่าวเช่นนั้น ศีรษะค่อยๆ ตกลง ท่าทางดูโดด เดี่ยวและเจ็บปวด

ถังซินทรุดตัวลงนั่ง ยื่นมือไปโอบไหล่ของเขา และ กล่าวเสียงแผ่ว “ฉันรู้ว่านายไม่อยากเชื่อ แต่นี่คือเรื่อง จริง มู่เฉินหย่วนถือได้ว่าเป็นพี่ชายนายครึ่งหนึ่ง”

“เห็นได้ชัดว่าพวกเราอยู่ห่างกัน จนไม่รู้จักกัน… อย่างไรหลินเฉิงจี่ก็ไม่อยากเชื่อ ความสัมพันธ์ของเขา และมู่เฉินหย่วน เป็นพี่ชายต่างพ่อ แล้วยังมาแย่งผู้หญิง ที่เป็นเจ้าของใจเขาไปอีกด้วย

เขาเกลียดจริงๆ

หลินเฉิงจี่กำหมัดแน่น แล้วกล่าวอย่างเกลียดชัง “เขา แต่งงานแล้วไม่ใช่หรือ ทำไมถึงได้แย่งภรรยาของ คนอื่นกัน แย่งใครไม่แย่ง ทำไมต้องแย่งแม่ของมู่เฉิน หย่วนมาด้วย”

“นี่ไม่ใช่ความผิดของนาย นายไม่ต้องไปคิดเกี่ยวกับ เรื่องนี้อีกนะ” ถังซินเอ่ยปลอบเขาอย่างแผ่วเบา “นาย ต้องใช้ประโยชน์จากการที่พ่อรักนาย และเอาอเล็กซ์ เลียร์มาก็พอแล้ว เพียงนายกลายเป็นเจ้าของคฤหาสน์ หลังนี้ เมื่อถึงเวลานั้นนายจะทำได้ทุกอย่าง แม้แต่การ แก้แค้น”
หลินเฉิงจี้เงยหน้ามองเธอ “เธอรู้เรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ กัน”

“หลังจากที่นายเจอโมมอยอี้ น้องชายของฉันโทรมาบ อกเรื่องนี้กับฉัน” ถังซินไม่นึกปกปิด

“เขารู้ไหม”

ถังซินพยักหน้า และกล่าวว่า “หลินเฉิงจี๋ นายกับ ประธานมู่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพียงเล็กน้อย แต่ประธานมู่รู้ว่าความผิดนั้นไม่ใช่ของนาย และไม่นึก เกลียดนาย ที่ฉันบอกนาย เพราะไม่อยากให้จี้เจียจื้อ ลอบบอกเรื่องนี้กับนาย จนทำให้นายไขว้เขว ฉันรู้ว่าที่ ฉันทำอย่างนี้มันไม่ยุติธรรมกับนาย นายจะตีจะด่าฉัน อย่างไรก็ได้”

“ผมจะตี จะด่าเธอไปทำไม” หลินเฉิงจี๋กอบกุมแก้ม ของเธอไว้ พร้อมเอ่ยเสียงแผ่ว “ผมรู้ว่าคุณกำลังคิด เพื่อผม ผมแค่นึกเกลียดเส้นเรื่องของละครเรื่องนี้ สุดท้ายทุกอย่างมันก็เกิดขึ้นที่ตัวผม”

ใครก็ได้ ทำไมต้องเป็นมู่เฉินหย่วนเสมอ ไม่ใช่ว่า กำลังเยาะเย้ยเขาอยู่หรือไร

ถังซินขบปากแน่น และไม่พูดอะไร

ตอนที่รู้ความจริง เธอนั้นรู้สึกพังทลายยิ่งกว่าหลินเฉิง จี๋ รับไม่ได้แม้แต่เพียงนิด
แต่อย่างไร ความจริงก็ไม่อาจเปลี่ยนไปได้อยู่ดี สิ่ง เดียวที่เธอจะทำได้ ก็คือต้องขัดขวางแผนของจี้เจียจื้อ เพื่อไม่ให้สองพี่น้องต้องกลายเป็นศัตรูกัน

สำหรับความสัมพันธ์ของเหม่ยซีกับพวกเขานั้น มู่เฉิน หย่วนและหลินเฉิงจี้ต่างไม่สนใจ จี้เจียจื้อจะบอกเธอ หรือไม่ เธอจะเป็นอย่างไร ก็ไม่มีใครสนใจเธอทั้งนั้น

สิ่งที่ถังซินคิดไม่ถึงก็คือเรื่องที่กาวเหม่ยซีกลับมายัง ประเทศYนานแล้ว ทั้งยังหลบซ่อนอยู่ในคฤหาสน์อเล็ก ซ์เลียร์แห่งนี้

สามทุ่มกว่า จี้เจียจื้อเพิ่งจะได้ออกมาจากห้องหนังสือ ของโบแนร์

เขาน่าคุยกับพ่อของเขาได้ไม่เลวทีเดียว ใบหน้านั้น ไม่เหมือนกับตอนที่เข้าไปในห้องรับแขก ทั้งสีหน้า คิ้ว และริมฝีปากต่างก็ดูมีความสุข และเต็มไปด้วยร่องรอย ของชัยชนะ

จี้เจียจื้อลงมาจากตึก พร้อมรับเสื้อคลุมมาจากคน รับใช้ “ฉันจะไปหาบรูซ พรุ่งนี้ฉันมีงานต้อนรับที่สำคัญ ต้องเตรียมชุดใหม่ไว้

“ครับ คุณชายใหญ่ ให้ผมไปส่งไหมครับ”

“ไม่ต้อง ฉันไปเอง”

บรูซคือช่างออกแบบที่อเล็กซ์เลียร์จ้างไว้ พักอาศัยอยู่ที่บังกะโลเล็กๆ ทางตะวันตก

จี้เจียจื้อขับรถกอล์ฟมา โดยใช้เวลาแปดถึงเก้านาที เท่านั้น

“คุณชายใหญ่”

บรูซยังอยู่ที่ห้องรับแขก และคอยชี้แนะผู้ช่วยที่คอย ช่วยเขาตัดผ้าอยู่ เมื่อเห็นจี้เจียจื้อมา ก็รีบมาต้อนรับใน ทันที แต่จี้เจียจื้อโบกมือ และตรงขึ้นชั้นสองไป

เขาเดินไปจนสุดทางระเบียง และสะกิดที่ประตูห้า

ครั้ง

ประตูถูกเปิดออกโดยเร็ว

กาวเหม่ยซีอยู่ในชุดนอนสีเทา ใบหน้าที่ซีดขาวแต่ไม่ อาจปกปิดความงามของเธอได้

เพียงเปิดประตู เธอก็พุ่งไปกอดจี้เจียจื้อทันที หลัง จากนั้นก็ทุบเขาแรงๆ อยู่หลายครา และกล่าวอย่างไม่ พอใจ “คุณยังจำฉันได้หรือคะ ฉันนึกว่าคุณลืมฉันไป นานแล้ว”

“จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร ผมคิดถึงคุณตลอดเวลา นั่นแหละ” จี้เจียจื้อโอบเธอเข้าห้อง ทั้งผิดประตูในทันที “หากผมมาที่นี่โดยที่ไม่มีธุระอะไร ก็จะถูกคนอื่นสงสัย เอาสิ
“ข้ออ้างทั้งนั้น” กาวเหม่ยซีพลักเขาออก และหันหลัง ให้โดยอารามไม่สบอารมณ์

จี้เจียจื้อกอดเธอจากด้านหลัง ริมฝีปากบางสัมผัส คอที่เพรียวของเธอ และเอ่ยเสียงพร่า “คุณอยากให้ ผมควักใจออกมาให้คุณดูเลยหรือไม่ ว่ามันกำลังเต้น เพราะคุณอยู่หรือเปล่า”

มือใหญ่ที่มีไรขนอ่อนๆ สอดเข้าไปในเสื้อของหญิง สาว ลูบผิวที่บอบบาง ลมหายใจอันหนักหน่วงนั้นตกกระ ทบอยู่ที่คอของเธอ

“ที่รัก ต้องการไหมครับ”

กาวเหม่ยซีไม่สามารถทนกับการกระตุ้นของเขาแบบ นี้มากที่สุด หันหลังกลับและตะโบมจูบเขาทันที

หลังจากนั้น ทั้งสองคนก็นอนอิงแอบแนบชิดกันอยู่บน

เตียง

กาวเหม่ยซีซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของจี้เจียจื้อ ผม ดำสลวยแผ่ไปทั่วอกเปลือยของเขา ดวงตาหรี่เล็กลง ท่าทางราวกับกำลังง่วงนอน

จี้เจียจื้อลูบผมนุ่มของเธออย่างแผ่วเบา และเอ่ยถาม “มาถึงที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“หนึ่งสัปดาห์ก่อน” กาวเหม่ยซีตอบอย่างเกียจคร้าน เกยคางกับหน้าอกของเขา “ยังดีที่บรูซถูกคุณซื้อตัวเป็นคนของไปนานแล้ว ไม่อย่างนั้นฉันคงไม่มีที่ไป

“เจ้าหมาของหลินเฉิงจี่หรือที่ตามคุณอยู่”

“ไม่น่าใช่ หมาตัวนี้จมูกดีกว่ากันเยอะ” กาวเหม่ยซื ผรุสวาท “ฉันเพิ่งมาถึง เขาก็รู้ตัวแล้ว เกือบจะส่งคนมา ฆ่าฉันที่สนามบินแล้วด้วยซ้ำ”

ดวงตาจี้เจียจื้อหรี่แคบ “ผมใช้เงินจำนวนมากในการ เชิญคนนั้นมา แต่กลับสู้หมาของหลินเฉิงจี้ไม่ได้”

“ช่างเถอะ เปลี่ยนกลุ่มก็พอ” กล่าวเช่นนั้น กาวเหม่ยซี ก็เงยหน้าขึ้นมองเขา “ฉันได้ยินว่าหลินเฉิงจี้พาถังซินมา ยังคฤหาสน์อเล็กซ์เลียร์หรือคะ”

“อย่าบอกว่าได้ยินมา เรื่องเสื้อผ้านั้น เป็นคุณที่สั่งให้ คนทำไม่ใช่หรือ” จี้เจียจื้อบีบใบหน้าของเธอและกล่าว ด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “เพราะเรื่องนี้ คฤหาสน์ในเย็นนี้ ถึงได้ร้อนแรงขึ้น”

เมื่อโดนเขามองออก กาวเหม่ยซีแค่นเสียงในลำคอ “ใครจะไปรู้ว่าเจ้าขี้โรคนั่นจะกลับมาอเล็กซ์เลียร์ได้อีก ทั้งยังคิดจะแย่งชิงอเล็กซ์เลียร์กับคุณ ฉันโมโห ก็เลย สั่งสอนเขา”

เธอผละออกจากอ้อมกอดของจี้เจียจื้อ และเอ่ยถาม อย่างระมัดระวัง “ทำไมกัน คุณคิดว่าฉันจะแพ้หรือ”

“เปล่า กลับกัน ผมค่อนข้างพอใจกับการกระทำของคุณนะ” จี้เจียจื้อใช้ปลายนิ้วเกาแก้มของเธอ “คนรับใช้ ตายไปคน พ่อของผมก็ไม่ไต่สวนแล้ว ทั้งยังให้เงินผม มาก้อนหนึ่ง”

ทำไมกัน” “

จี้เจียจื้อเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ที่ ห้องรับแขกให้เธอฟัง

เมื่อฟังจบ กาวเหม่ยซีก็นอนราบไปกับอกของเขาอีก ครั้ง ทั้งยังกอดเขาเอาไว้แน่นๆ “ไซเลส์ คุณยังมีฉันนะ คะ ฉันรักคุณเสมอ จะอยู่เคียงข้างคุณ มีลูกให้กับคุณ พวกเราจะมีความสุขด้วยกัน”

ตาสีฟ้าของจี้เจียจื้อทอประกาย และไม่ได้เอ่ยสัญญา แม้แต่นิด เพียงเอ่ยถาม “เลิกแล้วหรือยัง”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ