ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 414 เธอไม่รู้ว่าผมรักเธอมากขนาดไหน



บทที่ 414 เธอไม่รู้ว่าผมรักเธอมากขนาดไหน

เมื่อถึงเวลาเก้าโมงกว่า ถังซินได้เห็นว่าสายแล้ว ครั้ง นี้เธอต้องกลับไปจริงๆ จู่ซือซือก็ไม่ได้รั้งเธอไว้แล้ว เธอ กล่าวว่าไว้รอถังซินว่างแล้ว ค่อยไปทำอาหารกันในที่ที่ เธออยู่ ถังซินยิ้มพร้อมรับปาก

มู่เฉินหย่วนก็กำลังจะไปอย่างพอดิบพอดี พร้อมถือ คอมพิวเตอร์ตามถังซินออกไปด้วยกัน

ถังซินเดินเข้ามาในลิฟท์กำลังที่จะกดปิดประตู ก็ได้ เห็นว่ามู่เฉินหย่วนได้ตามเข้ามา เธอก็ชะงัก “ฉันจะไป ชั้นบน คุณเข้ามาทำอะไรกัน? คะ คุณ……..

“ไม่อยากรออยู่ด้านนอกน่ะ” มู่เฉินหย่วนกล่าวอย่าง สบายๆ “ในลิฟท์มันอุ่นดี”

ระเบียงทางเดินก็มีเครื่องทำความอุ่น หนาวตรงไหน กัน?

ถังซินได้แต่บ่นอยู่ในใจเงียบๆ พร้อมมองตัวเลขลิฟท์ ที่กำลังเลื่อนขึ้นไปชั้นบนอย่างเบื่อหน่าย

ทั้งสองคนยืนห่างกันแค่แขนข้างเดียว แต่เธอก็ยังได้ กลิ่นของยาสูบอ่อนๆ บนตัวเขา มันเป็นกลิ่นที่ออกมา จากลมหายใจ

สายตาของเธอที่มองตัวเลขบนลิฟท์ก็ได้เปลี่ยนไป มองพื้นผนังที่เรียบเนียนแทน มองเห็นฝ่ายชายที่ยืนก้มหัวตะแคงขวาอยู่เล็กน้อย หัวแม่มือก็ได้เลื่อนไถลบน หน้าจอโทรศัพท์ไป

ร่างกายสูงใหญ่ ทุกการเคลื่อนไหวของเขาดูสุขุม หนักแน่น

ถังซินก็ได้นึกเรื่องของคืนนั้นขึ้นมาได้ ฝ่ายชาย ได้คว้าขาของเธอเอาไว้ จูบเธอด้วยความทะนุถนอม คล้ายกับว่าเธอเป็นนกน้อยในก๋ามือของเขา สายตาเต็ม ไปด้วยความรักความผูกพัน

นั่นเป็นเขาจริงๆ ใช่มั้ย?

หากเป็นเขาจริงๆ ทำไมเช้าวันต่อมาถึงไร้ความรู้สึก โยนเงินไว้แล้วก็จากไป? หลังจากที่กลับมาเจอกันที่ ประเทศ เขาก็ยังกวนประสาทเธออยู่?

สายตาของถังซินเลื่อนลงมา เห็นว่าเน็คไทน์ของฝ่าย ชายนั้นถูกผูกไว้อย่างแน่น ส่วนของคอครึ่งหนึ่งก็ยังไม่ โผล่ออกมา

กล้ามท้องที่อยู่ใต้เสื้อเชิ้ตนั้น เส้นวีเชฟ เธอเคยเห็น และเคยลูบมาแล้ว

มู่เฉินหย่วนก้มหัวอย่างทันที พร้อมมองไปยังผนัง ลิฟท์ และได้ไปสบสายตาของถังซินเข้า ริมฝีปากอัน บอบบางก็ได้ขยับขึ้นเล็กน้อย “คุณถัง น้ำลายคุณไหล แล้ว ไม่เช็ดสักหน่อยหรอ?”
ถังซินตกใจจนรีบเอามือไปเช็ดมุมปาก แต่กลับไม่พบ สิ่งใดตามที่ฝ่ายชายได้บอกไว้ จึงหันไปมองฝ่ายชาย อย่างสบายใจ สายตากลับซ่อนความเย้าแหย่ไว้ไม่น้อย เธอโกรธจนตัวสั่น

ผู้ชายบ้า!

ท้องของชายหนุ่มก็ได้ดังขึ้นมา ได้เตะเข้ากับขาของ เธออย่างจัง

มือข้างหนึ่งของถังซินก็ได้ปิดไปที่ท้อง พร้อมขมวด คิ้วขึ้น

สีหน้าของมู่เฉินหย่วนก็ได้เปลี่ยนไปอย่างทันที เขา เข้ามาประชิดแล้วเอ่ยถามด้วยเสียงต่ำ “เป็นอะไร ไม่ สบายอีกแล้วหรอ?”

“ไม่ได้เป็นอะไร” ถังซินตอบกลับไปอย่างสงบเสงี่ยม ไม่ให้เขาระแคะระคายเธอ “เมื่อเย็นทานเยอะไปหน่อย น่ะ รู้สึกว่าท้องจะเสีย”

สายตาของมู่เฉินหย่วนนั้นหนักแน่น จำได้ว่าเมื่อตอน กลางวันเธอก็ไม่สบาย

หลังจากที่รอให้ประตูลิฟท์เปิดออก ฝ่ายชายก็ได้ไป

ประคองเธอ “เดี๋ยวผมไปส่ง คุณเข้าห้องแล้วเดี๋ยวผม

ค่อยไป”

“ไม่ต้องแล้ว” ถังซินนึกได้ว่าเขาเคยอุ้มผู้หญิงคนอื่นและสนิทชิดเชื้อแบบนี้เหมือนกัน เธอไม่สบายใจ พร้อม ดินออกมาจากมือของเขา “ฉันไม่ได้เป็นอะไร เดินไป เองได้

พูดจบ เธอก็ก้าวออกไปจากลิฟท์

ประตูลิฟท์ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ พร้อมละสายตา ของมู่เฉินหย่วนออกไป

มือที่ฝ่ายชายได้ ขึ้นกลางอากาศ ท้ายที่สุดก็ค่อยๆ ลดลงมา เขาร้อนรนจนอยากจะหย่าแล้วจริงๆ ทำไมถึง ยังเป็นห่วงเธออยู่กันนะ?

ผู้ช่วยจางรออยู่ด้านนอกอาพาร์ทเม้นท์สักพัก หลัง จากที่เห็นมู่เฉินหย่วนออกมาจากด้านใน จึงได้รับเลื่อน เปิดประตูรถออก

“ประธานมู่ครับ……ผู้ช่วยจางอยากที่จะทักทายมู่ เฉินหย่วน ถามเขาว่าซือซือเป็นอย่างไรบ้าง แต่กลับ เห็นสีหน้าของฝ่ายชายนั้นขาวซีด เนื้อตัวสั่นเทา

พอมองเขาแล้วก็รู้ได้ว่าอารมณ์ไม่ค่อยดี จึงพูดให้ น้อยลงหน่อยดีกว่า

ผู้ช่วยจางขึ้นรถพร้อมขับออกไปอย่างระมัดระวัง เขา กลั้นหายใจ ไม่กล้าหายใจออกมาแรงๆ

ที่นั่งด้านหลังของรถได้เปิดไฟดวงเล็กไว้ แสงไฟได้ สาดส่องไปยังร่างของชายหนุ่ม
มู่เฉินหย่วนนั่งไขว่ห้างอยู่ทางเบาะหลัง ตรวจสอบ จัดการอีเมลอยู่ตลอดเวลา หลังจากที่ทำงานไปสัก พัก เขาก็ได้ปวดคอเล็กน้อย จึงหันหน้าไปมองยังนอก กระจกรถ ภายนอกล้วนมืดสนิท

หลังจากที่มองไปยังนอกกระจกสักพัก มู่เฉินหย่วน ก็ได้ล้วงมือเข้าไปยังกระเป๋าเสื้อสูท เขาได้ล้วงผ้าคลุม ศีรษะสีฟ้าหม่นขึ้นมา นี่เป็นของสิ่งเดียวที่ถังซินทําหล่น ไว้

นึกถึงแต่ก่อนตอนที่อยู่ในลิฟท์ ตอนที่ถังซินปัดมือ ของเขาออก นั่นเป็นการค้านตัวเอง สายตาของเขาก็ยิ่ง หนักแน่นขึ้นเรื่อยๆ

มู่เฉินหย่วนถอนหายใจพร้อมเปล่งเสียงต่ำออกมา จากลำคอ “เธอไม่รู้ว่าฉันรักเธอมากขนาดไหน”

หากไม่รักเธอ คงไม่ไปอังกฤษเพราะคิดว่าจะเกิด เรื่องกับเธอ หากไม่รักเธอ ก็คงไม่เลิกแล้วยังอาลัย อาวรณ์เธออยู่หรอก คิดถึง คิดถึงเธอจนปวดไปหมด

เขาก็มีฐานะที่มีเกียรติ คงไม่ใช่ทุกครั้งที่จะให้เค้าก้ม หัวให้กับเธอ

เขาก็ทนไม่ได้ที่เธอไปช่วยเหลือผู้ชายอื่นอยู่เรื่อย ไม่ ได้สนใจว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร

ยิ่งไปกว่านั้น ความสัมพันธ์ของเขากับหลินเฉิงจี๋ก็ซับ ซ้อนขนาดนั้น
ผู้ช่วยจางหูไว เดี่ยวเดียวก็ได้ยินที่เขาพูดแล้ว และก็ รู้ว่า “เธอ” ที่มู่เฉินหย่วนพูดนั้นหมายถึงใคร

“ประธานมู่ ความเป็นจริงแล้ว…..” ผู้ช่วยจางอยากจะ บอกว่าในใจของถังซินนั้นยังมีเขาอยู่ แต่กลับนึกบาง ประโยคที่จ้าวอี้ซีนได้พูดขึ้นมาได้ จึงไม่ได้พูดอะไรต่อ

เขาได้ก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นมากไปแล้ว ถ้าหากคุณ ถังซินกับประธานมู่ทะเลาะกันมากไปกว่านี้ แล้วมาลงที่ เค้าจะเป็นยังไงกัน?

มู่เฉินหย่วนเชิดถามขึ้นถาม “คุณอยากจะพูดอะไร หรอ?”

“ป่าวครับ ผมบอกว่าใกล้จะถึงแล้ว” ผู้ช่วยจางพูด อย่างเรียบง่าย “ผมเกรงว่าประธานมู่จะเผลอหลับไปน่ะ ครับ”

มู่เฉินหย่วนตอบภายในลำคอ เขาได้กลิ่นกระดิ่งลม โชยมาอ่อนๆ ทำให้นึกถึงน้ำหอมที่ถังซินได้ใช้อยู่บ่อยๆ และยังได้กลิ่นธูปที่แสบจมูก เขาได้ขมวดคิ้วไปชั่ว ขณะ

เขาเอ่ยถามผู้ช่วยจาง “วันนี้มีใครนั่งรถคันนี้บ้าง?”

“วันนี้ผู้จัดการจ้าวกลับประเทศ เมื่อเข้าผมขับรถไป รับเขาที่สนามบินครับ”

ผู้ช่วยจางมองผ่านกระจกหลังเห็นสีหน้าของมู่เฉินหย่วนนั้นหมองคล้ำ ใจก็ดึงดันให้เปล่งเสียงออกมาจาก ลําคอ “แล้วก็ ยังเจอกับคุณถังซิน ผมเลยแวะไปส่งเธอ ที่เขตเมืองระหว่างทาง ประธานมู่ มีเรื่องอะไรมั้ยครับ?”

มู่เฉินหย่วนกล่าวอย่างเยือกเย็น “จอดรถ!”

ผู้ช่วยจางไม่กล้าล่าช้าแม้แต่วินาทีเดียว เขารีบเบรก อย่างกระทันหัน ขณะที่กำลังหันไปถามประธานมู่ว่า เป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้เห็นประธานมู่ถอดเสื้อตัวนอกแล้ว ลงรถไปแล้ว

“กลับไปเปลี่ยนรถแล้วมารับฉัน” มู่เฉินหย่วนพูดกับผู้ ช่วยจางที่อยู่ภายในรถ แววตาดุดันเป็นอย่างมาก “ต่อ ไปรถของฉัน นอกจากฉันและถังซินห้ามให้ใครมานั่งที่ เบาะหลังเป็นอันขาด ถ้าคุณต้องการไปรับใคร ให้ขับ รถของบริษัทหรือไม่ก็ของตัวเอง อีกอย่าง นำรถไปล้าง ที่ร้าน 4S ด้วย เปลี่ยนเป็นชุดหนังแท้ทั้งหมด ได้ยิน มัย?”

ผู้ช่วยจางตอบอย่างสงบ “ทราบแล้วครับ ประธานมู่มี อะไรกำชับอีกมั้ยครับ?”

“กลับไปเปลี่ยนรถซะ!”

ผู้ช่วยจางรีบขับรถกลับไปอย่างรวดเร็ว พร้อมมองมู่ เฉินหย่วนที่ยืนโต้ลมหนาวอยู่ข้างถนน และมองไปยัง เส้นทางเดินเรือที่ห่างจากจุดหมายเพียงแค่แปดร้อย เมตร ในใจไร้ซึ่งคำพูดใด
ประธานมู่แค่แปดร้อยเมตรเอง เลี้ยงไปทางด้านนั้น แล้วเข้าไปยังเขตหมู่บ้านก็ถึงแล้ว จะต้องลงรถทำไม กัน?

แต่ว่า…….

เมื่อย้อนกลับไปคิดถึงท่าทีและสไตล์ของมู่เฉินหย่วน แล้ว ผู้ช่วยจางก็ได้แต่ดีใจอยู่เงียบๆ “มองประธานมู่ใน สภาพนี้แล้ว คล้ายกับไม่ได้สนใจในตัวของอี้ซีน งั้นข่าว เมื่อก่อนนั้นมันคืออะไรกัน?”

ถังซินอยากพักผ่อนอยู่ที่บ้านเป็นเวลาสองวัน หลัง จากนั้นค่อยไปหาคุณแม่ถังสักหน่อย

ซูเลี่ยวเก๋อเทียนและผู้ช่วยจางของบริษัทซ่งได้โทร มา บอกว่าวันนี้เป็นวันประชุมใหญ่ เขาถามเธอว่าจะมา ที่บริษัทวันนี้หรือเมื่อไหร่

เธอหลับอย่างสะลึมละลือ เธอกำลังนึกว่าเหอซ่งคือ ใคร ทำไมถึงเรียกให้เธอไปประชุม

กลังจากที่รอให้ตื่นอย่างเต็มที่แล้ว จึงนึกได้ว่าบริษัท

เหอซ่งคือโบแนร์ เป็นหนึ่งในคนของบริษัทหลินเฉิงจื่ สำนักงานใหญ่นั้นอยู่ที่เมืองโตเกียว ส่วนบริษัทย่อยนั้น อยู่ที่ศูนย์การเงินหนานเฉิง

ถังซินรีบตอบกลับปลายสายทันที และได้รู้ว่าการประชุมเริ่มสิบโมงตรง เธอจึงโล่งใจไปเยือกหนึ่ง เนื่องจากจะได้อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้อย่างไม่รีบร้อน และมีเวลาไปเตรียมอาหารเช้า

ขณะที่กำลังออกประตู เธอหยิบรองเท้าส้นสูงมาแล้ว ลังเลใจ ท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้ไปหยิบรองเท้าแตะคู่ หนึ่งออกมาจากตู้

เธอนึกถึงของรักของหวงทั้งสาม หากไม่ระมัดระวัง หกล้มลงไป คงจบเห่แน่ๆ

เธอไปยังโรงจอดรถหารถเบนซ์คันนั้น หลังจากที่ได้ ปัดกวาดฝุ่นที่เกาะอยู่บนรถออกแล้ว ก็ได้ขับรถออกไป อย่างรวดเร็ว

เก้าโมงครึ่งในที่ประชุม ประจวบเหมาะกับการหลีก เลี่ยงในช่วงเวลาเร่งด่วน

ระหว่างที่รอช่องว่างให้เปลี่ยนเป็นไฟเขียวนั้น ถังซิ นก็ได้หยิบลิปสติกออกมาจากกระเป๋าแล้วทา เพียงครู่ เดียว เธอเห็นทางด้านขวามีรถซุปเปอร์คาร์สีแดงทึบ จอดอยู่ รูปแบบนั้นเหมือนกับระเบิด

อ๊ะ?

ถังซินชะโงกหัวไปดูด้านนอก เห็นว่ารถซุปเปอร์คาร์ คันนั้นเหมือนกับคันที่ลู่เหวินซูเคยขับมาก่อน


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ