ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 401 จะอาฆาตพยาบาทเช่นนี้หรือ



บทที่ 401 จะอาฆาตพยาบาทเช่นนี้หรือ

มู่เฉินหย่วนปิดประตูด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เขากลับมาที่ห้องนอน และมองดูบนเตียงที่ระเกะ ระกะยุ่งเหยิง หญิงสาวนอนจับผ้าห่มหลับไปอย่างสลบ สไล เขาขมวดคิ้วและเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาและพาไปที่ ห้องน้ำเพื่อที่จะทำให้เธอสะอาด

หลังจากที่หญิงสาวแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำสักครู่ ก็ได้ ลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงงและจ้องมองไปที่เขา

“พี่รอง” เธอบ่นพึมพำ และเข้าไปสวมกอดและจูบที่ ลูกกระเดือกเขา ศีรษะคลอเคลียอยู่บนหน้าอกเขา จน ทำให้มู่เฉินหย่วนที่เย็นชาอยู่นั้นใจอ่อนลง

เขาผลักเธอออกจากตัว และพูดด้วยน้ำเสียงและคำ พูดที่เย็นชา “อาบเอง!”

“ไม่เอา คุณช่วยฉันอาบ” ถังซินเข้าไปกอดแนบชิด แน่นกว่าเดิม เหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังพูดโป๊ปด “เมื่อ สักครู่ฉันพึ่งได้คะแนนเต็มจากการแทงสนุ๊กเกอร์กับคน อื่นที่ห้องสนุ๊กเกอร์นะ

เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่งุนงงและดูน่าสงสาร “คุณไม่ชมฉันหน่อยหรอ?”

มู่เฉินหย่วนทำสีหน้าไร้ความรู้สึก “ยื่นมือออกมา
บทที่ 401 จะอาฆาตพยาบาทเช่นนี้หรือ

มู่เฉินหย่วนปิดประตูด้วยสีหน้าที่เย็นชา

เขากลับมาที่ห้องนอน และมองดูบนเตียงที่ระเกะ ระกะยุ่งเหยิง หญิงสาวนอนจับผ้าห่มหลับไปอย่างสลบ สไล เขาขมวดคิ้วและเข้าไปอุ้มเธอขึ้นมาและพาไปที่ ห้องน้ำเพื่อที่จะทำให้เธอสะอาด

หลังจากที่หญิงสาวแช่อยู่ในอ่างอาบน้ำสักครู่ ก็ได้ ลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงงและจ้องมองไปที่เขา

“พี่รอง” เธอบ่นพึมพำ และเข้าไปสวมกอดและจูบที่ ลูกกระเดือกเขา ศีรษะคลอเคลียอยู่บนหน้าอกเขา จน ทำให้มู่เฉินหย่วนที่เย็นชาอยู่นั้นใจอ่อนลง

เขาผลักเธอออกจากตัว และพูดด้วยน้ำเสียงและคำ พูดที่เย็นชา “อาบเอง!”

“ไม่เอา คุณช่วยฉันอาบ” ถังซินเข้าไปกอดแนบชิด แน่นกว่าเดิม เหมือนกับเด็กน้อยที่กำลังพูดโป๊ปด “เมื่อ สักครู่ฉันพึ่งได้คะแนนเต็มจากการแทงสนุ๊กเกอร์กับคน อื่นที่ห้องสนุ๊กเกอร์นะ

เธอเงยหน้ามองเขาด้วยแววตาที่งุนงงและดูน่าสงสาร “คุณไม่ชมฉันหน่อยหรอ?”

มู่เฉินหย่วนทำสีหน้าไร้ความรู้สึก “ยื่นมือออกมาโอว เธอน้อยใจจนเบะปาก และปล่อยมือออกจากเขา อย่างเชื่อฟัง จากนั้นก็ยื่นมือออกไป แขนของเธอนั้น ขาวและเรียวเล็กมาก เหมือนกับหากเขาออกแรงเพียง นิดเดียวก็สามารถทำให้หักได้

มู่เฉินหย่วนแสดงออกอย่างเย็นชามากยิ่งขึ้น คิดใน ใจว่าหลินเฉิงจี่ไม่ได้เอาอาหารให้เธอกินจนอิ่มหรอ ทำไมถึงได้ผอมขนาดนี้!

เขาช่วยทำความสะอาดร่างกายให้กับเธอ เธอนั่งอยู่ ตรงนั้นอย่างเชื่อฟัง และไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว

มู่เฉินหย่วนนึกว่าเธอคงจะเปลี่ยนนิสัยแล้ว เขาเงย หน้าขึ้นไปมองจึงพบว่าเธอกำลังนั่งหลับหัวห้อยอยู่ด้วย ลักษณะท่าทางที่ไร้เดียงสา

ในใจของชายหนุ่มนั้นทั้งโกรธและจนปัญญา หลัง จากที่อาบเสร็จแล้วก็เอาผ้าขนหนูห่อพันตัวเธอไว้ และ เมื่อกำลังจะอุ้มตัวเธอไปวางไว้บนเตียง ก็ได้ยินเสียง โทรศัพท์ดังอย่างเลือนราง

ซึ่งดังออกมาจากกระเป๋าของถังซิน

เขาเปิดกระเป๋าถือออก และหยิบโทรศัพท์ที่กำลังสั่น อยู่ออกมา หลังจากที่เห็นว่าคนที่โทรเข้ามาเป็นชื่อของ หลินเฉิงจี่ เขาจึงมีสติขึ้นมาในชั่วกระพริบตาเดียว และ สีหน้าก็เคร่งขรึมมากขึ้น

เขามาที่นี่จากที่อันไกลโพ้น เพื่อให้ตนเองได้รับการนั้น ก็ได้เห็นว่ายังมีเงินวางอยู่อีก เมื่อนับดูแล้วมีทั้งหมด 888หยวน

ตัวเลขนี้ทำให้ถังซินนึกถึงวันแรกที่ได้พบกัน ที่ โรงแรมโจวจี้ในคืนนั้น

เมื่อตื่นขึ้นมาเขาก็ได้วางเงิน888หยวนไว้ และวิ่งหนี การพ่ายแพ้อย่างร้อนรน

พบว่าใต้เงินยังมีโน๊ตใบหนึ่งวางอยู่ เธอหยิบขึ้นมา และมองดูบนตัวอักษรที่เต็มไปด้วยความสวยงาม “คุณ ถัง เมื่อคืนลำบากคุณแล้ว นี่คือเงินค่าตอบแทนของ คุณ”

ถังซินปรากฏรอยยิ้มบนใบหน้า

“อะไรเนี่ย คุณอายุสามสิบแล้ว ยังจะมาอาฆาต พยาบาทกันแบบนี้อีกหรอ!”

แต่ว่าเธอยังมีเรื่องที่สำคัญกว่านี้ต้องทำ ไม่สามารถ ที่จะคิดบัญชีกับผู้ชายคนนั้นได้ เมื่อเก็บข้าวของ เรียบร้อยจึงรีบออกไป พลางต่อสายโทรศัพท์หาหลิน เฉิงจี๋

“ยินยินหรอ?”

“ขอโทษ เหมือนกับว่าฉันจะทำงานล้มเหลวแล้ว” ถัง ซินรีบเอ่ยคำขอโทษ “เดิมทีเมื่อคืนฉันกำลังจับตามอง แมกซี่อยู่ ก็รู้สึกง่วงงอนขึ้นมาชั่วขณะ จึงเปิดห้องแล้วขึ้นไปนอน คิดไม่ถึงว่าจะหลับจนถึงเช้า ไม่ได้ยินเสียง โทรศัพท์ที่นายโทรเข้ามา ตอนนี้ฉันกำลังจะไปหานาย ไปคุยกับพ่อคุณ”

“เธอไม่เป็นไรก็ดีแล้ว หลินเฉิงจี๋ทอดถอนหายใจ อย่างสบายใจ ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน?

“ฉันกำลังจะลงไปที่ห้องโถงข้างล่างโรงแรม

“ฉันพึ่งกลับมาเอาของที่โรงแรม เดี๋ยวฉันรออยู่ที่ห้อง โถง”

“ได้ ฉันใกล้จะถึงแล้ว!”

ถังซินรีบส่องกระจกลิฟต์ที่อยู่ด้านหน้าเพื่อจัดแต่ง ทรงผม หลังจากที่พบว่าริมฝีปากทั้งแห้งและลอก ในใจ ก็ด่าผู้ชายคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า และรีบหยิบลิปสติกขึ้น มาทา

หลังจากที่เธอลงมาถึงที่ห้องโถงโรงแรม ก็เห็นหลิน เฉิงจี่นั่งอยู่ในบริเวณพื้นที่พักผ่อน จึงเดินเข้าไปหา

“พ่อนายไม่ได้ด่านายใช่มั้ย?

หลินเฉิงจี่ลุกขึ้นมาจากโซฟา และกวาดสายตามอง ไปที่ตัวเธอ จึงเห็นริมฝีปากที่แตกแห้งของเธอ และยัง มีรอยแดงที่บริเวณคอ ทำให้รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าเขา จืดจางลง
เมื่อคืนถังซินบอกว่าเธอมองเห็นมู่เฉินหย่วน แต่เขา ไม่เชื่อ แต่ต่อมาเขาก็ได้เห็นเช่นกัน และยิ่งเห็นถังซิน เป็นแบบนี้ คาดว่าเมื่อคืนพวกเขาคงจะอยู่ด้วยกัน

เขาคอยเป็นห่วงเธออยู่นาน คิดไม่ถึงว่าเธอจะมีคน

คอยอยู่ด้วยตลอดเวลา

หลินเฉิง แอบกำหมัด

มันไม่ง่ายเลยที่เขาจะทำให้เธอมาอยู่เคียงข้างเขาได้ แต่พอมู่เฉินหย่วนมา เธอคงอยากที่จะกลับไปกับผู้ชาย คนนั้นแล้วใช่มั้ย?

“หลินเฉิงจี๋ พ่อของนายด่านายแล้วจริงๆหรอ? เมื่อ เห็นหลินเฉิงจี่ไม่ตอบ ถังซินจึงยิ่งกังวล “ขอโทษ ทั้งหมดต้องโทษฉัน ที่แอบไปหลับจนทำให้เสียงาน”

หลินเฉิงจี่ได้สติจึงพยักหน้า “เมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้น มากมาย”

ถังซินขมวดคิ้ว “มีอะไรหรอ?”

“ที่นี่ไม่เหมาะที่จะพูด” หลินเฉิงจี๋เอ่ยขึ้น และชำเลือง มองไปยังลิฟต์ที่เปิดออกอยู่ตรงนั้น ผู้ชายจำนวนหนึ่ง เดินออกมา เขาจึงก้าวขยับมายืนข้างถังซิน

เขารีบถอดเสื้อโค้ทออกมา และพาดไว้บนไหล่ของ ถังซิน “ข้างนอกหนาวเล็กน้อย เธอคลุมไว้ พวกเรากลับ บ้านไปคุยกันเถอะ”
ถังซินไม่ได้สนใจผู้ชายที่อยู่ด้านหลังเหล่านั้น เธอเดิน ตามหลินเฉิงจื่ออกไปจากโรงแรมอย่างใกล้ชิด

“จะบอกว่าวิธีการของคุณถังนั้นสุดยอด หรือว่าเป็น คนใจจืดใจดำดี?” เย่นจิ่งเหนียนมองดูคู่ชายหญิงที่ อยู่ข้างหน้า และชำเลืองมองผู้ชายข้างๆที่กำลังทำ หน้าเศร้าหมองอยู่ เขาทำเสียงจุ๊ๆ ออกมาและเอ่ยขึ้น ว่า “เมื่อคืนหลินเฉิงจี๋มาที่โรงแรมตั้งหลายครั้ง ตามหา เธออย่างบ้าคลั่ง แต่เธออยู่กลับประธานมู่ของพวกเรา ตลอด และเช้าตรู่ก็กลับไปกับหลินเฉิงจื่อย่างทำเป็น ไม่รู้ไม่ชี้”

ผู้ช่วยจางอดไม่ได้จึงพูดออกมาว่า “คุณถังเป็นคน ขี้หนาว จึงรับเสื้อโค้ทจากคุณหลิน พวกเขาไม่ได้มี อะไรกัน คุณไม่เห็นการทิ้งระยะห่างระหว่างเขาสองคน หรอ?”

ในขณะที่เขาพึ่งจะพูดจบลง ถังซินที่กำลังเดินออกไป ข้างนอกก็สะดุดจบเกือบล้ม

หลินเฉิงจี๋จึงจับไหล่ประคองเธอไว้ และไม่ปล่อยมือ ออกอีก และถังซินก็ไม่ได้ปฏิเสธเขา

ผู้ช่วยจาง……

เย่นจิ่งเหนียนหัวเราะออกมาและมองไปที่ผู้ช่วยจาง “เป็นยังไง? ยังมีระยะห่างอยู่มั้ย?”
สีหน้าของมู่เฉินหย่วนไม่เปลี่ยนแม้แต่นิดเดียว พลาง ก้าวเท้าเดินไปข้างหน้า พลางพูดกับผู้ช่วยจางด้วยน้ำ เสียงที่เย็นชาว่า “ฉันจะกลับก่อน นายอยู่กับจิ้งเหนีย นที่นี่ ถ้าหาเขาเจอแล้วบอกฉันด้วย”

เย่นจิ้งเหนียนหน้าเสีย และเอ่ยขึ้นว่า “พี่รอง พี่กำลัง แก้แค้นฉันอยู่ใช่มั้ย?

“ นายจะคิดแบบนั้นก็ได้?

ถังซินขึ้นรถไปก่อน และเป็นเพราะว่าหลินเฉิงจี่ยืนอยู่ ข้างนอกรถ เธอจึงมองไม่เห็นมู่เฉินหย่วนที่กำลังเดิน ออกมาจากโรงแรมและขึ้นไปยังบนรถเบนท์ลีย์สีดำคัน ข้างหลัง

หลังจากที่หลินเฉิงจี้ขึ้นรถ เธอจึงเอ่ยถามขึ้นว่า” เมื่อ คืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?

“ เมื่อคืนตอนที่จี้เจียจื้อไปเข้าห้องน้ำ ได้ถูกยิงโจมตี มาจากด้านนอกหน้าต่าง

“ เป็นไปไม่ได้มั้ง?” ถังซินสูดหายใจเข้าลึกๆและ เอ่ยออกมาว่า “เมื่อคืนมีนักการเมืองที่มีชื่อเสียงมากัน หลายคนขนาดนี้ และยังมีคนของราชวงศ์ จะต้องมีการ ป้องกันและระมัดระวังอย่างเข้มงวดกวดขันแน่นอน ใครจะกล้าลอบสังหารจี้เจียจื้อท่ามกลางสายตาผู้คน มากมายขนาดนี้?”
“ไม่รู้สิ แต่ว่ามือปืนของฝั่งตรงข้ามนั้นเก่งมาก” หลิน เฉิงจี๋เอ่ยขึ้น “จงเซิงไปสืบมา พบว่าฝ่ายนั้นอยู่ที่ตึกสูงๆ ตรงข้ามโรงแรม เฝ้าสังเกตการณ์คอยดักซุ่มโจมตีอยู่ บนหอคอย และจัดการกับข้างล่างได้อย่างใสสะอาด”

“ ต้องเป็นชิงเฟิงแน่นอน!” เมื่อถังซินได้ยินเขาบอก ว่ามือปืนนั้นเก่งมาก จึงรีบเดาว่าเป็นกวนชิงเฟิน เขา รู้ว่าเกิดเรื่องขึ้นกับซือซือ เขาต้องมาแก้แค้นแทนเธอ แน่นอน

เธอจับหลินเฉิงจี้ไว้ และรีบเอ่ยถาม “ชิงเฟิงถูกจับตัว มั้ย?”


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ