ฉันเป็นสุดที่รักของประธานมู่! ?

บทที่ 416 ฉันจะรับหน้าแทนพวกเด็กๆเอง



บทที่ 416 ฉันจะรับหน้าแทนพวกเด็กๆเอง

ดูเหมือนว่าพวกผู้บริหารจะอยากปลดถังซินออก ไม่ ได้ดูแลเธอ เวลาที่กล่าวรายงานก็รายงานแบบส่งๆ พอ พูดคำศัพท์เฉพาะก็ใช้คำแบบลวกๆ

ถังซินรีบอ่านเอกสารบนโต๊ะอย่างรวดเร็ว ขณะที่ฟัง รายงานจากแผนกต่างๆไปด้วยอย่างไม่พอใจ

เธอนั่งไขว่ห้างอยู่ตรงนั้นรอบตัวเธอเต็มไปด้วยออร่า

รอจนพวกผู้บริหารกล่าวรายงานเสร็จ เธอก็อ่าน เอกสารพวกนั้นจบพอดี

เธอชาเลืองมองบนโต๊ะ หลังจากอ่านกองเอกสาร หนาๆสองฉบับหมด เธอก็รู้สึกว่าเธอนี่สุดยอดจริงๆ ไม่ เสียแรงที่ทำงานกับมู่เฉินหย่วนมานาน เธอเรียนรู้จาก เขามากมากเหมือนกัน

อยู่ๆชายคนนั้นก็มาปรากฏตัวอยู่ในความคิดของเธอ ทำให้เธอรู้สึกเจ็บแปล๊บในใจ

มีอะไรให้น่าคิดถึงกัน

ผู้ชายคนนั้นป่านนี้ก็คงมีคนใหม่ไปแล้ว คงจะจำเธอ ไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ!

พอเห็นว่าถังซินไม่พูดอะไร ผู้ช่วยก็เอ่ยปากอย่าง ระวังว่า “ประธานถังคะ คุณมีอะไรจะพูดไหมคะ?”
“มี” ถังซินหายใจเข้าลึกๆ กดความหงุดหงิดในใจไว้ หยิบเอกสารออกมาส่วนหนึ่งแล้วโยนลงบนโต๊ะ ทําเอา กลุ่มคนทั้งหลายตกใจกันหมด แล้วมองไปยังเธอ

เธอพูดอย่างนิ่งๆกับผู้ช่วยว่า “เอาเอกสารรายงาน ไตรมาสที่หนึ่งของปีนี้มาเปิดดูสิ”

“ค่ะ” ผู้ช่วยทําตามที่เธอบอก แผนภูมิวงกลมของ

รายงานไตรมาสแรกปรากฏขึ้นบนโปรเจคเตอร์ในไม่

ช้า

“นี่เป็นรายงานประจำไตรมาสแรกใช่หรือไม่” ถังซิน ชี้ไปที่โปรเจคเตอร์ดวงตาของเธอเฉียบคม “ในช่วงต้น ปีนี้บริษัทได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่สามตัวแล้วยังใช้พรี เซนเตอร์ในแนวหน้าและมีค่าใช้จ่ายในการส่งเสริมการ ขายสูงกว่าปีที่แล้ว แล้วทำไมรายงานประจำไตรมาสถึง ไม่ดีเท่าปีที่แล้ว สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่หลายรายการ ที่เปิดตัวในช่วงเดียวกันของปีที่แล้วพรีเซนเตอร์ของ บริษัทเป็นดาราเล็กๆและค่าใช้จ่ายก็ยังน้อยกว่าด้วย ”

ฝ่ายโฆษณารีบพูดทันที “คุณถัง ผลิตภัณฑ์ของปีที่ แล้วขายดีมาก เพราะได้รับอิทพลจากหนังเรื่องหนึ่ง แต่ ปีนี้ไม่มี เพราะฉะนั้น…

“ก็เลยจ้างดาราแถวหน้ามา แล้วใช้เงินค่าส่งเสริมการ ขายไปจำนวนเยอะขนาดนั้น แต่รายงานไตรมาสแรก ของปีสู้ปีที่แล้วไม่ได้?” ถังซินหัวเราะแล้วพูดย้ำอีกรอบ ว่า “ใช่ไหม?”
ผู้บริหารฝ่ายโฆษณาถูกถังซินถอนรากถอนโคน ก็ เลยไม่รู้ว่าจะพูดยังไงต่อ

ถังซินพูดนิ่งๆว่า “พวกคุณเป็นถึงแผนกหลักของ บริษัท สินค้าจะขายออกหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับพวกคุณ ถ้าคุณลงทุนไปมากขนาดนั้นแต่ผลลัพธ์ออกมาไม่ดีเท่า ปีที่แล้ว ก็แสดงว่าเป็นความผิดของพวกคุณนั่นแหละ”

“ทางสำนักงานใหญ่น่ะเขาดูแค่ไตรมาสแรก และไม่ สนใจหรือติดตามขั้นตอนการทำงานหรอกนะ ถ้าหาก สำนักงานใหญ่เห็นว่ารายได้ไม่สอดคล้องกับค่าใช้จ่าย ล่ะก็พวกเขาคงมีการหารือเรื่องการเปลี่ยนคนหรือเลิก จ้าง หรือถ้าสุดท้ายยอดไม่เป็นไปตามที่สำนักงานใหญ่ ต้องการล่ะก็ ทั้งบริษัทคงได้ถูกเปลี่ยนเป็นแน่

เธอเคาะนิ้วเรียวสวยลงบนโต๊ะ “ฉันคิดว่าจุดจบแบบ นั้น ทุกคนคงไม่อยากเห็นมันใช่ไหม”

พอพูดจบเธอก็มองลงไป

เมื่อเห็นพวกผู้บริหารต่างแสดงออกด้วยสีหน้ากังวล ส่งเสียงเซ็งแซ่ เธอก็รู้ทันทีว่ามันได้ผล

ถังซินปรับน้ำเสียงให้เหมาะสม “ตอนที่ฉันมา เคย ได้ปรึกษากับทางสำนักงานใหญ่ เลยคิดว่าอยากจะให้ รางวัลกับทุกคนสักหน่อย หลังจากรายงานไตรมาสจบ ถ้าแผนกไหนทำผลงานได้ดีที่สุด ทุกคนในแผนกจะได้ โบนัสรายไตรมาสเป็นสองเท่า แน่นอนว่าโบนัสสิ้นปี ด้วย”
พอพูดจบ เธอก็เห็นว่าสายตาของผู้บริหารหลายคน เป็นประกายขึ้นมา

ใช้เงินกระตุ้นคน เป็นอะไรที่เหมาะสมที่สุด

ถังซินมองเห็นอารมณ์ของพวกเขา “รายงานไตรมาส แรกฉันจะส่งไปให้ทางสำนักงานใหญ่ตามเวลา ส่วนคำ ต่อว่าพวกนั้นฉันจะรับแทนพวกคุณเอง แต่ฉันคาดหวัง ว่าครึ่งปีหลังจะมีผลลัพธ์ที่น่าพอใจนะ ถ้าหากผลลัพธ์ ครึ่งปีหลังยังไม่เป็นที่น่าพอใจล่ะก็ ฉันจะไปคุยกับทุก แผนก และพิจารณาเรื่องเปลี่ยนคนทำงาน”

“ทุกคนฟังชัดเจนแล้วใช่ไหม?” เธอถามด้วยเสียงสูง ลุกขึ้น “ฉันกลับห้องทำงานก่อนนะ”

พอถังซินจากไป ห้องประชุมที่เต็มไปด้วยความกดดัน ก็เริ่มกลับมาสู่ปกติ

ผู้บริหารแต่ละคนมองหน้ากันไปมองหน้ากันมา เห็น สายตาความกลัวในอีกฝ่าย หลังจากผ่านการประชุมใน วันนี้ จากที่คิดว่าผู้ช่วยผู้บริหารคนนี้น่าจะเป็นคนสงบ นิ่งแต่จริงๆแล้วเป็นคนที่ต่อกรยากทีเดียว

ไม่นานเนื้อหาการประชุมก็แพร่ไปทั้งบริษัท รวมถึง สวัสดิการที่ถังซินตั้งไว้ด้วย

มีคนเอาไปลงในกลุ่มคนจากบริษัทอื่นจึงรู้ว่าเหอซ่งได้เปลี่ยนCEO คนใหม่แล้ว และผู้ช่วยประธานเคยอยู่ที่ มู่ อมาก่อนและยังเคยเป็นแฟนสาวของมู่เฉินหย่วนอีก ด้วย

เพียงแค่ข่าวเล็กๆนี้ทำเอากลุ่มคึกคักขึ้นมาทันที

มู่เฉินหย่วนไม่ได้ติดตามพวกกลุ่มนินทาพวกนี้ เขา ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถังซินไปอยู่ที่บริษัทไหน แถมนางเอกของ เรื่องอย่างถังซินก็กำลังปวดหัวอยู่กับเอกสารในห้อง ทำงานของเธอ ไม่มีเวลามาสนใจดูกลุ่มพวกนี้ด้วยซ้ำ

ยุ่งก็ยุ่ง แต่ถังซินเองก็ใส่ใจลูกๆของเธอ ถ้าหิวเธอก็ จะหาอะไรกิน พักผ่อนสักหน่อย

อยู่ในห้องทำงานเพียงครู่เดียวก็สี่ห้าโมงแล้ว

ตอนบ่ายสาม ผู้ช่วยไอราเคาะประตูห้องเข้ามา มือ หนึ่งถือเอกสาร อีกมือหนึ่งถือเค้กเข้ามาด้วย “คุณถัง คะ นี่เค้กผลไม้ที่คุณต้องการค่ะ ฉันย้ำเจ้าของร้านไป แล้วว่าให้ใส่ส้มและกีวี่เข้าไปเยอะๆ ไม่ต้องใส่ผลไม้อื่น เข้าไปอีก”

“ถังซินเงยหน้ามาจากเอกสาร ยิ้มให้เธอ “โอเค วันนี้ รบกวนเธอแล้วนะ ให้เธอไปนั่นไปนี่ตลอดเลย ฉันสั่ง อาหารไว้เดี๋ยวพรุ่งนี้คงได้แล้ว”

“ฉันเป็นผู้ช่วยของคุณ เรื่องพวกนี้เป็นสิ่งที่ฉันควรทำ ค่ะ” ผู้ช่วยเอาเอกสารวางบนโต๊ะ “เดือนหน้าทางบริษัท จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ นี่เป็นข้อมูลเกี่ยวกับมัน คุณลองดูค่ะ”

ถังซินหยิบเอกสารนั้นมาเปิดดู ไอราเปิดกล่องเค้ก ออกให้ถังซิน ยื่นเค้กที่ติดเรียบร้อยมาให้เธอ

“ขอบคุณ” ถังซินรับจานเค้กในมือ

ครีมเนยจากสัตว์ให้รสชาติที่หวานแต่ไม่เลี่ยน พอเข้า ปากก็ละลาย แต่ว่าพอกินส้มมันก็หวานไปหมด กลืน ยาก

เธอรีบถุยออกมาใส่กระดาษ

“คุณถัง เกิดอะไรขึ้นคะ?” พอไอราเห็นจึงรีบถาม ทันที “ฉันดูเจ้าของร้านทําเค้กกับตาตัวเองเลย วัตถุดิบ ที่ใช้ก็เป็นของสดใหม่ทั้งนั้น ส้มฉันก็ชิมแล้ว รสชาติไม่ ถูกปากคุณหรอคะ?”

ถังซินพยักหน้าพูดอย่างช่วยไม่ได้ว่า “ใช่ ฉันอยาก กินส้ม แต่ว่าส้มอันนี้รสชาติไม่ถูกปากเท่าไหร่”

เธอพึ่งจะชิมไป แต่ในท้องก็รู้สึกกระอักกระอ่วนทันที

“ได้ยินมาจากเจ้าของร้านว่าได้ส้มมาจากเมืองหางซี ไม่ใช่ถูกๆเลย”

“พอดีฉันเลือกกินมากหน่อย” ถังซินขมวดคิ้ว

เธอท้องอยู่แต่ก็ไม่อยากให้ใครดูออก ทำได้แค่รับหน้าแทนพวกเด็กๆเอง

“งั้นเดี๋ยวฉันไปซื้อมาให้คุณอีก”

“ไม่ต้อง วันนี้เธอไปข้างนอกมาทั้งวันแล้ว คงเหนื่อย มากแล้ว” ถังซินหยุดเธอและคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันจำได้ ว่าก่อนหน้านี้มู่ชื่อได้ซื้อสวนผลไม้ไว้แห่งหนึ่ง ผลไม้ ในสวนนั้นไม่เลวเลย ถ้าเธอมีเวลาว่างล่ะก็ เช็คเบอร์ โทรศัพท์ของสวนนั้นที แล้วช่วยฉันสั่งซื้อผลไม้มาสัก หน่อย”

ไอราพยักหน้า “ได้ค่ะ เดี๋ยวฉันจะไปเช็คตามที่บอก ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวฉันขอตัวออกไปก่อนนะคะ”

“อืม ไปเถอะ”

เค้กส้มนี้เธอกินต่อไม่ลงจริงๆ ถังซินเลยทิ้งไปข้างๆ เอาคุกกี้ที่กินเหลือมาจากตอนบ่ายมากินต่อ แล้วหันไป จดจ่ออยู่กับเอกสารแทน

ผลิตภัณฑ์หลักของเหอซ่งคือเครื่องสำอางและ น้ำหอม ถึงแม้ว่าคุณภาพเครื่องสำอางอาจไม่เทียบ เท่าเครื่องสำอางแบรนด์หรูแต่ยอดขายไม่เลวเลย เมื่อ ก่อนน้ำหอมตัวใหม่ๆที่ปล่อยออกมานั้นขึ้นสู่ยอดขาย อันดับ 1 ของเอเชียอย่างรวดเร็ว

แต่ว่าห้าปีหลังมานี้ หลังจากที่นักปรุงกลิ่นน้ำหอมถูก บริษัทใหญ่ซื้อตัวไป รายได้ของเหอซ่งก็ลดลงเรื่อยๆ ในระยะเวลาห้าปีก็เปลี่ยนนักปรุงน้ำหอมไปกว่าสามคนแล้ว ในที่สุดทางสํานักงานใหญ่ก็ได้ตัวนักปรุงน้ำหอม จากแบนรด์ใหญ่ๆมาได้ รายได้เลยเสถียรขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่านานแค่ไหน สองปีมานี้ก็เริ่ม ไม่ไหวอีกแล้ว

รอบนี้ที่ออกน้ำหอมตัวใหม่ ไม่ได้เป็นน้ำหอมที่นักปรุง น้ำหอมทําเอง แต่เป็นสำนักงานใหญ่ซื้อมาจากที่อื่นด้วย ราคาสูงลิ่ว แถมพวกผู้บริหารระดับสูงยังเซ็นสัญญา การพนันไว้กับบริษัทอื่นอีก


เพื่อการอัปเดตบทที่เร็วขึ้น กรุณาบริจาคสำหรับเว็บไซต์เพื่อซื้อบทใหม่! ขอขอบคุณ
THB

เคล็ดลับ: คุณสามารถใช้แป้นคีย์บอร์ดซ้ายขวา A และ D เพื่อเรียกดูระหว่างบทต่างๆ